จน เครียด shopping !

วันนี้ได้ฤกษ์ออกไปเอา CD หนังที่สั่งไว้ที่ไปรษณีย์สามเสนใน เรื่องของเรื่องคือเขาส่ง EMS มาให้เมื่อวันจันทร์แต่เราดันไม่อยู่บ้านเพราะมัวแต่ไป shopping ที่ Platinum ประมาณว่าช่วงนี้หายใจเข้าออกเป็น Platinum เดินอยู่ในนั้นได้เป็นวันๆๆ มีอยู่วันหนึ่งเดินจาก 11 โมงเช้ายัน 5 โมงเย็น และหลังจากนั้นก้อเดินบ่อยมากและทุกครั้งที่ไปจะเสียเงินไปหลายพันอยู่ ไม่อยากบอกตัวเลขเลยอายจริงๆๆ อาการของคนชอบซื้อของอ่ะ คือว่าจะมีความสุขมากเวลาได้ใส่ของใหม่ ประมาณว่าเห่ออ่ะน๊ะ แล้วจะภูมิใจมากไงว่าเออได้ของราคาถูกกว่าที่ซื้อร้านขายเสื้อผ้าทั่วไป ซึ่งตอนหลังเนี่ยคิดได้ว่าเราคิดผิดถนัดเล๊ยคุณ ไอ้ที่ว่าขายส่งให้อ่ะ ก้อขายส่งให้แต่ว่าขายให้ในราคาปลีกไง มีอยู่ที่ เดินไปร้านหนึ่งมีป้ายเขียนบอกไว้ว่า 200 ทุกตัว ราคาส่ง แต่ว่าต้องซื้อสามชิ้น อืม วันนั้นรอดตัวไปไม่ได้ซื้อ พอดีเราก้อไปเดินshopping กะเพื่อน ด้วยความสงสัยอยากรู้ราคาเสื้อตามตลาดทั่วไปเนี่ยแหละว่าราคาเท่าไหร่ เพราะว่าเสื้ออ่ะมันเหมือนกับที่เราเห็นที่ Platinum เลย คนขายบอกเราว่า 200 บาท เออออ แล้วตูจะไปทำไมเนี่ยยยย Platinum ไปทำมัยหา!!!! เออ อย่างน้อยก้อมีร้านให้เลือกเยอะแยะมากมาย แอร์ก้อเย็นด้วย คิดซะงั้นจะได้จบ เฮฮฮฮฮ




 

Create Date : 01 กรกฎาคม 2553    
Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 0:04:35 น.
Counter : 281 Pageviews.  

ข่าวดี หรือ ข่าวร้ายกานเนี่ยยยยยย

หลังจากไม่ได้ข่าวคราวจากชีคนนั้นมา 1 เดือนกว่านิดๆๆว่าเราจะได้กลับไปลงเรือสำราญ (ที่ไม่สำราญ) ไปทำงานเมือไหร่รรรรนั้น ตอนนี้ก้อมีข่าวดีมาupdateบ้างหล่ะคลานี้ ข่าวดีที่ว่าก้อคือ กลางเดือนหน้านี้จะได้บินกลับไปทำงาน แต่ในขณะเดียวกัน ข่าวร้ายที่ว่านั้นก้อคือ ไอ้เส้นทางที่เรือจะล่องไปเนี่ยยยมันไม่น่าไปเท่าไหร่ ( คิดก่อนไปเองงัย) ความรู้สึกมันบอกว่าอย่างนั้น ที่ๆๆจะได้ไปก้อเริ่มที่

1) San Juan, Puerto Rico
2) cruising
3) Willemstad, Curacao
4) Oranjestad, Aruba ( เคยไปมาแล้ว สถานที่สวยงามแต่ว่าของแพงอ่ะ)
5) cruising
6) Roseau, Dominica
7) Charlotte Amalie, St. Thomas

เฮ้ย เซงงงเป็ด ไปถึงก้อเจอ seaday เลย ในหนึ่งอาทิตย์เจอ สอง seadays ก้อถือว่ายังดี เพราะจากประสบการณ์เคยเจอสอง seadays ติดกัน
กรรมจริงๆ ขอบอกว่าเหนื่อยมากถึงมากที่สุดเพราะว่า เราจะต้องยืนขายของตั้งแต่ 9.00 เช้า จนถึง 11.00 กลางคืน ต้องตื่นแต่เช้าประมาณเจ็ดโมงได้แต่งตัวแล้วก้อไป meeting ก่อนเปิดร้านครึ่งชั่วโมง แล้วก้อได้พักเที่ยงอีก หนึ่งชั่วโมง จากนั้นตอนเย็นก้อได้พักอีกสองชั่วโมง ส่วนที่เหลือก้อยืนค่ะยืนอย่างเดืยวไม่มีการนั่งเพราะว่าห้ามนั่งค๊าบบบบ แถมไม่มีเก้าอี้ด้วยยยย

ส่วนข่าวดีที่ได้มาเนี่ย ก้อเพราะว่าเจ้านายที่เคยทำงานด้วยกันมาเที่ยวเมืองไทยตอนนี้อยู่พัทยากำลังจะมากรุงเทพ เขาช่วยถามกับชีคนนี้ให้หลังจากที่เขาถามให้ปุ๊ปชีก้อส่งเมล์มาเลย (น่านนนนซิเจ๋งจิงๆๆๆ เจ้านายไม่รู้ไปคุยอีท่าไหนเฮ่อออๆๆๆๆ ) เพื่อเป็นการตอบแทน ก้อเลยบอกนายว่าเด้วจะเป็นไกด์ทัวร์พาไปเที่ยวทั่วกรุงเทพเลย ฮิๆๆๆๆ จริงๆๆตั้งใจทีแรกว่าจะขับรถไปรับที่พัทยาเพราะได้ยินว่าค่า taxi ตั้ง 1,000 บาท จากพัทยามากรุงเทพ แต่เห็นนายบอกอีกทีว่าจะมาเองหล่ะคราวนี้เพราะว่าค่า taxi แค่ 800 บาท
ทัวร์แรกว่าจะพาไปงานแต่งงานเพื่อนซะหน่อย ฮ่ะฮ่าๆๆๆๆๆ เพราะว่ามาได้จังหวะพอดี เจ้านายเรา






 

Create Date : 29 มิถุนายน 2553    
Last Update : 29 มิถุนายน 2553 23:12:25 น.
Counter : 205 Pageviews.  

ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน (ภาค 2 )

กลับมาแล้วค่ะ กลับมาขอเล่าต่อว่าเรื่องผู้หญิงคนนี้ที่ต้องติดต่องานกับเธอ
เรื่องที่จะเล่าเป็นเรื่องย้อนหลังค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าก่อนที่จะหมดสัญญาทำงานเดือนตุลาปีที่แล้ว เราก้อยื่นเรื่องขอกลับมาทำงานสำหรับ contract ต่อมาโดยขอคุณเธอคนนั้นว่า พักร้อน 1 เดือน ด้วยความตกใจของเจ้านาย เนื่องจากว่าเอกสารต้องส่งผ่านเจ้านาย เจ้านายชื่อ EVAN เป็นคน Croatia (ถ้าจำไม่ผิด) เจ้านายเป็นคนดีแต่นิสัยโผงผางค่ะ มีปัญหาเรื่องควบคุมสติอารมณ์เป็นบางครั้งจนกระทั่งทำให้เกิดเรื่องใหญ่ๆๆๆๆๆ เอาเป็นว่าเราไม่พูดถึงเขากันดีกว่า เอาแค่เรื่องของเธอคนนี้ก้อบรรยายไม่มีวันจบหรอกค่ะ ถ้าหากว่าเรายังจะทำงานที่นี้อยู่ ฮ่าๆๆๆๆ เอาเข้าเรื่องเลย ปรากฎว่าด้วยความโชคดีหรือร้ายก้อไม่รู้ ได้กลับมาเมืองไทย 5 อาทิตย์แล้วก้อกลับไปทำงานต่อค่ะ แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ดิฉันรอเอกสารจากผู้หญิงคนนี้มา 1 เดือนเต็มๆๆ และได้เอกสารเพื่อนไปยื่นเรื่องที่กรมแรงงานก่อนที่จะบินแค่ 5 วันค่ะ โดยปกติเอกสารแล้ว เราต้องได้เอกสารจากทางบริษัทเพื่อไปยื่นเรื่องที่กรมแรงงาน และเอกสารนี้เราต้องยื่นให้ที่ custom เมกาด้วยค่ะ ทาง custom ที่โน้นจะกักตัวเราไปอีกห้องหนึ่งค่ะแล้วเขาก้อจะถามเราว่ามาทำอะไรที่นี้ แล้วเขาก้อจะเอาเอกสารของเราโทรไปติดต่อกับบริษัทที่เราทำงานด้วยว่าเราเข้ามาทำงานจริงไหมประมาณเนี่ย

นอกเรื่องมาเยอะแล้วค่ะ เล่าต่อว่าเอกสารเนี่ยโดยปกติจะส่งมาทาง Fedex
ดิฉันรอเอกสารจากเธอคนนี้ประมาณ 1 อาทิตย์ เธอบอกว่าเดี๋ยวอาทิตย์หน้าส่งไปให้ รอไปอีก 1 อาทิตย์ เธอบอกอีกว่าเดี๋ยวรอก่อนน๊ะเอกสารกำลังจะส่งมาให้ เราก้อรอไปอีก 1 อาทิตย์ เธอคนเดิมป่วยค่ะ หายไปอีกหนึ่งอาทิตย์ อาทิตย์ที่ 4 เธอบอกอีกว่าเอกสารส่งไปแล้ว ที่นี้ทาง agent เราที่เมืองไทย ก้อขอ code fed ex ซิค่ะเพื่อว่าจะได้ตามได้ว่าเอกสารมาถึงหรือยัง และในที่สุดเอกสารไม่ได้ส่งมาค่ะ เธอคนเดิมส่งมาทางเมล์ในสัปดาห์ที่ 5 ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายก่อนที่เราจะบิน ครั่งแรกที่เธอส่งมาให้ ไม่มี attached file ใดๆๆๆติดมาด้วย ก้อต้องร้องเพลงรอไปอีกหนึ่งวัน เพราะว่าอย่าลืมน๊ะค่ะ ว่าเวลาทางนี้กะที่โน้นต่างกันประมาณ 12 ชม. และในที่สุดเราก้อได้เอกสารจากผู้หญิงคนนี้ และประโยคที่เธอมักจะพูดเสมอ คือ " sorry "

คำว่าขอโทษเนี่ย เราก้อเข้าใจแต่ถ้าทำผิดซ้ำผิดซากบ่อยๆๆก้อไม่ไหวเหมือนกันน๊ะค่ะ โดยเฉพาะไอ้ครั้งล่าสุดเนี่ยที่เราเคยเล่าเรื่องให้ฟังก่อนหน้านี้ ก้อเหมือนกัน ทีแรกก็อพูดจาแบบว่าเอาก้อเป็นเพราะทางเรายังไม่ได้ส่งเอกสารไปให้เธอก้อให้คำตอบเราไม่ได้ เออคิดได้ไงอ่ะ ก้อในเมื่อเอกสารมันถูกส่งไปเธอตั้งเดือนหนึ่งแล้วอ่ะ

เฮออยิ่งบ่นไปเส้นเลือดในสมองยิ่งเต้นปี๊ดๆๆๆ ค่ะ นี้เป็นเรื่องครั้งที่สองที่ประสบมา จริงๆยังมีเรื่องแต่ไม่ได้หนักหนาเท่าไหร่ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากให้เราเล่าก้อบอกมาล๊ะกันน๊ะค่ะ




 

Create Date : 26 มิถุนายน 2553    
Last Update : 26 มิถุนายน 2553 23:10:12 น.
Counter : 255 Pageviews.  

ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหน

ด้วยความรำคาญใจ และ ด้วยความลำบากใจ และไม่รู้ว่าจะไปบ่นให้ใครฟังจึงต้องมาระบายที่ blog เนี่ยหล่ะค่ะฮ่าๆๆๆๆ ครั้นจะไปบ่นให้คุณเพื่อนๆๆที่เหลืออยู่อันน้อยนิดให้ฟัง คุณเพื่อนทั้งหลายก็คงเอือมแล้วหล่ะค่ะ เนื่องจากบ่นให้ฟังทุกรอบที่กลับมาฮ่าๆๆๆๆ

เรื่องมันมีอยู่ว่าเราทำงานอยู่บนเรือสำราญที่เมกา และด้วยความที่บริษัทที่เราไปทำงานกะเขามันเป็นบริษัทที่เราเรียกกันในเมืองไทยว่า subcontract
(ตามที่เราเข้าใจ) แต่จริงๆที่โน้นเขาใช้เรียกอีกคำแต่ว่าเราจำศัพท์ไม่ได้หรอก ฮ่าๆๆๆ สัญญาทำงาน 6 เดือน กลับเมืองไทย 2 เดือน แล้วก็กลับไปทำงานต่อ

ส่วนตอนนี้เรามาพักร้อนได้ 1 เดือนแล้ว โดยที่ไม่วี่แววว่าจะได้กลับไปอีกเมื่อไหร่ เราตามเรื่องกับคนที่รับผิดชอบ schedule ของเราทางโน้น ตั้งแต่เรากลับมาแล้ว สิ่งที่ she ตอบกลับมาคือ she ยังไม่ได้รับเอกสารที่เรียกว่า requested form ส่งไปหา she เลย แล้ว she ยังบอกเราอีกว่าให้กรอกแบบฟอร์มแล้วส่งไปให้ชี พอเราได้ยินแบบนี้เราก็อึ้งสิ เพราะเราอ่ะส่งให้ manager เราก่อนที่จะหมดสัญญาทำงานหนึ่งเดือนก่อนออกจากเรือ

วันเดียวกันนี้แหละ เราก็กรอกแบบฟอร์มแล้วก็ส่ง e-mailไปให้ she และ
เราก็ส่งเมล์ไปเล่าให้Manager เราฟังด้วย สุดท้าย she คนนั้นก็เมล์มา say sorry ว่า ชีได้รับเอกสารเรามาแล้ว คือประมาณว่าฉันหาเอกสารเธอเจอแล้ว
แล้ว she ก็ได้หายไป โดยบอกแค่ว่า ถ้ามีคำตอบเมื่อไหร่เรื่อง contract จะเมล์มาบอก

1 อาทิตย์ผ่านไป ไม่มีข่าวเราก้อเมล์ไปตาม ชีก้อบอกว่ายังไม่มี schedule ให้น๊ะรอไปก่อน อาทิตย์ที่สอง เราก้อตามอีก ก้อยังได้คำตอบเดิม และอาทิตย์ที่สามเราก้อตามอีก โดยบอกกะ she ไปว่าเราอ่ะมีภาระทางบ้านน๊ะ (แกล้งโกหกไป) ลำบากมากตอนนี้เงินจะหมดแล้ว (เรื่องจริง ฮ่าๆๆ)
ให้ช่วยหน่อยได้ไหม และ she ก้อตอบเมล์กลับมาว่า " I have your request but at this time I have no place where I can send you.
As soon as I find an assignment for you I will let you know."

เอาเป็นว่าขณะนี้เป็นเวลาร่วม 1 เดือนเต็มที่รอคำตอบจาก she คนนี้
ไอ้ครั้นจะหางานเมืองไทยทำไปพรางๆๆก่อน แล้วเกิดจู่ๆเกิด she มาบอกว่าคุณต้องกลับแล้วน๊ะ แล้วจะให้ทำไงเนีย คือ อยู่ในสภาวะไม่รู้ว่าจะทำไร นั่งๆๆนอน เซงมากกับ she คนนี้ และนี้ก้อไม่ช่ายหนแรกที่ she เป็นคนประมาณทำงานแบบขอไปที ตามประสบการณ์ที่ deal กะ she คนนี้มา 3 contracts แล้ว การทำงาน she ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย เอาไว้มีเวลาคราวหน้าจะมาเล่าให้ฟังว่าเรื่องไรก่อนหน้านี้สองครั้ง

ตอนนี้ก็สบายใจขึ้นแล้วค่ะคิดว่าต้องไปทำความสะอาดห้องซะหน่อยเพราะว่ารกเหลือเกิน




 

Create Date : 25 มิถุนายน 2553    
Last Update : 25 มิถุนายน 2553 10:21:34 น.
Counter : 215 Pageviews.  

1  2  3  4  5  
 
 

kuromichan
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จากอดีตสาว office วันๆๆทำงานต๊อกๆๆๆๆ ในกรุงเทพฯมาหลายปีดีดัก จนวันหนึ่งอดรนทนไม่ไหวกะชีวิตที่สุดแสนจะจำเจ มีความใฝ่ฝันว่าจะได้ข้ามน้ำข้ามทะเลอย่างคนอื่นๆบ้าง แต่ติดตรงที่เงินไม่ได้มีเหลือเฟือ ครั้นจะเก็บเงินไปเที่ยวเองคิดว่าชาตินี้คงจะไม่ทันการณ์แน่ และเหมือนฟ้ามาโปรดฉันได้งานบนเรือสำราญ ที่อเมริกา ไปเป็นพนักงานขายของเหมือน พนักงาน PC บ้านเราเนี่ยแหละค่ะ ทางโน้นจะเรียกเราว่า " Shoppies" และเมื่อมาถึงจุดนี้ ชีวิตก้อเปี๋ยนไป .......
[Add kuromichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com