The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 

บันทึกความคลั่งเลมิสของข้อย

วันอังคาร 15 มค.
รับทราบว่าตั๋วเลมิสมีโปรโมชั่นซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง (เฉพาะที่นั่งที่แพงที่สุด)ตั้งแต่ต้นปี ตั้งใจว่าจะไปดูอาทิตย์ที่แล้ว แต่จองไม่ทัน ที่เต็มก่อน เลยย้ายมาดูอาทิตย์นี้

ความคาดหวังก่อนเข้าโรงมีไม่ค่อยสูง ไม่รู้ทำไม ข้อมูลก่อนดูคือเมื่อนานมาแล้วเคยอ่านภาคหนึ่ง ฉบับแปลไทยที่ตั้งชื่อเรื่องว่า "เหยื่ออธรรม" ชอบซีนเชิงเทียนมาก แต่ซีนอื่นหลังจากนั้นบางทีก็อ่านข้าม โดยเฉพาะตอนที่ฟองทีนซวยถึงกับอ่านไม่ลง เพราะสงสารมาก ต่อมาได้หนังสือเลมิสฉบับย่อเป็นของขวัญจากครู ว่าจะอ่านหลายครั้งแต่ไม่ได้อ่านสักที รู้แต่ว่าตอนจบฌอง วัลฌองตาย

ตอนแรกที่เข้าโรงไปดู รู้สึกแปลก ๆ เพราะมันเป็น "ละครเพลง" จริง ๆ คือเดินเรื่องเกือบจะด้วยเพลงตลอดเวลา มีบทพูดน้อยมาก และในระยะแรกที่ยังปรับตัวไม่ทันนั้น แยกความแตกต่างระหว่างเพลงไม่ออก อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องเดินเร็วมาก เพราะมีเรื่องต้องเล่าเยอะ ทำให้ช็อคนิดหน่อย

แต่ว่าต่อมาเรื่อย ๆ ก็เริ่มชิน และต่อจากนั้นมาอีกเรื่อย ๆ ก็เริ่มอ้าก และอ้ากหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอนใกล้ ๆ จบมันกลายเป็น อ้าากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ออกมาจากโรงด้วยอาการ euphoria ซึ่งไม่ได้รู้สึกจากหนัง ละคร และหนังสืออะไรมานานแล้ว

กลับมาถึงบ้านจะเที่ยงคืนแล้ว แต่ยังรื้อยูทูปฟังเพลง ดูเนื้อเพลง และอื่น ๆ ต่อไปอีกถึงตีสี่

วันพุธ 16 ม.ค.

ยังคงรื้อยูทูปฟังเพลง ดูเนื้อเพลง และอื่น ๆ เริ่มอ่าน e-text (มีอีเทกซ์ทั้งเรื่องอยู่ที่โปรเจคกูเตนเบิร์ก และมีแบบที่จัดบทเรียบร้อยอยู่อีกเว็บ แต่ลืมลิ้งค์ไปแล้ว) หลังจากอ่านอีเทกซ์ไปสักพักเริ่มทนไม่ไหว เพราะอ่านไม่สะใจ และยาวเกินกว่าจะพรินท์ออกมาอ่านได้

วันพฤหัส 17 ม.ค.

เรียนหนังสือ พยายามหลอกเพื่อนเกาหลีให้ไปดูเลมิส แว่นตาหัก ไม่ใส่แว่นทั้งวัน (จริง ๆ คือตาสองข้างสั้นไม่เท่ากัน ถึงไม่ใส่แว่นก็พอทนได้) แต่ตกเย็นยังเสือกถ่อสังขารไปชาริงครอส เพื่อไปร้านที่ขายเทกซ์คลาสสิกถูก ๆ ชื่อร้าน lovejoy (ขายหนังคลาสสิกด้วย) ค้นพบเป็นครั้งแรกว่าเลมิสมีสองเล่มจบ ซื้อทันที

วันศุกร์ 18 ม.ค.

เขียนผู้เสกทราย อ่านเลมิส ฟังเพลงเลมิส ฟังเพลงเดิมซ้ำ ๆ อยู่เป็นร้อย ๆ ที ดูคลิปหนังเลมิส ตกค่ำไปฟังคอนเสิร์ตฟรีกับเพื่อนเกาหลี ปรากฏว่าเป็นแจ็สโพสต์โมเดิร์น ฟังไม่รู้เรื่องเลย ดีแต่มีแตงโมไปด้วย แตงโมเลยอธิบายให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

วันเสาร์ 19 ม.ค.

ยังคงอ่านเลมิส สุดท้ายก็ยอมอ่านท่อนของมาริอุส (เมื่อก่อนไม่ยอมอ่านท่อนของมาริอุส เกลียดมัน บังอาจมาแย่งคอแซ็ตไปจากวัลฌองที่น่าจ๋งจ๋าน) พออ่านแล้วก็แอบอ้าก (เป็นโรคแพ้ความสัมพันธ์แบบ prodigal son) อ้ากอีกเพราะค้นพบว่ามาริอุสเป็นมนุษย์แบบที่เกลียดไม่ได้ว่ะ ยิ่งอ่านไปยิ่งคิดว่า เออ แกเป็นเด็กดี เอาคอแซ็ตไปกินก็ได้ (เขี่ยให้ด้วยความอิดเอื้อนเล็กน้อย) และอ้ากเป็นคำรบสามเมื่อคิดว่าวิคเตอร์ ฮูโกเขียนตัวละครได้ดีขนาดไหน

วันอาทิตย์ 20 ม.ค.

ยังคงอ่านเลมิส ยังคงดูคลิปเลมิส ยังคงดูการ์ตูนเรื่อง shoujo cosette (เลมิสภาคญี่ปุ่นรีเมค) ผ่านเว็บไซต์แฟนซับ อยากได้ซีดีหนังปี 1978 อะ แต่แพงจัด มีรูปต่าง ๆ จากเลมิส ตั้งแต่รูปประกอบรุ่นเก่า การ์ตูนสมัยก่อน ไปจนถึงรูปบนเวที อยู่เต็มเครื่อง รู้สึกเหมือนมีเท่าไรก็ไม่พอ

...ไม่ได้บ้าอะไรขนาดนี้มานานเท่าไหร่แล้วหนอ - -''




 

Create Date : 21 มกราคม 2551    
Last Update : 21 มกราคม 2551 5:25:58 น.
Counter : 595 Pageviews.  

เติมอีกคลิป

ยังคงคลั่งเลมิสอย่างเป็นล่ำเป็นสัน

คลิปนี้เจอในยูทูป เป็น MV ที่ทำจากอนิเมเรื่อง Shoujo Corsette ที่ออกที่ญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว เป็นการ์ตูนที่ดัดแปลงมาจากเรื่องเลมิสขอรับ เพลงไม่ใช่เพลงจากละคร แต่ก็เหมาะดีเนอะ

ท่านบิชอปคะ เชิงเทียนนั้นแลกของมาได้คุ้มจริง ๆ T^T





 

Create Date : 18 มกราคม 2551    
Last Update : 18 มกราคม 2551 4:50:36 น.
Counter : 537 Pageviews.  

So cool!

ไปดู Les Miserables มาเมื่อวาน

ตอนนี้เป็นเรื่องที่ชอบที่สุดแล้ว so cool, so cool > <''

ป.ล.คลิปนี้เป็นคอนเสิร์ตครบสิบปีเลมิส ไม่ใช่ตัว musical
แล้วก็ musical กับ opera เป็นการแสดงคนละแบบกันนิ เข้าใจว่าทั่วไปแล้วมิวสิคัลจะมีบทพูดมากกว่า มีเอฟเฟคมากกว่า และมีเนื้อเรื่องทันสมัยใหม่กว่า ส่วนโอเปร่าเป็นละครร้องตามขนบเดิม รายละเอียดมากกว่านี้คงต้องไปอ่านวิกิอีกทีนะ - -'

Work song: ชอบเสียงหนัก ๆ ของเพลงนี้จัง



Confrontation: ที่ไปดูมา รู้สึกว่ามีตัวจาแวรต์นี่แหละยังเล่นไม่ค่อยถึง จำหน้าไม่ได้ว่าเป็นคนเดียวกับในคลิปหรือเปล่า (มันอยู่ไกลเวที มองหน้าบ่ชัด) แต่คนในคลิปเล่นถึงกว่านิ

> <'' I am warning you, Javert!



มาเติมคลิปภาคหลายภาษาให้อีกอัน เจ๋งดีอะ




 

Create Date : 16 มกราคม 2551    
Last Update : 16 มกราคม 2551 22:07:25 น.
Counter : 642 Pageviews.  

สันดานกับเจตนา

ตอนนี้ที่นี่ตีหนึ่งครึ่งแล้ว พรุ่งนี้มีเรียน แต่ถ้าไม่เขียนแล้วกลัวจะลืม

จริง ๆ คิดว่าจะไปนอนตั้งนานแล้ว แต่แม่ส่งหนังสือไมเคิล ไรทมองโลก (ทั้งเล่มหนึ่งและสอง) มาให้ เลยอ่านเสียหน่อยก่อนนอน แล้วเลยอ่านยาวมาเรื่อย ๆ จนจบเล่มหนึ่ง เจอบทความสุดท้ายเป็นไมเคิล ไรทคุยกับคนอ่านคนหนึ่งที่ตั้งคำถามกับเจตนาของแก คุณไรทแกจึงปรารถขึ้นมาว่าตัวแกมอง "ตะวันออก" ด้วยความสับสน เพราะพ่อแม่ของแกเป็นคนเกิดยุคจักรวรรดินิยม ส่วนตัวแกเองนั้นเกิดหลังสงครามโลก และเห็นกระบวนการโพสต์ทั้งปวงมาเต็มสองตา เรียกได้ว่ามี "สันดาน" (การเลี้ยงดู) กับ "เจตนา" (การเรียนรู้) ที่ขัดแย้งกัน ยกตัวอย่างเช่นว่าเจตนาเป็นสังคมนิยม แต่สันดานนั้นเป็นอนุรักษนิยม หรือเจตนาอยากจะสนับสนุนสิทธิสตรี แต่พอเห็นผู้หญิงชักจะมาชิงดี สันดานก็บอกว่าไม่ค่อยจะชอบ

จะว่าอย่างไรดี บอกว่ามันอ่านแล้วตรงใจก็แล้วกัน บางทีคนเขียนก็มีเวลาที่รู้สึกเหมือนจิตเภทเหมือนกัน ซึ่งบางทีก็ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีชั่วร้ายขึ้นด้วยประการต่าง ๆ เป็นต้นว่าอยากจะเสรีนิยม ประเภทที่ว่าใครจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของคนนั้น อย่าเหยียบเท้าคนอื่นแล้วกัน แต่ที่จริงสันดานมันพึมพำอยู่ข้างในว่าอย่างน้อยมนุษย์ก็ควรจะทำอย่างโน้นอย่างนี้บ้าง จะได้สมกับที่เกิดมาเป็นคนกับเขา เมื่อเจตนากับสันดานมันขัดกันแบบนี้แล้ว ก็เลยเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาว่าทำไมใจเราไม่เป็นไปตามเจตนา (ซึ่งเราเห็นว่า) "ดี" วะ และในเมื่อควบคุมไม่ได้แม้กระทั่งสันดานของเราเองแล้ว แบบนี้จะบอกได้อย่างไรว่าอะไรเป็นอะไรกันแน่ จะ "เชื่อ" ในสิ่งที่เรา "อยากเชื่อ" ได้อย่างไร

คำของคุณไรททำให้เกิดอาการ "ตระหนัก" ขึ้นมา คือมันเป็นความรู้สึกที่วน ๆ อยู่ที่ไหนสักแห่งลึก ๆ ในใจอยู่แล้ว แต่มันถอดออกมาเป็นคำพูดแบบนี้ไม่ได้ มันทำให้รู้สึกโล่งใจที่มีคำอธิบายสำหรับอาการบางอย่างที่ตัวเองเป็นหรือไม่เป็น แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้รู้สึกชัด ๆ ดีว่ามนุษย์มันเป็นสิ่งที่ไม่สมบูรณ์เนอะ เป็นสิ่งเล็กน้อยที่บางทีก็ควบคุมอะไรไม่ได้มากเท่าที่ตัวเองอยากจะควบคุม แม้กระทั่งความเชื่อของตัวเอง คุณไรทแกถามลอย ๆ ว่าหรือว่าความสับสนใจแบบนี้เป็นลักษณะของคนรุ่นโรย แอบอยากบอกแกว่าก็มีเราเป็นอยู่คนหนึ่ง แต่ตอบช้าไปหลายปี เพราะหนังสือออกมาตั้งนานแล้ว บทความยิ่งลงมานานกว่า

แปลกอยู่อย่างที่พอตระหนักขึ้นมาแล้ว มันก็มี moment of self-doubt ตามมาทันทีเหมือนกัน บางทีเราก็อยากให้สันดานกับเจตนาของเราตรงกัน เพื่อที่เวลาที่ตะโกนอะไรออกมา มันจะได้ออกมาเต็มเสียง และออกมาด้วยความรู้สึกว่าฉันถูก แต่บางทีก็คิดว่าถ้าตะโกนออกมาว่าฉันถูกแล้วจริง ๆ มันไม่ถูกเล่า จริง ๆ แล้วมันก็ทั้งถูกและไม่ถูกไปหมดทุกอย่าง จริง ๆ มันก็แค่ต่างคนมองจากคนละมุม และต่างคนต่างพยายามเดินไปตามทางของตัวเอง

ที่จริงแล้ว ทุกคนในโลกนี้ต่างก็มีระบบที่สับสนและขัดแย้งกันเองหรือเปล่า เพียงแต่มีทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว หรือว่ารู้ตัวแต่บอกว่าไม่รู้ตัว หรือว่าทำเป็นไม่รู้ตัว เพื่อที่จะได้พูดอะไรบางอย่างออกไปเต็มปากได้เหมือนกับเวลาที่ไม่รู้ตัว อดคิดไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ และทำไมโลกถึงถูกกำหนดมาให้เป็นแบบนี้ ทำไมไม่ให้มันง่ายกว่านี้ ทำไมไม่ให้มันดีกว่านี้ แต่คิดไปมากกว่านี้แล้วจะเริ่มไปสู่อจินไตยอันบ่มีความหมายใด ๆ เป็นแต่คิดไปก็ไม่มีคำตอบและไม่เกิดประโยชน์อยู่ดี

###

ป.ล. ดู House MD จบแล้ว ลังเลอย่างแรงว่าจะดูซีซั่นสองต่อดีหรือเปล่า (อาจจะเริ่มพึ่งของเถื่อน) ที่จริงแล้วสนุกมากนะ แต่รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่ายังขาดอะไรบางอย่างอยู่นิดหนึ่ง บอกไม่ได้ด้วยว่าเป็นอะไร บางทีดูแล้วก็คิดถึงแบล็คแจ็คขึ้นมา แน่นอนว่าแบล็คแจ็คมันเว่อร์ แถมยังเป็นการ์ตูน ทำอะไรก็ได้เกือบทั้งนั้น แต่เอาเป็นว่าเราชอบวิธีคิดของเทตสึกะ โอซามุมากกว่าก็แล้วกัน - -'




 

Create Date : 14 มกราคม 2551    
Last Update : 14 มกราคม 2551 8:56:22 น.
Counter : 503 Pageviews.  

quick update

ไว้จะมาตอบบล็อคเร็ว ๆ นี้ ตอนนี้อัพเดทแบบเร็ว ๆ ไปก่อนนะ

- ขอบคุณทุกคนที่มาอวยพรคริสต์มาสปีใหม่นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ คิดสิ่งใดก็สมปรารถนาเช่นกันเน้อ ^/\^

- ปิดคริสต์มาสซื้อ London Pass แบบสามวัน เที่ยวทั่วเมืองแบบเอาเป็นเอาตาย และได้ดู Phantom of the Opera ล่วย (กี๊ดดดด)

- นอกจากนั้นก็ไปเที่ยว Warrick กับ Stratford-Upon-Avon เจอเจ้าของเกสเฮาส์ที่วอร์ริคที่น่ารักมาก ๆ ไว้จะมาเล่ารายละเอียดอีกหน

- แต่เสียใจด้วย กล้องข้าพเจ้าได้ถึงแก่กาลกิริยาไปแล้ว อาเมน

- นอกจากนั้นก็หัดทำกับข้าวอย่างที่บอก ผลที่ออกมาก็ยังคงลูกผีลูกคน

- อ่าน Mysterious flame of queen loana จบแล้ว สนุกดี แต่ไม่เก็ตตอนจบ ใครช่วยอธิบายให้ฟังที - -' ช่วงนี้มีหนังสือมาอีกหลายเล่ม สะสมชุด belgariad ครบแล้ว ชุด malloreon ขาดอีกสองเล่ม

- ถุงยังชีพล็อตสองมาถึงแล้ว (T T)

- เจอซีรีย์ House MD ลดราคาที่ HMV จาก 50 เหลือ 18 มันแลดูลดเยอะดีเลยซื้อมา สนุกดี ชอบหมอเฮาส์ แต่บางทีก็แอบคิดในใจว่าถ้าเป็นเรื่องญี่ปุ่น ทีมแกจะรักใคร่กลมเกลียวกันดีกว่านี้หรือเปล่านะ เท่าที่ดูรู้สึกว่าต่างคนต่างอยู่ ต่างไม่ไว้ใจ และต่างไม่ค่อยจะสนใจกันเท่าไหร่ ก็รู้ว่ามีดราม่ามากไปคนจะเอียน แต่จริง ๆ ในนั้นก็มีดราม่าอยู่ไม่ใช่น้อยอยู่แล้วเหมือนกันนะ

- ค้นพบว่าจากหอเดินไปไฮด์ปาร์คได้ ใกล้นิดเดียว เดินไปครั้งแรกเจอกระรอกยี่สิบล้านตัว (ปริมาณใกล้เคียงกับนกพิราบ) พอยืนอยู่เฉย ๆ มีการพยายามจะมาปีนแข้งปีนขากันด้วย - -'

- อากาศยังคงหนาวอยู่ แต่ไม่มีหิมะจ้า




 

Create Date : 13 มกราคม 2551    
Last Update : 13 มกราคม 2551 3:08:01 น.
Counter : 472 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.