Welcome to My World :) You're Welcome.
เมื่อพระเจ้าสร้างผู้หญิง :):)

Monday, November 30, 2009 at 11:23pm

เมื่อพระเจ้าได้สร้างผู้ชายขึ้นมาก่อน
เพื่อจะได้มีคนเอาไว้รับใช้วิ่งเต้น แข็งแรงและมีความบึกบึน
แต่ผลกลับปรากฏว่าโลกดูแข็งกระด้าง และไม่น่าดูเอาเสียเลย

พระองค์จึงต้องสร้างคนขึ้นมาอีกคนหนึ่ง เพื่อให้มีลักษณะตรงกันข้าม
ใครได้เห็นหรืออยู่ใกล้ๆจะได้ชื่นใจ
ก่อนจะลงมือสร้าง พระผู้เป็นเจ้าก็นึกถึงเครื่องปรุงเสียก่อน

เมื่อคิดได้แล้ว พระองค์จึงทรงเอื้อมพระหัตถ์
ไปหยิบเอาความโค้งกลมกลึงของดวงจันทร์มาส่วนหนึ่ง
คาดคะเน ประมาณน้ำหนักไว้ด้วยพระหัตถ์

ทั้งนี้ก็เพื่อจะให้เท่ากันกับความคดเคี้ยวของเถาไม้เลื้อยที่พระผู้เป็นเจ้าทรงดึงเอาลงมาผสม
โดยมีน้ำหนักเท่ากับความกลมกลึงของพระจันทร์

แล้วก็ทรงนึกว่าควรเอาอะไรผสมลงไปอีก
พระองค์ก็ทรงหยิบเอาของใกล้ๆพระหัตถ์นั่นเอง แล้วก็ดึงออกมาไม่ยากด้วย
นั่นคือความเกาะเกี่ยวเลี้ยวรัดของเถาวัลย์
เพื่อจะให้ครบสูตรของความอ่อนและไหว

สิ่งต่อไปก็น่าจะต้องเป็นความลู่และพริ้วไปตามลมของยอดหญ้า
ต้องลมนิดหน่อยก็จะลู่ไปตามลม แต่ไม่กลัวแม้แต่พายุ

ลู่เฉยๆจะดีที่ไหน ทรงคิดได้เช่นนั้นแล้ว
ก็ทรงรัดเอาความอ้อนแอ้น อ่อนไหวยามเล่นกับสายลมของไม้อ้อ
นี่แหละคือต้นเหตุ ทำให้ผู้หญิงทั้งหลายกลัวความอ้วน
อันเป็นลักษณะตรงกันข้ามกับความเบาหวิว ไหวระรัวของต้นอ้อในสายลม

พระผู้เป็นเจ้าทรงนึกในพระทัยว่า "กลิ่นอีกอย่าง เห็นจะต้องให้ผิดกับผู้ชาย"
แล้วก็ทรงดำริต่อไปว่า "อย่ากระนั้นเลย เราจะคั้นเอาความหอมหวนยวนยีของดอกไม้ผสมลงไป"
นี่อย่างไรคะ กลิ่นผู้หญิงจึงเร้าผิดไปจากกลิ่นของผู้ชาย และยังชอบใช้น้ำหอมมากกว่าผู้ชายด้วย

ผู้หญิงที่หนัก จะตุ้งติ้งได้น่าดูอย่างไร
เอ้า! เอาความเบาของใบไม้ที่ส่ายตัวรับลมผสมลงไปตามส่วน จะได้ดูหวิวไปทั้งตัว
จะเดินจะเหินคล้ายกับลอยเลื่อนไปตามลม ใช้ความเบานั้นเป็นเครื่องมือล่อให้ชายสนใจ

ตั้งแต่พระเจ้าทรงหยิบโน่นผสมนี่ ดูจะมีแต่ความเปราะบางเบา
น่าจะต้องเอาความคมผสมลงไปเสียบ้าง

ในส่วนผสมต่อมา จึงมีแต่ความคมของตาเนื้อทราย
ทำให้หน้าผู้หญิงแจ่มจ้า คลุกเคล้าไปกับความคม ดูแล้วไม่จืดตาจืดใจ

"ทำอย่างไรดีหนอ" พระเจ้าชักจะทรงเป็นห่วง
"ผู้หญิงจะได้แจ่มใส เจิดจ้าไม่หมองดำกรำงานหนักเหมือนผู้ชาย"
"ใช่แล้ว!" เพราะทรงคิดได้ว่า ความแจ่มจรัสของผู้หญิงนั้นจะต้องได้มาจากแสงอาทิตย์
พระองค์จึงทรงเติมเชื้อแห่งความรุ่งโรจน์ลงไปในเครื่องปรุง กะปริมาณให้พอดี

"ตายละวา ข้าเองก็ลืมไป ไม่ได้ให้อาวุธป้องกันตัวกับหล่อนเลย" ทรงอึ้งไปครู่ใหญ่
"ขืนไม่ให้อะไรไว้ป้องกันตัวบ้าง ไม่มีพิษสงเอาเสียเลย จะเสียเชิงได้ง่ายๆ"
พระผู้เป็นเจ้าทรงดำริในพระทัยต่อไปอีกว่า
"อย่าให้ไปแข่งกับผู้ชายเขาเลย จะผลิตมาเพื่อให้ตายไปเสียเปล่าๆ"
พระองค์จึงเหยาะน้ำตาและหยาดน้ำ ที่ได้มาจากเมฆหมอกลงผสม
เพื่อให้ผู้หญิงที่ทรงสร้างมาด้วยพระหัตถ์ เอาไว้ใช้สู้ความแข็งแกร่งและเหี้ยมโหดของผู้ชาย

เพื่อให้เกิดความท้าทายและไม่จืดชืดเหมือนน้ำเย็น
พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงหยิบเอาความแปรปรวนและไม่แน่นอน แห่งทิศทางของสายลมพรมลงไป

"มีอะไรอีกหนอ ที่จะทำให้ผู้หญิงไม่เหมือนผู้ชายโดยเด็ดขาด ถือเป็นเอกลักษณ์ของสตรีเพศได้"
ทรงใคร่ครวญเพื่อให้ผลผลิตมีคุณสมบัติแปลกใหม่
ก็ความใจเสาะของกระต่ายนั่นไง อุ้มก็ตาย ไม่อุ้มก็ตาย ตื่นตูมก็เท่านั้น

เมื่อผู้หญิงมีความน่าพิสมัยมากมายในตัวเอง จะกักเก็บเอาไว้ก็น่าเสียดาย
พระผู้เป็นเจ้าจึงเหยาะความลำพอง ขี้โอ่และโอ้อวด กรีดกรายของนกยูงลงไปอีกหนึ่งอย่าง
เพื่อให้ผู้หญิงชอบปรากฏตัว เพื่อความสุขของตัวเอง และให้ผู้ชายได้เชยชม

และยังทรงรวบรวมความนุ่มนวลแห่งขนอ่อนตรงหน้าอกของเจ้านกน้อย ปนเปลงไปในเครื่องปรุงด้วย
ทั้งนี้เพื่อให้ผู้หญิงอ่อนหวาน ลื่นตาลื่นใจ ทั้งยังนุ่มนิ่ม

ถึงตอนนี้พระผู้เป็นเจ้าชะงักงัน เกือบจะทรงลืมไปว่า ถ้าผู้หญิงมีแต่ความอ่อนนุ่ม นุ่มนวลและอ่อนไหว ฯลฯ
อาจจะอยู่ไม่ได้นาน จึงทรงเอาความแข็งแกร่งของเพชรเติมลงในเบ้า
แต่แล้วทรงนึกขึ้นได้ เกรงว่าสิ่งที่ได้มาจากเพชรจะมากไป
จะตักคืนก็ไม่ได้เสียแล้ว เป็นอันว่าเลยตามเลย

อะไรเผ็ดไป เค็มไป เปรี้ยวไป หากเติมน้ำตาลลง ก็พอจะแก้กันไปได้
จึงทรงเทความหวานของน้ำผึ้งลงไปแก้กัน ซึ่งหวานเลิศยิ่งกว่าน้ำตาลธรรมดาๆ

ทรงมีพระประสงค์จะสร้างพลังอันเป็นดุลถ่วงผู้หญิงเอาไว้บ้าง เครื่องผสมท้ายๆรายการ
จึงประกอบไปด้วยสิ่งที่จะทำให้แข็ง ทั้งกายและใจนั่นก็คือ

ความดุร้ายของพยัคฆ์ เมื่อจวนตัวและเกิดโทสะขึ้นเมื่อไหร่
จะต้องฆ่าก็ฆ่า และจะสู้ด้วยฤทธิ์ของนางพยัคฆ์ที่หวงลูก

ตามด้วยความร้อนแห่งเปลวไฟ เข้าใกล้ชายจะร้อนรุ่มเอาทีเดียว
โมโหเก่งแล้วก็แรงดุจพายุร้าย
"ชักจะมากไป" พระผู้เป็นเจ้าทรงคิด จึงทรงเติมความเยือกเย็นของทิวาลงไป
เพื่อดับร้อนของไฟให้บรรเทาลง ถึงไม่ได้มาก ได้นิดหน่อยก็ยังดี

เติมแล้วก็ทรงโล่งพระทัย

"ตายแล้วกู" พระผู้เป็นเจ้าทรงตำหนิตัวเอง
"เกือบไปแล้วไหมล่ะ หวิดสร้างคนใบ้" ฉะนั้นในเครื่องปรุง
จึงมีแต่ความช่างพูดของนกกระจอก พูดได้ทั้งวัน ฟังเท่าไรก็ไม่ค่อยจะได้เรื่อง
ด้วยเสียงของนกโกกิลา(หน้าตาเป็นยังไงหว่า?)

"เอาหล่ะ แต่เดี๋ยวคนเขาจะรำคาญเรื่องพูดมาก น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งหาไม่เจอ"
ทรงหยิบเอาความครวญคราง น่าเห็นใจและน่าฟังของเสียงนกเขา คนคละลงไปในเบ้าหลอม

"สุดท้ายแล้ว จะเอาอะไรดี" พอทรงคิดได้ก็หยิบเอาพิษร้ายของอสรพิษเพิ่มลงอีกอย่าง
แล้วก็ทรงพอพระทัยเป็นอย่างมาก

ทั้ง 22 รายการนี้แหละ ที่พระผู้เป็นเจ้าช่วยกันมากวน ผสมผสานให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทรงปั้นอย่างประณีตออกมาเป็น "สตรี"


------------------------------------------------------------------

เริ่มแรกที่อ่านเรื่องนี้ เจอในนิยายเรื่อง สุดขอบจักรวาล มั้ง เป็นนิยายที่ชอบที่สุด
เขียนเอาไว้หวานมากเลย เพิ่งเจอในเน็ตไม่นานนี้เอง :):)~ ชอบๆ

"วรรณกรรมสันสกฤตมีเรื่องเล่าว่า...เมื่อพระเจ้าสร้างโลกและมนุษย์ผู้ชายขึ้นมา
แล้วก็เห็นว่าเจ้ามนุษย์ผู้ชายที่สร้างขึ้นมานี้ออกจะกระด้างแข็งโป๊กเกินไป จึงรวบรวมเอา…
เสน่ห์ของแสงจันทร์
ความอ่อนช้อยของเถาไม้เลื้อย
ความเกาะเกี่ยวของเถาวัลย์
ความหวั่นไหวของยอดหญ้า
ความอ้อนแอ้นของใบอ้อ
ความยียวนของดอกไม้
ความเบาของใบไม้
ความคมของตาเนื้อ
ความแจ่มใสของดวงตะวัน
น้ำตาของหมอก
ความปรวนแปรของสายลม
ความใจเสาะของกระต่าย
ความโอ่อ่าของนกยูง
ความนุ่มนวลแห่งขนอ่อนของวิหค
ความแข็งแกร่งของเพชร
ความหวานของน้ำผึ่ง
ความดุร้ายของพยัคฆ์
ความอบอุ่นของไฟ
ความหนาวเหน็บของหิมะ
ความพูดมากของนกกระจอก
ความครวญครางของนกเขา
และพิษของงู ...

มาปั้นรวมกันเข้าสร้างเป็นมนุษย์ผู้หญิงขึ้นมา
แล้วสิ่งสร้างใหม่ที่มีสัดส่วนโค้งๆ เว้าๆ นี้ก็สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายจนทั้งโลกและผู้ชายหายกระด้างได้จริงๆ”


Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 10:39:36 น. 0 comments
Counter : 403 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

My Lullaby
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Welcome to My Blog ^^
Nice To meet You all na ka :):)

This is my URL: http://lady-lullaby.bloggang.com
This is my Christian Blog :http://loukyie.blogspot.com/
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add My Lullaby's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.