ครูสาลี่...มองชีิวิตเป็นมหาวิยาลัย เราจะได้เรียนรู้อะไรได้ทุกอย่าง

ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา จงบินเอาเ่ท่าที่เราจะบินไหว
ท่าที่บินไม่เห็นต้องเหมือนใคร แค่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ

Hero (Mariah Carey) -- คุณหาฮีโร่ของคุณ...เจอหรือยัง








คุณหาฮีโร่ของคุณ...เจอหรือยัง


บทเพลงนี้เป็นบทเพลงที่ครูสาลี่ชอบมากมากค่ะ


นอกจากดนตรี (music) จะไพเราะแล้ว เนื้อเพลง (Lyric)


ยังมีความหมายที่ดีเยี่ยมอีกด้วย


 


ช่วงนี้ มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับฮีโร่ออกมามากมาย


เช่น ซีรี่ย์อเมริกาเรื่อง Hero และภาพยนตร์ฮีโร่อีก 2 เรื่อง


คือ PUSH และ WatchMen




แต่บทเพลงของ Mariah Carey นี้ กล่าวถึงฮีโร่อีกตัวหนึ่ง


ที่มีความสำคัญมาก มากยิ่งกว่าฮีไร่ตัวอื่นๆที่เราเคยรู้จัก


 




Hero (Mariah Carey)


There's a hero
If you look inside your heart
You don't have to be afraid
Of what you are
There's an answer
If you reach into your soul
And the sorrow that you know
Will melt away

Chorus
And then a hero comes along
With the strength to carry on
And you cast
your fears aside

And you know you can survive
So when you feel like hope is gone
Look inside you and be strong
And you'll finally see the truth
That a hero lies in you

It's a long road
When you face your world alone
No one reaches out a hand
For you to hold
You can find love
If you search within yourself/>And the emptiness you felt
Will disappear

Chorus

Lord knows
Dreams are hard to follow
But don't let anyone
Tear them away
Hold on
There will be tomorrow
In time
You'll find
the way

Chorus



เพลงนี้ มีความหมายดังนี้ค่ะ


ฮีโร่คนหนึ่งจะปรากฎตัวขึ้น


หากคุณมองลึกเข้าไปยังหัวใจตนเอง


และมิหวาดกลัวต่อสิ่งที่คุณเป็น


 


คำตอบจะเฉลยให้เห็น


หากคุณหยั่งลึกไปถึงจิตวิญญาณของคุณ


และความโศกเศร้าที่คุณรู้จัก จะมลายหายไป


 


* และฮีโร่ตนนั้นจะปรากฎกายขึ้น


ด้วยพละกำลังที่กล้าแกร่ง


พัดพาความหวาดหวั่นให้เหือดหาย


ทำให้คุณรู้ว่า คุณจะต้องรอดและมีชีวิตต่อไป


 


หากคุณรู้สึกสิ้นหวัง


มองเข้าไปในใจ และจงเข้มแข็งเข้าไว้


ในที่สุด คุณจะพบความจริงว่า


ฮีโร่ คนนั้นซ่อนอยู่ในตัวของคุณ


 


เส้นทางแห่งชีวิตยังทอดยาว


โดยเฉพาะ คราวที่ต้องเผชิญโลกเพียงลำพัง


ไร้ซึ่งผู้หยิบยื่นความช่วยเหลือ


ให้คุณได้พักพิง


 


แต่คุณสามารถหาความรักได้


หากคุณค้นหาเข้าไปในจิตใจ


ความเปล่าไร้ที่รู้สึก


ก็จะมลายหายไป


 


พระเจ้าทรงรู้ว่า


ฝันนั้นหนา ยากเกินคว้าไขว่


กระนั้น อย่าให้มีผู้ใด


ขัดขวาง ทลายฝันนั้นลงได้


 


ยึดมั่นเข้าไว้


ชีวิตนี้ต้องมีวันต่อไป


และในที่สุด


คุณจะพบทางเดินในชีวิตของคุณ


 


หลังจากที่ทุกคนได้ฟังเพลงนี้ ครูสาลี่ขอให้ทุกคนมีกำลังใจในการก้าวเดินต่อไป


(รวมทั้ง การเรียนภาษาอังกฤษด้วยนะคะ)


 


คราวนี้ลองมาดูกันนะคะ ว่าเราได้ความรู้อะไรจากเพลงนี้บ้างเอ่ย


 


อ๊าาา หากทุกคนเห็น Highlight สีเทาของครู จะเห็นว่า ตรงนี้มี Grammar เรื่องหนึ่งแฝงอยู่


แต่น แตน แต๊น เรื่องนั้นก็คือ Conditional Clause ค่ะ (condition = เงื่อนไข) เรียกอีกอย่างว่า


"If Clause" ค่ะ หรือประโยคเงื่อนไข


 


If you reach into your soul
And the sorrow that you know
Will melt away


 


If Clause แบ่งออกเป็น 3 ประเภทค่ะ ครูจะสอนละเอียดในภายหลัง


แต่วันนี้จะสอน If แบบที่ 1 ซึ่งมีสูตรจำง่ายๆว่า


 


If 1 (แบบที่ 1) กริยาที่ใช้ก็เป็นช่อง 1 ค่ะ (If 1 V. 1) ท่องได้นะคะ จำง่ายๆ


ใช้สำหรับสมมุติเหตุการณ์ต่างๆค่ะ
 


มีโครงสร้างแบบนี้ค๊า If + S. + V. 1, S. + Will + V.0 (V. 1 คือ กริยาที่ต้องผันตามประธาน ใน Present Simple [ประธานเป็นเอกพจน์ ยกเว้น I และ You ให้เติม s, es ที่กริยา] ส่วน V. 0 คือ กริยาที่ไม่ต้องผันอะไรเลยนะคะ)


 


If     +        S.       +          V.1                            ,  S.                                  
         +  will   + V.0


If            you                  reach into your soul  ,  and the sorrow that you know       will       melt away.


 


พอเข้าใจนะคะ


 


มาต่อกันที่ คำศัพท์ที่น่าสนใจค่ะ


สำหรับเพลงนี้ ครูสาลี่ขอสอนในสิ่งที่เค้าเรียกกันว่า Phrasal Verb หรือ Two-Word Verb นะคะ


กริยาที่เป็นวลีนี้ก็คือ กริยาที่ประกอบด้วย คำกริยาและคำบุพบท รวมกัน ก่อให้เกิดความหมายใหม่


อิอิ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ และควรต้องเรียนรู้ค่ะ เพราะฝรั่งใช้กันบ่อยมากๆ และบางตัวก็ไม่สามารถเดาความหมายเดิมได้เลยด้วยนะคะ


 



ในเพลงนี้มีที่น่าสนใจอยู่ประมาณ 5 คำค่ะ ได้แก่


1.  "Carry on" จาก Carry [แค-รี่] ที่แปลว่า ถือ หิ้ว แบก ขน อุ้ม เมื่อเติม on เข้าไป อ๊ะ ไม่ได้แปลว่า อุ้มบน ขนบน แบกบน นะคะ แต่จะแปลว่า ดำเนินต่อไปค่ะ เหมือนคำว่า Keep (on), go on ค่ะ 


 


2.  "Cast aside" จาก Cast [แคสทฺ] ที่แปลว่า โยน ขว้าง เมื่อเติม aside (ข้างๆ) จะแปลว่า put aside, abandon, neglect ที่แปลว่า ละทิ้ง หรือ ล้มเลิก ค่ะ 


 


3. "Reach out" จาก Reach [รีชฺ] ที่แปลว่าไขว่คว้า เมื่อเติม out จะรวมกันแปลว่า Stretch out one's hand, get in touch with ยื่นมือออกมา (เพื่อช่วยเหลือ) หรือ ติดต่อก็ได้ค่ะ 


 


4. "Tear away"  จาก Tear [แทรฺ] ที่แปลว่า ฉีก ทำให้ขาด (ไม่ได้อ่านว่า เทียรฺ ที่แปลว่าน้ำตานะคะ เมื่อใดที่คำว่า Tear เป็นกริยาจะอ่านว่า แทรฺ ค่ะ) เมื่อมีคำว่า away จะแปลรวมกันว่า cut off หรือ ตัดขาด แยกจากกันค่ะ


 


5. "Hold on" จาก Hold [โฮลดฺ] ที่แปลว่า ยึดหรือจับ (อันนี้จำได้แม่น เพราะตอนดู ไททานิก เมื่อเรือจะล่ม พี่แจ๊คบอกน้องโรสว่า Hold on ยึดให้มั่นจ้า) เมื่อนำมารวมกับ on จะแปลว่า ยึดให้มั่น เกาะให้แน่น
อ๊ะ อ๊ะ บางครั้ง เราก็นำ Hold on มาใช้ตอนคุยโทรศัพท์นะคะ แปลว่า ถือสายแป๊ปนึงนะคะคุณพี่ อย่าเพิ่งวางว่างั๊น ก็ได้ค่ะ 


สุดท้ายของท้ายที่ซู๊ดดดด ขอปิดท้ายด้วยคำว่า "Be afraid of" ค๊า


คำว่า Afraid เป็นศัพท์อนุบาลหมีควาย (อิอิ) เพราะว่าเรียนกันมาตั้งแต่ ป. 5 ป.6


ครูอยากเตือนค่ะ ว่าหากใช้ afraid ก็ให้จำเป็น set เลยค่ะ be afraid of ใช้ด้วยกัน ตามกันไปเป็นพวงนะคะแปลว่า กลัวค๊า เช่น I am very afraid of spiders. นะจ๊ะ 


 





Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 22:09:39 น. 2 comments
Counter : 1618 Pageviews.

 
ครูสาลี่ค่ะ ถ้าหนูฟังไม่ผิดน่ะ เนื้อเพลง มัน And you know you can survive
แต่ฟังจากเพลง น่าจะเป็น because you know you can survive หรือเปล่าค่ะ

ปล ครูแปลเนื้อเพลงได้ไพเราะจับใจดีค่ะ


โดย: au_jean วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:5:25:58 น.  

 
ขอบคุณนะค่ะ
ที่ครูสาลี แปลเนื้อเพลง พร้อม สอนคำศัพท์ให้ด้วย


โดย: superhming IP: 202.28.201.62 วันที่: 6 มีนาคม 2553 เวลา:10:06:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ksatrey
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




สวัสดีและยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่บล็อกของสาลี่ค่ะ หวังว่าบล็อกนี้คงให้ทั้งความสนุกสนานและความรู้แก่ทุกคนบ้างตามสมควรนะคะ เนื่องจากสโลแกนในการสร้างบล็อก "มองชีวิตเป็นมหาวิทยาลัย เราจะได้เรียนรู้อะไรๆได้ทุกอย่าง" จึงขอเรียกตัวเองว่า "ครูสาลี่" และขอน้อมรับความติชมของ "คุณครุ" ทุกๆคนนะคะ (เพราะเราต่างเป็นครูเป็นนักเรียนกันทั้งสิ้น อิอิ) ดีไหมคะ
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ksatrey's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.