ต้นฉบับเดิม ที่เพิ่มเติมคือบ.ก.ใหม่ไฟแรงเฟร่อ
หลังจากที่ได้ปรับแก้ต้นฉบับนิยายแนวสยองขวัญกับบ.ก.คนหนึ่งไปแล้ว (หมายถึงปวดหัวไปรอบหนึ่งแล้ว) พอรู้ว่าเขาจะเอางานของเราให้บ.ก.อีกคนหนึ่งช่วยดู เราก็ หะ?! ขึ้นมาในใจ เพราะนั่นหมายความว่าเราอาจจะต้องเริ่มใหม่หมด เนื่องจากบ.ก.แต่ละคนก็จะมีแนวทาง มีการใช้สำนวนที่แตกต่าง เราเคยส่งงานกับหลายสำนักพิมพ์ ก็จะรู้ว่าแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกัน
บ.ก.บางคนไม่ชอบบรรยายเยอะ บ.ก.บางคนก็อยากจะให้ใส่รายละเอียดในทุกๆ อย่าง มันก็ต่างๆ กันไป ดังนั้น เมื่อรู้ว่าจะต้องมาเจอกับบ.ก.ใหม่ ความรู้สึกแรกที่มีขึ้นเลยคือความกลัว เพราะบ.ก.คนเก่าค่อนข้างจะใจดี รู้สึกว่าคุยกันง่าย (แต่ก็แก้เยอะนะ) ก็ไม่รู้ว่าบ.ก.คนใหม่นี้จะเป็นอย่างไร
ก็หลังจากที่บ.ก.คนเก่าได้ส่งงานที่เราเขียนจบและแก้ไปรอบหนึ่งแล้วให้บ.ก.คนใหม่ได้ดู ก็ได้รับคอมเม้นต์มาพอสมควร จากที่อ่านๆ ดูเหมือนๆ ว่าจะต้องเขียนใหม่เลย
ความรู้สึกในตอนนั้นคือ เฮ้ย! จะไหวไหม ถามตัวเอง แต่ในใจก็คิดว่าเออ ไม่เป็นไร จะออกช้าก็ช่าง เราก็ค่อยๆ ทำไปแล้วกัน ก็ได้แชทคุยกับบ.ก.คนเก่าว่า ถ้าจะต้องเขียนใหม่ พี่ส่งปีหน้านะ คือ เราจะค่อยๆ เขียนใหม่ไง จะพยายามทำให้ดีที่สุด จนกว่าจะไม่ไหวแล้วจริงๆ แต่เขาก็บอกว่า พี่ไม่ต้องเขียนใหม่ พี่แค่ปรับบางจุดที่เขาแนะนำมาก็พอ ยังไงมันก็เป็นงานเขียนของพี่นะ เราก็เออค่อยโล่งใจไปหน่อย แต่ก็ยังไม่คลายวิตกเสียทีเดียว
คือมันเครียดอารมณ์เหมือนทำทีสิสก่อนจบยังไงยังงั้น ต้องปรับแก้กันหลายรอบ บางครั้งรู้สึกท้อ แต่เราก็มีคติในใจที่ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราก็รับได้หมด เพราะแม่สอนเสมอให้รักษาใจเราไว้ อะไรจะเสียก็เสียไป แต่อย่าให้ใจเราเสีย ดังนั้น เราก็จะเผื่อใจเอาไว้ว่าถ้าหากต้นฉบับเรื่องนี้ปรับแก้แล้ว พยายามแล้ว แต่ไม่ได้ตีพิมพ์ เราก็จะไม่เสียใจนะ
เราก็ค่อยๆ ทำไป โดยเริ่มจากส่งตัวละครที่ปรับใหม่ให้บ.ก.คนใหม่ได้ดู โดยผ่านบ.ก.คนเก่า คือ ตอนนั้นยังไม่รู้นะว่าใครเป็นบ.ก.คนใหม่ของเรา เพราะส่งงานรับงานกันผ่านบ.ก.คนเก่า จนเมื่อวันอังคาร บ.ก.คนเก่าบอกว่าบ.ก.คนใหม่เขาจะขอแอดเฟซมานะเพื่อจะคุยงานด้วย ตอนนั้นถึงได้รู้เขาเป็นใคร
ตอนแรกก็เรียกเขาว่าน้อง เพราะนักเขียนและบ.ก.ของสำนักพิมพ์นี้จะอายุน้อยกว่าเรา ก็คิดว่าคงไม่มีใครแก่ไปกว่าเราแล้วล่ะ ปรากฏว่าเขาก็ตอบกลับมาว่า ยินดีที่ได้รู้จัก แต่เกรงว่าจะไม่ใช่น้องแล้วล่ะ พอสอบถามเรื่องอายุ ถึงได้รู้ว่าเขาอายุมากกว่าเรา 7 ปี ตอนแรกก็กลัวๆ เกรงๆ อยู่นะ แต่จากที่ได้คุยก็สัมผัสได้ถึงความสบายๆ เป็นกันเอง ก็ไม่ต่างจากบ.ก.คนเก่า แต่ว่าคนนี้จะไฟแรงเฟร่อสักหน่อย คือ รู้สึกได้ถึงความกระตือรือร้น ทำให้เราต้องกระตือรือร้นตาม ตอนอยู่กับบ.ก.คนเก่า บางทีเราก็อีเรื่อยเฉื่อยแฉะ ถ้าเราหายไปนานๆ ยังไม่ส่งงานต่อ เขาก็จะทักแชทมา แต่บ.ก.คนใหม่นี้เหมือนว่าจะทักแชททุกวัน นี่ก็คุยกันมาได้สองวันละ รู้สึกได้รับพลังงาน และทำให้เรากระตือรือร้นมากขึ้น
เดี๋ยวพรุ่งนี้(วันพฤหัส)จะส่งทรีตเม้นต์ให้เขา ก็บอกเขาว่าจะเขียนให้ได้ครบจบหมดทุกตอน เขาก็ถามกลับ ไหนบอกว่าเป็นคนเขียนช้าไง เราก็บอก จริงๆ เป็นคนเขียนช้าค่ะ แต่จะพยายาม (หนูจะพยายามเพื่อพี่ค่ะ) ในวงเล็บพูดเองในใจ เพราะบางทีเราเห็นคนทุ่มเทกับงาน เราก็อยากทุ่มเทตาม
ก็ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเขียนเสร็จทันไหม แต่ก็จะพยายามนะ ^^
ยังได้รับการสนใจ...
เอาใจช่วยให้งานผ่านครับ