The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
On Love, The Prophet, Kahlil Gibran

เมื่อตอนที่อ่าน "ปรัชญาชีวิต" ครั้งแรก บทนี้เป็นบทที่ชอบน้อยเกือบจะที่สุด เพราะคิดว่าเลี่ยนโคตร ๆ และคริสต์โคตร ๆ และตูยังมีความเชื่อแปลก ๆ ว่าเรื่องรักเรื่องใคร่เป็นเรื่องด๋อย ว่าอีกอย่างคือตอนนั้นยังตกอยู่ในอุปาทาน มิจฉาทิฎฐิ และ stereotype ของอะไรหลาย ๆ อย่าง ด้วยเหตุนี้จึงคิดอย่างนั้น

แต่ว่าเมื่อกี้นี้ เจอหนังสือเพื่อนเสมวางอยู่ในครัว (aka ที่มั่วสุมของมนุษย์ออฟฟิศนี้) พลิก ๆ ดูแล้วเจอบทนี้โดยบังเอิญ ไม่ใช่ฉบับแปลโดย อ.ระวี ภาวิไล แต่เป็นของอีกคนหนึ่ง แปลใหม่และตัดแต่งเล็กน้อย

ตอนนั้นที่อ่านครั้งที่สองนี่เอง จึงได้เข้าใจอะไร ๆ มากขึ้น

ลองแปลและเอามาเฉพาะตรงที่ชอบบ้าง ไม่ได้คิดว่าจะเทียบของ อ.ระวีได้หรอก เพียงแต่รู้สึกว่า เป็นการบูชาครูแบบหนึ่งน่ะนะ

เมื่อรักเรียกท่าน จงตามไปเถิด
แม้ทางแห่งความรักจะยากลำบากและสูงชัน
และเมื่อปีกแห่งรักโอบล้อมท่าน จงยอมรับเถิด
แม้ว่าปีกแห่งรักจะซ่อนสิ่งแหลมคม และมันจะทิ่มแทงท่าน
จนเป็นบาดแผลเจ็บปวด
เมื่อรักเอ่ยคำกับท่าน จงเชื่อมันเถิด
แม้เสียงแห่งรักจะทำลายความฝันของท่าน
ประหนึ่งลมเหนือพัดสวนงามจนพินาศเป็นผงคลี

เพราะแม้ยามรักสวมมงกุฎสถาปนาท่านเป็นราชาราชินี
รักก็จะตรึงกางเขนให้ท่านหลั่งโลหิตทุกข์ทรมาน
แม้ว่ารักจะทำให้ท่านเติบโต แต่รักก็จะลิดรานกิ่งก้านของท่าน
แม้เมื่อรักสัมผัสปลายยอดไม้และกิ่งก้านแห่งความสำเร็จของท่าน ที่ปรากฏในแสงตะวัน
รักก็จะลงไปยังแก่นรากอันลึกที่สุดของท่าน และเขย่าบังคับไม่ให้มันเกาะเกี่ยวอยู่แต่กับแผ่นดิน

(...)

หากว่าท่านกลัว และแสวงหาเพียงส่วนที่สนุกสนานและสงบสันติของรัก
ท่านก็ควรห่มคลุมความเปล่าเปลือยของท่าน
(และหนีจากลาน)
ไปสู่โลกอันทึมเทาไร้ฤดูกาล ซึ่งท่านจะหัวเราะได้ แต่ไม่เต็มที่ และจะร้องไห้ได้ แต่ไม่เต็มที่
รักไม่ให้สิ่งใดนอกจากความรัก และไม่รับสิ่งใดนอกจากความรัก
ไม่ครอบครอง และไม่ยอมถูกครองครอง
เพราะความรักเป็นสิ่งสัมบูรณ์ในตัวเอง

(...)

และอย่าได้คิดว่า ท่านจะนำทางรักได้
เพราะรักนั้น หากมันพบว่าท่านมีค่าสมควรแล้ว ก็จะเป็นผู้นำทางท่านเอง

###

บทเต็มเน่อ
//www.katsandogz.com/onlove.html



Create Date : 14 กรกฎาคม 2552
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 14:33:32 น. 9 comments
Counter : 793 Pageviews.

 
ขอบคุณนุที่เอามาแบ่งกัน
จริงๆ ก็ชอบอ่าน แต่ไม่คิดจะใฝ่หามาอ่านเอง...
เหมือนกับว่าเวลาเห็นปรัชญา ผ่านมาในช่วงเวลาที่พอเหมาะพอสม
หรือมีใครเอามาพูดให้ฟังแล้วมันจะอินกว่าการหามาอ่านแบบเน้นๆ


โดย: แมวแป้ง^-"-^ IP: 124.121.60.7 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:43:50 น.  

 
ผิดกับผม ผมอ่านแล้วอินมาก

ช่วงนั้นอินเลิฟ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:52:31 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกคริสต์ๆ แต่ก็ดีนะ คือเราคิดว่า จะเกิดเป็นอะไรก็แล้วแต่ ก็ควรรักกัน เพราะเราว่า รักคือเมตตา รักคือสามัคคี รักคืออภัย และเป็นอะไรอีกหลายๆ อย่าง รู้สึกดี ^^


โดย: นักรบ IP: 74.193.243.254 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:53:07 น.  

 
อาจจะหมายถึง รักสิ่งที่ตัวเองทำ รักทางที่ตัวเองเดินมา ด้วยก็ได้มั้ง

ช่วงนี้อ่านหนังสืออีกเล่มของ อ.ประมวล เพ็งจันทร์ ก็เป็นเรื่องความรักเหมือนกัน co incident หรือเปล่านะ


โดย: เคียว IP: 112.142.126.201 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:12:38 น.  

 
ชอบที่ปันบอกว่า รักทางที่ตัวเองเดินมา =D เป็นบทที่สวยงามมาก

แอบชอบบท marriage มากกว่านะ แต่ที่ปิ๊งที่สุดคงเป็น on children อ่านทีไรก็ประทับใจทุกครั้ง (เพราะเรายังเด็กอยู่ใช่มั้ย พยายามปลอบใจตัวเอง)


โดย: froggie IP: 110.49.62.68 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:33:39 น.  

 
..รักไม่ให้สิ่งใดนอกจากความรัก และไม่รับสิ่งใดนอกจากความรัก..

เลยคิดย้อนไปว่าตัวเองเคยให้ใครบ้างหรือยัง
เพราะปกติจะฟูมฟายเอาแต่คิดว่าไม่มีใครรัก ^^"



โดย: ปาล์ม IP: 58.136.93.233 วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:17:48 น.  

 
เหมือนเคยอ่านแล้ว
ตอนนั้นไม่เข้าใจ
ตอนนี้กลับมาอ่านอีกแล้ว
ก็ยังไม่เข้าใจ

มันค้างคาดีจริงจัง
อ่านไปสองหน้าก็เกิดอาการคร้านจะอ่าน
อ่านอย่างไรก็ไม่เข้าใจ

ตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ

เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร
แต่ก็เหมือนยังไม่เข้าใจ
เลยคิดว่าน่าจะยังเข้าใจไม่หมด
เพราะเข้าใจแค่แบบค้างๆของตนเอง

คาดว่าเดี๋ยวคงต้องหาเวลาอ่านอีกรอบ (ดูสิว่าจะเข้าใจไหม)

ช่างเป็นคอมเม้นที่เต็มไปด้วย "เข้าใจ" จริงๆ

TC


โดย: Orange IP: 125.24.83.46 วันที่: 15 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:13:03 น.  

 
ชอบปรัชญาชีวิตนะคะ

ตอนเราอ่านตอนนั้น (ณ ราวๆ 10 ปีกว่าปีได้) ก็ไม่เก็ทในบางเรื่องเหมือนกัน

เรื่องบางเรื่อง รอเวลาที่จะต้องทำความเข้าใจแหละค่ะ เนาะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:22:36 น.  

 
I've never sat down and read Kahlil Gibran properly. Maybe it's time.


โดย: Teena IP: 129.11.88.8, 129.11.76.230 วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:56:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.