...................................

Group Blog
 
All blogs
 

หางกระรอก






หางกระรอก





Get your own Chat Box! Go Large!





 

Create Date : 04 มิถุนายน 2551    
Last Update : 5 มิถุนายน 2551 11:41:47 น.
Counter : 433 Pageviews.  

โป๊ยเซียน






























โป๊ยเซียน


ชื่อสามัญ : Crow of Thorns

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Euphorbia millii.

ตระกูล : EUPHORBIACEAE

ลักษณะทั่วไป : โป๊ยเซียน์เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดย่อม ลำต้นมีความสูงประมาณ 3-5 ฟุต ลำต้นมีหนามปกคลุม หนามแหลมและแข็ง เปลือกลำต้นมีสีเทาหรือเขียวจัด เมื่อกรีดดูลำต้นจะมียางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกจากยอดและลำต้นจะทยอยกันออก ลักษณะใบมนรีค่อนค้างแคบเรียวแหลมขอบใบเรียบพื้นใบสีเขียวดอกออกตามปลายกิ่งออกดอกตามปลายกิ่งหรือส่วนยอดดอกมีขนาดเล็กมีสีแดง เหลือง ชมพู มีกลีบดอก 1 คู่ เป็นรูปไต มีขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร ลักษณะลำต้น ใบและดอก จะแตกต่างกันไปตามชนิดพันธุ์

การเป็นมงคล : คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นโป๊ยเซียนไว้ประจำบ้านจะนำโชคลาภมาให้คนในบ้านเพราะต้นโป๊ยเซียนเป็นไม้เสี่ยงทายคือ ถ้าผู้ใดปลูกต้นโป๊ยเซียนออกดอกได้ 8 ดอกขึ้นไปผู้นั้นก็จะมีโชคลาภตามไปด้วย นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าต้นโป๊ยเซียนยังช่วยคุ้มครองให้มมีความอยู่เย็นเป็นสุขเพราะต้นโป๊ยเซียนเป็นต้นไม้แห่งเทพเจ้า 8 องค์ที่คอยคุ้มครองโลกมนุษย์

เทพเจ้า 8 องค์ ได้แก่
1. เซียนพิการ
2. เซียนหอสมุด
3. เซียนอาจารย์
4. เซียนค้างคาวเผือก
5. เซียนวนิพก
6. เซียนสาวสวย
7. เซียนกวี
8. เซียนถ้ำ

ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก : เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นโป๊ยเซียนไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธเพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธถ้าจะให้เป็นมงคลยิ่งขึ้นผู้ปลูกควรเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบสูง เป็นผู้ที่ควรเคารพนับถือและประกอบคุณงามความดีก็จะเป็นสิริมงคลยิ่งขึ้น

การปลูกการปลูกมี 2 วิธี

1. การปลูกในกระถางเพื่อประดับอาคารบ้านเรือน เหมาะสำหรับใช้เป็นไม้ดอกประดับภายนอก ขนาดกระถางปลูก 8-12 นิ้ว ควรเป็นกระถางทรงสูง ใช้ดินร่วน : แกลบผุ : เปลือกถั่ว หรือไบไม้ผุ อัตรา 1 : 1 : 2 ผสมดินปลูกและควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้ง เพื่อการเปลี่ยนดินปลูกใหม่แทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
2. การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวนนิยมปลูกไว้ใกล้ๆกับบ้านเพราะมีเวลาดูแลรักษาที่ใกล้ชิดจะทำให้เกิดดอกที่สวยงาม ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 2 : 1 ผสมดินปลูก

แสง : ต้องการแสงแดดรำไร จนถึงแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง

น้ำ : ต้องการปริมาณน้ำน้อย ทนต่อความแห้งแล้ง ควรให้น้ำ 5-7 วัน/ครั้ง

ดิน : ชอบดินร่วนซุย ดินผสมพิเศษ

ปุ๋ย : ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ผสมพิเศษ อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ 1-2 ครั้ง/เดือน

การขยายพันธุ์ : การปักชำ การเสียบยอด การเพาะเมล็ด วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การปักชำและการเสียบยอด

โรค : โรครากเน่า

อาการ : โคนต้นมีเส้นใยสีขาวและเหลือง หลังจากนั้นใบและลำต้นเหี่ยวแห้ง

การป้องกัน : อย่ารดน้ำให้แฉะเกินไป และกำจัดเชื้อราในดินปลูกโดยการตากดินให้แห้ง

การรักษา : ใช้ยาเนทริฟิน อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก

ศัตรู : ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องศัตรูรบกวน เพราะเป็นไม้ที่ทนต่อการทำลายของศัตรูพอสมควร

ที่มา : ไม้ประดับออนไลน์.คอม


Get your own Chat Box! Go Large!





 

Create Date : 01 มิถุนายน 2551    
Last Update : 1 มิถุนายน 2551 19:25:36 น.
Counter : 1017 Pageviews.  

กะเพรา






กะเพรา


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimun tenuiflorum Linn./ O. sanctum Linn.

รสและสรรพคุณยาไทย : รสเผ็ดร้อน เป็นยาตั้งธาตุ แก้ปวดท้อง ท้องขึ้น จุกเสียด แต่งกลิ่นและรส

ชื่อท้องถิ่น : กอมก้อ กอมก้อดง กะเพราขาว กะเพราแดง

ลักษณะทางพฤษศาสตร์ : ในประเทศไทยมีอยู่ 3พันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และกะเพราลูกผสมระหว่างกะเพราแดงและขาว เป็นไม้ล้มลูก ลำต้นและใบมีขนอ่อน ใบมีกลิ่นหอมฉุน ดอกเป็นดอกช่อ ใบและกิ่งก้านกะเพราขาวสีเขียวอ่อน ส่วนใบและกิ่งก้านกะเพราแดงสีเขียวแกมม่วงแดง

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ : ใบกะเพรามีน้ำมันหอมระเหยอยู่ประมาณ 0.35% ประกอบด้วยสารสำคัญ คือ Camphor, Cined, Eugenol,Limonene,Pinene, Sabinene,Terpineol,Ocimol,Linalool และกรดอินทรีย์หลายชนิด การทดลองพบว่าน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ขับลม ลดการบีบตัวของลำไส้ และสาร Euternol มีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกเสียด

ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใช้ใบที่สมบูรณ์เต็มที่ นิยมใช้กะเพราแดงมากกว่าขาว

วิธีใช้ : ใช้ใบกะเพราและยอดกะเพรา 1กำมือ ต้มเอาน้ำดื่มเหมาะสำหรับปรุงอาหาร


Get your own Chat Box! Go Large!





 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 12:19:08 น.
Counter : 454 Pageviews.  

แมงลัก






แมงลัก


ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum americanum Linn.

วงศ์ : Labiatae

ชื่อพื้นเมือง : เหนือ ก้อมก้อขาว, เลย ผักอีตู่, กลางบางแห่ง มังลัก

ลักษณะ : เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตรง โคนต้นแข็ง สูงประมาณ 40-65 ซ.ม. แตกกิ่งก้าน ทุกส่วนมีกลิ่นหอม

ใบ : ใบเดี่ยว สีใบสีนวล ใบมีขนอ่อน ๆ ใบเรียงตรงข้ามเป็นคู่ ๆ

ดอก : ช่อ ออกที่ปลายยอด ช่ออาจเป็นช่อเดี่ยว หรือแตกออกเป็นช่อย่อย ๆ ดอกบานจากข้างล่างขึ้นข้างบน กลีบรองดอกจะคงทนและขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเป็นผล กลีบดอกสีขาวแบ่งเป็น 2 ปาก ร่วงง่าย เกสรตัวผู้จะยื่นยาวกว่ากลีบดอก ดอกย่อยออกโดยรอบก้านช่อเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นมีดอกย่อย 6 ดอก แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนละ 3 ดอก ดอกตรงกลางจะบานก่อน และช่อดอกย่อยที่อยู่ชั้นล่างสุดของก้านช่อดอกจะบานก่อนเช่นกัน

ผล : ใบ 1 ดอกมีผล 4 ผล ขนาดเล็ก คือเมล็ดแมงลัก รูปร่างรูปรีไข่ สีดำ

ส่วนที่ใช้ : เมล็ดแก่

สารที่สำคัญ : Mucilage

บำบัดอาการ : ท้องผูก

ขนาดและวิธีการใช้ : ใช้เมล็ดแมงลัก 2 ช้อนชา เติมน้ำประมาณค่อนถ้วยแก้ว ให้เมล็ดแมงลักพองเต็มที่ ดื่มก่อนนอน ช่วยให้เพิ่มปริมาณอุจจาระ ( Bulk Laxative ) ทำให้ถ่ายง่ายขึ้น เพิ่มจำนวนครั้งในการถ่ายอุจจาระ เนื่องจากเมล็ดแมงลักไม่ย่อย จะไปกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้โดยอัตโนมัติ ช่วยทำให้อุจจาระอ่อนตัวลง

ข้อควรระวังในการใช้ : ต้องแช่เมล็ดแมงลักให้พองเต็มที่ ถ้าไม่พองเต็มที่จะไม่ช่วยระบาย แต่กลับจะทำให้ท้องอืด อุจจาระแข็งตัว และอาจจะไปอุดตัน ถ่ายไม่ออก


Get your own Chat Box! Go Large!





 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 12:18:11 น.
Counter : 568 Pageviews.  

เฟิร์นกนกนารี






เฟิร์นกนกนารี


ชื่อ : เฟิร์นกนกนารี

ลักษณะ : เฟิร์นต้นนี้บ้านเรามีอยู่ทั่วไป แถวน้ำตกสาริกา นางรองพบมาก ขึ้นเป็นดง ใบจะเป้นริ้วต้นเตี้ย เจริญเติบโตโดยการแตกใบแล้วทอดยอดไปโดยการสร้างรากที่ข้อใบเพื่อยึดดินหาอาหาร ชอบชุ่มชื้นมาก แห้งนี้จะตาย ชอบร่มรำไร ใครมีสวนน้ำตกปลูกเป็นหย่อม ๆ จะทอดยอดหากันเอง

การขยายพันธุ์ : ปักชำ , สกัดราก


Get your own Chat Box! Go Large!





 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 11:51:37 น.
Counter : 2586 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

NAREEZ
Location :
แพร่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




".•**•..•**จะขอไม่ยอมตื่น_หากมีเธออยู่ในความฝัน" *ไรอะ ง่วงนะ งืออ์* มาเรียนตั๋วเมืองกั๋นเต๊อะ

นี่ๆ เข้ามา blog ป๋มม์

วินาทีแร้นนะฮับบ์
Google
Online +ยินดีต้อนฮับเจ้า+ ทุกเรื่องราวจังหวัดพัทลุง ชุมชนออนไลน์ของคนเมืองนคร ที่กิน ที่เที่ยว เพลงออนไลน์  วิทยุออนไลน์ ข่าว อัพเดททุกวัน หาเพื่อน ท่องเที่ยว จังหวัดนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช จตุคามรามเทพ ชุมชน และธุรกิจออนไลน์ ของชาวปัตตานี น้ำมิ้นเจียงดาว ฮับฮ้องเพลงกำเมือง พิธีกรงานต่างๆ คำเมืองถ้าคนเมืองบ่ออู้แล้วไผจะอู้เจ้า บ้านแห่งรัก-ที่นี่มีรักสำหรับทุกคน หามานานท่องเที่ยวทั่วไทย ด อ ย อิ น ท น น ท์  ด อ ท  ค อ ม ChiangMai Travel Guide ไม่ว่าจะกินหรือเที่ยว, ผจญภัยทางทะเลหรือภูเขา, พร้อมบันทึกภาพลงVCD, DVD,
ตัดต่อวิดีโอ วิดีโอพรีเซ็นเทชั่น และออกแบบเว็บ ที่ ตะลุยตามตะวัน ทราแวลแอนด์มีเดีย เว็บไซด์แห่งสยามของเรา Free Hit Counters .•**•..•**•..•**•..•**•..•**•..•**•.
Oo.จ๋ำนวนตี้เปิ้นแว่เข้ามาแอ่วเจ้า.oO

.•**•..•**•..•**•..•**•..•**•..•**•. Oo.เจิญคลิกฮื้ออาหารปล๋าเจ้า.oO .•**•..•**•..•**•..•**•..•**•..•**•.
เจิญดูทีวีออนไลน์ฟรี
.•**•..•**•..•**•..•**•..•**•..•**•.
เจิญฟังวิทยุออนไลน์ผ่านเน็ต
.•**•..•**•..•**•..•**•..•**•..•**•.
ฟังเพลงวิทยุออนไลน์เจ้า

.•**•..•**•..•**•..•**•..•**•..•**•.


เจิญเสี่ยงเซียมซีเจ้า

Games at Miniclip.com - Tiger Golf Tiger Golf

Take on the tricks and traps of this fiendish golf course.

Play this free game now!!

Please Call Me


97.5 Seed FM


When You Lonely

o...•**•..•**•..•**•..•**•..•**•...o

Friends' blogs
[Add NAREEZ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.