Welcome to My World :) You're Welcome.
ว่าด้วยเรื่อง"สัตว์ๆ"

ชื่อหัวข้อดูน่ากลัวใช่มั้ย? แต่ไม่มีไรหรอก เกี่ยวกับสัตว์จริงๆ

วันนี้เริ่มต้นการผจญภัยตั้งแต่เช้าที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม (ที่เก่าเวลาเดิม) :):)
เวลาที่เปลี่ยนไป อะไรๆเปลี่ยนไปเยอะ
จากตลาดน้ำที่เริ่มต้นมาจากแค่คนๆเดียวที่คนอื่นเห็นว่า"บ้า"ด้วยนะ
แต่ความ"บ้า"ของคนๆนึง ก็ทำให้ตลาดเติบโตจนถึงทุกวันนี้
จากลานกว้างๆ จากที่ๆไร้แม่ค้่า พ่อขาย ตอนนี้กลับกลายเป็นตรงข้ามกันหมด

9 โมงกว่าๆ คือ เวลาที่ฉันไปถึงตลาด ไม่น่าเชื่อ ที่จอดรถก็ใกล้จะเต็มแล้ว
พ่อค้าแม่ขายก็คึกคัก ธุรกิจที่ไม่เคยปรากฎในท้อง ถิ่นแห่งนี้ก็ย่างกรายเข้ามาแนะนำตัวกับฉันเต็มไปหมด
ตลาดแห่งนี้เติบโตขึ้นมากจริงๆ จากสวนที่ไม่มีคนดูแล จากตลาดแค่ฝั่งถนนเดียว
ตอนนี้กลับขยายเป็นสองฝั่งถนน (พูดเหมือนใหญ่นะ แต่ก็ไม่มากเท่าตลาดสามชุกหรอก)
กิจการร้านอาหารต่างๆก็ได้กำไรกันเป็นแถบๆ
เริ่มมีกิจการนวดแผนโบราณ และหมอดู (ตามตำราคนไทยจริงๆ) 555

ฉันไปตลาดที่นี่ เรียกได้ว่า ค่อนข้างบ่อย :) แต่ครั้งนี้ ฉันได้สังเกตสิ่งๆหนึ่งที่เ ปลี่ยนไป แปลกของที่นี่
แต่สำหรับคนอื่น คงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เห็นกิจการนี้...

กิจการที่ว่า คือ "การปล่อยหอย"
ไม่ตลก... "การปล่อยหอยขม" ลงในคลองลัดมะยม...
ชามละ 20 บาท...

อืมมม ไม่รู้สิ สำหรับสิ่งที่คิดขึ้นมาในใจ คือ...
การค้าขายได้กำไรของคนๆหนึ่ง มันจะทำให้ระบบนิเวศเสียมั้ยหว่า?
และ... หากมีคนเริ่มต้นด้วยกิจการที่ลงทุนง่าย กำไรคล่อง
ไม่นาน กิจการนี้จะขยายใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น และมีหลา่ยเจ้ามากขึ้น...

ฉันรู้สึกว่า กิจการนี้อาจทำให้ระบบนิเวศ ตามธรรมชาติเสียได้
ไม่รู้สิ คือ ก็ไม่ได้เรียนด้านระบบธรรมชาติมาโดยตรงหรอกนะ
แต่ก็รู้สึกได้ เพราะในหัวฉันมีแต่มโนภาพก้นคลอง ที่เต็มไปด้วยหอยขมยุบยับ
ซึ่งเท่าที่จำได้ หอยขมเป็นผู้บริโภค หรืออะไรซักอย่าง
ไม่รู้สิ เอาเป็นว่า มันก็คงบริโภคพืชน้ำจนระบบนิเวศเสียละกัน...

แล้วหอยขมก็เป็นสัตว์ที่ตาย ยากเสียด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
มันจะตายเพราะคนงมขึ้นมาให้คนปล่อยเวียนอีกครั้ง
หรือว่า จะตายเพราะโดนปลาในคลองกิน หรือ กินปลาในคลองไปเสียก่อน

สำหรับเราแล้ว ไม่เคยเห็นด้วยเลยกัับธุรกิจนี้...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำลายระบบนิเวศ หรือ การเวียนปล่อยสัตว์ (ทรมานสัตว์อยู่นาาา)
เพราะบางครั้งแล้ว สัตว์ที่ปล่อยลงไป เราก็ไม่รู้ว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้ไหม?
เช่น อย่างเต่าเนี่ย เป็นไปไม่ได้เลยที่จะปล่อยลงแม่น้ำ
ตายค่ะ ตายแน่นอน ทางรอดของมันคือ การให้คนงมมันขึ้นมาขายต่อ -*-
โถ อนาถาชีวิตเต่า

แล้วเอาจริงๆ การทำบุญที่เค้าบอกว่า ปล่อยชีวิต เพื่อต่อชีวิต...
แต่ในขณะเดียวกัน เราก็รู้ๆกันอยู่ว่า ระบบนิเวศ คือ หน่วยของความสัมพันธ์ของสิ่ งมีชีวิตในแหล่งที่อยู่แหล่งใดแหล่งหนึ่ง
มันเป็นวงจรชีวิต หากห่วงโซ่อาหารใดห่วงโซ่หนึ่งถูกทำลาย (โดยฝีมือ"การต่อชีวิต" ของเรา)
ระบบนิเวศนั้นย่อมจะ้เสียสมดุลไป และชีวิตในวงจรระบบนั้นก็ถูกทำลาย ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสอง
แต่เป็นทั้งหมดของห่วงโซ่นั้น

นอกจากนั้นแล้วสัตว์เหล่านั ้นก็ยังถูกเวียนนำขึ้นมาขายซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันจะมีประโยชน์อะไรหรือ? ไม่รวมถึงสัตว์ที่ตายระหว่างการขนส่ง

ยิ่งเราปล่่อยเยอะเท่าไหร่ คนก็ยิ่งเอามาขายมากขึ้น
ธุรกิจบาปที่บังหน้าด้วยบุญ ก็เจริญเติบโตมากขึ้นและขขยายไปที่ต่างๆ โดยที่คนไม่เึคยรู้เลย...

อยากให้ลองคิดกันเยอะๆนิดนึ งก่อนที่จะทำบุญแบบนี้
เราเป็นคริสเตียน เราก็พยายามจะเข้าใจ ไม่ใช่ว่าต่อต้าน
แต่นี่คือ เราสงสารสัตว์ สงสารระบบนิเวศธรรมชาติ


นั่น คือ เรื่องของสัตว์แรก แต่ยังเหลืออีกไม้ยมกหนึ่งใ ช่มั้ย?
ใช่ เรายังไม่จบเรื่องสัตว์ของเราอีกเรื่องหนึ่ง

หลังจากการตริตรองเรื่องการ ปล่อยหอยที่ตลาดน้ำลัดมะยม
เราได้อีกเรื่องคือ "เรื่องช้าง"

"ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า"
ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กสมัย นี้ยังจะร้องเพลงนี้ได้หรือเปล่า
หรือจะร้องได้แต่ "หมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้าๆๆ" -*-

ผู้ใหญ่ในแระเทศเราทำกันให้ วุ่นไปหมด... ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า
สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า ว่าสัตว์ประจำชาติของเรา ก็คือ "ช้าง"

ในขณะที่ครอบครัว หลินฮุ่ย กับ ช่วงช่วง ตกลูกหนึ่งตัว "น้องหลินปิง"
กลายเป็นแพนด้าน้อยที่เป็นดาราโด่งดังเป็นข่าวไปทั่วทุกหัวระแหง
มันน่ารักจริงๆ อันนี้ไม่ปฏิเสธ... แต่ว่า... มันมากไปหรือเปล่า
กระแสหลินปิงดังมากจริงๆ ขนาด "ช้าง" ยังโดนเพ้นท์ตัวให้เป็นแพนด้า..
(ซึ่งเราไม่เห็นด้วยจริงๆอันนี้)

หลังจากที่เราเคยได้ข่าวมาในช่วงก่อนๆ เกี่ยวกับการตายของช้างหลายๆเชือก
ซึ่งจู่ๆก็ตาย ก็ล้มไป หลายๆตัว ติดต่อกันเป็นเรื่องต่อเนื่อง อย่างไม่สามารถเข้าใจได้
หยีขอเข้าใจเองว่า มันคงตรอมใจตาย ไม่มีคนสนใจมัน 555
เพราะเห็นได้ว่า ข่าวนำเสนอได้ไม่นานก็เงียบไป แต่ไอ้แพนด้าเนี่ย
เปิดตาซ้ายก็ตะลึงเมือง เปิดตาขวาก็นะจังงัง
ให้ตายเถอะ เป็นอะไรไปกันหมด

วันนี้ได้ไปรู้จักกับ
ช้าง... สัตว์ประจำชาติไทยของเรา
ช้าง... ที่ได้รับเกียรติให้อยู่บนธ งชาติมาแล้ว
ช้าง... สัตว์ที่ได้ชื่อว่าเป็น สัตว์คู่บุญ คู่บารมีของกษัตริย์
ช้าง... สัตว์ที่เป็นพาหนะคู่ใจยามรบของกษัตริย์ไทยหลายพระองค์

มันทำให้เราตกใจในความจริงห ลายๆอย่างที่คนไทยไม่ได้ให้ความสนใจ ละเลยเรื่องเหล่านี้ไป...

ไม่น่าเชื่อว่า ในขณะที่แพนด้าได้รับความสน ใจจากชาวไทยมากมาย
แต่ช้าง กลับถูกละเลย แต่ผู้ที่สนใจกลับมาดูแลช้าง คือ ฝรั่งต่างชาติ!!!

ช้างที่เพนียดหลวงมีกว่าเป็ นร้อย และทุกตัวได้รับการฝึกเป็นอย่างดี
วันนี้ได้ไปรู้จักกับน้องช้างหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น นาตาลี หรือว่า ดอกโสน...
พวกมันน่ารัก แม้ว่าเราจะฟัดมันไม่ได้เหมือนแพนด้า (แต่มันฟัดเราได้นะ)
แต่อย่างน้อย เราก็ไม่ต้องไปนั่งคอยดูเวลาเป็นรอบๆ ว่าเมื่อไหร่จะดูมันได้ 5555 =P

ช้างนาตาลีอายุ 35 ปี ผิวหนังเหี่ยวย่น ดุร้าย แต่ตอนนี้น้อยลงมาก เหตุเนื่องมาจาก
ถูกเจ้าของล่ามไว้ในป่า ไม่ได้ให้น้ำ... ซึ่งธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต น้ำเป็นสิ่งจำเป็น
คิดสภาพเราตัวเหี่ยวเพราะไม่ได้น้ำดิ หนังเหี่ยวแห้งยังไง นาตาลีก็เป็นอย่างนั้น
นาตาลีดุร้าย เพราะถูกพรากลูกไป ตอนยังไม่หย่านม ทำให้ระแวงคน
แต่ที่นี่ ได้ทำการเยียวยาแล้ว จนตอนนี้ ขอใช้คำว่าดีขึ้น...
เท่าที่เราไปยืนดูมา นาตาลียังรักที่จะเลี้ยงดูลูกช้างตัวอื่นๆ แม้ไม่ใช่ลูกตน
สัญชาตญานความเป็นแม่ของนาตาลี ของช้าง ยังมากกว่าคนบางคนในข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เสียอีก...
เราเห็นนาตาลี เอางวงเหี่ยวๆของมัน ลูบไล้ที่ตัวลูกช้างคอกข้างๆอย่างเอ็นดู...
เราแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่... สงสารมันจริงๆนะ...

ส่วนเจ้าดอกโสนเป็นแม่ของเจ้าลูกช้างวัย 11 วันนี่... ไม่น่าเชื่อ มันอายุ 23 ปี...
พี่ดอกโสนแก่กว่าเราแค่ปีเดียว แต่มีลูกซะละ... 555
ตอนไปเดินเยี่ยมลูกช้าง ยืนจ้องหน้ากับเจ้าดอกโสนนานมาก... :):)
เหมือนมันจะเอางวงมาลูบหัวละ 555

มีลูกช้างอีกตัวที่เค้าปล่อ ยวิ่งเล่น... ขอเน้นว่าปล่อยให้วิ่งเล่น..
เหมือนเด็กจริงๆ วิ่งไปวิ่งมาแบบ ถ้าวิ่งมาชน ก็กระเด็นอ่ะ ชอบเล่น
แล้วตลกตอนมันอาบน้ำ... นอนกลิ้งแบบสบายใจแฮ... น่ารักจริงๆนะ >.<

ช้างมีอายุเท่าคน และอายุขัยเฉลี่ย 80 ปี ซึ่งๆพอๆกับชั่วอายุคนทีเดียว
มันค่อนข้างเป็นสัตว์ที่เหมือนคนอยู่นะ ไม่ว่าจะเป็นแววตา... หรือ นิสัยหลายๆอย่าง
ไม่งั้น มันจะอยู่กับควาญช้างได้ไง จริงมั้ย??

ขอให้ข้อมูลนอกเรื่อง ไร้สาระ ตลกๆนิดนึงนะ
เค้าบอกว่าช้างพลายบางตัวก็เป็นคาสซาโนว่า มีเมียเพียบ
บางตัวก็รักเดียวใจเดียว...
ส่วนเรื่องที่ไม่น่าเชื่อคือ... บางตัวไม่ชอบตัวเมีย!!
ใช่ค่ะ มีช้างที่เป็นตุ๊ด และเกย์อย่างไม่น่าเชื่อ -*-
และอีกเรื่องที่ดิฉันค้นพบ อย่าหาว่าทะลึ่ง แต่วันนี้ไปยืนใกล้ๆช้างพลายพ่อพันธุ์มา...
"สิ่งนั้น"ของช้าง ใหญ่กว่าตัวดิฉันค่ะ!!!
เอาจริงๆ ตกใจมาก ที่บังเอิญไปเห็นตอนเค้าเปิดผ้า!!~ ดิฉันถึงกับช็อก!

ช้างกินวันหนึ่งประมาณ 300 กิโล... -*- ส่วนหนักตัวหนึ่งก็ประมาณ 5 ตัน
เอ่อะ... น่าเป็นห่วงอนาคตของเพนียดนี่จริงๆ จะมีเงินสนับสนุนมากไปนานขนาดไหนนะ?

เจ้าลูกแพนด้าคลอด มีการให้คนตั้งชื่อ โหวตชื่อทั่วประเทศ
แต่ที่นี่ เจ้าลูกช้างตัวขนาดหมาโกลเด้น เพิ่งคลอดได้ 11 วัน
เป็นสาวน้อยขี้อายที่คอยหลบหลังแม่มัน และเอางวงปัดป่ายไปตามลำตัวควาญช้างอย่างน่าชัง
ยังไม่มีชื่อ? พาลให้ฉันเกิดความสงสัยว่า ทำไม? ถึงไม่มีการให้ตั้งชื่อเจ้าตัวจ้อย(หรอ?) ตัวนี้บ้าง...

ช้างไทย ควรจะได้รับความสนใจจากคนไท ยมากกว่าที่เป็นอยู่กว่านี้เยอะ...
ไม่ต้องให้ถึงแพนด้าก็ได้... ได้เพียงเสี้ยงหนึ่งจากความสนใจของแพนด้าก็ยังดี...

อย่าให้คนไทยลืมเลยว่า สัตว์ประจำชาติเราคืออะไร
หวังใจไว้ว่า... คงไม่มีธงชาติไทยรูปแพนด้า หรือ แพนด้าเผือกประจำรัชกาลหรอก นะ :):)




Create Date : 24 ตุลาคม 2552
Last Update : 24 ตุลาคม 2552 22:04:28 น. 0 comments
Counter : 436 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

My Lullaby
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to My Blog ^^
Nice To meet You all na ka :):)

This is my URL: http://lady-lullaby.bloggang.com
This is my Christian Blog :http://loukyie.blogspot.com/
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add My Lullaby's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.