|
ความจ๊าดง่าวของการคิดไปเอง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เราเคยเห็นอาจารย์ธีรยุทธ บุญมีอยู่ในร้านสตาร์บัค ( กำลังอ่านหนังสือฝรั่งหน้าตาว่ายากแหง ๆ )
ตอนที่เห็นตอนแรกเราโจ๊กกับเพื่อนกึ่งเล่นกึ่งแปลกใจจริง ๆ ว่า เออ อาจารย์มาอยู่ในร้านสตาร์บัคได้ยังไง เราคิดว่าแบบอาจารย์ไม่น่าจะมาอยู่ในร้านแบบนี้ ซึ่งทั้งนี้และทั้งนั้นมันเป็นร้านของบรรษัทข้ามชาติ และคนแบบอาจารย์ย่อมจะไม่ชอบ
เพื่อนเราก็ขำ แต่มาคิดอีกที เราคิดว่าตัวเรานี่จ๊าดง่าว
คือว่าเราตัดสินคนจากอะไรเหรอ แล้วทำไมเราถึงจะคิดว่าอ.ธีรยุทธจะกินกาแฟสตาร์บัคไม่ได้ ( กินเอสเปรสโซ่ด้วยแหละ ที่รู้เพราะเห็นแก้วเล็ก ) พอคิดด้านกลับเราก็รู้สึกตัวว่าตัวเราถูกขังอยู่ในมายาคติของตัวเอง เหมือนกับที่คนบางคนชอบกะเกณฑ์เอาว่าดารานักร้องต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คนดัง ๆ ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เราคิดว่าการที่คนเราไม่สามารถเข้าใจคนอื่นได้อย่างแท้จริง มันทำให้เกิดความจำเป็นที่จะสร้าง "ประเภท" ขึ้น จากนั้นก็ถีบคนที่เจอลงไปในประเภทต่าง ๆ แล้วก็เพียรใช้มายาคติที่ตัวเองมีในการประกอบสร้างความสัมพันธ์ บางคนเก่งหน่อยใช้ศิลปะมัดใจคนได้ดี ก็รู้จักพูดให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนคนที่ไม่เก่งหรือจัดประเภทผิดไปหน่อย ก็อาจจะเกิดความซวยแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ ( เช่นนึกว่าล้อคนประเภทนี้แล้วมันไม่เอาเรื่องแน่ ๆ ที่ไหนได้วันรุ่งขึ้นถูกดักตีหัวแตก )
เราคิดคนที่เป็นคนสาธารณะมักจะต้องรับเคราะห์จากมายาคติพวกนี้มากเป็นพิเศษ แต่อีกทีหนึ่ง ก็คิดว่าการยอมตัวเป็นคนสาธารณะเท่ากับตัดสินใจเลือกแล้วว่าจะต้องเจออะไรอย่างนี้ ถ้าคิดจะเอาแต่ดีไม่เอาเสียก็ออกจะเกินไปหน่อย
เราคิดว่าการคิดไปเองเป็นความสะดวก เพราะทำให้สามารถจัดการกับเรื่องบางเรื่องได้รวดเร็วขึ้น แต่อีกทีหนึ่ง เราก็คิดเหมือนกันว่าการคิดไปเองคือความจ๊าดง่าว เพราะมันทำให้มองคนนั้น ๆ เหมือนลังกระดาษแบน ๆ ที่ไม่มีด้านลึก ( แต่ว่าบางทีเราก็ไม่ต้องการด้านลึกนักหรอกนะ )
มีคนบอกเราว่าไปแก้อะไรที่คนอื่นไม่ได้หรอก ต้องแก้ที่ตัวเอง คนอื่นเขามีแต่สะท้อนตัวเรา แต่คิดอีกทีเราคิดว่าคนอื่นสะท้อนตัวเราจากทัศนคติที่เขามีต่างหาก อย่างเช่นถ้าช่วงนั้นเราไม่ได้บ้ากลืนกินเรื่องของสวนเงินมีมา เราก็จะไม่คิดว่าสตาร์บัคเป็น "บรรษัท" และเราจะไม่คิดเอาเองว่าคนอย่าง อ.ธีรยุธ ( ซึ่งจริง ๆ เราก็เคยได้ยินแค่ชื่อ ) จะไม่มานั่งร้านแบบนี้
ดังนั้นถึงแม้ว่าเราจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองแค่ไหน ทัศนคติก็ยังเป็นตัวตัดสินอะไรหลายสิ่งหลายอย่างอยู่นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม เส้นทางที่ไปถึงจุดหมายก็มีหลายสาย เพราะอย่างนั้นต้องเตือนตัวเองบ่อย ๆ ว่าคนที่เขาไม่เหมือนเรา จริง ๆ แล้วเขาก็มีหัวใจ
Create Date : 14 มิถุนายน 2549 |
Last Update : 16 กรกฎาคม 2551 23:49:44 น. |
|
6 comments
|
Counter : 427 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แอลค้าบ IP: 161.200.255.161 วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:13:02:34 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:14:03:51 น. |
|
|
|
โดย: นักรบ IP: 202.28.2.112 วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:11:51:06 น. |
|
|
|
โดย: เคียว IP: 124.120.148.195 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:1:00:38 น. |
|
|
|
โดย: JM!D IP: 202.28.181.9 วันที่: 25 กรกฎาคม 2549 เวลา:8:11:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
"ชั้นสวย!"
ประโยคนี้เป็นมายาคติที่มอมเมาเพื่อนทั้งรุ่นมาแล้ว
เพราะงั้นมายาคติไม่ใช่การเดินรถทางเดียว มันมีการปะทะ แลกเปลี่ยน และสังสรรค์ เหมือนรางรถไฟที่จะมีไม้หมอนเชื่อมต่อกันไปตลอดเส้นทาง
อิอิ
(ผีโปะโกะมาแล้วจ้า )