รุ่นพี่
ใจจริงเรื่องนี้ตั้งใจจะเขียนตั้งแต่งานตะพาบแล้วล่ะ คือ งานตะพาบ ครั้งที่ 147 มันมีโจทย์ให้โหวตอยู่ 3 โจทย์ คือ ที่เธอถาม เพื่อนตาย และรุ่นพี่ แต่เราเลือกที่เธอถามไป แต่ทั้งนี้เราก็คิดเอาไว้ว่าถ้าหาก เพื่อนตาย กับ รุ่นพี่ เป็นโจทย์ที่ได้รับการโหวตด้วยคะแนนสูงสุด เราจะเขียนออกมาในแง่มุมไหน และเขียนถึงใคร ซึ่งถ้าเป็นรุ่นพี่ เราจะเขียนถึงคนนี้ ‘พี่ณัฐ’

แต่เมื่อไม่มีโอกาสในครั้งนั้น เราจึงขอใช้โอกาสในครั้งนี้ ในช่วงใกล้วันวาเลนไทน์เขียนถึง เพราะพี่ณัฐก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เรารู้สึกปลาบปลื้ม ชื่นชม และดีใจที่ได้รู้จัก

โรงเรียนที่เราอยู่ในช่วงม.ต้น เป็นโรงเรียนเอกชน อาคารเรียนจะเป็นลักษณะสามเหลี่ยม เวลาเข้าแถวหน้าห้องเรียน เราจะมองเห็นกันและกันได้ เราจะมองสองฝั่งได้ ยกเว้นฝั่งตัวเอง และในช่วงที่เราอยู่ม.2 เราก็แอบปิ๊งรุ่นพี่คนหนึ่ง พี่เขาอยู่ม.3 เราก็จะแอบมองพี่เขาตลอดเวลาเข้าแถว พี่เขาเป็นคนที่เฮฮา ขำๆ ชอบแกล้งเพื่อน เขาเป็นนักกีฬาด้วยนะ เป็นนักตะกร้อ เป็นนักวิ่ง เราก็แอบเชียร์เขาเสมอๆ แต่ไม่เคยไปทำความรู้จักกันเลยตอนที่พี่เขายังอยู่ที่โรงเรียนนั้น จนกระทั่งพี่เขาจบม.3 แล้วไปต่อม.ปลายที่โรงเรียนอื่น ตอนนี้แหละเราถึงเข้าไปทำความรู้จัก คือ มันคิดถึงไง เราขึ้นม.3 แล้วพี่เขาไม่อยู่แล้ว ประกอบกับมันมีช่องทางที่จะติดต่อสื่อสารกันได้ โดยช่องทางนี้ มันคือ หนังสืออนุสรณ์

หนังสืออนุสรณ์ที่เขาจะจัดทำไว้ให้คนที่เรียนจบม.3 และ ม.6 ได้เก็บ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มันก็จะมีเก็บไว้ในห้องสมุดด้วย เราก็รวบรวมความกล้าตัดสินใจโทรไปหาเขาโดยเอาเบอร์มาจากหนังสืออนุสรณ์ ใช้ตู้โทรศัพท์สาธารณะโทรไป จำได้ยืนโทรอยู่หน้าปากซอยบ้าน มีเสียงรถราวิ่งกันขวักไขว่ โทรไปแม่เขาเป็นคนรับ เราก็ “ฮัลโหล ขอสายพี่ณัฐหน่อยค่ะ” ตอนนั้นบอกตรงๆ ตื่นเต้นอะ กลัวแม่เขาด่าก็กลัว กลัวพี่เขาไม่คุยก็กลัว แต่คือทำใจไว้แล้ว ถ้าพี่เขาไม่คุย ไม่อะไร ก็คงไม่โทรอีก

แต่ปรากฏว่าพอแม่เรียกพี่เขามาคุย พี่เขาก็มาคุยกับเรานะ เราก็แนะนำตัวยาวเลย ชื่ออะไร เรียนที่ไหน ได้เบอร์พี่เขามาได้ยังไง และก็บอกชอบพี่เขาไปด้วย พี่เขาคงงงและอึ้ง เงียบไปพัก ก่อนจะบอกว่าเดี๋ยวพี่ขอเบอร์โทรกลับนะ พี่ต้องไปเรียนรด.ก่อน เราก็ให้เบอร์บ้านเขาไป แต่ในใจคิดว่าพี่เขาคงไม่โทรมาแน่ๆ คงขอเบอร์ไปงั้นๆ เป็นการตัดบท

แต่พอถึงตอนเย็นๆ ค่ำๆ พี่เขาก็โทรมาจริงๆ วันนั้นเป็นวันเสาร์ก็คุยกันไปได้เรื่อยๆ พี่เขาเป็นคนคุยสนุก ก็เพลินๆ หลังจากวันนั้น 2 – 3 วันเราก็จะคุยกันสักครั้ง เราโทรไปหาพี่เขาบ้าง พี่เขาโทรมาหาเราบ้าง ซึ่งเรื่องนี้เราก็คุยให้แม่เราฟังนะ เรื่องความรัก เราจะคุยให้แม่เราฟังหมด แม่จะรู้หมดว่าลูกสาวชอบใคร พอคุยกันไปได้สักพักพี่เขาอยากนัดเจอ เราก็บอกแม่ แม่ก็บอกเจอได้ เดี๋ยวแม่ไปด้วย ตอนนั้นเราอยู่ม.3 พี่เขาอยู่ม.4 ก็ไปกินข้าว ไปดูหนังกันที่เมเจอร์เอกมัย แม่ก็คุยกับพี่เขาถูกคอดี เรียกว่าพี่ณัฐก็รู้จักแม่เราตั้งแต่วันที่นัดเจอ หรือเดทแรกเลย ตอนดูหนังแม่ก็นั่งคั่นกลาง เราก็ไม่อะไรนะ เพราะเข้าใจ แต่พี่ณัฐก็มีมากระซิบบอกบอกว่าคราวหน้ามาสองคนก็ได้นะ แต่คราวหน้าเราก็มากับแม่เหมือนเดิม เดทครั้งที่ 2 เราอยู่ม. 4 พี่เขาอยู่ม.5 ตอนนั้นเขาลงสมัครประธานนักเรียน แล้วก็ได้รับเลือก เขาก็บอกว่าไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะได้ เรียกว่าวันนั้นก็คุยกันเรื่องประธานนักเรียนกันทั้งวัน เพราะแม่เราก็เป็นประธานนักเรียนเก่า

พี่ณัฐ ถือว่าเป็นผู้ชายคนแรกที่บ้านเรารู้จักเกือบจะหมดทั้งบ้าน ญาติๆ เราเขาก็เรียนที่เดียวกับพี่ณัฐ ก็รู้จักคุ้นเคยกันดี

เราก็คุยกับพี่ณัฐมาเรื่อยๆ แต่เมื่อโตขึ้น เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้ามหาวิทยาลัย เราก็คุยกันน้อยลงจากอาทิตย์นึง 2 – 3 ครั้งเป็นอาทิตย์ละครั้ง เป็นเดือนละครั้ง 2 – 3 เดือนครั้งด้วยหน้าที่การเรียน และด้วยสังคม ความเชื่ออะไรต่างๆ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยพี่ณัฐก็เปลี่ยนศาสนาเป็นคริสเตียน ความเชื่ออะไรต่างๆ ก็จะเปลี่ยนไป แต่เราก็ไม่อะไรนะ เราก็รับฟังได้

สถานะเราสองคนก็ยังคงเป็นพี่น้อง ที่นานๆ หากคิดถึงก็โทรคุยกันสักที คือ เราก็พอรู้ว่าพี่ณัฐไม่ได้ชอบเราเกินกว่านั้น เราก็ทำใจมาตั้งแต่แรกแล้วล่ะ

เพราะความรักในแบบนี้ แบบแอบกรี๊ดรุ่นพี่ มันยากที่จะลงเอยในชีวิตจริง แต่พี่ณัฐเป็นคนดีมากนะ เรามีความสุขที่ได้คุยกับเขา วันที่เขาจะแต่งงาน เขาก็ขี่มอเตอร์ไซค์เอาการ์ดมาให้ถึงที่บ้าน แต่เราไม่ได้ไป คือ ตอนนั้นมีความรู้สึกว่าไปก็แหง่วๆ ไม่รู้จักใคร งานก็จัดแถวๆ โบสถ์ อีกประการคือถ้าไปก็ไปกับแม่ เกรงแม่จะเหนื่อย แต่ความจริงแม่เรายังไงก็ได้ เราเองที่แอบขี้เกียจ เลยไม่ได้ไป ก็รู้สึกผิด ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงจะไป เพราะหลังจากแต่งงาน พี่เขาก็โทรมาบอกว่าเสียดาย อยากจะให้มา

วันนั้นพี่เขาก็บอกว่า เดี๋ยวจะพี่ไปอยู่อเมริกา ถ้ามีอะไรก็โทรมาได้ แต่หนูอยากจะบอกพี่จังเลยว่าตอนนี้เบอร์พี่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ คือ เป็นคนที่เมมเบอร์ก็เมมลงเครื่อง เวลาเปลี่ยนเครื่องเบอร์มันก็หาย ไม่ได้จดไว้ด้วย ตอนนี้เลยต้องจดเอาเฉพาะเบอร์คนสำคัญๆ

แต่ถึงจะมีเบอร์พี่เขา เราก็คงไม่โทรไปหรอก ถ้าพี่เขามีอะไร เขาก็คงโทรมาหาเราเอง เพราะเราก็ใช้เบอร์เดิม ถ้าหากอยากเจอก็เจอกันได้ แต่โอกาสเจอคงยากแล้วแหละ เพราะไม่รู้ว่าพี่เขาจะกลับเมืองไทยอีกไหม นี่ก็ยังเสียดายอยู่ที่ไม่ได้ไปงานแต่งพี่เขาในวันนั้น

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรพี่ณัฐก็จะอยู่ในใจของเราเสมอในฐานะพี่ชาย ในฐานะรุ่นพี่ที่ครั้งหนึ่งเราก็เคยแอบกรี๊ด



Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 18:25:48 น.
Counter : 953 Pageviews.

2 comments
  
มาอ่านเรื่องรุ่นพี่และแปะ ให้น้องแตงจ้า

มัธยมพี่อยู่ รร ผู้หญิงล้วน บ้าๆบอๆ ไปวันๆ พี่ว่าเรียนสห คงได้อีกความรู้สึกนึงเนอะ
โดย: กาปอมซ่า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:22:52:36 น.
  
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ อยู่โรงเรียนสห ก็สนุกไปอีกแบบหนึ่งค่ะ ถ้าหากอยู่โรงเรียนหญิงล้วนก็คงให้อารมณ์ไปอีกแบบนึง

จริงๆ แตงก็สอบเข้าโรงเรียนหญิงล้วนนะ ทั้งตอนจะเข้าม.1 และม.4 แต่ไม่ติด ก็เลยเรียนสห มาโดยตลอด ก็สนุกดีค่ะ มีอะไรฮาๆ เยอะดี
โดย: comicclubs วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:0:46:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

comicclubs
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]



Group Blog
All Blog
  •  Bloggang.com