ร้านอาหาร Swiss ในซอยสุขุมวิท 20
ร้านอาหาร Swiss แท้ๆ ในซอยสุขุมวิท 20 ร้านอาหาร กรีน การ์เด้น แล้วไม่ได้ลองทานอาหารสวิส(ซึ่งหากินยากในบ้านเรา) ก็ถือว่ายังมาไม่ถึง อาหารสวิสของที่นี่ มีให้เลือกตั้งแต่ ซูริหมู(Zuri Geschnetzeltes), สวิสรัคเคล็ตชีสและเบคอน เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งต้มและผักดอง, ฟองดูชีสกรูแยร์ และ ฟองดูเนื้อซึ่งมีให้เลือก 2 สไตล์ ได้แก่ Fondue Bourguignonne และ Fondue Chinoise โดยต่างกันที่ลักษณะของซุป ซุปของ Bourguignonne จะออกมันๆ ในขณะที่ซุปของ Chinoise จะออกใสๆ ในการเลือกรับประทานฟองดูเนื้อ คุณสามารถเลือกเนื้อได้ ว่าจะเป็นเนื้อไทย, หมู, กุ้ง หรือไก่ เสิร์ฟพร้อมซอส ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ซอสทาร์ทาร์, ซอสปาปริก้า, ซอสดิล, ธาวแซนด์อายแลนด์ หรือซอสเครื่องเทศ (curry sauce) ส่วนร้านอาหารแบ่งพื้นที่รับประทานอาหารเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนในอาคารซึ่งมี 2 ชั้น ปรับอากาศ ชั้นบนเป็นห้องอาหารล้อมรอบด้วยกระจกใส ปูพื้นปาร์เก้ ผนังสีโอรส ภายในประดับด้วยโคมไฟห้อยระย้า มอบความสว่างแบบบางเบา ดูโรแมนติกในยามค่ำคืน เดินออกไปด้านนอกเป็นส่วนที่ 2 คือ ระเบียงชั้น 2 บรรยากาศดีในแบบส่วนตั๊วสวนตัว เดินต่อลงมาอีก จะพบกับการ์เด้น ซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารในสวน แต่ละโต๊ะมีถ้วยเล็กๆบรรจุเทียนตั้งอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณมาในช่วงหน้าหนาวนี้ มุมในสวนน่ารักแห่งนี้จะทำให้คุณอยากนั่งนานๆ จิบไวน์ พร้อมดื่มด่ำอยู่ในวงสนทนาที่เฮฮาร่าเริงกับเพื่อนฝูง .. มาเริ่มที่เมนูเด็ดของร้านเลยZuri Geschnetzeltes เนื้อหมู หั่นชิ้นบางๆ ผัดกับครีมซอส เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอดสไตล์สวิส กล่าวคือ นำมันฝรั่งต้มที่ถูกแช่เย็นให้เนื้อแข็งขึ้น มาขูดเป็นเส้นๆ แล้วลงทอดร่วมกับเนย ได้ Roesti ที่กรอบนอก แต่นุ่มใน เคี้ยวเพลิน เค็มๆมันๆ เมนูนี้รับรองความอร่อยว่าเด็ดจริงๆฟู้ด นาวารีน เนื้อกุ้ง, ปลาประพง และปลาหมึก ทั้งหมดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผัดรวมกันในครีมซอส เสิร์ฟพร้อมมันบดเนื้อนุ่ม ที่ปั้นมาคล้ายสกู้ปไอศกรีม แต่ลูกเล็กกว่า และก้านแอสพารากัสวางเรียงดูดี แต่งการ์นิชชิ่งด้วยมะนาวครึ่งลูกที่แกะเป็นรูปฟันปลา ดูละเอียดอ่อนแบบไทย กุ้งเธอร์มิดอร์อบครีมซอส กุ้งเธอร์มิดอร์ขนาดใหญ่พอเหมาะ เสิร์ฟจำนวนเต็มจาน นำกุ้งมาผ่ากลาง ราดด้วยชีส และครีมซอสซึ่งมีส่วนผสมของไวน์ และบรั่นดี แล้วนำไปอบร้อนๆให้สุก เสิร์ฟพร้อมข้าวอบเนย หอมๆมันๆ มีมะนาวเป็นทั้งการ์นิชชิ่ง และเครื่องปรุงรส ตามสมควรธรี มียอง ชื่อก็บอกอยู่ ว่าจานนี้ ต้องประกอบ 3 อย่างที่เด่นๆ ได้แก่ เนื้อไก่ซึ่งราดมากับซอสเฟนเนล ต่อมา คือ เนื้อวัว ซึ่งทำให้ผมต้องร้อง wow เพราะเขาเลือกท้อปปิ้งเป็นซอสพริกไทย เผ็ดเล็กน้อย เหมาะกับเนื้อวัวจริงๆ สุดท้ายคือเนื้อหมู ซึ่งมาพร้อมกับท้อปปิ้งซอสเห็ด เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ ไฟร์ด มาแบบพูนจานเลยทีเดียว สวิสชีสฟองดูสไตล์ดั้งเดิม - ฟองดูสูตรดั้งเดิมนี้ ใช้ชีสกรูแยร์ของสวิสแท้ๆ เสิร์ฟพร้อมชิ้นขนมปังฝรั่งเศสซึ่งทางร้านทำเองเป็นสไตล์โฮมเมด เวลารับประทาน จุ่มขนมปังลงในชีสร้อน แล้วทาน ได้รสชาดเปรี้ยวของชีส และหวานของขนมปังผสมผสานกันไป เมนูนี้ก้อสุดยอดตามแบบสวิสแท้ๆ
ร้านอาหารปักษ์ใต้ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างแรง!!!!
ร้านอาหารปักษ์ใต้ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างแรง!!!! มีชื่อว่า ร้านจันทน์หอมวันนี้ ขอแนะนำอีกหนึ่งร้านอาหารปักษ์ใต้อร่อยๆ ให้คุณได้รู้จัก เผื่อสนใจแวะเข้าไปชิม และไม่แน่อาจได้กลายเป็นลูกค้าประจำของเขากันไปเลย ที่พูดเช่นนี้ เพราะร้านอาหารแห่งนี้เปิดมานาน และเป็นที่รู้จักดีในย่านทาวน์อินทาวน์ นอกจากนี้ ยังเคยได้รับคำนิยมจากสื่อดังๆมากมาย แม้แต่คุณชาลี อมาตยกุล ยังเคยแนะนำลงในหนังสือ 50 Best Restaurants by Chalie Amatayagul ...ร้านอาหาร จันทน์หอม เป็นร้านอาหารไทยปักษ์ไต้ และซีฟู้ด โดยมีเจ้าของเป็นชาวสุราษฏร์ธานี ร้านเป็นบ้านทาวเฮ้าส์บรรยากาศร่มรื่น ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 21 (ซ.นวศรี) หากขับรถมา ให้ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนขับออกจากซอยสู่ถนนนวมินทร์ ให้สังเกตร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือนะจ้า อาหารใต้ ใครๆก็เคยทาน ...แต่อาหารใต้แท้ๆ วัตถุดิบใต้ รสอร่อยแบบใต้ๆ ไม่ใช่ใครๆก็เคยทาน อาหารใต้ที่ร้านอาหารจันทน์หอม เน้นความเป็นท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นปลากราย ซึ่งหอบมาจากแดนใต้, ยอดเหลียง, ปลากระบอก และคูณ เป็นต้น แกงเหลืองที่คุณเคยทานมา หรือแม้แต่ทำเองที่บ้าน อาจจะอร่อยดี แต่ขอชวนคุณมาลองชิม แกงเหลืองปลากระบอกใส่ยอดมะพร้าว รับรองว่าต้องร้อง อุ๊ยโย๋(เด็ดมากๆ) เมนูแนะนำอื่นๆของร้านที่ใส่ส่วนประกอบใต้ อย่างเช่น ยอดเหลียงผัดไข่ และ แกงเหลืองปลากะพงใส่คูน และปลากระบอกทอดขมิ้น ก็น่ามาลองสั่งดู โดยเฉพาะ ผักเหลียง คนกรุงเทพ หรือคนภาคอื่นๆ น้อยคนนะครับที่จะรู้จัก นั่นเพราะ มันเป็นผักพื้นบ้านของชาวใต้ ตลอดจนปลาประบอก นี่ก็เช่นเดียวกัน ไม่เพียงเท่านี้ ยังมี หลนไตปลา, ปลาทรายทอดขมิ้น, คั่วกลิ้งหมู และผัดเผ็ดสะตอกุ้ง ... แกงเหลืองปลากะพงใส่คูน ปลากะพงเนื้อขาวหยาบ แต่สด รสชาติปลาเดิมๆ บวกน้ำแกงเหลืองที่ออกปรี้ยวๆ แต่เค็มๆเหมือนกัน กินพร้อมก้านคูน กรอบๆ ซึ่งเขาว่าช่วยเป็นยาระบายได้ด้วยหละ ปลากระบอกทอดขมิ้น ปลากระบอกตัวน้อย ทอดกรอบ ในที่นี้คือ กรอบเข้าไปถึงข้างในเลยนะครับ นั่นเป็นสไตล์ของเขา เค็มๆมันๆ โรยด้วยหอมเจียว กินกับข้าวสวยร้อนๆ แตะน้ำจิ้มเผ็ดๆที่เสิร์ฟมาพร้อมอีกนิด ง่ายๆแต่อร่อยเริด หลนปูทะเล เขาใช้เนื้อปูทะเลทั้งตัวนะครับ ใส่มาทั้งตัวปูให้เห็นกันไปเลย หลน ก็ต้องออกหวานๆเค็มๆกะทิ ทานแนมกับผักสด อันนี้ก็สุดยอดๆแกงไตปลา แกงไตปลาที่ไหนว่าเริด มาลองทานที่นี่ดู อาจจะเริดพอๆกัน หรือมากกว่า หรือน้อยว่าที่คุณเคยทาน อันนี้ก็แล้วแต่ว่าลิ้นใคร แต่อยากแค่ให้ลองมาชิมเวอร์ชั่นของที่นี่ดู น้ำแกงนี่ข้นขลัก เครื่องนี่ครบครัน เด็ดสะระตี่ ผัดเผ็ดสะตอกุ้ง กุ้งสดที่ผัดมาด้วยนี่ ขอบอกว่ากรอบมากจริงๆ สะตอใครว่าเหม็นครับ ออกจะมันๆกรอบๆ คิดเสียว่าทานเป็นยาสิครับ เขาว่ามีกรด เลคติน ดีต่อการจับกลุ่มของเม็ดเลือดแดง และช่วยขับลมในลำไส้ ได้อีกด้วย ร้านอยู่ในซอยรามคำแหง 21 (ซ.นวศรี) ย่านทาวน์อินทาวน์ เบอร์โทรร้านเพื่ออยากถามทางไป 0-2319-1128-9
NO.43 ร้านอิตาเลี่ยนหลังสวน
ร้าน No.43 หรือ นัมเบอร์โฟร์ตี้ธรี ตั้งอยู่ชั้น G ของ Cape House ในซอยหลังสวน ถ้ามาโดยรถไฟฟ้า ให้ลงที่สถานีชิดลม แล้วเดินต่อเข้ามาในซอยหลังสวนประมาณ 5 นาทีก็ถึงแล้ว สำหรับอาหารอิตาเลี่ยนแล้ว ถ้าเลือกได้ หลายคนก็อยากจะให้ชาวอิตาเลี่ยนแท้ๆมาทำให้ทาน มันไม่ใช่แค่เรื่องของสูตรอาหารอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับสายเลือดอิตาเลี่ยน ที่แผ่ผ่านลงสู่ปลายนิ้วมือของเชฟ ในการหยิบโปรยผงเกลือ และพริกไทย หั่นซุกกินี่ นวดแป้งพาสต้า ตลอดจนการรังสรรค์เมนูใหม่ๆ (ผ่านเมนู Chef Recommends ซึ่งเปลี่ยนเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 เมนู) แต่ง และตัดเติม จนได้อาหารที่กลมกลืนในรสชาติ ในแบบที่ชาวอิตาเลี่ยนเขาทานกันไงหละ ที่ No.43 เชฟอารมณ์ดีอย่าง คลอดิโอ้ วิอาเล่ เป็นคนดูแลทุกอย่าง antipasto misto รวมมิตรอาหารเรียกน้ำย่อย ประกอบด้วย อาร์ติโช้คหมักซ้อส, ปลาแซลม่อนรมควัน, ซาลามี่, ผักย่าง และพาร์ม่าแฮม ravioli di ricotta alle verdure - โฮมเมด ราวิโอลี่ ยัดไส้ผักโขม และชีสรีค๊อตต้า เสิร์ฟราดด้วยน้ำซ้อสซึ่งทำจากผักหลากชนิดfiletto di manzo al gorgonzola เนื้อวัวสันในจากอาร์เจนติน่า ทอดกระทะ เสิร์ฟพร้อมซ้อสชีสกอร์กอนโซล่าsalmone al vino bianco con mostarda di Cremona ปลาแซลม่อนย่าง เสิร์ฟในซ้อสไวน์ขาว Panna Cotta แพนนา ค๊อตต้า
กินไปเต้นไปกับร้าน Salsa hacha
ปัจจุบัน ในใจกลางกรุงเทพฯ ร้านอาหารขนาดน่ารักๆ ประเภทคาเฟ่ ที่เสิร์ฟอาหารว่าง ตลอดจนเมนคอร์สแบบไทยๆ หรือแบบฝรั่ง พร้อมเครื่องดื่มเบาๆ อาทิ กาแฟ, มิลค์เชค หรือไอซ์เลม่อนที อะไรทำนองนี้ แถมยังมีอินเตอร์เนตไร้สายไว้ให้บริการลูกค้า กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในย่านธุรกิจ อย่าง สีลม และสาธร เป็นต้น ครั้งนี้จึงจะพาคุณไปรู้จัก ซัลซ่า อัชช่า...แดนซ์ สตูดิโอ และ ร้านอาหารสไตล์ ฟิวชั่น คาเฟ่ พร้อมบริการอินเตอร์เนต Wi-Fi ที่คุณไม่ควรพลาด ร้านตั้งอยู่ในสีลมซอย 6 ฝั่งเดียวกับโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน คุณสามารถเดินแบบสบายๆมาจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดงเพียงไม่กี่นาที คำว่า ฟิวชั่น คาเฟ่ อาจช่วยให้นึกถึงภาพร้านอาหารเล็กๆ ที่เหมาะสำหรับนั่งจิบกาแฟ หรือนั่งทานอาหารว่างแบบเพลินๆ อะไรแบบนั้น แต่ดูเหมือนว่าอาหารที่เป็นซิกเนเจอร์ของซัลซ่า อัชช่า จะเป็นเมนคอร์สเสียมากกว่า ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และถึงแม้อารมณ์ของร้านจะให้จังหวะเรื่อยๆ สบายๆ ชิลล์ๆ แต่เมื่อพูดถึงอาหารแล้ว มันให้จังหวะที่เผ็ดร้อน สมชื่อ ซัลซ่า ซึ่งเป็นจังหวะการเต้นสุดเซ็กซี่แบบลาติน ในวันที่ผม และทีมงานได้เข้าไปทำรีวีว คุณแคลร์ผู้จัดการร้าน และครูสอนเต้นรำ ได้เตรียมพาเหรดอาหารไว้ต้อนรับพวกเรามากมาย แต่คงต้องเลือกมาเพียง 2 เมนู เพื่อกล่าวถึงในที่นี้ สปาเก็ตตี้ อัชช่า จานนี้เป็น ซิกเนเจอร์ของร้าน หลายคนลงความเห็นว่า เผ็ดเด็ดดวงได้ใจเป็นที่สุด...แต่ถ้าลิ้นคุณบอบบางต่อรสเผ็ดแล้วหละก็ ไม่ต้องสั่งมาให้เปลืองเนื้อที่ จานนี้ประกอบด้วยเบค่อนทอดแห้งๆ เส้นสปาเก๊ตตี้ลวกพอดิบดี ใส่เห็ด พริกแห้ง เก๋ที่ไอเดีย นำเอากระเทียมฝานบางลงไปทอด สำหรับทานกรุบๆมันๆเคล้าไปด้วย สุดยอด... ต่อมา คือ มันฝรั่งทอดอบชีสโรยหน้าปาปริก้า จานนี้เลิศศศ ขอบอก นึกภาพตามเลย เนื้อมันฝรั่งเนี่ยทอดได้ที่ ไม่นุ่มจนเละ แต่ก็ไม่ได้แข็งโป๊ก พอให้ฟันได้ค่อยๆจมลงไปในเนื้ออย่างนุ่มนวล ได้รสเค็มมัน ไม่เพียงเท่านี้ มันโรยราดด้วยชีส ไม่ใช่ชีสผงนะ แต่เป็นชีสเหลวๆ โรยเป็นเส้นหนาๆ มีความเผ็ดซ่าของผงปาปริก้าด้วย เพิ่มอรรถรสอีกนิด หากคุณชอบซอสมะเขือเทศ จานนี้ก็ต้องลอง ซีซ่าร์สลัด : จานนี้อาจดูธรรมด๊า ธรรมดา ในแง่ของส่วนประกอบนะ แต่คนเขียนชอบมั่กๆ ในลักษณะที่มันถูกจัดเสิร์ฟ กล่าวคือ ผักสลัดต่างๆถูกหั่น ตัด และแต่งลงให้มีขนาดไม่เล็กเกินงาม แต่ก็ไม่ใหญ่เกินไป ดูยิบย่อย สมตัว และมีเอกลักษณ์ คนทานไม่ต้องเคี้ยวหนัก ไม่ต้องอ้าปากกว้างงงเกินงาม รสชาติก็อร่อยไม่ต่ำกว่ามาตรฐานนาโช่อบชีสหน้าซัลซ่า : นาโช่ โดยรูปลักษณ์คล้ายแผ่นมันฝรั่ง แต่นี่ทำจากแป้งข้าวโพด เป็นอาหารท่านเล่นสไตล์แม้กซิกัน ในที่นี้ นาโช่ถูกนำมาอบชีส โรยด้วยผงปาปริก้า เคี้ยวได้รสเผ็ดเค็มมัน เสิร์ฟพร้อมดิ๊พพิ่งซัลซ่า รสซ่าแซ่บเผ็ดเปรี้ยว เพราะใส่เนื้อมะเขือเทศหั่นชิ้นๆลงไป สั่งเถอะ...อร่อย มันฝรั่งทอดอบชีสโรยหน้าปาปริก้า : จานนี้เลิศศศ ขอบอก นึกภาพตามนะ เนื้อมันฝรั่งเนี่ยทอดได้ที่ ไม่นุ่มจนเละ แต่ก็ไม่ได้แข็งโป๊ก พอให้ฟันได้ค่อยๆจมลงไปในเนื้ออย่างนุ่มนวล ได้รสเค็มมัน ไม่เพียงเท่านี้ มันโรยราดด้วยชีส ไม่ใช่ชีสผงนะ แต่เป็นชีสเหลวๆ โรยเป็นเส้นหนาๆ มีความเผ็ดซ่าของผงปาปริก้าด้วย เพิ่มอรรถรสอีกนิด หากคุณชอบซ้อสมะเขือเทศ จานนี้ก็ต้องลอง ขอ Recommend สปาเก็ตตี้ อัชช่า : จานนี้เป็น ซิกเนเจอร์ของร้าน หลายคนลงความเห็นว่า เผ็ดเด็ดดวงได้ใจเป็นที่สุด...แต่ถ้าลิ้นคุณบอบบางต่อรสเผ็ดแล้วหละก็ ไม่ต้องสั่งมาให้เปลืองเนื้อที่ จานนี้ประกอบด้วยเบค่อนทอดแห้งๆ เส้นสปาเก๊ตตี้ลวกพอดี ใส่เห็ด และพริกแห้ง เก๋ที่ไอเดียการนำกระเทียมฝานบางไปทอด และเสิร์ฟเคียง สำหรับทานกรุบๆมันๆเคล้าไปด้วย สุดยอดหากค้องการทราบรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม คลิ๊กไปที่//gourmet.masii.com/th/restaurant/?rid=1381
ร้านกวนอาร้านอาหารจีนสุดอร่อยย่านพระราม 3
กวนอา...ร้านอาหารจีน สไตล์ไหหลำ ต้นตำรับสูตรจีนแท้ที่จัดเสิร์ฟมานานกว่า 40 ปี จากเดิมที่เคยตั้งอยู่ในย่านสาทร ตรงข้ามตึก Q House ปัจจุบันได้ย้ายร้านมาเปิดใหม่ ขนาดใหญ่โตขึ้นกว่าเดิม ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมวิวทิวทัศน์ของสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมพระประแดงในยามค่ำคืน ที่นี่ คุณยังจะได้พบกับข้าวมันเลืองชื่อ ไก่ตอนอบเกลือเลิศรส หนังไก่ห่อกุ้งที่มีชื่อเสียง และอาหารจีนอื่นๆอีกมากมาย พร้อมพื้นที่สำหรับจัดเลี้ยง และยังรับจัดโต๊ะจีนระดับ B+ ถึง A นอกสถานที่อีกด้วย หนังไก่ห่อกุ้ง แฮม, เนื้อปูสดมาก ยุ่ยออกเป็นเส้นๆ กระจายอยู่ทั่วจาน คะน้า เห็ดหอม หนังไก่เนื้อเหนียว นุ่ม แต่เอมอิ่มด้วยรสชาติ ห่อหุ้มความกรอบของเนื้อกุ้ง ที่ถูกทำออกมาได้รสชาติ คล้ายทอดมันกุ้ง ผมขอ Recommend แพะตุ๋นน้ำแดง ฟองเต้าหู้นุ่มๆ ได้คุณค่า แพะตุ๋นรสเลิศ ไม่เหม็นสาบ น้ำซุปหอม ทานกับน้ำจิ้มเค็มๆ ทำจากพริกดอง ขอ Recommend จานนี้นะคะผัดจับฉ่าย สไตล์ไหหลำ จานนี้ใส่กุ้ง, ปลาหมึก, วุ้นเส้น, เห็ดหูหนู, เยื่อไผ่ และปลาหมึกกรอบ ผัดร่วมกัน ยังหอมเหมือนกลิ่นต้มจับฉ่าย แต่นี่เป็นเวอร์ชั่นแห้งๆ ก็น่าสนใจไปอีกแบบไก่ตอนอบเกลือ ประกอบด้วยไก่ทั้งตัว เคียงมาด้วยเครื่องใน อย่าง กึ๋น, ตับ และเลือด เด็ดที่น้ำเต้าเจี้ยว เลือกปรุงได้ด้วยกระเทียม และพริกขี้หนูปั่นหยาบๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกันตับทอดกระเทียม ตับใหญ่ๆ ทอดไม่คาว หอมกระเทียมที่โรยมา เสียมากกว่า ได้ธาตุเหล็กเต็มๆส่วนแผนที่การเดินทางก้อสดวกมากเลยอยู่ถนนพระราม3
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [