The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
นามแห่งนิรันดร์ /๑. คุณจิณณ์ไม่เคยอยู่ที่นั่น (2) (The Djinn has never been there)

กริชเป็นคนผอม ตัวเล็ก บางคนบอกว่าเขามีบางอย่างไม่สมบูรณ์ ที่จริงแล้ว คนไม่สมบูรณ์ไม่ควรอยู่ในระดับสูง แต่กริชมีสติปัญญาอย่างยิ่ง ฉลาดเฉียบแหลมถึงขั้นน่ากลัว เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว แม้มิได้มีร่างกายสมบูรณ์ ก็ยังได้รับการยกเว้น

เมื่อเด็ก กริชมองสิ่งรอบตัว และรู้สึก...ว่าทั้งปวงล้วนน่าเย้ยหยันหมดสิ้น เขาเห็นความจริงทั้งปวง ความสัมพันธ์ทั้งปวง ประหนึ่งเด็กที่สร้างรังมดขึ้น เขาเป็นคนวางตัวนางพญา เขาเป็นคนเห็นมันขุดลงในดินในทราย เขาเป็นคนเห็นไข่ฟองแรก และเห็นหนอนตัวแรก กริชเห็นสิ่งเหล่านั้น และเห็นความไร้สาระ เห็นความไม่ยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีความหมายอะไร

เมื่อเห็นทุกอย่างหมดสิ้นแล้ว กริชก็เย่อหยิ่งอวดดี ความอวดดีมีฐานอันมั่นคง ผู้อื่นไม่อาจลบล้างลงได้ แม้อัดกำปั้นใส่หน้า ซ้อมถึงปางตาย กริชก็มีสติปัญญาจะเอาคืน เขามีวิธีการมากมาย น่ากลัวราวกับปีศาจร้าย มีแผนการ เห็นจุดอ่อน สามารถบีบคนไว้ในอุ้งมือตนดังหนึ่งมดแมลง กริชมีวิธีจริง ๆ

เขาไม่แยแสสิ่งเหล่านั้น ไม่แยแสสิ่งอื่น ๆ อีก เมื่อสุดท้ายแล้ว ก็ไม่แยแสกระทั่งตัวเอง เขาเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเป็นนี้คับแคบ เขาเริ่มรู้สึกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่เพียงพอ กริชคิดว่าหากเป็นสิ่งอื่น หากอยู่ในร่างอื่น จะเข้าใจมากกว่านี้ จะเห็นมากกว่านี้ ดังนั้นสุดท้าย เขาจึงคิดสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา

สิ่งนั้นผูกยึดกับโลกเสมือน สร้างประสบการณ์เสมือนอันเหมือนความจริงอย่างยิ่ง บรรจุข้อมูลมากมายมหาศาล วิเคราะห์ละเอียดอ่อน ถ่ายทอดชัดเจนแทบถึงแก่นวิญญาณ ที่จริง...ก็คือวิญญาณ เพราะกริชกระชากเอาวิญญาณของสิ่งอื่นมา กระชากเอาชีวิตมาไว้ ป้อนลงในปากอันหิวโหยกระหายของตนเอง

หากใช้สิ่งนั้นละก็ จะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น ไม่หรอก ไม่จำกัดเพียงว่าเป็นสิ่งสวยงาม ไม่จำกัดเพียงว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในเทพนิยาย หากใช้สิ่งนั้น แม้อยากเป็นสุนัขและแมว ก็จะเป็นได้จริง ๆ จะรู้สึกถึงโลกทั้งปวงดังหนึ่งสุนัขและแมว จะได้กลิ่นมากมายมหาศาล หากว่าอยากใช้ชีวิตของสุนัขไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ เครื่องย่นย่อให้เวลายี่สิบปีเหลือเพียงยี่สิบนาที อัดยัดประสบการณ์ลงในสมอง ยามออกจากเครื่องแทบราวกับว่าเคยเป็นสุนัขมาแล้วจริง ๆ

เมื่อแรก กริชมิได้สร้างเครื่องนั้นเพื่อประโยชน์ใดเลย นอกจากเพื่อตัวเอง เขาประสงค์จะรู้ เขาไม่ได้ประสงค์จะงดงามยิ่งกว่านี้ ไม่ประสงค์จะมีกำลังมหาศาล ไม่ประสงค์จะเป็นสัตว์เถื่อนดุร้ายกัดกินโลหิตกระชากเนื้อในสาแก่ใจ กริชประสงค์จะรู้เท่านั้นเอง

ดังนั้นเขาจึงเป็นสุนัข จึงเป็นแมว จึงเป็นสัตว์ตั้งแต่ใหญ่ที่สุดจนเล็กที่สุด ดังนั้นเขาจึงเป็นมนุษย์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ทุเรศบัดซบที่สุด ที่ดีที่สุด ที่ไร้สาระปราศจากความหมายที่สุด กริชใช้ชีวิตนับหมื่นชีวิตภายในชั่วเวลาไม่กี่ปีนับตั้งแต่สร้างเครื่องขึ้นมา แต่สุดท้าย แม้ใช้ชีวิตทั้งปวงนั้น ลิ้มรสความรู้สึกผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าอันมิได้เป็นของตน เห็นโลกที่คนทั้งปวงได้เห็น ได้ยินสิ่งที่คนทั้งปวงไม่ได้ยิน เห็นตลอดไปจนถึงสิ่งอันคนทั้งปวงมิได้เชื่อว่ามี สุดท้าย กริชก็ไม่เห็นสิ่งใด ไม่เห็นความหมายใด

เขาเหลือเพียงความชา ความชาอย่างรุนแรง ทั่วประสาท ทั่วสำนึก ทั่วความรู้สึก เขาเห็นว่าโลกทั้งโลกนี้ปราศจากความหมายยิ่งนัก ชีวิตของสิ่งทั้งปวงก็ปราศจากความหมาย มีอยู่เพื่อกิน สืบพันธุ์ ขับถ่าย และตาย ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากนั้น ไม่มีเลย

หากว่าชีวิตมีอยู่เพื่อให้โลกนี้คงอยู่ต่อไป เช่นนั้น โลกคงอยู่เพื่ออะไร หากว่าโลกคงอยู่เพื่อให้จักรวาลคงอยู่ เช่นนั้นจักรวาลคงอยู่เพื่ออะไร กริชไม่เคยค้นพบคำตอบของคำถามเหล่านั้น แม้ว่าใช้ชีวิตมากมายถึงหมื่นถึงพัน สุดท้ายเขาจึงไม่เห็นความหมายใด ๆ ของอะไรอีกเลย

สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจว่าชีวิตของตนก็ไม่มีความหมายอะไรเช่นกัน

ดังนั้น กริชจึงเย้ยหยันมนุษย์ เขาสร้างที่ของตนเองขึ้น ขายประสบการณ์เสมือนนั้นเป็นสินค้า ตัวเขาเองใช้ดิสเพลย์คนหัวสุนัขเสมอ คนเรียกเขาว่ามาสเตอร์อนูบิส แต่ที่จริงแล้ว กริชมิได้รู้สึกว่าตนเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย เขารู้สึกว่าตนเป็นคนหัวหมา เขาเย้ยหยันว่าเป็นคนหรือเป็นหมาก็มิได้ต่างกัน ที่จริง เขาเย้ยหยันคนทั้งปวงที่เรียกเขาเป็นมาสเตอร์อนูบิส เพราะว่ามนุษย์ก็รู้เพียงแค่นั้นเอง

มนุษย์ก็รู้เพียงแค่นั้นเอง เห็นเพียงนั้นเอง อาศัยว่ายเวียนอยู่ในโลกที่ตนเอาว่าเป็นเช่นนั้นเอง มีระบบความเชื่อเพียงหนึ่ง กอดระบบความเชื่อนั้น ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นแต่มายาว่างเปล่า อดัมกับอีฟอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นอัสคกับเอมบลาเล่า เช่นนั้นตำนานสร้างโลกอื่น ๆ เล่า โลกเกิดจากความว่างเปล่า โลกเกิดจากผู้สร้าง โลกเกิดจากความชั่วร้าย โลกเกิดจากความดีงาม มนุษย์เกิดจากความปราโมทย์ มนุษย์เกิดจากหยาดน้ำตา ก็เพียงแค่วิธีคิดเท่านั้นเอง

กริชขายความฝันให้คนทั้งปวง แต่เขาหัวเราะเยาะความฝันนั้น ก็ล้วนอยากเป็นคนรูปงาม ก็ล้วนอยากเป็นคนแข็งแกร่ง ก็ล้วนอยากร่ำรวยเงินทอง มิฉะนั้นก็อยากมีชื่อเสียง ก็ล้วนอยากมีความรักอันวิเศษ ทุกอย่างก็มีเพียงเงินทอง ของกิน เพศสัมพันธ์ ทุกอย่างก็คือบรรเทาความหิวโหย ความกลัว ความปรารถนา เท่านั้นเอง

ในเวลาเช่นนั้น กริชมิได้เห็นความหมายอะไรในชีวิตตนเองเลย บางครั้ง บางครั้งเขาก็นึกถึงความตาย

###

ตำรวจยืนอยู่ตรงนั้น เฝ้าดูแมกไม้ร้องไห้ ร้องไห้ เขาเป็นเช่นเดียวกับตำรวจเน็ตคนอื่น ๆ สวมเครื่องแบบปิดหน้าปิดตา แลดูคล้ายหุ่นยนต์ บางทีแมกไม้ก็คิดว่าเขาต้องใช้ดิสเพลย์เช่นนั้น เพราะว่าเป็นตำรวจไม่ควรมีหน้ามีตา ควรจะเป็นเพียงแค่หุ่นยนต์ จะว่าไปแล้ว ตำรวจเน็ตนั้นใช้เพียงบอทก็พอ

เขายืนอยู่ตรงนั้น จนแมกไม้หยุดร้องไห้ไปเอง ครั้นแล้วเขาก็ยื่นมือออก แตะแขนของเธอเบา ๆ แมกไม้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ความจริง แต่เธอก็รู้สึก...ที่ปลายนิ้วของเขามีความรู้สึกอยู่ มีความเป็นห่วงแปลกประหลาดอยู่

"...เสียใจ" เขาเอ่ย ท่าทางขัดเขิน เขาพูดเสียงเบา กระอักกระอ่วน พูดไม่เต็มประโยค ไม่ชัดเจน แต่คำว่าเสียใจ...ก็หมายถึงเสียใจจริง ๆ มิใช่่ว่าพูดตามมารยาท มิใช่ว่าพูดเพียงเพราะว่าไม่รู้จะพูดอะไรอื่นใด

แมกไม้กระชากแขนตนหนี เธอเพ่งมองเขา แต่เธอเมาแล้ว มองเห็นไม่ชัดหรอก เธอเห็นเขาเป็นภาพซ้อน เธอเห็นความโกรธของตนเอง เห็นความกลัว ความไม่สบายใจ เธอเห็นความตายของพ่อซึ่งตนมิได้ประสงค์จะให้เกิดขึ้น บิดาผู้มิได้พูดคุยเจรจากันมาเป็นเวลานาน พ่อซึ่งเธอรู้สึกเพียงว่าก็อยู่ร่วมบ้านกัน ก็เป็นแค่พ่อ ไม่มีอะไรอื่นใด

"ไม่ค่อยดี อย่าเพิ่งออกไปเลย" ตำรวจพูดต่อไป "ไป...พักก่อน...ดีไหมคุณ"

"อย่ายุ่งกับฉัน" แมกไม้ขู่กลับ แต่เธอไม่รู้ตัว ไม่รู้ตัวว่าจิตใจตนทนไม่ไหวแล้ว รับสภาพที่ถูกใช้งานอย่างหนักเช่นนี้ไม่ไหวแล้ว

แมกไม้เล่าทีหลังว่าเธอพบคุณจิณณ์ในวันที่ท่องเน็ตเสียจนตัวเองเกือบตาย เธอเล่าว่าเธออัดทุกอย่างเข้าไปในหัวจนเมาสลบ คุณจิณณ์ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงต้องพาเธอกลับไปด้วย

เธอเล่าเรื่องราวกับเหตุการณ์ในนิยาย ราวกับเรื่องพาฝัน บางที...บางที...แมกไม้คงอยากให้มันเป็นเรื่องพาฝันกระมัง

เพราะว่าคุณจิณณ์

เพราะว่าคุณจิณณ์อยู่ที่นั่นกระมัง


Create Date : 25 มกราคม 2552
Last Update : 25 มกราคม 2552 16:56:48 น. 4 comments
Counter : 691 Pageviews.

 


โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:0:39:03 น.  

 
ก่อนอื่น สุขสันต์วันปีใหม่จีนก่อนนะคะ

เรื่องนี้อ่านแล้วแปลกจังเลย ยังไม่ค่อยเข้าใจ (ก็เพิ่งเริ่มนิ) แต่ก็รออ่านอยู่น้า ^^


โดย: นักรบ IP: 74.193.243.254 วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:8:20:37 น.  

 
เอ่อ มันยังเป็นร่างอยู่เหมือนสองเรื่องที่เหลืออะจ้า ถ้าจะเขียนจริงเมื่อไหร่ต้องเขียนให้เข้าใจกว่านี้แน่ ๆ ^^'


โดย: เคียว IP: 124.120.147.56 วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:11:42:11 น.  

 
สนุกดีอ่ะค่ะ อยากอ่านต่อ =w=


โดย: kurobina IP: 222.123.53.116 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:26:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.