|
การค้นและหมายค้น
เขียนโดย ลีลา LAW
กฎหมายรัฐธรรมนูญของไทยกำหนดสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของคนไทยไว้อย่างชัดเจน การจับ คุมขัง ตรวจค้นตัวบุคคล หรือการกระทำอย่างใดอันกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพเหล่านั้น จะกระทำมิได้ นอกจากมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ ดังนั้น ถ้าต้องการค้นอันเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในร่างกายหรือสถานที่ส่วนตัว จึงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หลายท่านอาจมีคำถามเกี่ยวกับการค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจในบางสถานการณ์ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงขอบอกเล่าโดยสังเขปดังนี้ หลักเกณฑ์ในการค้น ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้น เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้น บุคคลธรรมดาหรือบุคคลอื่นซึ่งตำรวจขอให้ช่วยเหลือ จักกระทำตนเป็นผู้ค้นมิได้ เนื่องจากมิได้มีกฎหมายให้อำนาจไว้ บุคคลซึ่งกฎหมายมอบอำนาจออกหมายค้นได้ คือ ศาล ซึ่งมีการออกระเบียบบังคับและวิธีปฏิบัติในการออกหมายอาญาทุกประเภทไว้ รวมทั้งหมายค้นด้วย เหตุที่ออกหมายค้นได้ มีดังนี้ 1.เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้องหรือพิจารณา 2.เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือ ได้มาโดยผิดกฎหมาย หรือ มีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำผิด 3.เพื่อพบและช่วยบุคคลซึ่งได้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 4.เพื่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ 5.เพื่อพบและยึดสิ่งของตามคำพิพากษาหรือตามคำสั่งศาลในกรณีที่จะพบหรือจะยึดโดยวิธีอื่นไม่ได้แล้ว กรณีต่อไปนี้ ตำรวจสามารถค้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น 1. เมื่อมีเสียงร้องให้ช่วยมาจากข้างในที่รโหฐาน 2. เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน 3. เมื่อบุคคลที่ได้กระทำความผิดซึ่งหน้าขณะที่ถูกไล่จับหนีเข้าไป หรือ มีเหตุอันแน่นแฟ้นควรสงสัยว่าได้เข้าไปซุกซ่อนตัวอยู่ในที่รโหฐานนั้น 4. เมื่อมีความสงสัยตามสมควรว่า สิ่งของที่ได้มาโดยการกระทำผิดได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายเสียก่อน 5. เมื่อที่รโหฐานนั้นผู้จะต้องถูกจับเป็นเจ้าบ้าน และการจับนั้นต้องมีหมายจับ หลักการค้นตัวบุคคล กฎหมายได้กำหนดว่า ห้ามมิให้ทำการค้นบุคคลใดในที่สาธารณสถาน เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ เป็นผู้ค้น โดยต้องมีเหตุอันควรสงสัยดังต่อไปนี้ร่วมด้วยคือ บุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือ ซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิด หรือ ซึ่งมีไว้เป็นความผิด วิธีการค้นโดยสังเขป คือ 1. ก่อนลงมือค้น ต้องแสดงความบริสุทธิ์ของผู้ทำการค้น เช่น ชื่อหรือตำแหน่งของผู้ค้น เป็นต้น ยื่นหมายค้น และทำการค้นต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่หรือบุคคลในครอบครัวของผู้นั้น ถ้าไม่มีบุคคลดังกล่าว ให้ค้นต่อหน้าบุคคลอื่นอย่างน้อย 2 คน ซึ่งเจ้าพนักงานได้ขอร้องมาเป็นพยาน วิธีนี้ใช้กับการค้นที่อยู่ของผู้ต้องหาหรือจำเลยในศาลด้วย 2. ผู้ค้นต้องทำบันทึกรายละเอียดและบัญชีสิ่งของที่ค้นหรือยึดได้ แล้วให้บุคคลในข้อแรกลงลายมือชื่อรับรองไว้ 3. ผู้ค้นมีอำนาจยึดสิ่งของใดๆซึ่งน่าจะใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อเป็นประโยชน์หรือยันผู้ต้องหาหรือจำเลย และจับบุคคลตามหมายจับ เมื่อพบในสถานที่ค้น รวมถึงหากเกิดความผิดซึ่งหน้า ผู้ค้นอาจจับได้เช่นกัน 4. เมื่อเกิดการขัดขวางหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่า บุคคลในสถานที่ค้น หรือ จะถูกค้นจะขัดขวางถึงกับทำให้การค้นไร้ผล ผู้ค้นมีอำนาจเอาตัวผู้นั้นไปควบคุมไว้ หรือ อยู่ในความดูแลของเจ้าพนักงานในขณะที่ทำการค้นเท่าที่จำเป็น 5. การค้นต้องทำโดยสุภาพ ไม่ก้าวร้าว มิใช่มุ่งทำลายสิ่งของ ส่วนการค้นตัวบุคคลโดยเฉพาะหญิงสาว ต้องใช้ผู้หญิงเป็นผู้ทำการค้นเท่านั้น 6. การออกหมายค้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อจับบุคคลใดเป็นการเฉพาะ ย่อมทำไม่ได้ เว้นแต่จะมีหมายจับบุคคลนั้นประกอบด้วย เมื่อได้รับทราบขอบเขตและอำนาจในการค้นของเจ้าพนักงานแล้ว หากมิได้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวมา ถือเป็นการละเมิดสิทธิและกระทำผิดกฎหมายอาญา ท่านอาจเรียกร้องฟ้องคดีเพื่อให้ผู้กระทำผิดซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐต้องรับโทษทางอาญาได้เช่นเดียวกัน
**************************
Create Date : 04 สิงหาคม 2548 |
Last Update : 4 สิงหาคม 2548 14:03:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3482 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|