คำพ่อ ๒๕
. . . เหตุและผลนี้เป็นสิ่งที่ละเอียด เป็นขั้นเป็นตอน และบางที่ก็ซับซ้อนมาก ยากที่จะมองเห็นได้ถ้าไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วนรอบคอบจริง ๆ เพราะฉะนั้น จึงใคร่จะปรารภ ถึงหลักสำคัญสำหรับการคิดพิจารณาหาเหตุและผลไว้สักสองประการ
ประการแรก ขอให้เข้าใจว่าผลทุกอย่างต้องมาจากเหตุ เมื่อมีเหตุแล้วต้องเกิดผล และผลที่สำคัญ ๆ ที่เป็นผลรวบยอด เช่นการที่บัณฑิตสำเร็จการศึกษาครั้งนี้ ย่อมเป็นผลที่เกิดจากเหตุและผลอื่น ๆ ที่มีต่อเนื่องกันมาเป็นลำดับ หลายขั้นหลายตอน จึงจำเป็นที่จะต้องระวังจับเหตุจับผลให้ได้โดยถูกต้อง ทุกขั้นทุกตอน ไม่ให้สับสน
อีกประการหนึ่ง เหตุที่จะให้ผลอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นนั้น ปรกติจะเห็นว่า มีหลายเหตุ เช่น การเรียนรู้วิชาได้ดี ย่อมเป็นผลมาจากการมีที่เรียนดี มีครูดี มีโอกาสเหมาะ และตัวเองตั้งอกตั้งใจเล่าเรียน หรืออาจมีเหตุอื่น ๆ มากกว่านี้ ออกไปอีกก็ได้
เหตุทั้งหลายนี้ จำแนกออกได้เป็นสองประเภท คือเหตุต่าง ๆ ที่อยู่นอกตัว เช่น ที่เรียนดี ครูดี จัดเป็นเหตุภายนอก ประเภทหนึ่ง
กับเหตุที่อยู่ในตัวที่เป็นการกระทำของตัว อันได้แก่การตั้งใจเล่าเรียนจริง ๆ นั้น จัดเป็นเหตุภายใน อีกประเภทหนึ่ง
ขอให้พิจารณาทบทวนดูให้ดี จะเห็นว่า เหตุภายนอกทั้งหมดนั้นเป็นเพียง ส่วนประกอบ เหตุแท้จริง ที่จะทำให้รู้วิชาดีนั้นอยู่ที่เหตุภายใน คือการกระทำ ของตัวเอง
เพราะฉะนั้น บัณฑิตทั้งหลาย ผู้ซึ่งปรารถนาผลสำเร็จในชีวิต ในการงาน อีกมากมายในกาลข้างหน้า จึงควรอย่างยิ่งที่จะเพ่งเล็งในเหตุภายใน
คือการกระทำของตนเองเป็นสำคัญ แล้วเร่งกระทำเหตุที่สำคัญนั้นให้ถูกต้องครบถ้วน ผลสำเร็จที่มุ่งหมายไว้ในอนาคต จึงจะมาถึงมือท่านได้ . . .
::พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๙
Create Date : 11 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 14:45:28 น. |
Counter : 466 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คำพ่อ ๒๔
. . . ความผิดพลาดล้มเหลวของบุคคลหรือภารกิจต่าง ๆ นั้น ส่วนมากเกิดจากมูลเหตุข้อใหญ่คือความหลอกตัวเอง หลอกกันและกัน.
และเมื่อทำการงานโดยไม่อาศัยความจริงเป็นหลัก การดำเนินงาน และการปรับปรุงแก้ไขก็ผิดพลาด ไม่อาจทำให้งาน ให้ตนเองประสบผลสำเร็จที่ดีได้.
นักปฏิบัติงานเพื่อความสำเร็จและความเจริญ จึงต้องยอมรับความจริง และยึดมั่นในความจริง มีความจริงใจต่อตัวเองและต่อกันและกัน อย่างมั่นคงตลอดเวลา.
แต่ละคนจึงจะปฏิบัติตัวปฏิบัติงานได้อย่างสะดวกใจ มั่นใจ ถูกต้องเที่ยงตรง ตามเป้าหมาย และพอเหมาะพอดี แก่ฐานะ แก่หน้าที่ แก่โอกาส พร้อมทุกอย่างได้ ยังผลให้การสร้างสรรค์ความดีความเจริญบรรลุศุภผลอันพึงประสงค์ . . .
::พระราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๒๖
Create Date : 11 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 14:33:25 น. |
Counter : 285 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คำพ่อ ๒๓
. . . การทำงานนั้น กล่าวโดยสรุป ขึ้นอยู่กับความสามารถสองอย่างเป็นสำคัญ คือความสามารถในการใช้วิชาการอย่างหนึ่ง กับความสามารถในการสัมพันธ์ ติดต่อและประสานกับผู้อื่น ไม่ว่าจะในวงงานเดียวกันหรือต่างวงงานกัน อีกอย่างหนึ่ง
ทั้งสองประการนี้ย่อมดำเนินควบคู่ไปด้วยกัน และจำเป็นที่จะต้องกระทำด้วยจิตใจ ที่ใสสะอาดปราศจากอคติ ต้องกระทำด้วยความคิดความเห็นที่อิสระ เป็นกลาง ถูกต้องตามหลักเหตุผล จึงจะมีความกระจ่างแจ่มแจ้งเกิดขึ้น
เป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้สามารถมองเห็นถึงกระบวนการปฏิบัติทั้งปวงได้โดยตลอด ซึ่งจะยังผลให้งานทุกอย่างลุล่วงถึงจุดประสงค์ และบรรลุประโยชน์ที่ต้องการ โดยครบถ้วนแท้จริงในที่สุด . . . ::พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา วันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๑๗
Create Date : 11 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 14:27:29 น. |
Counter : 279 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คำพ่อ ๒๒
. . . การที่จะร่วมมือกันทำให้งานราบรื่น สำเร็จ และดำเนินก้าวหน้า ต่อเนื่องกันไปได้นั้น นักปฏิบัติงานทุกคนจะต้องมีวินัยสำหรับใช้กับตนเอง
คือ ต้องไม่ประมาทปัญญา ต้องรักษาความจริงใจ ต้องสลัดทิ้งความคิด จิตใจที่ต่ำทรามอ่อนแอ และต้องทราบตระหนักในความสำรวม ไม่ฟุ้งเฟ้อ ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติที่จะช่วยให้งานเป็นงานและให้ชีวิตมั่นคงเป็นสุข . . .
::พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๒๑
Create Date : 11 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 14:23:57 น. |
Counter : 291 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
คำพ่อ ๒๑
. . . ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติ ทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ
เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ให้ได้จริง ๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้น ๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ . . .
::พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๒ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๓
Create Date : 11 มีนาคม 2551 | | |
Last Update : 11 มีนาคม 2551 14:21:30 น. |
Counter : 316 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|