kruaun
Location :
สุรินทร์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




“อาจารย์ของพระอรหันต์ ยังไม่จำเป็นต้องเป็นพระอรหันต์เลย ดังนั้น อย่ากังวลเลย หากเราคิดว่าเราเก่งไม่พอที่สร้างลูกศิษย์เก่งๆ ขอเพียงแต่เรามีกระบวนการพัฒนา ส่งเสริม และให้โอกาสเขาอย่างเหมาะสม และถูกวิธี ให้เขาเติบโตเต็มศักยภาพที่ดี”---รศ. ดร.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จากหนังสือแด่เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต

****************************

No one can make you feel inferior without your consent. by Eleanor Roosevelt.

ไม่มีใครสามารถทำให้คุณรู้สึกต้อยต่ำได้...
ถ้าคุณไม่ยินยอม (เอลานอร์ รูสเวลต์)

**************************

ครูอั๋น สอนคณิตศาสตร์ จังหวัดสุรินทร์
--------------------------------

"ชีวิตนี้ลูกยกให้พวกเขา...แต่ชีวิตหน้าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาและพวกมันทำไว้กับลูก ลูกขอเอาคืน!"
---วรดา/ด้วยแรงอธิษฐาน/กิ่งฉัตร

รู้นะว่าถ้าเอาความแค้นนำทางมันไม่ดี...
แต่บางทีถ้าตั้งใจว่าจะต้องดีกว่า ดีกว่า...
มันก็เหมือนเป็นแรงขับให้เราก้าวหน้าได้เช่นกัน

แค่ตั้งใจทำดีก็แล้วกัน

+++++++++++++++++++++++++++++

มีคนเคยถามว่า "ทำไมมาเป็นครู"
คำตอบที่ผมภูมิใจและตอบได้อย่างเต็มปากที่สุด คือ
"ผมอยากเป็นครู เลยเลือกมาเป็นครู"


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"เจ้าเป็นคนพูดเองนะว่า อำนาจมันมาแล้วมันก็ไป แล้วเจ้ายังจะแสวงหามันทำไมเล่า"
---เศกขรเทวี เพลิงพระนาง

๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗

สัจธรรมง่ายๆ ที่ใครๆ ก็พากันทำไม่ได้

ถ้าอยากมีชีวิตที่เลวลงอย่างคิดไม่ถึง
คุณแค่หมั่นทำเลวที่ไม่เคยแม้จะอยู่ใรความคิด

หากปรารถนาชีวิตที่ดีขึ้นอย่างคิดไม่ถึง
คุณต้องทำดีมากกว่าที่คิดว่าตัวเองจะทำได้

มีชีวิตที่คิดไม่ถึง/ดังตฤณ
----------------เริ่มนับ 30 เม.ย.53----------------- free counters ===== Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 3.0 Thailand License.
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kruaun's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 

ดุจน้ำทิพย์โชลมใจครู ภาค ๒



วันนี้เอง (๔ ธันวาคม ๒๕๕๓)
นักเรียนที่เป็นศิษย์เก่ารุ่นก่อน (จบการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๕๒/๕๓)
ซึ่งเป็นห้องที่เรียนกับผมมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ คือ ๔ วิชา (๔ คอร์ส)
ไม่นับว่าต้องเรียนพิเศษด้วยกันอีก ๒ ปีนะครับ
เขาทักเข้าใน FB แล้วก็พูดเรื่องที่เขาเรียน "เมทริกซ์"
เราก็เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ ว่านักเรียนว่าตำหนิอะไรเราหรือเปล่า
หรือจะบอกว่าเราสอนไม่ดี ไม่รู้เรื่อง ไม่เห็นเหมือนกับที่เรียนในมหาวิทยาลัยเลย ฯลฯ

แล้วเขาก็พูดเรื่องเอกสารที่เขาเคยได้รับสมัยเรียน ม.๔ ในเรื่องเมทริกซ์
ซึ่งเขากำลังเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
เขาบอกว่าเขาเอาเอกสารตัวนั้นไปด้วย
และมันช่วยเขาไว้ได้มาก เพราะว่าไม่ต้องปรับตัวกับเอกสารฉบับนี้มาก
มันช่วยให้เขาได้ทบทวนเนื้อหาที่เคยไปแล้ว แต่เรียนต่อในห้องเรียนได้

เฮ้ย...ครูก็โล่งออกลูก
อย่างน้อยอะไรที่ครูเคยตั้งใจทำให้หนูแล้วหนูเห็นว่ามันช่วยหนูได้
ครูก็ดีใจ

สู้ๆ นะครับครับ ขอให้โชคเอนะลูก

ส่วนหนึ่งของเอกสารชุดนี้

ค31202-0102-บทนิยามของเมทริกซ์

อีกชุด

ค31202-0106.1-การคูณเมทริกซ์





 

Create Date : 04 ธันวาคม 2553    
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 23:52:34 น.
Counter : 2176 Pageviews.  

ดุจน้ำทิพย์โชลมใจครู


เรื่องนี้อาจจะเก่าแล้ว แต่ว่าเขา copy เอามาเล่าใหม่
คือนักเรียนที่รักเขาไปเขียนถึงผม...อันนี้มีหลักฐานว่านักเรียนชม

เขาเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ ตั้งแต่สอนที่สำโรงโรงทาบวิทยาคม
เขาเขียนในหัวข้อครูดีในดวงใจ
ดังนี้ครับ


"วันศุกร์ที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
ครูดีในดวงใจ โดย นส.บุญนภา ทองล้ำ
คุณครู นฤพนธ์ สายเสมา
ปัจจุบันสอนอยู่ที่โรงเรียนสำโรงทาบวิทยาคม สอนวิชาคณิตศาสตร์ ตอนหนูอยู่ม.6 เหตุผลที่ชอบก็เพราะว่า อาจารย์สอนได้เข้าใจดีมาก ทั้งที่หนูเป็นคนที่ไม่ชอบวิชาคณิตศาสตร์แต่อาจารย์ท่านเป็นคนที่ทำให้หนู ชอบและเข้าเรียน อาจารย์ท่านมีวิธีการสอนที่แตกต่างจากคนอื่น สอนสนุก เข้าใจง่าย แทรกมุขในขณะที่สอน มีสื่อการสอนที่ทันสมัย ทำให้ไม่เครียดเวลาเรียน เรียนสนุก เหมือนกับว่าในขณะที่เราเรียนอยู่นั้นเราไม่ได้เรียนเพียงอย่างเดียว ที่สำคัญอาจารย์ท่านเป็นคนน่าตาดี บุคลิคดี เก่ง พูดจาฉะฉาน อีกอย่างท่านไม่ได้เป็นเพียงครูในห้องเรียนและในเวลาราชการเท่านั้น นอกห้องเรียนท่านก็ยังเอาใจใส่กับนักเรียน ให้ความสนิทสนม(แม้จะโหดบ้างบางเวลา) เพื่อนบางคนบอกว่าอาจารย์โหดแต่หนูว่าไม่เลย สามารถปรึกษาได้ตอนเรามีปัญหาได้ในเวลาที่เราไม่ควรจะโทรไปรบกวนแต่ท่านก็ ไม่เคยว่าเลย ถึงท่านจะเป็นผู้ชายแต่ท่านก็สามารถให้คำปรึกษากับเรา หนูประทับใจในวันที่หนูจบการศึกษา ท่านได้พูดอะไรไว้หลายอย่างพูดให้หนูคิดและมองหาตัวเองเจอ ถ้าเป็นไปได้อนาคตหนูอยากจะเป็นครูอย่าง คุณครูนฤพนธ์ สายเสมา เพราะอาจารย์ท่านนี้และเป็นแรงบันดาลใจให้หนูมาเรียนครู แม้หนูจะไม่ได้เรียนเอกคณิตศาสตร์อย่างท่านแต่หนูก็จะเป็นครูที่เก่งและดี อย่างท่านให้ได้"


(จาก //verygoodteacher.blogspot.com/2008/08/blog-post_2961.html)


ช่วงเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ เป็นอีกช่วงที่ชีวิตการทำงานตกต่ำ
ไม่ได้หมายความว่าตกงานนะครับ
แต่รู้สึกไม่ดีกับงานและตัวเองมากๆ
พอมาได้อ่านบทความที่นักเรียนเขียนถึงนี้
เลยทำให้มีกำลังใจในการทำงานอีกมากมาย
ขอบคุณจริงๆ




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2553    
Last Update : 4 ธันวาคม 2553 23:51:54 น.
Counter : 723 Pageviews.  

เมื่อพระเดินโพย...การสอบธรรมสนามหลวง

หลายปีก่อนสมัยเป็นครูใหม่ๆ ได้ร่วมคุมสอบอยู่สองอย่าง
เมื่อคุมสอบเสร็จ...จึงบอกกับรองวิชาการว่า
"ถ้ามีคุมสอบครั้งต่อไป ผมขอไม่คุมสอบนะครับ"
ด้วยเหตุว่า เป็นการสอบที่จัดขึ้นเฉยๆ กรรมการคุมสอบ รวมถึงเจ้าหน้าที่จัดสอบ มีหน้าที่ทำข้อสอบให้นักเรียนผู้เข้าสอบกา หรือตอบตามนั้น

การสอบสองอย่างนั้น คือ การสอบของ กศน. และการสอนธรรมสนามหลวง
อันหนึ่งฆราวาสทำ อีกอันพระสงฆ์เป็นผู้กระทำ

วันนี้...ผมก็ได้กลับมาคุมสอบสนามหลวงอีก
ไม่อยากคุมสอบเลย เพราะกลัวว่าเหตุการณ์ "พระเดินโพย" จะกลับมาให้เห็น ให้ปวดหัวใจอีก
แล้วก็มีจริงๆ

วิชากระทู้ธรรม
นักเรียนส่วนใหญ่จะมีโพยเข้ามาด้วย โพยนี้ก็คือตัวอย่างการเขียนกระทู้ธรรม
ด้วยความที่ต้องการให้การสอบเกิดขึ้นด้วยความสามารถล้วนๆ ของผู้เข้าสอบ
จึงให้เก็บลงใต้โต๊ะ แต่ก็ไม่วายผู้เข้าสอบก็ก้มลงไปดูอย่างไม่ได้อายเลยสักนิด
พระอาจารย์ที่คุมด้วย ก็เดินบอก เขียนอย่างนั้น เขียนอย่างนี้ พร้อมกับเขียนพุทธศาสนาสุภาษิตอีกบทให้ผู้เข้าสอบบนกระดานด้วย



สังเกตโพยที่ใต้โต๊ะ



พุทธศาสนสุภาษิตอีกบทที่พระเขียนให้ ไม่ใช่โจทย์นะครับโจทย์ต่างหาก


และแล้วมันก็มาปรากฏในกระดาษคำตอบของผู้เข้าสอบ


บางคนก็แอบดูบนโต๊ะเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่เอี้ยวตัวบังนิดหน่อย
พอเดินไปเห็นทำเป็นเก็บ
บางคนเปิดหนังสือดูเลยก็มี



ใต้แขนไม่ใช่กระดาษคำตอบ แต่เป็นตัวอย่างการเขียนกระทู้


ของกลางที่ยึดได้


พอภาคบ่าย ก็สอบเป็นปรนัย
พอแจกกระดาษคำตอบและข้อสอบแล้ว
พระอาจารย์ก็มาเอาไปหนึ่งชุด แล้วก็เห็นท่านนั่งทำอยู่หน้าห้อง
แล้วก็เดินเข้ามาในห้อง ชี้บอกผู้เข้าสอบ เอากระดาษคำตอบที่ท่านเฉลยยื่นให้ผู้เข้าสอบ เดินไปบอกคนทั่วๆ
ผู้เข้าสอบก็รอคำตอบ
หันซ้ายหันขวาถามคนโน้นคนนี้
แม้ว่าเราจะพยายามบอกว่าการทำอย่างนี้คือทุจริตสอบก็ไม่ฟัง
ยังพยายามหาคำตอบจากคนอื่นให้ได้

พอวิชาที่สองภาคบ่าย ก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
จึงนำหนังสือของกลางไปคืนผู้เข้าสอบคนนั้น แล้วบอกว่า
"เก็บไว้เป็นที่ระลึกสำหรับการทุจริตสอบ"

แล้วก็ลงมาที่ห้องพัก โดยไม่กลับขึ้นไปอีกเลย


ทำใจไม่ได้นะ
แล้วประเทศชาติจะไปทางไหน
ในเมื่อมีหลายคนกระทำกับเยาวชนแบบนี้
สอนให้เขาเห็นว่าการทุจริตสอบมันไม่ผิด
ต่อไปเขาจะทำอะไรผิดอีกโดยที่ไม่คิดว่ามันผิด

สังคมไทยเชื่อคำสอนของพระสงฆ์มานานแสนนาน
แล้วถ้าพระสงฆ์มาสอนแบบนี้ เด็กและเยาวชนที่เป็นคนรุ่นต่อไปจะเป็นอย่างไร

เมื่อคืนเขียนถึงความขยันและขอบคุณนักเรียนที่ขยันแข็งในการทำงาน
วันนี้กลับต้องมาเจอการทุจริตของเด็กโดยมีพระสงฆ์เป็นแกนนำ

เฮ้ย...ประเทศไทย แม้ฉันจะรักเธอ แต่ไม่รู้ว่่าฉันจะช่วยเธอได้แค่ไหนกัน




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2553 16:32:30 น.
Counter : 3866 Pageviews.  

จะสงสาร หรือสมเพชดี???

อ่านข่าวเกี่ยวกับการสอบ GAT PAT แล้วก็ขำๆ
ข่าวเขาพูดเรื่องนักเรียนฝนคำตอบไม่ครบแล้วไปร้องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งคุ้มครอง

เอ...นี่มันอะไรกันหรือครับ
เขามีคำสั่ง คำอธิบายอย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าคุณต้องทำอย่างไร
แล้วทำไมไม่ทำตามให้มันถูกต้อง
การฝนคำตอบแบบนี้มันมีมาตั้งแต่สมัยก่อนหน้าผมสอบด้วยซ้ำ
ตั้งแต่เป็นข้อ Entrance โน้น...

ตอนไปคุมสอบก็มีนักเรียนบางส่วนฝนผิด บ่นกันอุบว่า "ลืมว่ะ"
เพื่อนก็บอกว่า "สมน้ำหน้าเมิง ไม่ระวัง"
แล้วก็เหมือนจะจบไป

แล้วนี่มันอะไรหรือ???
พอตัวเองทำผิดแล้วก็ไปขอร้องให้เขาคุ้มครอง

ดีนะที่ศาลปกครองไม่เอาด้วย
ไม่งั้นฮาแน่ๆ

ข่าวตอนท้ายว่าอย่างนี้


ศ.ดร.อุทุมพรกล่าวด้วยว่า ภายหลังการสอบพบว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. มีผู้เข้าสอบฟ้องต่อศาลปกครองกลาง 3 คน เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองและสั่งให้ สทศ.ตรวจกระดาษคำตอบ ในวิชา PAT1 และ PAT2 เกี่ยวกับวิธีการระบายคำตอบลงในกระดาษคำตอบ ซึ่งผู้ฟ้องไม่ได้ระบายตัวเลขให้ครบ 6 หลัก ซึ่งสทศ.ได้ชี้แจงกับศาลปกครองว่า ได้กำหนดวิธีระบายคำตอบไว้ในกระดาษคำตอบอย่างชัดเจน โดย PAT1 พบว่านักเรียนที่ไม่ทำตามระเบียบจำนวน 174 คน จากผู้เข้าสอบทั้งหมด 140,485 คน PAT2 จำนวน 329 คน จากผู้เข้าสอบ 135,747 คน ซึ่ง สทศ.ก็พร้อมทำตามคำสั่งศาล

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากมีการกำหนดวิธีการระบายคำตอบไว้แล้ว แต่ผู้ฟ้องระบายคำตอบไม่ถูกต้องครบถ้วน.


จำได้ว่าตอนสอบปริญญาโท เขียนเลขประจำตัวสอบไม่ครบ
ส่งผลให้ไม่มีรายชื่อ ทั้งๆ ที่ทำข้อสอบได้เกินครึ่งหนึ่งแน่ๆ

ก็ไม่ได้ไปโวยวายให้อายใคร...เพียงแต่จำไว้ว่า ต่อไปต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้นะ

อ่านข่าวจบแล้ว ไม่รู้จักสงสารเด็กที่ไปฟ้อง หรือว่าสมเพชดีครับ
เหมือนที่เคยทั้งสงสารและสมเพชตัวเอง




 

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2553 16:13:32 น.
Counter : 1665 Pageviews.  

เคล็ดไม่ลับสำหรับการเรียนให้ได้ดี


เคล็ดลับของนักเรียนยอดเยี่ยม

รูปจาก: //webboard.yenta4.com/uploads/2009/07/14/15826-attachment.jpg





นำเสนอโดย นฤพนธ์ สายเสมา
เก็บความจาก อารีย์ พันธ์มณี. (๒๕๓๘, เมษายน – พฤษภาคม). “เคล็ดลับของนักเรียนยอดเยี่ยม,” แนะแนว. ๒๙(๑๕๘): ๖๔ – ๖๗.




นักเรียนหลายต่อหลายคน มักจะถามผมว่า ทำอย่างไรถึงจะเรียน (คณิตศาสตร์) ได้เก่ง รู้เรื่อง เข้าใจ ผมก็แฉไฉไปเรื่อย ตอบไปเล็กน้อย แบบกั๊กๆ บ้าง บอกว่าจะตอบที่อื่นบ้าง มานึกได้ว่าครูกรองแก้ว สานุสนธิ์ ครูภาษาไทย และแนะแนวสมัย ม.๓ เคยพูดถึงบทความหนึ่งเกี่ยวกับนักเรียนยอดเยี่ยม และก็เคยจำได้ว่าได้อ่าน และนำมาให้นักเรียนอ่านแล้ว เลยขอนำเสนออีกครั้ง

อาจจะไม่เฉพาะเจาะจงที่การเรียนคณิตศาสตร์ แต่บทความนี้ก็กล่าวถึงภาพรวมของการเรียนได้ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ไม่เว้นมีแต่คณิตศาสตร์ครับ

นักเรียนยอดเยี่ยม คือ นักเรียนที่มีผลการเรียนในระดับ ๔ ทุกวิชา คนเหล่านี้ฉลาดกว่าคนปกติทั่วไปหรือ คำตอบคือเปล่าเลย เขาไม่ได้เฉลียวฉลาดกว่าคนปกติ แต่เขามีวิธีการเรียนรู้ และวิธีการทำงานที่ฉลาดกว่า แม้ว่าภาพพจน์เดิมๆ ของนักเรียนยอดเยี่ยม ก็คือ คนที่เรียนได้คะแนนสูงทุกวิชา และเป็นคนที่เอาจริงเอาจัง หมกมุ่นอยู่เฉพาะเรื่องที่เรียนเท่านั้น โดยไม่สนใจเรื่องอื่นไม่ว่าจะเป็นกีฬา สังคม หรือแม้แต่เพศตรงข้าม แต่ปัจจุบันนักเรียนยอดเยี่ยมเปลี่ยนแปลงไป นักเรียนยอดเยี่ยมหลายๆ คนยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ด้วย บางคนเป็นประธานนักเรียน เป็นนักกีฬา ผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดไม่ได้เกิดจากการเกิดมามีสมองดีอย่างเดียว ผู้รู้แนะนำว่า สิ่งที่สำคัญกว่าการมีสมองดี คือ การได้พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มตามศักยภาพ

โดยความเป็นจริง นักเรียนที่มีสติปัญญาสูง บ่อยครั้งมิได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ดีกว่าพวกมีสติปัญญาปานกลาง แต่พวกเขาเรียนรู้ได้ง่ายและเร็วกว่าโดยไม่ต้องเตรียมตัวล่วงหน้ามากนัก และไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดในการทำงานเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพต่างหาก
และพวกเขาทำดังต่อไปนี้...

๑. จัดลำดับความสำคัญ นักเรียนยอดเยี่ยมจะจัดลำดับความสำคัญของการเรียนว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งแรกที่จะต้องทำ เขาจะไม่ยอมให้สิ่งใด เรื่องใดมารบกวนในการศึกษา และฉกฉวยเอาเวลาไปทำเรื่องอื่น ไม่ว่าจะมีโทรศัพท์มาก็ไม่รับ ไม่สนใจดูโทรทัศน์ ไม่สนใจอาหารว่างเท่าใดนัก การเรียนคือธุรกิจ คือชีวิต คือความสุข และการเรียนย่อมมาก่อนการพักผ่อนหย่อนใจ

๒. ศึกษาได้ในทุกสถานที่ นักเรียนยอดเยี่ยมสามารถอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ท่องศัพท์ และทบทวนบทเรียนได้ในทุกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุด ห้องเรียน ใต้ต้นไม้ หรือแม้แต่เวลาแปลงฟัน ก็อาจจะท่องศัพท์ที่เขียนไว้บนกระจก เลือกศึกษาตามเวลาที่สนใจ อาจเป็นตอนกลางคืน ตอนเช้าตรู่ ตอนดึก หรือตอนกลับถึงบ้าน ที่สำคัญ นักเรียนเหล่านั้นจะทำอย่างนี้ทุกวัน เป็นประจำ ดังนั้น ความสม่ำเสมอในการศึกษา ประกอบกับสถานที่ที่เหมาะสมทุกสถานที่ จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเวลา มีอารมณ์ มีความพร้อม จึงไม่เป็นการยากที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้


รูปจาก: //www.momypedia.com/elctfl/rlga/imgstk/img4_939.jpg


๓. การจัดระเบียบ นักเรียนยอดเยี่ยมหลายคนต้องทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมๆ กัน จนดูเหมือนว่าพวกเขามีเวลาไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงต้องจัดของให้เป็นระเบียบ ให้วางอยู่เป็นที่เป็นทางที่เหมาะสมในทำนอง “หยิบก็ง่าย หายก็รู้ ดูงามตา” และเขาจะไม่ยอมเสียเวลากับการค้นหาของ แต่จะเสียเวลากับการศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือ ทบทวนตำรับตำราเท่านั้น

๔. การเรียนรู้วิธีอ่าน วิธีการเรียนรู้ที่ดีวิธีการหนึ่งก็คือ การฝึกอ่านเร็ว ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยให้เกิดความเข้าใจได้เร็วแล้ว ยังทำให้เกิดความสนุกสนานในการอ่านด้วย อีกทั้งยังทำให้จดจำสิ่งที่ได้เรียนรู้ได้มากทีเดียว เคล็ดลับสำคัญคือ ต้องกระตือรือร้นต่อการตั้งคำถาม ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจก่อนการอ่านหนังสือ หรือบทเรียนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

๕. จัดตารางเวลา เนื่องจากในการเรียนต้องมีการบ้าน มีรายงาน มีการสอบ ดังนั้น นักเรียนที่เรียนดีจะต้องจัดตารางเวลาทั้งหมด และกำหนดเวลาส่งให้แน่นอน ชัดเจน และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกำหนดเวลานั้น ถ้าเป็นงานชิ้นใหญ่ เขาก็จะแบ่งมันออกเป็นส่วนๆ และค่อยทำไปแต่ละส่วนจนกว่าจะเสร็จ เป็นการทอนงานให้ดูไม่มากจนเกินไป และช่วยให้งานออกมาดีด้วย สิ่งสำคัญก่อนลงมือทำงานชิ้นหนึ่งๆ คือ การเขียนโครงร่างของงานแล้วจึงเขียนงานฉบับสมบูรณ์ และจะให้เวลาในการเขียนอย่างเพียงพอ เพื่อจะได้มีเวลากลับมาทบทวนอีกครั้ง และไม่ว่าจะมีงานมากเพียงใจ แต่เขาจะต้องมั่นใจและจัดการมันให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดได้

๖. ทำบันทึกย่อ การอ่านเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าอ่านแล้วบันทึกย่อก็จะดีกว่า และสิ่งสำคัญคือ ต้องใส่ใจกับสิ่งที่ครูเน้น เพราะครูมักจะสอบตรงกับที่ครูย้ำ ดังนั้นควรจดคำบรรยาย และใช้ให้ถูกต้อง วิธีหนึ่งที่แนะนำคือ จดย่อจากตำราด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจดสิ่งที่ครูบรรยาย และนำสามารถนำบันทึกดังกล่าวมาทบทวนได้ก่อนที่โรงเรียนจะเลิกตอนเย็น ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการทบทวน


รูปจาก: //www.vcharkarn.com/uploads/143/143706.jpg


๗. ความสะอาดสวยงาม งานทุกชิ้นต้องทำด้วยความสะอาดหมดจด สวยงาม ซึ่งแน่นอนว่าต้องทำให้ได้คะแนนมากกว่างานที่ขาดความประณีต ดังนั้น นักเรียนที่ดีจะส่งงานที่เรียบร้อยสมบูรณ์ ประณีต และแสดงออกถึงความตั้งใจทำงานอย่างดี ยิ่งมีหลายชิ้นแล้วทำได้สะอาดเรียบร้อยทุกชิ้น ก็จะได้คะแนนดีทุกชิ้น แล้วเกรด ๔ จะไปไหนเสีย

๘. การซักถาม นักเรียนที่ดีจะซักถามทันทีเมื่อมีข้อสงสัย การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนนอกจากการซักถามแล้ว การแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ และขยายความคิด สติปัญญาของนักเรียนก็จะเฉียบคมยิ่งขึ้น ข้อสงสัยกับคำถามจึงเป็นสิ่งที่คู่กับนักเรียนเรียนดี

๙. การศึกษาร่วมกัน การศึกษาตำราร่วมกัน การอภิปราย ซักถาม และช่วยกันคิด ช่วยกันตอบคำถาม ข้อสงสัย จะทำให้เกิดความเข้าใจได้ดี และจดจำได้แม่นยำ ซึ่งนอกจากตัวเองแล้ว ผลจากการศึกษาก็พบว่า เพื่อนๆ ในกลุ่มที่มีพื้นฐานใกล้เคียงกันก็จะสามารถทำคะแนนได้ดีขึ้นเช่นเดียวกัน

๑๐. ทดสอบตนเอง นักเรียนที่ดีต้องเก็บข้อสอบ คำถามที่เห็นว่าสำคัญ และยังพยายามจะตอบคำถามให้ได้ ถ้ายังตอบไม่ได้ก็จะกลับไปศึกษาให้แม่นยำ จารการศึกษาพบว่านักเรียนทำทดลองทำข้อสอบบ่อยๆ ครั้ง เมื่อไปเจอข้อสอบจริงก็มักจะทำคะแนนได้ดีเช่นกัน

๑๑. ทำมากกว่าที่ถูกกำหนดให้ทำ นักเรียนที่ดีมักจะทำการบ้านมากกว่าที่ครูกำหนดให้เช่นกัน เช่น ครูให้การบ้านคณิตศาสตร์ ๕ ข้อ เขาก็จะทำถึง ๑๐ ข้อ สิ่งหนึ่งที่ทำให้นักเรียนดีได้คะแนนสูงคือ การฝึกหัด และการเรียนรู้ที่ดีก็คือ การฝึกหัดมากเท่าไรคุณก็ยิ่งได้เรียนรู้มากเท่านั้น

จากเคล็ด (ไม่) ลับดังกล่าวของนักเรียนผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในการเรียน ก็ทำให้รู้ว่าไม่มีความลับอีกต่อไปที่จะเรียนให้ได้เกรด ๔ หากแต่นักเรียนนำไปปฏิบัติเป็นประจำ มุ่งมั่น และสม่ำเสมอ จนกลายเป็นนิสัย แล้วจะพบว่าความสำเร็จในการเรียนเป็นไปได้อย่างแน่นอน





 

Create Date : 29 สิงหาคม 2553    
Last Update : 29 สิงหาคม 2553 1:44:08 น.
Counter : 1061 Pageviews.  

1  2  3  4  5  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.