ซื้อรถมือสอง ภาค 2 ฟินแลนด์
ภาคแรก อยู่ตรงนี้นะคะ
https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=leejayfinland&date=26-01-2016&group=45&gblog=3
อย่างที่เล่าในภาคแรก ว่าป้าลี เปลี่ยนรถบ่อย (โง่แหละ ทราบค่ะ) แต่ไม่ใช่เพราะว่ารถมันเสีย หรืออะไร แต่เหตุผลของการซื้อแล้วซื้ออีก คือ มันตอบโจทน์ที่ป้าลีต้องการไมไ่ด้ครบ
ตอนแรก ก็บอกตัวเองว่า แค่รถเล็กๆ เอาไว้รับลูก หรือไปจ่ายกับข้าวที่ตลาด ก็น่าจะพอ.... แต่เอาเข้าจริง คือ ฟินแลนด์มันมีหน้าหนาว หน้าร้อน ดินฟ้าอากาศมันก็ไม่เหมือนชาวบ้าน
คุณภาพรถที่ใช้มันเลยจำเป็นมากๆ ที่ต้องปลอดภัย เผื่อรถไปเสียท่ามกลาง -30 องศา ในป่า จะทำยังไง แม้ตำรวจจะมาภายใน 10 นาทีก็ตามเถอะ...
คันนี้ เป็น KIA รุ่น sportage ปี 2013 เดือน ธ.ค. เน้นว่า เดือน ธ.ค. นะคะ และวิ่งที่ 60.000 กิโลเมตรโดยประมาณ เป็น หลังคากระจกสองตอนค่ะ เปิดได้ทั้งสองตอนตามที่เห็นในภาพนะคะ
บอร์ดี้ ใหญ่ สะใจมาก มากกว่า วอลโว่ xc60 ราคา อยู่ที่ 19.xxx ก็เกือบ 20.000 ยูโรแหละ (3 ปีเป๊ะ) ทีนี้ วิ่งดูอยู่ หลายจังหวัด พอสมควร ณ ตอนที่ซื้อ เพราะว่า ตอนแรก อยากได้ วอลโว่ ก็ไปวิ่งหาดู ปรากฏว่า ถ้าจะเอารถ ไม่เกิน 4 ปี คือ ราคาก็สู้ไม่ไหว ถ้าจะหาที่ไม่เกิน 30.000 สภาพมันก็นะ เน่ามาก...
ก็เลยลงเอยที่ตัวนี้ มันก็สวยดี แล้วรถ ณ ตอนซื้อ มัน 3 ปี เป๊ะเวอร์ วิ่งแค่ หกหมื่น หลังคากระจกด้วยเปิดได้....ออยยยยยย ใจละลายละ...
แต่... รถมันดันอยู่ทางภาคเหนือของฟินแลนด์ มีไม่กี่คันด้วยนะ ที่เป็นหลังคากระจก ... ก็เลยสั่งมาค่ะ...
ทางร้านเค้าสั่งมาให้ คือ ถ้าสั่งมาแล้ว และเราไม่เอา ต้องจ่ายค่าเดินทางของรถเอง 150 ยูโร เค... ไม่มีปัญหา ได้เห็นรถ และลองขับ
ขับแล้วโดนค่ะ... กันลื่นเค้าเอาอยู่กับช่วงถนนเป็นหิมะ... รถยังใหม่มาก ทั้งสภาพและการขับเคลื่อน ซื้อช่วงเดือน ม.ค. 2017
(เช็คราคาหน้าเว็บ ณ วันนี้ ที่เค้าขายกัน รุ่นนี้ ขับไม่เกิน 100.000 กิโลเมตร ราคา อยู่ที่ 16.000 อ่ะ ขาดทุนไป เกือบ 4.000 ยูโรละ ปีเดียว)
ก็ตกลงใจซื้อ... ทีนี้ มาคุยกันเรื่อง ไฟแนนซ์ เค้าคิดต่ำสุดจาก หลายแบงค์ ที่ 8-9 เปอร์เซ็นต์ (ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเดือนแน่นอน) ซึ่ง ป้าลียอมรับไม่ได้.... เลยซื้อแบบจ่ายครั้งเดียวไปเลย ที่ร้านมองหน้านิดหน่อย ว่า อีหมวยใหญ่นี่ ขอราคาลด และค่าประกันปีแรกฟรี โอเคมั๊ย...
เค้าก็จัดการให้ได้ เพราะซื้อเงินสด งั้นตามนั้น.... เลยได้มาครอง แบบแฮปปี้ค่ะ ... รถเกือบใหม่ มันก็อุ่นใจตรงที่ มันไม่ต้องซ่อมนั่นแหละ
เรื่อง ภาษี ก็ ประมาณ 1.000 กว่าๆ ยูโรค่ะ และ ประกัน ก็ พันกว่าเช่นกัน... ปีหน้าต้องจ่ายเอง... ค่อยหาเอาที่มันครอบคลุมตามที่เราต้องการ
เรื่องประกันสำหรับฟินแลนด์ เน้นนะคะ ว่าถ้าใครจะซื้อ ขอให้เลือกการคุ้มครอง เรื่องการขับชน Hirvi (สัตว์ใหญ่) กับ คุ้มครองกระจกแตกด้วย (หลายค่ายราคาต่างกันมากนะคะ กับสองตัวนี้ ให้ดูให้ดีๆ อย่างมาเถียงว่า ของหนูถูกกว่าเยอะค่ะป้า ... พอเปิดดูความคุ้มครองแทบไม่มีอะไรเลย... หงายท้องกลับบ้านไปนอนร้องไห้อีก
(ถ้ารถเสียตอนเอาไปซ่อม ต้องมีรถสำรองให้เราด้วย จะระบุในสัญญาของประกันที่เราจ่าย)
และประกันไม่จ่ายพวกภัยธรรมชาติทั้งหลายนะคะ เช่น พายุพัดต้นไม้มาล้มทับ หรือ น้ำท่วมไรพวกนี้
ต้องหาเพิ่มเองนะคะ ก็ไม่รู้มีขายเปล่านะ ลองดูเอาเองอีกนะจ๊ะ
เรื่องค่าที่จอด 15 ยูโรต่อเดือนค่ะ (ป้าลีอยู่ ทาวเฮ้าส์) ถ้าใครอยู่ในเมืองแล้วมีบ้านเดี่ยวส่วนตัวก็ไม่ต้องจ่ายละนะ...
แต่บังเอิญว่า ในเฮลซิงกิ บ้านเดี่ยวที่อยู่ใจกลางเมืองราคามันมันสำหรับเทพๆ เค้าอยู่กัน
ไอ้เราคนเดินดิน ก็เลยซื้อได้แค่ ทาวเฮ้าส์แหละค่ะ เดี๋ยวไปเขียนเรื่อง ราคาซื้อบ้าน กับโซนต่างๆ รอบเมืองเฮลซิงกิกันค่ะ
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2560 |
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2560 17:55:19 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1614 Pageviews. |
|
|
ค่าจอดรถอีก...