The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
Asterix the Gaul

แอสเตอริกซ์ เป็นการ์ตูนฝรั่งเศส เขียนโดย René Goscinny และ Albert Uderzo เริ่มลงตีพิมพ์ในวารสารฝรั่งเศสชื่อ Pilote ในปี 1959 รวมเล่มครั้งแรกปี 1961 ตอนแรกชื่อ Asterix the Gaul (Astérix le Gaulois), ส่วนเล่มล่าสุดเพิ่งออกเมื่อปี 2005 ชื่อ Asterix and the Falling Sky (Le ciel lui tombe sur la tête)

เนื้อหาโดยรวม ๆ จับความช่วงหลังสงครามเกลลิค ซึ่งจูเลียส ซีซาร์เอาชนะพวกกอล ( ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส ) และยึดครองเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน

แม้ซีซาร์จะยึดกอลได้ แต่ก็ยังยึดหมู่บ้านเล็ก ๆ ริมทะเลแห่งหนึ่งไม่ได้ เพราะหมู่บ้านนี้มีดรูอิด ( พ่อหมอ ) ที่สามารถปรุงยาวิเศษที่ทำให้มีพลังเหนือมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ พอโรมันบุกมา คนในหมู่บ้านก็กินยาวิเศษ แล้วออกไปตื้บโรมัน ( ทหารโรมันเรื่องนี้มีไว้ให้คนในหมู่บ้านและเพื่อน ๆ ตื้บ )

เนื้อหาส่วนใหญ่ของเรื่องจะเกี่ยวข้องกับตัวเอกสองตัวชื่อแอสเตอริกซ์ และ โอบีลิกซ์ ( Obelix ) ซึ่งออกไปผจญภัย หรือประสบกับสถานการณ์บางอย่างที่ทำให้ต้องแก้ปัญหา โทนของเรื่องตลกน่ารัก เสียดสีหยิกแกมหยอก ประเด็นที่เอามาจิกกัดเล็ก ๆ มีตั้งแต่ stereotype ของคนในชาติ คนต่างชาติ ไปจนกระทั่งถึง ประวัติศาสตร์ social issues การตลาด เฟมินิสต์ ฯลฯ แต่ก็ทำไปแบบน่ารักดี เป็นเพื่อนเป็นฝูงกัน

อย่างอื่นในเรื่องเล่าไม่ได้ เพราะเล่าแล้วไม่ได้อารมณ์เท่าอ่านเอง

และขอบคุณที่โลกนี้มีวิกิพีเดีย

###

เมื่อก่อนนี้ ประเทศไทยก็มีการแปลเรื่องแอสเตอริกซ์เหมือนกัน ( คาดว่าไม่มีลิขสิทธิ์ ) แต่แปลประมาณสิบตอน แล้วก็ไม่ได้แปลต่ออีก ผิดกับเรื่องตินติน ( การ์ตูนเบลเยี่ยม ซึ่งภายหลังมีคนพยายามอ่านให้ถูกต้องว่าแตงแตง ) ที่น่าจะแปลครบชุดกว่า

จำได้ว่าหนังสือแปลทั้งแอสเตอริกซ์และตินตินนั้นเล่มเล็กกว่าของจริง ทำให้ตัวหนังสือค่อนข้างบีบมาก แอสเตอริกซ์สันสีฟ้าสลับขาว ส่วนตินตินสันสีชมพูสลับขาว ตอนเด็ก ๆ อ่านทั้งสองเรื่อง แต่ชอบแอสเตอริกซ์มากกว่า ( เดี๋ยวนี้ก็ยังชอบแอสเตอริกซ์มากกว่า )

หลังจากอ่านแอสเตอริกซ์ชุดแปลไทยจนยับเยินไปแล้วหลายปี จึงค่อยได้มาเห็นในเอเชียบุ๊คว่ามีแอสเตอริกซ์ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นตอนที่ "ไม่มีมาก่อน" ทำให้ได้อารมณ์เหมือนเห็นโดเรม่อนตอนที่ "ยังไม่ได้อ่าน" ( เมื่อก่อนนี้โดเรม่อนเป็นการ์ตูนไพเรท จึงมีตอนซ้ำอยู่เสมอ การซื้อโดเรม่อนถือเป็นการเสี่ยงดวง เพราะบางทีซื้อมาใหม่ แต่ทั้งเล่มอาจจะมีแต่ตอนที่อ่านแล้วก็ได้ )

ด้วยเหตุนี้ จึงได้ซื้อแอสเตอริกซ์ภาษาอังกฤษมาเก็บไว้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ outrageous มาก เพราะในตอนนั้น มันถือว่าแพงนรกมากสำหรับพวกเรา ( เราและน้องชาย ) อีกอย่างหนึ่งคืออ่านก็ไม่ค่อยจะออก เรียกว่าเป็นการ์ตูนที่ต้องใช้ความพยายามมาก แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าเอกซ์เมนที่มีแต่แสลงอเมริกา ถ้าสมมุติว่าแอสเตอริกซ์มีแสลงอ่านไม่รู้เรื่องมากเท่าเอกซ์เมน คงถอดใจเลิกอ่านไปแล้ว

ถึงจะอ่านเรื่องแอสเตอริกซ์มานาน แต่ก็ไม่ได้รู้เรื่อง "เบื้องหลัง" ของการ์ตูนเรื่องนี้เท่าไหร่ และหลังจากที่ซื้อครบทุกเรื่อง ( เท่าที่มีตอนนั้น ) แล้วก็ไม่ได้อัพเดทอีก เล่มสุดท้ายที่ซื้อคือเรื่อง Asterix and the Actress (Astérix et Latraviata) ซึ่งออกในปี 2001 ( แต่ตัวเองซื้อเมื่อไหร่จำไม่ได้ )

อย่างที่บอกไว้ในบล็อคก่อน คือได้เข้าเว็บ pramool แล้วเห็นซีดีอีบุ๊ครวมแอสเตอริกซ์สามสิบสามเล่มโดยไม่ได้เจตนา เนื่องจากไปประมูลกับเขาไม่ได้เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกชั้นดี จึงบังเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าป่านนี้แอสเตอริกซ์สหายเก่าจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว ทำให้ต้องเช็ควิกิและเว็บอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็หายโง่และรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของการ์ตูนชุดนี้มากขึ้น

ปีนี้ Uderzo อายุ 78 เข้าไปแล้ว ( Goscinny หัวใจวายตายตั้งแต่ปี 1977 ) ดังนั้นสองสามตอนหลังนี้ ในแง่เนื้อเรื่องจึงออกจะแลคไปมาก แต่ลายเส้นนั้นยังสวยอยู่ เราได้ยินเรื่อง Goscinny ตายมาพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่ได้สนใจค้นคว้าต่อ และไม่รู้ว่าแกเป็นคนเขียนเรื่องหรือเป็นคนวาดรูป เพิ่งมารู้รายละเอียดทีหลัง บอกว่าแกตายขณะที่ Asterix in Belgium ยังเป็นฉบับร่างอยู่ และ Uderzo เศร้ามากจนคิดจะไม่เขียนต่อ แต่ถูกบ.ก.ฟ้องร้องบังคับให้เขียน

ที่จริงตอนหลัง ศาลตัดสินให้ประโยชน์กับทาง Uderzo มากกว่า แต่แกคงกลัวความจะร้ายแรง ก็เลยเขียนจนเสร็จไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่ออกมาทำให้ Uderzo นึกได้ว่ายังมีคนอ่านรออยู่อีกมาก แกก็เลยเขียนเรื่องต่อมาอีก จนถึงปัจจุบันนี้ ตอนที่ Uderzo เขียนคนเดียวมี 8 ตอน

ในจำนวน 33 ตอนที่ออกมา ตอนที่เราชอบที่สุดก็มี
Asterix the Gladiator (Astérix gladiateur)
Asterix the Legionary (Astérix légionnaire)
Asterix in Corsica (Astérix en Corse)
Asterix and the Great Divide (Le Grand fossé)
Asterix and the Black Gold (L'Odyssée d'Astérix)

แต่นอกจากนี้ก็เรียกได้ว่าชอบทุกตอน เพราะถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร ตัวละครในเรื่องนี้ก็น่ารักมาก ๆ และมุกที่ใช้ก็ฮาตลอดศกจริง ๆ



ลิ้งค์วิกิ //en.wikipedia.org/wiki/Asterix


Create Date : 22 ธันวาคม 2549
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 0:04:37 น. 8 comments
Counter : 4305 Pageviews.

 
จำได้ๆๆ

เคยอ่านเล่มสีๆ ที่ออกมาในยุค TINTIN ล่ะคุณเคียว แต่มันแพงมหาแพงเลยไม่ได้ซื้อ เหอๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:11:14:36 น.  

 
ตอนแรกอ่านก็นึกไม่ออก

พอเห็นตัวละครปิดท้ายเลยอ๋อออออออออ


เอ..เหมือนเพิ่งเคยได้อ่านรีวิวการ์ตูนจากบล็อกนี้เป็นครั้งแรกนะนี่ ใช่ปะ?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:13:54:00 น.  

 
เคยได้ยินชื่่อมานานละ แ่ต่ไม่เคยอ่านเลยอ่ะค่ะ อย่างที่ว่าแหละ แพงและหายาก ถ้าจะไปหาแบบสแกนในเน็ท เราก็ไม่ค่อยชอบอ่านการ์ตูนด้วยวิธีนั้นน่ะค่ะ

เรื่องตอร์ตีญา แฟลต คนบอกคือโก้วเล้งนั่นแหละค่ะ แ่ต่เราคิดว่าเป็นแรงบันดาลใจแค่เรื่องมีคนไม่เอาไหนมาชุมนุมกัน แล้วก็เฮฮากันไปมามากกว่า ที่เหลือไม่มีไรเกี่ยวแล้วล่ะ

ส่วนแคเนอรี่โรล ไม่เคยอ่านอ่ะค่ะ ไม่ได้ติดใจสไตน์เบ็คขนาดนั้น แต่ฟังคุณเคียวว่าแล้วชักสนใจแฮะ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 22 ธันวาคม 2549 เวลา:18:12:09 น.  

 
นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นทั้งสองเรื่องนี้ไหม
เหมือนจะไม่เห็นนะ ไม่มีอยู่ในความทรงจำเลย จำได้แต่ซื้อตินตินมาเล่มนึงจากร้านครึ่งราคา เอามาหลอกหลานอ่าน



โดย: สาวกยุ่นปี่ (ยาคูลท์ ) วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:8:21:07 น.  

 
และหนูก็ยังหาทางลงรูปไม่ได้
(=[]=)
สุขสันต์วันคริสมาสค่ะ
ภาษาปะกิดเป็นภาษาต้องห้าม
เราอ่านไม่ได้
อ่านไม่เข้าใจเสียที... - -"
ดังนั้นจึงเห็นว่าต้องมีดิกอยู่ใกล้ๆ
จำนวนมากเพราะบางเล่มไม่มีคำนี้ บางเล่มมี
ช่างน่าเศร้านัก - -"


โดย: Orange~ IP: 125.24.35.83 วันที่: 24 ธันวาคม 2549 เวลา:22:26:38 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องราวค่ะ


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 25 ธันวาคม 2549 เวลา:16:15:22 น.  

 
อยากได้บ้างอ่ะ เพราะตอนนี้หลานสาวอายุ 5 ขวบ เขาอยู่ที่สวิต แล้วเขาอ่านการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ น่าจะตอนแรก แล้วเขาก็ถามว่าอี๊มีหนังสือเล่มนี้ไหม เขาอยากอ่านที่เป็นภาษาไทย เพราะแม่เขาจะได้อ่านให้เขาฟัง ก็พยายามหาอยู่ว่ามันมีที่ไหนบ้าง แต่พอได้อ่านแล้ว หนังสือเขาดีนะ แต่ตอนนี้ไม่มีวางแล้วหร๋อค่ะ


โดย: ผ่านมาเจอ IP: 101.51.4.218 วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:9:14:23 น.  

 
12354654578


โดย: เจเจ IP: 5.62.34.42 วันที่: 1 กรกฎาคม 2565 เวลา:19:25:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.