ในวันที่ลืมมือถือไว้ที่บ้าน
ปกติแล้วเราจะออกนอกบ้านอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง นอกเสียจากว่าจะไปบ้านแม่หรือว่าจะออกไปเที่ยวข้างนอกตามลำพังก็อาจจะออกไปมากกว่า (แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ จะออกไปก็เวลามีงานอย่างงานกระบองเพชรหรือไปดูละครเวทีที่เราสนใจ บัตรไม่แพงมาก)
ที่ว่าออกอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง คือออกไปดูนิตยสารที่ตัวเองเขียนงานส่งอยู่ว่ามีงานของตัวเองลงไหม แล้วก็จะไปเดินเล่นโลตัสอะไรอย่างนี้บ้าง ซึ่งที่บ้านก็จะฝากเราดูว่ามีของลดไหม ถ้าลดก็จะฝากซื้อมาหน่อย เราก็จะต้องเอามือถือติดตัวไปด้วยทุกครั้งเพื่อโทรบอกว่ามีหรือไม่มี ลดหรือไม่ลด
สำหรับเรามือถือนอกจากจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วก็ยังเป็นนาฬิกา เพราะเราไม่ได้ใส่นาฬิกาข้อมือ ไม่ว่าจะไปไหนก็ตามก็จะดูเวลาจากมือถือ ดังนั้น เมื่อลืมมือถือไว้ที่บ้าน ก็เท่ากับว่าเราขาดโทรศัพท์เคลื่อนที่และขาดนาฬิกาด้วย
ความวุ่นๆ จะเกิดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ตอนถึงที่หมายแล้ว แต่ในใจก็ยังคิดว่าไม่เป็นไร เพราะโทรศัพท์สาธารณะมีอยู่หลายเครื่องในโลตัสอ่อนนุช แต่ปรากฏว่ามันหายไป มันไม่มีแล้วจ้า โทรศัพท์สาธารณะที่เคยตั้งเรียงเป็นแถวเป็นแนวบนเคาน์เตอร์หายเกลี้ยง เคาน์เตอร์ก็ไม่อยู่ และพื้นที่ก็ถูกกั้นไว้ด้วยเทปเหลืองดำราวกับเกิดเหตุฆาตกรรม แต่ความจริงคิดว่าคงจะปรับปรุงพื้นที่ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเคาน์เตอร์ไม่อยู่ ก็น่าจะแปลว่าโทรศัพท์ก็คงจะไม่กลับมาแล้ว
นอกจากจะเป็นยุคที่นิตยสารแต่ละเล่มทยอยอำลาแผง ก็เป็นยุคที่โทรศัพท์สาธารณะค่อยๆ อำลาไป ในอีก 20 ปีข้างหน้า เด็กๆ อาจจะไม่รู้แล้วว่าโทรศัพท์สาธารณะหน้าตาเป็นยังไง เพราะไม่เคยเห็น แต่เราก็ยังเชื่อว่าสถานที่สำคัญๆ ก็ยังมีอยู่นะ อย่างในหอศิลป์กรุงเทพฯ ก็ยังมี บนสถานีรถไฟฟ้าก็ยังมี ถ้ายังไม่ถึงยุคที่ใช้โทรจิตหากัน คิดว่าโทรศัพท์สาธารณะคงไม่หายไปง่ายๆ แต่อาจจะหายากหน่อย
ถ้ารุ่นพี่อยากหาเกมให้รุ่นน้องก็ให้น้องๆ ไปหาตู้โทรศัพท์สาธารณะและถ่ายรูปมาโชว์ เพราะมันจะกลายเป็นของหายากไปแล้ว
เราว่าโทรศัพท์สาธารณะมีความจำเป็นนะ ควรจะต้องมีอยู่ในหลายๆ จุด เพราะลองคิดดูว่าถ้าหากเกิดเหตุด่วนเหตุร้าย โดนกระชากกระเป๋า หรือ โดนล่วงเกิน เราจะโทรแจ้งตำรวจ แต่ไม่มีมือถือ ไม่มีโทรศัพท์สาธารณะ ก็คงจะแย่อยู่ การมีโทรศัพท์สาธารณะ เราสามารถกดเลขหมาย 191 ได้ฟรี ไม่ต้องเสียตังค์ รวมถึงเลขหมายที่เป็นเลขฉุกเฉินต่างๆ อย่าง 199 ที่เรียกรถดับเพลิงก็ด้วย จึงควรจะคงไว้ในพื้นที่ที่เป็นจุดสุ่มเสี่ยง และควรจะต้องใช้การได้ด้วยนะ ควรจะต้องเข้าไปตรวจเช็คสภาพเป็นระยะ เพราะบางทีมีโทรศัพท์สาธารณะอยู่ก็เหมือนไม่มี เพราะใช้การไม่ได้
ส่วนเราในวันนี้ก็ได้โทรศัพท์สาธารณะบนสถานีรถไฟฟ้าช่วยไว้ ทำให้ติดต่อกับทางบ้านได้ ได้บอกถึงสิ่งของที่ลด และก็ได้ช่วยซื้อมาให้ได้ตามที่ต้องการ เพราะวันนี้ลดวันสุดท้าย
ครั้งต่อๆ ไปคงจะต้องเช็คดูให้ดีๆ ว่าเอามือถือมาหรือเปล่า เพราะวันนี้ชาร์จมือถือไว้แล้วลืมเอาไว้ที่บ้าน เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
อยากจะบอกว่า ตู้โทรศัพท์สาธารณะหมดไปแล้วจริงๆ หายากมาก ตปท.ก็แทบไม่มีแล้ว คือไม่อยากซื้อซิม แต่จะโทรติดต่อ หาไม่มีเลยค่ะ มีแค่ที่สนามบิน กับรถไฟฟ้าบางสถานี ในห้างเดินไม่เจอเลย