The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
ศาสตราจารย์กับปราชญ์วิกลจริต : ไซมอน วินเชสเตอร์



( รูปปล้นมาจากมติชน เล่มนี้พิมพ์กับมติชนปี 45 )

เรื่องนี้ได้มาจากร้านหนังสือมือสอง เมื่อวานนี้เองสด ๆ อ่านจบแล้วอินเลิฟ เลยทีต้องมาเขียน

ตอนแรกเจอที่คิโนะพาราก้อน สะดุดชื่อเรื่อง เพราะปรกติเราชอบเรื่องคนบ้า ( ไม่ได้บ้าแบบก๋าก๊ะ หรือเรื่องที่เจาะลึกเอาความบ้าน่าทุเรศมาตีแผ่ แบบนี้ไม่ชอบ แต่เรามักจะรู้สึกว่าจิตใจคนเป็นเรื่องน่าสนใจ )

สะดุดใจอีกต่อ อ๊ะคนแปลคือ อ.นพดล

แต่ก็ไม่ได้ซื้อ เพราะในตอนนั้นยังไม่ได้อยากอ่านถึงขนาดนั้น ประกอบกับกำลังเบลอ ๆ

มาอีกทีไปเดินสยาม แวะร้านมือสอง ไล่สายตาผ่านตู้หนังสือก็เห็นเล่มนี้เข้าพอดี ห่อพลาสติกไว้ แต่คิด ๆ ดูแล้วครึ่งราคาเชียวนะ แถมปกหลังยังเขียนได้ชวนระทึกดีอีกด้วย ( ไม่เชิงระทึกนะ ถ้าพูดจริง ๆ คือเป็นความรู้สึกที่รวมระหว่าง angst melancholy และระทึกละมั้ง )

นี่ปกหลัง

ไม่มีอีกแล้ว...
การประกาศต่อสาธารณชนถึงโครงการมหึมา
ประสงค์จะรวบรวม คำทุกคำ ที่มีใช้ในภาษาอังกฤษ
การประมวลพจนานุกรมอังกฤษออกซฟอร์ด
ที่คุยอวดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 10 ปี
แต่ใช้เวลาจัดทำทั้งสิ้น 70 ปีเต็มๆ
ไม่มีอีกแล้ว...
ปราชญ์สองนายร่วมงานกันผ่านกาลเวลานับสิบปี
หนึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญภาษา อีกหนึ่งเป็นผู้ต้องขังวิกลจริต
ร่วมกันสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก
หนึ่งนั้นรักถ้อยคำ อีกคนทุ่มเททำงานเพียงเพื่อ
ปลอบประโลมวิญญาณคลุ้มคลั่งให้สงบลงได้บ้าง
ไม่มีอีกแล้ว
ความรัก ความเอ็นดู ระหว่างปราชญ์ชราทั้งสอง
เกร็ดประวัติศาสตร์บรรยายละเอียดจนได้กลิ่นบรรยากาศ
และจุดจบที่น่าสะพรึงกลัวยิ่ง


อ่านจบคิดในใจ โอ...ป๋าโปรเฟสเซอร์ถูกตาบ้านั่นเจี๋ยนแน่เลย ประมาณตายคาดิก ( ภาพการตายที่อุบาทว์และคงแก่เรียนอย่างประหลาด )

แต่จะเป็นไงก็อ่านกันเองละกัน

::: ต่อไปนี้มีสปอยล์นะก๊ะ :::


เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เกี่ยวกับการทำพจนานุกรมฉบับออกซฟอร์ด คือว่าเนื่องจากสมัยนั้นไม่มีคอมพิวเตอร์ และถึงจะมีดิกฉบับนำร่องบ้างแล้ว แต่ก็ไม่มีใครริอ่านทำฉบับใหญ่ยักษ์อย่างที่คนในเรื่องทำกัน จึงทำให้ต้องใช้เวลาทำนานมาก และต้องใช้อาสาสมัครเยอะมาก

หนึ่งในอาสาสมัครคือ ดร.ไมเนอร์ ซึ่งเป็นคนป่วยโรคจิตถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า เพราะฆ่าคนขณะจิตหลอน แกอยู่ในโรงพยาบาลแล้วก็ไม่มีอะไรจะทำ เผอิญได้ข่าวเรื่องนี้จึงได้อาสาสมัครเข้าช่วย โดยติดต่อทางจดหมาย และเป็นอาสาสมัครที่มีคุณูปการต่อกองบ.ก.พจนานุกรมมาก ประมาณว่าคำไหนติดขัดข้องถ้าถามแกก็จะช่วยได้

ต่อมา เมอร์เรย์ ซึ่งเป็นบ.ก.ของกองทำพจนานุกรม ( แกคือ "ศาสตราจารย์" ในเรื่อง ) ได้ลองติดต่อกับไมเนอร์ดู ( ดูเหมือนจะเพิ่งมีการค้นพบหลักฐานการติดต่อกันของทั้งสองคนแบบค่อนข้างสมบูรณ์เมื่อไม่นานนี้ ) ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นเพื่อนรักกันไปในที่สุด แต่ถึงเมอร์เรย์จะสงสารไมเนอร์ยังไงก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะในสมัยนั้นการรักษาอาการป่วยทางจิตเกือบจะไม่มีทางเป็นไปได้ ไมเนอร์ก็อาการทรุดลงเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางหาย

ที่จริงบทแรก ๆ ของเรื่องนี้อ่านไม่ติดเท่าไหร่ โดยเฉพาะบทบรรยายสลัมที่เป็นฉากที่ไมเนอร์ทำฆาตกรรม เพราะรู้สึกว่าคนเขียนจงใจพูดถึงดิ้กเคนส์มากเกินไป แต่ว่าต่อ ๆ มาก็ยิ่งติดมากขึ้น ยิ่งตอนที่บรรยายถึงการรวบรวมพจนานุกรมแล้วชอบมาก ๆ ให้ความรู้สึกมันในอารมณ์แบบแปลก ๆ ชอบวิธีเขียนแบบจิกกัดตลกหน้าตายของคนเขียน และก็ชอบวิธีที่เขาบรรยายบุคคลในประวัติศาสตร์จริง พูดเหมือนกับว่าเป็นคนรู้จักสนิทกัน ก็มีหยิกแกมหยอกนิด ๆ หน่อย ๆ

เรารู้สึกว่าคนเขียนคงรักทั้งเมอร์เรย์ ( ศาสตราจารย์ ) และไมเนอร์ ( ปราชญ์วิกลจริต ) มาก ๆ อารมณ์ที่เขียนมันเข้าอกเข้าใจดี ที่จริงอาการป่วยของไมเนอร์ทำให้แกทำเรื่องน่ากระอักกระอ่วนหลายอย่าง ( รวมถึงเรื่อง "จุดจบที่น่าสะพรึงกลัว" นั่นด้วย )

แต่เราไม่รู้สึกว่าแกน่ากลัว จริง ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจุดจบน่าสะพรึงกลัว มีแต่ยิ่งอ่านเท่าไรยิ่งสงสารไมเนอร์ สงสัยมากว่าแกทนมีชีวิตอยู่ต่อมานานขนาดนั้นได้ไง เราคิดว่าแค่เป็นโรคซึมเศร้าก็แย่มากแล้ว นี่แก ( หลงผิดไปว่าตัวเอง ) ถูกทรมานทรกรรมต่าง ๆ นานาอยู่ทุกคืนทุกคืน

สรุปแล้วก็ชอบเรื่องนี้มาก ( โดยอธิบายเหตุผลชัดเจนไม่ได้ ) แต่ถ้าใครเจอแล้วก็หาอ่านกันดูแล้วกัน


Create Date : 17 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 17 กรกฎาคม 2551 0:05:58 น. 22 comments
Counter : 1582 Pageviews.

 
เคียวเจ้าเอ๋ย รู้ชะตากรรมหนังสือเล่มนี้หรือไม่ว่า
ต่อไป และต่อไป มันจะตกอยู่ในมือใคร ....

ไม่ให้ก็จะปล้นเฟ้ย ...ฟิ้วววววววว


โดย: เลมืด IP: 58.9.71.21 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:2:28:40 น.  

 
เรื่องนี้เป็นประวัติ ของ ODE
ผมชอบเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ลองอ่านจากฉบับภาษาอังกฤษดูนะครับ
คือ เนื้อหาอาจจะไม่สละสลวยเหมือนดังคำแปล ของ คุณ นพดล เวชสวัสดิ์
แต่ก็จะได้ศัพท์ภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างหรูหรา ติดมาด้วย

คือ ในบางครั้ง การแปลของคุณนพดล อาจจะใช้ศัพท์ให้ความรู้สึกฟุ่มเฟือยไปบ้าง


โดย: vir' (vir' ผู้ไม่มีอมยิ้ม ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:5:01:52 น.  

 
ดองหนังสือเล่มนี้ไว้ในกองดองน่ะ
สมควรต้องอ่านเสียที
ชอบชื่อหนังสือจริงๆ


โดย: grappa วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:45:09 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านเฉยๆไม่ขอแสดงความรู้สึก


โดย: หอมกร วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:47:48 น.  

 
อะ หนังสือน่าสนใจอีกแล้ว


โดย: Clear Ice วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:25:19 น.  

 
น่าสนใจค่ะ

อยากอ่านจังแฮะ

จะเอาเข้า LIF เปล่าคะ? อิอิ

ขอต่อคุณเลมืดก็ได้ (แต่ถ้าไม่เอาเข้าก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้จะไปหาซื้อ)


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:31:13 น.  

 
เนื่องจากเป็นผู้ไม่ประสงค์จะลงทุน....ดังนั้น....ยืมต่อหน่อยดิ


โดย: คิงเพนกวิน IP: 202.57.178.39 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:53:59 น.  

 
ก้ากกกกกกกก ฝ้ายกำลังจะเข้ามาบอกว่าขอยืมได้ไหมคะ ปรากฎว่าอ่านcommentบนๆแล้วปล่อยก้ากออกมาเลย คนแปลคือคุณนพดลเวชสวัสดิ์ใช่ไหมคะ งั้นฝ้ายจะไปหาตามเก็บงิ = =;;;
แต่ขำจริงๆนะ ตะละคน ก้ากกกกกก เจตนาเดียวกันหมด


โดย: สงซาย IP: 60.230.39.55 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:05:30 น.  

 
อยากอ่าน แต่ไม่ขอยืม เราชอบความแตกต่าง อิอิ

ชอบ ODE มากๆ เลย ชีวิตนี้ใช้ดิคมาหลายเล่ม แต่มาเจอเล่มนี้ตายเลย เล่มไหนๆ ก็ไม่สู้

แต่สารภาพว่า แหะๆ ที่ใช้อยู่เป็นแผ่นผี ซื้อมาจากพันธ์ทิพย์


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.15.81 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:15:03 น.  

 
จะไม่อยู่บ้านสักสี่ห้าวันนะก้ะ ใครมีอะไรก็ฝากเอาไว้นะ

เล @ เอ่อ...ฟิ้ววว

คุณ vir' @ ตอนนี้กำลังคิดหนักอยู่ค่ะ ที่ซื้อจากร้านมือสองตอนแรกนั้นเพราะไม่อยากเสี่ยงแท้ ๆ ไอ้เล่มที่ซื้อมานั่นก็ดันมีมือดี ( คาดว่าเจ้าของคนก่อน ) ฉีกหายไปหน้านึงดื้อ ๆ ดีว่าไม่ใช่หน้าสำคัญ
ที่นี้ปรากฏว่าพอหลงรักหนังสือขึ้นมา ก็คิดไม่ตกว่าจะซื้อใหม่ดีหรือเปล่า แล้วจะซื้อภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษมาเก็บไว้ดี ปรกติถ้าเป็นหนังสือแปลที่ชอบ มักจะซื้อต้นฉบับมาเก็บ แต่บางเล่มก็ไม่ได้ซื้อต้นฉบับเพราะเกิด "ติด" สำนวนคนแปลขึ้นมา
คิดหนักขอรับ - -''

คุณ grappa @ อ่านเลยคับ เชียร์ ๆ ( ออกนอกหน้า )

คุณหอมกร @ อ่า...ค่ะ ^^''

พี่ไอซ์ @ น่าสนใจจริง ๆ ค่ะ ลองหาอ่านดูเนอะ^^

คุณสาวไกด์ @ เอาลง LIF ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัญหาคือเล่มนี้มันถูกเจ้าของคนแรกฉีกหายไปหน้านึง ยังมีรอยฉีกอยู่เลย ถ้าไม่ถือก็ไว้จะเอาลงให้ค่ะ

พี่เพนกวิน @ เดี๋ยวจัดคิวก่อนนะคับ ^^'

น้องฝ้าย @ ยืมก็ได้นะ แต่ดูเหมือนคิวจะยาวอยู่ - -''
ใช่จ้า คนแปลคือ อ.นพดล แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นหนังสือหายากหรือเปล่านะ เพราะพิมพ์นานแล้ว แต่ก็เห็นที่คิโนะอิเซตันสองสามเล่มแหละ

คุณ LMJ @ ถ้าจะซื้อ เล่มนี้ภาษาอังกฤษชื่อ The Professer and the Madman นะคับ เวอร์ชั่นอังกฤษชื่อ The Surgeon of Crowthorne
ถ้าชอบ ODE น่าจะชอบเล่มนี้นะ มันได้อารมณ์เบื้องหลังการถ่ายทำดีน่ะค่ะ...

ป.ล. ตาลุงหนวดฟูหน้าปกนั่นคือหมอไมเนอร์ "ปราชญ์วิกลจริต" ค่ะ


โดย: เคียว IP: 124.120.151.112 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:12:35 น.  

 
เล่มนี้เคยอ่านเป็นภาษาปะกิตแล้วจ้า ยืมห้องสมุดเจ้าเดิม
เวอร์ชั่นอเมริกาน่ะ หยิบมาเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนทำหนังสือ
เป็นสารคดีที่สนุกดีนะ


โดย: ทินา IP: 58.64.127.131 วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:45:13 น.  

 
เคยเห็นหนังสือเล่มนี้นานแล้ว ตามประสาคนอ่านของนสพ.มติชน หนังสือแปลแต่ละเล่มของมติชนน่ะน่าอ่านดีจริง ๆ ค่ะ แต่แปลกที่ทุกเล่มที่จินตาเคยเห็นโฆษณาในนสพ. จินตามักไม่ค่อยจะมีโอกาสได้อ่าน

อย่างเล่มนี้ก็น่าอ่าน (หมายความว่าจินตายังไม่เคยอ่าน - -" )

เรื่องหนังสือขาดนี่เศร้ามาก ๆ เลยนะคะ มันอดเสียดายไม่ได้ จินตาก็เคยได้หนังสือที่ขาดมาตั้งแต่ก่อนจะตกถึงมือเรามาเหมือนกัน

มีของมาฝากค่ะ



จินตาวาดด้วยคอมไม่เป็น เลยวาดด้วยมือแล้วสแกนเอา อิ อิ เลยวาดเป็นหนูโซล (5 ขวบ) เหอ ๆ

ภาพแรกในชีวิตเลยนะคะ ที่ริอ่านจะวาดแฟนอาร์ท ก่อนหน้านี้ไม่เคยวาดเรื่องอื่นเลย เพราะเกรงฝีมือตัวเองจะทำให้ตัวละครที่รักแปดเปื้อน

ภาพแรก อาจจะไม่ค่อยสวยนะคะ จินตาไม่ค่อยมีหัวทางวาด ๆ เท่าไหร่ แล้วจะหัดวาดมาอีกค่ะ


โดย: จินตานุภาพ (จินตานุภาพ ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:06:29 น.  

 
โพสไม่ขึ้น

ขอโพสใหม่นะคะ



โดย: จินตาฯ (จินตานุภาพ ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:23:10 น.  

 
เห็นเล่มนี้ทั้งไทยทั้งอังกฤษ ในราคาลดแล้วหลายครั้ง
แต่วางทุกทีค่ะ สนพล็อตนะ อยากอ่าน แต่ไม่อยากหยิบ

พอมาอ่านรีวิวแบบนี้ก็อยากอ่านอีกแล้ว อือม์

นอกเรื่อง.
ได้รับ "นี่แหละปารีส" แล้วนะคะ


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:23:21 น.  

 
กลับมาตอบอีกที

อ่า..แล้วหายไปหน้าหนึ่งแล้วทำให้ไม่รู้เรื่องมากมั้ยคะ?

ถ้าไม่มีผลมากก็ไม่เป็นไรค่ะ

จะถือได้ไงอะคะ เจ้าของอุตส่าห์ให้ยืมนี่ก็เป็นพระคุณนักหนาแล้วค่า



งั้นลงคิวไว้เลยละกันนะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 18 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:48:15 น.  

 
อ่า... มีเพื่อนส่งลิงค์นี้มาให้

//www.pocketonline.net/board/view.php?id=17463

หน่าอ่านแล้วชอบมากๆเลยฮะ คุณเคียวลองดูฮับ สิบหน้าเองแต่รู้สึกเหมือนมากกว่านั้นเยอะ


โดย: parasite IP: 87.194.86.159 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:14:21 น.  

 
แหง่บ
อยากอ่าน
อยากอ่าน
อยากอ่าน
อยากอ่านหนังสือตั้งหลาเล่มแต่ท่านแม่เริ่มมาตรการเด็ดขาดว่าให้ใช้เงินตัวเองซื้อ
(แตก่อนก็เป็นแต่ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะไม่มีโปรเจตจะทำเยอะเช่นทุกวันนี้ ต้องเก็บตังค์ไปเรียนที่ชอบๆเอง แงงง ฮือออ กินแกลบค่ะ...<<กำลังไม่เข้าใจ แม่เขาไม่ให้ซื้อนะ แต่ถ้าเป็นของพี่วัสส์กะพี่เคียวแม่ให้ ยังงงและหาคำตอบอยู่ พี่วางยาเสน่ห์อะไรลงไปในข้าวปั้นกะสตอรี่เทลเลอร์รึเปลา?)
ข้าเจ้าเริ่มเครียดเล็กๆ
อยากอ่านนน
โฮกก หลายเล่มแล้ว...
จน เครียด กินทุกอย่าง!!
ฮึ้ม!!
งั้นพี่เคียวออกหนังสือเยอะๆน้า หนูจะได้มข้ออ้างซื้อหนังสือสอดไส้ได้ น้า^^


โดย: Orange~ IP: 125.25.150.98 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:03:44 น.  

 
ในที่สุด ท่านก็มีหนังสือแปลกๆ มาให้อ่านกันอีกจนได้...ขอคิวท้ายสุดก็ได้ขอรับ (นึกถึงน้ำหอมขึ้นมาเลยนะเนี่ย)


โดย: ฯคีตกาล (ฯคีตกาล ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:31:15 น.  

 
ทินาจัง @ งือ...สนุกเนอะ
ที่จริงคิดว่าเขาจะดรามาติกกว่านี้ แต่แบบนี้ก็โอเคนะ

น้องจินตา @ โอ้...เจ้าโซล ไว้เราวาดของเรามาอวดมั่งดีกว่า ^^
เวลามีคนวาดรูปตัวละครของตัวเองนี่ดีใจมาก ๆ เลยนะ เหมือนกับ...เออ...เขาเห็นตัวละครของเราเนอะ ( เหมือนว่า "อ่านแล้วเห็นภาพ" น่ะ )
เวลาใครวาดให้ก็เก็บไว้ทุกรูปเลยละ

คุณยาคูลท์ @ รออ่านเป็น lif ก็ได้นะคับ

คุณสาวไกด์ @ ไม่มีผลมากหรอกค่า ลงคิวเลยเนอะ ^^

หน่าจัง @ ตามไปดู เดี๋ยวกลับมาเมาท์ด้วยจ้า

น้องส้ม @ อ่า...ไม่รู้แถวบ้านมีร้านเช่าหรือเปล่า แต่ถ้ามีลองใช้บริการดูก็ดีนะ มันทำให้มีตัวเลือกเยอะดี แล้วก็มีเวลาเซอร์เวย์ก่อนจะตัดสินใจซื้อน่ะ

พี่กก @ หนังสือแปลก ๆ น่ะมีมาเรื่อย ๆ คับ แต่บางเล่มคาดว่าคนอ่านคงกลัวมากกว่าอยากอ่านน่ะนะ^^''
เดี๋ยวจองคิวไว้ให้ค่า


โดย: เคียว IP: 124.120.148.81 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:11:04 น.  

 
หน่าเอ๊ย อ่านจบแล้ว

สวยงามและเศร้าสุด ๆ น้ำตาคลอเลย...


โดย: เคียว IP: 124.120.148.81 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:17:50 น.  

 
หาซื้อได้ที่ไหนครับ หอสมุดแห่งชาติจะมีมั้ยครับ

ช่วยให่คำตอบด้วยครับ โทรมาเลยนะครับ 0867032547 หรือ tennis_max26@hotmail.com


โดย: แมกซ์ IP: 101.108.102.169 วันที่: 15 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:47:05 น.  

 
อ่านเล่มนี้เมื่อหลายปีก่อน เนื้อหา สาระดีครับ น่าสงสารด้วย โชคดีที่คนเขียนได้เก็บเพลทที่ใช้พิมพ์พจนานุกรมไว้เป็นที่ระลึกด้วย ช่างน่าภูมิใจ


โดย: Nasrudin IP: 49.49.69.216 วันที่: 29 สิงหาคม 2554 เวลา:20:26:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.