The power of an authentic movement lies in the fact that
it originates in naming and claiming one's identity and integrity
-- rather than accusing one's "enemies" of lacking the same.
- Parker J. Palmer, The Courage to Teach
Group Blog
 
All blogs
 
อ...อเมซอน...

เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยกล้าสั่งอเมซอน เพราะหนังสือบางเล่มจะส่งเฉพาะในประเทศ และค่าส่งก็แพง ตอนทำธีสิส เคยใช้วิธีขอให้พี่คนนั้นช่วยสั่งให้ตอนอยู่อเมริกา แล้วส่งต่อมาเมืองไทย (แล้วเลยขอให้ช่วยซื้อนิยายมือสองให้ด้วย) แต่นอกจากเทกซ์แล้ว ก็เกือบไม่ได้สั่งอะไรอีก

แต่ว่าพอมาอยู่ที่นี่แล้ว มันมีที่ไม่เหมือนกัน คือ "ส่งเฉพาะในประเทศ" มันแปลว่า "ส่งเฉพาะที่นี่" เพราะอย่างนั้นจึงเท่ากับว่า สามารถเข้าถึงหนังสือมือสองที่ส่งเฉพาะในประเทศทันที ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ค่อย ๆ รู้ตัวขึ้นมาช้า ๆ ว่า "ตูสั่งได้นี่หว่า" จขบ.จึงเริ่มกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้หนังสือมือสองในอเมซอนไปโดยไม่รู้ตัว - -''

มีหนังสือหลายเล่มที่หามือหนึ่งไม่ได้ แต่ยังมีมือสองอยู่ และมีหนังสือหลายเล่มที่มือสองจะถูกกว่า ว่ากันตามตรงคือ จขบ.ชอบหนังสือมือสองมากกว่ามือหนึ่ง (ถ้าไม่เยินจนเกินรับ) เพราะแลดูมีประวัติศาสตร์อยู่ในนั้นดี โดยเฉพาะหนังสือมือสองภาษาฝรั่งนั้นชอบมาก เพราะกระดาษกับรูปเล่มมันเป็นแบบที่พอเก่าแล้วจะให้อารมณ์เก๋ากว่าหนังสือไทย

ตอนนี้ยังไม่ได้สั่งอะไรมาก แต่เล็ง ๆ ไว้เหมือนกัน ที่สั่งมาคือ ดิกชั่นนารีเรื่อง festival กับ ดิกชันนารีเรื่อง symbol ของ J.C. Cooper หนังชุดดิกของคนนี้เราเคยมีเล่มนึงเก็บไว้นานแล้ว คือ Dictionary of Symbolic and Mythological Animals (เป็นคำตอบว่า จขบ.ผลิตสัตว์ประหลาดในตำนานออกมาจากไหนได้เรื่อย ๆ) ที่จริงจำได้ว่าชุดเดียวกันมีเล่มอื่น ๆ อีก แต่อาจจะคนอื่นเขียน เล่มแรกนี่ซื้อสมัยยังละอ่อน หนังสือฝรั่งยังถูกอยู่

ในวิชาที่เรียน มีข้อแนะนำว่าให้อ่านนิตยสารของวงการสิ่งพิมพ์สามฉบับเป็นประจำ คือ thebookseller, publishing weekly กับ publishing news (เล่มกลางป่านนี้ยังไม่เข้าห้องสมุดเลย จนปัญญาจะไปหาอ่าน เพราะเป็นนิตยสารอเมริกา) แต่ว่าพออ่านพวกนี้เข้า ก็จะเจอ "หนังสือใหม่น่าสนใจประจำสัปดาห์" อยู่เรื่อย และเป็นอันต้องมาหาในอเมซอน (ทำไมตูต้องเสียตังค์เพิ่มเนี่ย) โดยเฉพาะ thebookseller ซึ่งมีข่าวตั้งแต่หนังสือใหม่ หนังสือเก่าพิมพ์ใหม่/จัดชุดใหม่ และหนังสือของสนพ.เล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก กระทั่งหนังสือที่กำลังจะพิมพ์ปีหน้า แลดูน่ากลัวเกินไปแล้ว

###

quick info on english book business

- ที่นี่โฆษณาหนังสือกันเหมือนโฆษณาหนัง เวลามีเบสเซลเลอร์ออก จะมีโปสเตอร์ขนาด 6 sheets และ 12 sheets ปะตามสถานีรถไฟใต้ดิน และที่สำคัญ เช่นตามข้างถนน ส่วนใหญ่โปสเตอร์จะเป็นปกหนัง คอมเมนต์ วันที่ออก และคำโฆษณา แต่ชื่อคนเขียนมักจะเป็นตัวขายอยู่แล้ว เพราะงั้นก็เหมือนกับเป็นการบอกว่าหนังสือเล่มนี้กำลังจะออก (ที่น่าสนใจคือหนังเสียอีกที่มีโปสเตอร์น้อย ของที่มีโปสเตอร์โฆษณาเยอะที่สุดคือ play กับหนังสือ)

- "ลิขสิทธิ์" หนังสือในเมืองอังกฤษ ไม่ได้มีสิทธิ์เดียว แต่สามารถหั่นเป็นหลายสิทธิ์ และขายแยกหรือขายเป็นแพ็คเกจได้ เช่น ลิขสิทธิ์การพิมพ์ในประเทศ ลิขสิทธิ์การพิมพ์ในยุโรป ลิขสิทธิ์การพิมพ์ทั่วโลก (รวมหรือยกเว้นยุโรป) ลิขสิทธิ์การพิมพ์ภายในประเทศอื่น (ระบุประเทศ) ลิขสิทธิ์การพิมพ์ออนไลน์/ทำเป็น e-text ลิขสิทธิ์ดัดแปลงไปเป็นสื่ออื่น และลิขสิทธิ์ดัดแปลงผลงานไปเป็นสินค้า (นึกถึงของแถมแมคโดนัลด์ กะพวกกระเป๋าแฮร์รี่ พอตเตอร์ไว้นะ)

ปรกตินักเขียนใหม่จะถูกบังคับให้เซ็นต์สัญญาขายลิขสิทธิ์ทั้งก้อน แต่ถ้ามีอำนาจต่อรองพอสมควร ก็จะเริ่มหั่นสิทธิ์ขายกัน

เข้าใจว่าต้นตอของเรื่องนี้ เริ่มจากมีสนพ.แห่งหนึ่งริเริ่มทำอีเทกซ์ขายออนไลน์ แล้วในจำนวนหนังสือที่เอาไปทำอีเทกซ์ ก็มีหลายเล่มติดอยู่กับสนพ.ใหญ่อีกแห่ง ซึ่งมีโครงการจะทำอีเทกซ์เหมือนกัน สนพ.ใหญ่จึงฟ้องสนพ.ที่จะอีเทกซ์รวมทั้งนักเขียนว่าละเมิดสัญญา สุดท้ายศาลตัดสินว่า เนื่องจากในสัญญาดั้งเดิมไม่ได้ระบุสิทธิ์ในการทำสื่อออนไลน์ด้วย สนพ.ที่ทำอีเทกซ์กับนักเขียนเลยชนะ (และผู้คนก็เริ่มรู้จักหั่นสิทธิ์ขายเป็นส่วน ๆ นับแต่นั้น)

- หนังสือที่เป็นรายได้ของสนพ. ไม่ใช่ bestseller ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่คาดเดาไม่ได้และไม่แน่นอน (แต่แน่นอนว่าสนพ.ต้องอยากให้มี bestseller) หนังสือที่เป็นรายได้จริง ๆ และสนพ.จำเป็นจะต้อง "พัฒนา" และมีไว้เสมอคือ backlist ซึ่งหมายถึงหนังสือที่ขายได้เรื่อย ๆ บางที backlist อาจจะเคยเป็น bestseller มาก่อน backlist ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เราเรียกว่า "คลาสสิค" แบบว่ายังมีคนพูดถึงเรื่อย ๆ สิบปีก็ไม่ตายสักที มีทั้งนิยาย ฮาวน์ทู ไปจนถึงหนังสือคู่มือ อย่างพจนานุกรมที่ขายได้เรื่อย ๆ ก็ถือว่าเป็น backlist

- สนพ.ที่พึ่งพา bestseller มากเกินไป จะเหมือนไฟที่เผาตัวเองไปเรื่อย ๆ พอหมดเชื้อก็ desparate ต้องหาเชื้อมาเติม ดิ้นรนไปจนไฟหมดแล้วก็ตาย

- แต่สนพ.ที่พึ่งพา backlist มากเกินไป ก็จะกลายเป็นสนพ.อืด ๆ ที่เช้าชามเย็นชาม และถ้าไม่มีการพัฒนาปรับปรุง backlist (เปลี่ยนปกใหม่ สร้างโปรโมชั่นใหม่) ก็จะตายเหมือนกัน

###

quick info on me

- dear professors, could you please tell me why you all gave final examination essays' topics on something you havn't taught us yet = =''?


Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 20:22:42 น. 17 comments
Counter : 557 Pageviews.

 
.............นั่งฟังเลคเชอร์


โดย: เลมืด IP: 58.9.71.193 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:57:57 น.  

 
ชอบสมุดภาพพวก Myth ทั้งหลายมากๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:50:03 น.  

 
โห..ดิคชันนารีน่าสนใจมากค่ะ น่าหาซื้อมาอ่านมากมาย

อ่านที่เล่าเรื่องการโฆษณาหนังสือแล้วก็ได้แต่ฝันว่า อีกกี่สิบปีเมืองไทยจะเป็นอย่างนั้นบ้างน้อ (จะมีหรือเปล่า ชาตินี้?)

อ่า..ซื้อหนังสือเยอะๆ คิดถึงตอนแบกกลับบ้างเน้อ
(หรือจะขายต่ออ้ะ?)



เล่ม ๓ อีกนานเท่าไหร่อะค้า


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:54:53 น.  

 
อยากเข้าถึงหนังสือเยอะๆ อีกอะ (และซีดีด้วย เค้าอยากได้ซีดี T-T) อยู่เมืองไทยมันจำกัดจำเขี่ยจริงน่อ

คิดถึง ไว้คุยกันนะ - -"


โดย: วัสส์ IP: 161.200.255.162 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:04:29 น.  

 
"ของที่มีโปสเตอร์โฆษณาเยอะที่สุดคือ play กับหนังสือ"

กรี๊ดดดดด

"สนพ.ที่พึ่งพา bestseller มากเกินไป จะเหมือนไฟที่เผาตัวเองไปเรื่อย ๆ พอหมดเชื้อก็ desparate ต้องหาเชื้อมาเติม ดิ้นรนไปจนไฟหมดแล้วก็ตาย"

กรี๊ดดดดดดอีก


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.18.247 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:35:06 น.  

 
- dear professors, could you please tell me why you all gave final examination essays' topics on something you havn't taught us yet = =''?

ไปถึงโน่นยังเจออีกเหรอคะเนี่ย...


โดย: LIL IP: 124.120.132.115 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:06:17 น.  

 
-สั่งอเมซอนผ่านรุ่นพี่ที่อยู่อเมริกาเหมือนกัน
-อยากเห็นโปสเตอร์ play มั่งอะ (ใช่เกมส์ play หรือเปล่าครับ?)


โดย: jmid IP: 117.47.67.191 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:54:17 น.  

 
เคยสั่งอเมซอนยูเค ส่งล่วงหน้าไปที่โรงแรม
แล้วให้เพื่อนแอร์ที่มีไฟล์ทลอนดอนไปรับค่ะ
(เพื่อนมันจะเลิกคบอยู่แล้วเนี่ย ล่อแต่ปกแข็ง)

ดังนั้น จึงโคตรเข้าใจตอนที่จขบ. พูดถึงตลาดมือสอง แบบว่ามันถูกแสนถูกจริง ๆ นะเนี่ย รูปเล่มแบบไหนมีหมดด้วย เพื่อนบอกว่าบางทีไปเดินตามถนนก็เห็นเซลส์หนังสือด้วย อ๊ากกก จะยั่วยวนกันเกินไปแล้ว

อือม์ อ่านแล้วสงสัยว่าทำไมวงการหนังสือเมืองไทยดูปกปิดจังว่าจะออกเรื่องใหม่อะไรบ้าง น่าจะมีการประกาศก่อนออกบ้างนะ โดยเฉพาะพวกเรื่องแปล คนจะได้ไม่ซื้อ e มาซ้ำ (คื่อเปลี่ยนไปซื้อ e เรื่องที่ไม่มีแปลชัวร์)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:6:19:28 น.  

 
thebookseller เคยเห็นที่ British Council ไทยด้วยล่ะ และแน่นอน ข้าพเจ้าก็เคยไปเล็งหนังสือไว้

แง้ว อิจฉา อิจฉา
ลอบมองหนังสือใน ebay uk ไว้ตั้งหลายเล่ม
(มีคนเอา discworld ปกแข็งมาโละทั้งชุดอ่า)

ว่าแต่มันจะประหยัดจริงหรือเนี่ย ถ้าเราซื้อหนังสือได้ถูกลง แต่ซื้อจำนวนหนังสือมากขึ้น -_-"




โดย: ทินา IP: 203.155.230.54 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:33:19 น.  

 
รัก Amazon...
ตอนนี้พยายามมากๆๆ ที่จะไม่ซื้อหนังสือมาหมกไว้เกินสามสี่เล่ม จนกว่าจะอ่านเล่มที่ซื้อแล้วให้เหลือในโควตา3-4 เล่มนั่น แต่มันอดไม่ค่อยได้ทุกทีนี่ซิ :D

อยากได้ดิกเรื่องsymbol บ้างจัง ดูน่าสนใจดี


โดย: taftie IP: 128.36.60.46 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:15:44 น.  

 
หนังสือมือสองก็เพิ่งไปซื้อมาเหมือนกัน แต่เป็นหนังสือเสดสาด เมื่อก่อนไม่เคยเห็นด้วยกับการซื้อของทางเนตเลย แต่เดี๋ยวนี้ซื้ออยู่หลายเวป (แต่ยังไม่เคยซื้อหนังสือทางเนต)

แต่ปันอย่าลืมว่า ซื้อหนังสือเยอะ ก็ต้องขนกลับมาเยอะ หนักนะ

ปล ตอนนี้ย้ายมาแถวๆ อ่อนนุชแล้ว ขนมจีนหน้าคาร์ฟูร์อร่อยมากๆ ^^


โดย: Rung IP: 203.153.163.190 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:08:28 น.  

 
คุณแพนด้า @ เคยมีสมุด myth ของกรีกที่รักมาก ๆ อยู่เล่มนึงน่ะค่ะ ไม่ใช่ของตัวเองหรอก เป็นของห้องสมุดที่โรงเรียนเก่า ยืมบ่อยมาก ๆ แล้วก็อ่านซ้ำบ่อยมาก ๆ ด้วย จำได้ว่ารูปมันถูกใจเพราะยังไงนี่แหละ
แต่หลัง ๆ นี้ไม่ได้สะสมสมุดภาพ เพราะมันแพงมากเลยค่ะ > <'

คุณสาวไกด์ @ ไม่รู้ว่าถ้าเมืองไทยโฆษณาหนังสือแบบนี้แล้วคนจะรับได้หรือเปล่านะคะ เราว่าวัฒนธรรมมันต่างกันน่ะ (เหมือนเคยหนังสือโฆษณาข้างรถเมล์เหมือนกันนะ แต่มันรู้สึกแปลก ๆ อะค่ะ- -')
คงสะสางกองหนังสือ เอาไปให้ร้านมือสองเรื่อย ๆ แต่ไม่ต้องห่วงตอนขนกลับหรอกค่ะ เขาใช้วิธีใส่ลังแล้วส่งลงเรือกัน อ.ที่เคยอยู่ที่นี่ ตอนจะกลับเมืองไทย เอาหนังสือใส่ลังได้ห้าสิบสองลังแหละค่ะ^^'' (หนังสือก็ไปถึงมือ อ. โดยสวัสดิภาพน่ะนะ)
ป.ล. เล่มสามยังอยู่ระหว่างผลิตขอรับ ^^'

พี่วัสส์ @ จะเอาอะไรก็ลิสต์มาแล้วกันเน้อ

คุณ LMJ @ ดู ๆ ไปแล้ว ของมีโปสเตอร์เยอะอีกอย่างก็คืองานนิทรรศการแหละค่ะ นอกนั้นก็เฉลี่ย ๆ กันไป
แต่โฆษณาปรกติก็เยอะเหมือนกันเน้อ

น้องเป้ @ คือว่ามันอยู่ในหนังสือที่ถูก assign ให้อ่านน่ะ แต่ว่าบางทีก็ไม่ได้สอนหรอก
ก็เรียนแบบค้นกันเองน่ะนะ ^^'

คุณ jmid @ เป็นโปสเตอร์ละครเพลงน่ะค่ะ พวก Lion King, Phantom of the Opera, Les Miserables, Wicked แบบนี้น่ะค่ะ

คุณยาคูลท์ @ คิดว่าบางทีอาจจะไม่ได้ตั้งใจปกปิดกัน แต่ว่าอาจจะกำหนดการไม่แน่นอน เลยประกาศไม่ได้ ประกอบกับไม่มีสถานที่สำหรับบอกเล่าเก้าสิบเกี่ยวกับหนังสือออกใหม่จริง ๆ จัง ๆ (ไม่ค่อยมีแบบรวมทุกสนพ.นะ มีแต่บอกไว้ที่สนพ.ตัวเอง) ที่เป็นอย่างนี้คงเพราะหนังสือในฐานะสื่อบันเทิงในเมืองไทยมันไม่ค่อยเฟื่องฟูน่ะค่ะ
แต่ว่าไปแล้วก็น่าจะมีเนอะ

ทินาจัง @ ebay ไม่ได้เล่นอะจ้า ว่าจะลองดูเหมือนกัน
^^' น่าจะประหยัดนะ ก็ได้หนังสือมากขึ้นไง
ป.ล.เค้าปะผู้เสกทรายตอนใหม่แล้วนิ

น้อง taftie @ มันมีไว้เป็นคู่มืออะ น่าจะมีหลายเล่มด้วย ลองเสิร์ชในอเมซอนดูสินุ
พี่ไม่ค่อยได้ซื้อนิยายอเมซอน เพราะตอนนี้ไปเจอร้านหนังสือมือสองที่ใต้ถุนมันขายทุกเล่ม 10 เพนนี ก็เลยคิดว่าถ้าอยากอ่านนิยาย จะลองไปหยิบมั่วซั่วจากใต้นั้นดู
ถือเป็นการผจญภัยเล็ก ๆ น้อย ๆ น่ะนะ

รุ้งยี้ @ ถ้าเยอะมากก็แพ็คใส่เรือมาได้อะจ้า
ว่าแต่หน้าคาร์ฟูมีหนมจีนด้วยเหรอเนี่ย - -'' ไม่เห็นรู้เลย งือ


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:12:59 น.  

 
กรี๊ด ท่านมัธกับหนูคาซีกลับมาแล้วเหรอ (เอ่อได้ข่าวว่าฟิลันต่างหากที่เป็นตัวเอกคู่กับคาซี -_-")ขอบคุณที่แจ้งข่าวนะขอรับ


โดย: ทินา IP: 58.64.126.40 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2550 เวลา:21:36:39 น.  

 
กรี๊ดดดด ด้วยเหมือนกัน เฝ้ารอที่จะได้อ่านผู้เสกทรายแบบรวดเดียวจบค่ะ

จะบอกว่าจินตาอ่านดรากอนฯ 2 จบแล้ว กรี๊ด ๆๆๆๆๆๆ รีวิวผสมคร่ำครวญแล้วด้วยค่ะ
กี๊ซซซซซ...........(เล่ม 3)

อ่านบล็อกนี้แล้วรู้สึกว่าได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย สู้ ๆ สู้ ๆ นะคะพี่ปัน จินตาว่า โปรเฟสเซอร์ต้องคิดหาหัวข้อใหม่ออกมาได้เรื่อย ๆ แน่นอน หุหุ

อเมซอนกะอีเบย์เนี่ยจินตาไม่เคยสนใจเลยแฮะ ไม่คิดจะอ่านหนังสือภาษา e รอแปลเท่านั้น แต่เคยเข้าทีหนึ่งไปสำรวจดูหน้าตาของหนังสือชุดประวัติศาสตร์มิดเดิลเอิร์ธที่เขียนต่อเนื่องมาจาก Lord of the Rings แต่พอเห็น ไม่ทันได้คำนวณราคาหรอกค่ะ แค่จำนวนเล่ม จินตาก็ถอยแล้ว

และหลังจากนั้นก็ไม่เคยเหยียบย่างเข้าไปอีกเลย - -"


โดย: จินตานุภาพ วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:15:26 น.  

 
ปัน พิวเพิ่งรู้
อาจารย์นพพร เสียแล้วเมื่อวันเสาร์
กำลังหาเพื่อนไปงานศพตอนเย็น
คงจะได้ไปนะ


โดย: พิวจัง IP: 161.200.255.162 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:20:32 น.  

 
อ่า..ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจเรื่องอาจารย์นะคะ (อ่านจากเม้นท์ข้างบน)




ตามต่อด้วย เอ่อ..


ห้าสิบสองลัง เอ่อ... และ เอ่อ...



ง่า...แหะๆ




เอาเป็นว่า หวังว่าเล่มสามจะออกมาก่อนจะขาดใจตายก็แล้วกันค่ะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:43:22 น.  

 
ทินาจัง @ งือ ๆ แต่ท่านมัธยังไม่ออกนิ

จินตา @ พี่จะพยายามให้รวดเดียวจบมันออกมานะหนู T^T
งือ ตามไปอ่านที่เมนต์ให้แล้วนะ ขอบคุณมาก ๆ เลย แต่ปรกติพี่จะไม่โผล่ในบล็อคที่เมนต์นิยายตัวเองน่ะ อยากให้คนมาเมนต์พูดกันตามสบาย
ยังไงก็ขอบคุณมาก ๆ เน้อ^^

พิวจัง @ เศร้าจังว่ะ คนดี ๆ ไปอีกแล้ว - -'

คุณสาวไกด์ @ จะพยายามคับ^^'
ไม่ได้เป็นอาจารย์กันโดยตรง แต่ว่านับถือท่านน่ะค่ะ เป็นคนเก่งมากคนนึงในวงวิชาการไทยเลยละ
เศร้าจังเนอะ - -'


โดย: เคียว IP: 128.86.158.253 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:58:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลวิตร์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




ลวิตร์ = พัณณิดา ภูมิวัฒน์ = เคียว

รูปในบล็อค
เป็นมัสกอตงาน Expo ของญี่ปุ่น
เมื่อปี 2005
น่ารักดีเนอะ

>>>My Twitter<<<



คุณเคียวชอบเรียกตัวเองว่า คุณเคียว
แต่ที่จริง
คุณเคียวมีชื่อเยอะแยะมากมาย

คุณเคียวมีชื่อเล่น มีชื่อจริง
มีนามปากกา
มีสมญาที่ได้มาตามวาระ
และโอกาส

แต่ถึงอย่างนั้น
ไส้ในก็ยังเป็นคนเดียวกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินข้าวแฝ่ (กาแฟ ) เหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบกินอาหารญี่ปุ่นเหมือนกัน
ไส้ในก็ยังชอบสัตว์ (ส่วนใหญ่)
ไส้ในก็ยังชอบอ่านหนังสือ ชอบวาดรูป
ชอบฝันเฟื่องบ้าพลัง
และชอบเรื่องแฟนตาซีกับไซไฟ
(โดยเฉพาะที่มียิงแสง )

ไส้ในก็ยังรู้สึกถึงสิ่งต่าง ๆ
และใช้ถ้อยคำเดียวกันมาอธิบายโลกภายนอก

ไส้ในก็ยังคิดเสมอว่า
ไม่ว่าเรียกฉัน
ด้วยชื่ออะไร

ก็ขอให้เป็นเพื่อนกันด้วย




Friends' blogs
[Add ลวิตร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.