ตามพระคัมภีร์เดิม ที่กษัตริย์ซาโลมอน ได้เขียนพระธรรมสุภาษิต ตามพระปัญญาจากพระเจ้า มีดังนี้
“คนที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เดินอย่างเที่ยงตรง แต่คนที่ดูหมิ่นพระองค์ก็เดินในทางคดเคี้ยวของตน
วาจายโสของคนโง่นำโทษทัณฑ์มาสู่ตนเอง แต่คำพูดของคนฉลาดจะปกป้องเขาไว้
คนโง่ล้อเล่นกับความผิดบาป แต่ในหมู่คนเที่ยงธรรมมีแต่ความปรารถนาดี
บ้านของคนชั่วจะถูกทำลายราบคาบ แต่เพิงของคนเที่ยงธรรมจะเจริญขึ้น
คนละทิ้งความเชื่อจะถูกลงโทษอย่างสาสมเพราะทางของเขา แต่คนดีก็ได้รับบำเหน็จของตน
คนฉลาดยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและหลีกห่างจากความชั่ว ส่วนคนโง่หุนหันพลันแล่นแต่หลงคิดว่าตนเองมั่นคงปลอดภัย
เมื่อภัยพิบัติมาถึง คนชั่วก็ถูกโค่นล้ม แต่คนชอบธรรมลี้ภัยในพระเจ้าแม้ในความตาย”
สุภาษิต 14:2-3, 9, 11, 14, 16, 32 TNCV
https://bible.com/bible/179/pro.14.16-32.TNCV
และในพระธรรมฮีบรู ที่เขียนถึงชาวยิว ในภาคพันธสัญญาใหม่ (พระคัมภีร์ใหม่)
“เพราะถ้าเรายังจงใจทำบาปอยู่เรื่อยๆ หลังจากได้รับความรู้เรื่องความจริงแล้ว ก็จะไม่มีเครื่องบูชาลบบาปเหลืออยู่เลย แต่จะมีความหวาดกลัวในการรอคอยการพิพากษาและไฟอันร้ายแรง ซึ่งจะเผาผลาญบรรดาศัตรู
ส่วนคนที่ละเมิดธรรมบัญญัติของโมเสสนั้น ถ้ามีพยานสักสองหรือสามปาก ก็จะต้องตายโดยปราศจากความปรานี แล้วพวกท่านคิดดูซิว่าคนที่เหยียบย่ำพระบุตรของพระเจ้า
และถือว่าพระโลหิตแห่งพันธสัญญา ซึ่งชำระเขาให้บริสุทธิ์นั้นเป็นมลทิน และดูหมิ่นพระวิญญาณแห่งพระคุณ สมควรจะถูกลงโทษหนักกว่าสักเท่าใด
เพราะว่าเรารู้จักพระองค์ผู้ตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นของเรา เราจะตอบสนอง” และตรัสอีกว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์””
ฮีบรู 10:26-30 THSV11
https://bible.com/bible/174/heb.10.26-30.THSV11