ความรู้คือ วัคซีนของชีวิต เพลินอ่านนิยายดี
Group Blog
 
All Blogs
 
เช่าที่ดิน แต่ดินหาย

เขียนโดย ลีลา LAW

ทุกคนขยันทำงานเพื่อแสวงหาเงิน และฝันว่า ในชีวิตนี้ต้องมีบ้านหรือที่ดินสักผืนหนึ่งเป็นสมบัติของตนเอง บางคนได้รับผลตอบแทนความขยันหมั่นเพียรด้วยการมีบ้านและที่ดินอีกหลายแปลง เมื่อเริ่มมีที่ดินมาก จึงไม่อยากปล่อยให้ว่างเปล่า คิดใช้สิ่งนี้สร้างรายได้แก่ตัวเอง จึงนำไปให้คนอื่นเช่าใช้ประโยชน์ได้ค่าเช่าเป็นรายเดือนหรือรายปี และอาจประสบปัญหากับผู้เช่าบางรายที่มิสร้างคุณประโยชน์แก่ที่ดินซึ่งเช่ามา นอกจากการขุดหน้าดินไปขายต่อที่อื่น ทำให้ที่ดินเป็นหลุมบ่อมากมาย มันจึงกลายเป็นปัญหากลุ้มใจแก่ผู้ให้เช่าอย่างคาดไม่ถึง
ยังมีเจ้าของที่ดินอีกมากซึ่งเคยประสบปัญหาผู้เช่าเจ้าเล่ห์เช่นนี้มาแล้ว จนกระทั่งเป็นคดีบนศาล ดังกรณีศึกษานี้คือ นายรอง เป็นเจ้าของที่ดินจำนวนมาก จึงแบ่งให้เช่าไปหลายแปลง จนกระทั่งมี นายแล่ง มาขอเช่าที่ดินแปลงใหญ่ย่านบางบัวทอง อ้างว่าจะใช้สร้างโกดังเก็บสินค้าและยอมจ่ายค่าเช่าราคาดี นายรองจึงยอมให้เช่าด้วยความดีใจยิ่ง หลายเดือนต่อมาผู้ให้เช่าจึงไปดูที่ดินแปลงดังกล่าว ปรากฏว่า ที่ดินมีหลุมลึกมากหลาย และ มีรถตักดินอีกหลายคันอยู่บนที่ดินของเขา ทำให้เขาตกใจมาก จึงขอให้หยุดการตักหน้าดินนี้ทันที ผู้เช่าโต้แย้งว่า เขามีสัญญาเช่าใช้ที่ดินอย่างถูกต้อง ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับที่ดินตลอดเวลาเช่าเด็ดขาด ด้วยเกรงว่าจะเกิดความเสียหายแก่ที่ดินของเขา นายรองจึงนำคดีขึ้นสู่ศาลเป็นคดีอาญาฐานลักทรัพย์ ผลของการตัดสินคดีเป็นไปอย่างเดียวกับที่ปรากฎใน คำพิพากษาฎีกาที่ 5423/2541 คือ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 139 ได้ให้คำนิยาม “อสังหาริมทรัพย์ ว่า หมายถึง ที่ดินและทรัพย์อันติดอยู่กับที่ดินมีลักษณะเป็นการถาวร หรือ ประกอบเป็นอันเดียวกับที่ดินนั้น..........” เมื่อเป็นผู้เช่าตามสัญญาเช่าที่ดิน ทำให้จำเลย (ผู้เช่า) เป็นผู้ครอบครองที่ดินในสภาพอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น เมื่อที่ดินถูกขุดเนื้อดินออกมา ดินที่ได้ย่อมเปลี่ยนสภาพเป็น สังหาริมทรัพย์ ถือมิได้ว่า เป็นทรัพย์สินที่เช่าอีกต่อไป เจ้าของที่ดินไม่ได้มอบการครอบครองที่ดินในลักษณะเป็นสังหาริมทรัพย์ให้จำเลยครอบครอง ดินดังกล่าวยังอยู่ในความครอบครองของเจ้าของที่ดิน การที่จำเลยเอาดินไปขายอันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย จึงผิดฐานลักทรัพย์ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความมิได้ แม้ว่าต่อมาเจ้าของที่ดินอาจยอมตกลงอะไรกับจำเลย (ผู้เช่า)ในภายหลังที่จำเลยกระทำผิดแล้ว ไม่ทำให้ความผิดลักทรัพย์ระงับสิ้นไปได้ ดังนั้น คดีของนายแล่ง ผู้เช่าจอมแสบ จึงมีสิทธิ์ติดคุกในคดีอาญาฐานลักทรัพย์ได้แน่นอน
กรณีศึกษาดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นบทเรียนเตือนใจแก่ผู้ให้เช่าที่ดินว่า แม้ให้เช่าไปแล้วก็ควรเอาใจใส่ คอยตรวจสอบผู้เช่าว่า ได้ใช้ที่ดินไปตามวัตถุประสงค์ที่เช่าหรือไม่ ผิดกฎหมายบ้านเมืองหรือไม่ มิฉะนั้น อาจก่อความเสียหายที่ไม่คุ้มกับค่าเช่าที่ได้รับในแต่ละเดือน สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ถ้าเป็นไปได้ในกรณีเช่าที่ดินเปล่านั้น น่าจะมีการระบุวัตถุประสงค์ในการเช่าไว้ เพื่อให้ท่านมีสิทธิ์เลิกการเช่าได้ เมื่ออีกฝ่ายสร้างความเสียหายจากการทำผิดสัญญาในข้อนี้ทันที ส่วนผู้เช่ามิควรลำพองใจที่มีสัญญาเช่าในมือ แล้วคิดว่า ทำทุกอย่างได้ เพราะกฎหมายได้กำหนดขอบเขตอันควรแก่เสรีภาพของท่านเพื่อมิให้ก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นไว้เช่นกัน ขอเพียงทุกฝ่ายมีศีลธรรมในใจ มีความซื่อสัตย์ต่อกัน สังคมย่อมสงบสุขได้ ไม่ต้องมีคดีความขึ้นสู่ศาล นี่เป็นความหวังของผู้พิพากษาที่ดีทุกท่าน

********************



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2548 0:43:02 น. 0 comments
Counter : 1514 Pageviews.

arbel
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add arbel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.