แม่ลูกหนึ่ง
|
||||
banana series: กล้วยและกล้วย Oreo Banana Cream Cheese แบบมือใหม่ + รูปเบลอๆ
คุณจ๊ะหมวยได้ลงสูตร oreo creamcheese ไว้ ที่นี่ จึงขอทำตาม
แต่ว่าเนื่องจากว่าอุปกรณ์ กับวัตถุดิบบางอย่างไม่มี จึงดัดแปลงเล็กน้อย วัตถุดิบ สำหรับฐาน - oreo แต่เราใช้ ครีมโอขนาด 60กรัม 3 pack - เนย 100 กรัม สำหรับตัวหน้าที่ปาดบนพาย (ภาษาทางการเขาเรียกว่าอะไรหว่า) - philadepia cream cheese1 กล่อง หรือ 250 กรัม - นมข้นหวาน (ไม่มีกำหนด ตามใจชอบ ทำไปชิมไป) - น้ำมะนาว ประมาณ ครึ่งลูก แต่ว่าสามารถเพิ่มลดได้ตามใจชอบ - กล้วยหอม 2-3 ผล - ครีมขาวๆ ที่แงะจากครีมโอ - วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย วิธีทำฐานพาย * นำ Oreo (หรือครีมโอ) มาแยกตัวคุ๊กกี้ กับไส้ครีมออกจากกัน เราใช้ไม้พายพลาสติกช่วยแงะออก ให้เก็บครีมสีขาวเอาไว้ต่างหากก่อน เพราะเราจะเอาครีมไปตีรวมกับครีมชีสด้วย * บดตัวคุกกี้สีดำให้ละเอียด บางคนใช้ครกกับสาก แต่เราไม่มีเลยเอาคุ๊กกี้ใส่ถุงใสแล้วขยำด้วยมือก่อน แล้วหาที่นวดแป้งมากลิ้งๆ บดให้ละเอียดอีกที * นำเนย 100 กรัมไปละลายในไมโตรเวฟ แล้วก็ใช้ช้อน(หรือมือ) คลุกกับคุกกี้ที่บดแล้ว แล้วก็นำไปเกลี่ยใส่ถาด แล้วก็ใช้ช้อนกดเบาๆ พยายามให้เสมอกัน * แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1 ช.ม. ส่วนตอนที่เราทำเราแช่ค้างคืนไว้เลยค่ะ บ่ายๆ ของอีกวันค่อยทำส่วนที่เหลือต่อ วิธีทำหน้าครีมชีส * หั่น philadepia cream chesse ให้เป็นชิ้นเล็กๆ รอให้อ่อนตัวเล็กน้อย แล้วก็ใช้ที่ตีไข่ตีๆกวนๆ ถ้าใครมีเครื่องตีก็ใช้เครื่อดีกว่าค่ะจะได้ไม่เมื่อย (บางครั้งตีๆไปตัว cream chesse ไปติดที่ตะกร้อหมด เราก็เอาช้อนไปดันๆครีมชีสออกจากซี่ตระกร้อ แล้วก็ตีต่อ) * ใส่ครีมสีขาวที่ได้จากoreo เติมนมข้นหวานกับน้ำมะนาว แล้วตีต่อ ก็ดูความหนืดกับชิมดูว่าชอบรสชาติแล้วก็พอ ถ้าครีมชีสข้นไปก็ใส่นมข้นหรือน้ำมะนาวเพิ่ม ถ้าอยากให้ครีมชีสหนืดขึ้นก็ใส่ครีมชีสเพิ่มค่ะ ในรูปโชว์ฐานพายกับครีมชีสที่ยังตีไม่เข้าที่ จริงๆอยากให้เหลวและหวานมากกว่านี้หน่อย แต่ว่านมข้นหวานหมดก่อนเลยใส่เท่าที่มี ครีมชีสเลยจะยังดูแข็งๆ ![]() นำครีมชีสที่ตีๆคนๆ จนได้ที่ก็นำมาปาดบนฐานพายoreo แล้วใส่ตู้เย็นระหว่างตีวิปปิ้งครีม โชว์รูปขนมที่ปาดครีมชีสแล้ว อายจังปาดไม่เรียบ ![]() แอบดูด้านข้าง ถาดพายแก้วเป็นมรดกจากแม่ แม่ซื้อมา 10 กว่าปีไม่ได้ใช้เลย ตอนลูกสาวออกเรือนเลยจิ๊กมาใช้เรียบโร้ย แต่ก็เห็นว่านอกจากครีมชีสด้านบนไม่เรียบ ฐานพายก็เกลี่ยไม่เท่ากันแฮะ ![]() พอเอาพายเข้าตู้เย็นแล้วเราก็ไปหั่นกล้วยกับเตรียมตีวิปปิ้งครีม เราหั่นกล้วยหอม 2 ผลพักเอาไว้ ไม่ควรหั่นกล้วยหอมทิ้งไว้นานๆเพราะจะทำให้กล้วยดำ ก่อนหน้าตีวิปปิ้งครีมก็ควรแช่โถและอุปกรณ์ที่จะตีก่อน และก็ใช้กาละมังรองน้ำแข็งกับน้ำเพื่อให้โถเย็นๆ ครีมจะได้ฟู ตั้งยอดสวย ใช้เวลาตีนานเหมือนกัน ตีครั้งแรกก็รู้สึกเมื่อยมือเลยค่ะ ![]() เรียงกล้วยที่หั่นแล้วให้เต็มถาด แล้วก็โปะและปาดวิปครีมที่ตีแล้วตาม หรือใครจะซื้อวิปปิ่งครีมสำเร็จรูปทีพร้อมบีบแล้วก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ต้องตีให้เหนื่อย ![]() พายที่ปาดวิปปิ้งครีมแล้ว แต่หน้าก็ไม่เรียบ ![]() เพื่อปกปิดความขี้เหร่ เอาผงโกโก้ที่มีมาโรยปิดหน้า มาถ่ายรูปตอนหลัง เลยแหว่งไปแล้วบ้างค่ะ ![]() อวดโฉมด้านข้าง แต่รูปไม่ชัด เพราะกว่าจะถ่ายรูปก็ 4 ทุ่มแล้วค่ะ ![]() แม้จะรูปร่างหน้าตาไม่สวยมาก แต่ภูมิใจนะนี่ เป็นพวกขนมเค้ก พวกพายอันแรกที่ทำเองตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะ รสชาติก็ออกมาโอเคอร่อยเลยค่ะ ทำสเต็กเนื้อแบบมือใหม่
ไปฮันนีมูนที่ญี่ปุ่นกลับมา เนื้อวัวที่ญี่ปุ่นอร่อยมาก (แฟนว่าอย่างนั้น) เลยมีควันหลงอยากกินเนื้อวัวอยู่
ถึงส่วนตัวจะไม่กินเนื้อวัวก็ทำให้คุณสามีกินก็ได้ ตอนแรกจะทำ BBQ ปิ้ง แบบพวกยาคินิขุของญี่ปุ่นกัน ไปๆ มาๆ เปลี่ยนเป็นทำสเต็กเนื้อดีกว่า ไปค้นหาวิธีทำสเต็กเนื้อแบบฉบับ ก้นครัว มีหลายสูตร นี่ยกตัวอย่างแค่ไม่กี่กระทู้นะคะ สเต็กฝรั่งเค้าทำไงกันหรอค่ะ อยากทำสเต็กทานเองที่บ้านค่ะใครมีสูตรของหน่อยค่ะ หมักเนื้อสเต็กยังไงให้นุ่ม.. อยากทราบวิธีหมักสเต็กเนื้อครับผม เราเลยเลือกเอาสูตรแบบที่สามารถใช้อุปกรณ์ เครื่องปรุงที่มีอยู่แล้วไม่ต้องซื้อเพิ่มน่ะค่ะ - เนื้อวัว ซื้อเนื้อไทยเฟรนช์จาก tops มาประมาณ 3-400 กรัม แบบลดราคา จาก 139.25 เหลือ 100.25 เครื่องปรุง - เกลือ - พริกไทย(จริงๆควรจะเป็นพริกไทยดำ แต่เราไม่มี) - เนย - นม ![]() จริงๆวิธีทำไม่ยากมากนะ เพียงแต่ว่าต้องเลือกเนื้อดีๆหน่อย ถ้าเนื้อเหนียวแล้วอยากให้เนื้อนุ่มก็ทุบเนื้อก่อน เอาเกลือกับพริกไทยทาเนื้อบางๆ เทนมไว้นิดหน่อย แล้วทิ้งไว้ 15 นาที ถ้าเนื้อดีก็ไม่ต้องหมักทิ้งไว้ค่ะ ทอดได้เลย เราใส่ตู้เย็นไว้ 30 นาที เพราะรอคุณแฟนกลับบ้าน กะว่าทำเสร็จแล้วกลับถึงบ้านพอดี ![]() ถ้าใครมีกระทะสำหรับทอดสเต็กโดยเฉพาะ เป็นสี่เหลี่ยมๆก้นกระทะจะนูนๆ หยักๆขึ้นมาก็จะดีกว่าค่ะ แต่เราไม่มีเลยใช้กระทะธรรมดา เอาเนยไปละลายก่อนแล้วก็เอาเนื้อไปนาบค่ะ ใช้ไฟปานกลาง ![]() ในสูตรของเพื่อนๆก้นครัว บอกว่าให้กลับเนื้อสเต็กเพียงครั้งเดียว อย่ากลับไปกลับมา ไม่งั้นน้ำในเนื้อจะไหลออกหมดแล้วทำให้เนื้อไม่นุ่มอร่อย ด้านนึงบางคนก็บอกว่าให้ทอด 2 นาที บางคนก็บอกว่า 5 นาที เราทิ้งไว้ 5 นาทีได้ เพราะเห็นว่าเนื้อก็หนาเหมือนกัน เอาฝามาปิดกลัวกระเด็น แต่ไม่กระเด็นแฮะ ![]() กะเวลาเอา พอพลิกเนื้อปุ๊บ กริ๊ดดดด มันไหมไปหน่อยนึง ![]() ตอนเสิร์ฟเราก็พลิกด้านไม่ไหม้ มากลบกลื่อน ![]() ![]() มีสูตรทำน้ำเกรวี่ราดสเต็กในลิงก์ด้านบน แต่เราขี้เกียจและเครื่องก็ไม่ครบ เลยไม่ได้ทำค่ะ ให้สามีกิน เขาก็บอกว่าอร่อยดี แต่เนื้อเหนียวไปหน่อย ครั้งหน้าถ้าทำสเต็กต้องทุบๆๆๆ เนื้อหน่อยแล้ว ![]() ทุกๆครั้งที่ทำกับข้าวแล้วแฟนบอกว่าอร่อยจัง เรามีความสุขมากๆเลยค่ะ ![]() หมูพะโล้แบบมือใหม่จริงๆนะ
สวัสดีค่ะ
ถ้าเคยอ่านบล้อกตรงส่วนของ Diary คงจะพอทราบว่าล้าเบลเพิ่งแต่งงาน พอแต่งงานแล้วก็ต้องคอยดูแลบ้าน และทำกับข้าวกับปลาให้ตัวเองและแฟนกินด้วย ปรกติล้าเบลตอนเช้าๆ จะกินพวกขนมปังปิ้งบ้าง ไส้กรอกบ้าง เบเกอรี่บ้าง กับกาแฟ เพราะล้าเบลกับแฟนติดกาแฟทั้งคู่ กลางวันกินที่ออฟฟิศ ตอนเย็น บางวันแฟนจะหิ้วปิ่นโตกลับมาบ้าน (แฟนทำงานของครอบครัวค่ะ) คุณแม่สามีจะฝีมือการทำอาหารดีมาก อร่อย ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จะพยายามทำกินเองบางมื้อ อาหารที่เคยทำไปแล้วก็คือ 1. ไข่เจียวมาม่า ![]() 2. ออมเลต แต่เราทำครั้งแรกกะทะร้อนไป พอเทไข่ลงไปปุ๊บ ปรากฏว่าไข่สุกโดยทันที ![]() ดูสูตรออมเลตได้ที่นี่ ขอบคุณคุณแม้นเขียนสำหรับสูตรค่ะ ทำครัว 2-3 ครั้งแรกไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ตอนแต่งงานเราได้บัตร Gift Voucher ของเซนทรัลมาเยอะ เลยไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า และแน่นอน เครื่องครัวบางส่วน เราเคยบ่นกับแฟนหลายหนว่าเราอยากได้หม้อความดัน เพราะเคยอ่านเจอว่าจะทำให้อาหารพวกเนื้อเปื่อยนุ่มอร่อย เราเลยใช้ voucher ซื้อหม้อความดันของ fagor จากสเปญ ราคาเต็ม 4200 ใช้บัตร The 1 Card แลกสแตมป์ 3 ดวงได้ลด 20% ค่ะ ก็เหลือ 3360 บาท ในกล่องมีคู่มือการใช้ที่แปลภาษาไทยแต่อ่านแล้วงงๆ แล้วก็ตำราทำกับข้าวภาษาสเปญ ... (จะอ่านออกได้ไงนี่) เราเคยทำพะโล้ขาหมูตอนเรียนอเมริกา จำได้ว่าใช้โลโบบวกกับโป๊ยกักและอบเชยอร่อยดี เราดูสูตรที่มีในพันทิปและกันครัว มีสูตรทีเราดัดแปลงมาจาก 2 สูตรนี้ เมนูวันนี้...ครัวยัยแม้น...ขอเสนอ "ไข่พะโล้ยางมะตูม" จากคุณ : แม้นเขียน... ๐-๐-๐-๐ Excuse..Me! เสนอ วิธีประหยัดของคนไกลบ้าน .-'*'-. [คากิพะโล้] .-'*'-. อะไรที่ฝรั่งไม่กินจะซื้อได้ถูก จากคุณ : Excuse..Me! อ๊ะ แฟนมารับไปทำฟันแล้ว เดี๋ยวมาอัพต่อค่ะ ![]() อ๊ะ มาอัพเดทต่อแล้วค่ะ ใครอยากเห็นวิธีทำขาหมูพะโล้อร่อยๆ โปรดดูลิงก์สองอันด้านบน ใครอยากดูมือใหม่ทำก็อ่านต่อได้ค่ะ . . . . อยากอ่านจริงๆเหรอ . . . เราเตือนคุณแล้วนะ ![]() . . . เครื่องปรุงที่เราใช้ในวันนี้ กะว่ากิน 2 คนสัก 2 วันก็พอ 1. เนื้อหมูหั่น 300 กรัม เราใช้เนื้อส่วนไหล่ หรือ Pork Shoulder ที่เราใช้เนื้อส่วนนี้เพราะว่าตอนเราเรียนอเมริกา เคยมีคนในพันทิปไกลบ้านบอกว่าให้ใช้เนื้อส่วนนี้แทนขาหมู 2. ไข่ไก่ต้ม 4 ฟอง 3. กระเทียมบุบ 4-5 กลีบ 4. รากผักชี 5. โป๊ยกัก 6. อบเชย 7. ผงพะโล้ 1 ช้อนโต๊ะ(ม้าลาย) 8. ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 9. ซอสภูเขาทอง 3 ช้อนโต๊ะ 10. น้ำปลานิดโหน่ย 11. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ 12. น้ำมันเอาไว้ผัดหมูกับเครื่องพะโล้ ![]() วิธีทำ 1. ต้มไข่ 4 ฟอง ใช้เวลาต้มประมาณ 9 นาที ![]() 2. เอาหมู กระเทียม โป๊ยกัก ผงพะโล้(บางส่วน) ไปผัดให้พอหอมๆ แล้วก็หมูสุกนิดหน่อยแล้วก็ยกขึ้นพักเอาไว้ก่อน ![]() 3. นี่ เราใช้หม้อความดัน fagor เพิ่งซื้อมาเมื่อ2 วันก่อน แต่รู้สึกว่ายังใช้ไม่ค่อยเป็นค่ะยังงงๆวิธีการใช้อยู่ ขนาดเปิดคู่มือไปทำไปด้วยนะนี่ ไว้ไปลองหาในเนทหรือถามคนอื่นว่าใช้ยังไง ต้มน้ำให้พอเดือดแล้วใส่หมู และเครื่องปรุงทั้งหมดลงไป ถ้าสามารถห่อโป๊ยกักรากผักชีด้วยผ้าขาวบางจะดีมากเพราะพวกเครื่องจะได้ไม่กระจายแต่เราไม่มีเลยโยนใส่ไปทั้งหมดทั้งอย่างนั้นค่ะ ![]() ![]() 4. ต้มพอดูเนื้อหมูสุกและนิ่มก็โอเคค่ะ จริงๆ มันควรจะจบแค่นี้ แต่.... พอเราใช้หม้อความดันต้มไปสัก 15 นาทีกลายเป็นแบบนี้ เอ ทำไมดูใสๆสีจืดๆกว่าที่เคยทำ พอชิมไป อืม รสไม่ค่อยเข้มข้นแฮะ คงเพราะเรากะน้ำไม่ถูกเพราะหม้อความดันมันจุตั้ง 4 ลิตรใส่น้ำเยอะไปหน่อย คงใส่ไปเกือบ 2 ลิตร ![]() ![]() เราเลยเปลี่ยนจากหม้อความดันเป็นหม้อม้าลายแทน แถมขี้เกียจไปค้นหม้อใบใหญ่เลยใช้ใบที่ต้มไข่ พอเทน้ำถ่ายหม้อก็ออกแบบปริ่มมาก ![]() ![]() ต้มไฟอ่อนอีก 10 นาที คอยช้อนฟองสกปรกออก ก็ชิมดูทั้งสีและรสใช้ได้เลย ![]() ![]() ตักให้ดูไข่พะโล้สีน้ำตาลอ่อนๆ กับข้าวในวันนี้เราก็กินหมูพะโล้กับไข่ (รูปมืดไปหน่อย) แฟนชมว่าอร่อยดี แต่เราว่ามันมีรสขมของผงพะโล้ ไว้งวดหน้าจะลดผงพะโล้ลงครึ่งนึง ![]() แล้วก็มีข้าวผัดแฮมที่แฟนเราทำ แล้วก็น้ำแกงที่เหลือวันก่อนค่ะ ตั้งแต่แต่งงานมาแฟนก็เพิ่งโชว์ทำกับข้าวนี่แหละ แฟนเขินเพราะไม่ได้ทำมาหลายปีกลัวออกมาล้มเหลว เลยบอกว่าไม่ต้องถ่ายรูปนะ แต่ออกมาก็ดูดี รสก็อร่อยดี เลยถ่ายมาให้ดูข้าวซะหน่อยค่ะ ชามใหญ่เหมือนกัน เก็บไปกินมื้อหน้าได้อีกมื้อ ![]() ![]()
|
la-la-bell
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ตอนนี้เลี้ยงหลานเป็นงานอดิเรก เลี้ยงจนมีคนหาว่าลูกหรือเปล่านี่ เห่อที่สุด ในรูปก็เราเองค่ะ ตอนประมาณ 4-5 ขวบได้ ตุ๊กตาแพนด้าตัวนี้ก็ยังอยู่ค่ะ แต่มอมแมมมาก ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้ตั้งเป้าอยากลดน้ำหนัก 15 ก.ก. จะสู้ต่อไปค่ะ Group Blog All Blog
Friends Blog
|
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |