kruaun
Location :
สุรินทร์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




“อาจารย์ของพระอรหันต์ ยังไม่จำเป็นต้องเป็นพระอรหันต์เลย ดังนั้น อย่ากังวลเลย หากเราคิดว่าเราเก่งไม่พอที่สร้างลูกศิษย์เก่งๆ ขอเพียงแต่เรามีกระบวนการพัฒนา ส่งเสริม และให้โอกาสเขาอย่างเหมาะสม และถูกวิธี ให้เขาเติบโตเต็มศักยภาพที่ดี”---รศ. ดร.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จากหนังสือแด่เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต

****************************

No one can make you feel inferior without your consent. by Eleanor Roosevelt.

ไม่มีใครสามารถทำให้คุณรู้สึกต้อยต่ำได้...
ถ้าคุณไม่ยินยอม (เอลานอร์ รูสเวลต์)

**************************

ครูอั๋น สอนคณิตศาสตร์ จังหวัดสุรินทร์
--------------------------------

"ชีวิตนี้ลูกยกให้พวกเขา...แต่ชีวิตหน้าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาและพวกมันทำไว้กับลูก ลูกขอเอาคืน!"
---วรดา/ด้วยแรงอธิษฐาน/กิ่งฉัตร

รู้นะว่าถ้าเอาความแค้นนำทางมันไม่ดี...
แต่บางทีถ้าตั้งใจว่าจะต้องดีกว่า ดีกว่า...
มันก็เหมือนเป็นแรงขับให้เราก้าวหน้าได้เช่นกัน

แค่ตั้งใจทำดีก็แล้วกัน

+++++++++++++++++++++++++++++

มีคนเคยถามว่า "ทำไมมาเป็นครู"
คำตอบที่ผมภูมิใจและตอบได้อย่างเต็มปากที่สุด คือ
"ผมอยากเป็นครู เลยเลือกมาเป็นครู"


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"เจ้าเป็นคนพูดเองนะว่า อำนาจมันมาแล้วมันก็ไป แล้วเจ้ายังจะแสวงหามันทำไมเล่า"
---เศกขรเทวี เพลิงพระนาง

๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗๗

สัจธรรมง่ายๆ ที่ใครๆ ก็พากันทำไม่ได้

ถ้าอยากมีชีวิตที่เลวลงอย่างคิดไม่ถึง
คุณแค่หมั่นทำเลวที่ไม่เคยแม้จะอยู่ใรความคิด

หากปรารถนาชีวิตที่ดีขึ้นอย่างคิดไม่ถึง
คุณต้องทำดีมากกว่าที่คิดว่าตัวเองจะทำได้

มีชีวิตที่คิดไม่ถึง/ดังตฤณ
----------------เริ่มนับ 30 เม.ย.53----------------- free counters ===== Creative Commons License
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 3.0 Thailand License.
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kruaun's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 
หนีเที่ยวดีกว่า... ภาค 3/1 จำปาสักอันงดงาม ตอน วัดพู





จำได้ว่านักเรียนที่รักประวัติศาสตร์เหมือนผม ตอนนี้เรียนเอกสังคมศึกษาเคยถามผมว่า “อาจารย์ครับ จำปาสักเคยเป็นเมืองหลวงของลาวใต้ แต่ทำไมไม่เห็นมีพระราชวัง ทั้งๆ ที่เคยเป็นเมืองหลวง???”
ก็เลยสารภาพไปว่า แม้จะสนใจและได้ศึกษาประวัติศาสตร์ลาวบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย ดังนี้เพื่อหาคำตอบดังกล่าว จึงต้องเดินทางไปจำปาสัก...เอ...รู้สึกว่าเหตุผลของการหนีเที่ยวไม่ค่อยเป็นสัจนิรันดร์เลยนะ ๕๕๕ ยอมรับก็ได้ครับว่าไม่เกี่ยวกัน
พี่ปานคนงามโทรมาราววันพุธ ถามว่า ปิดเทอมมีโปรแกรมเที่ยวไหน ก็เลยบอกว่ามี ๒ ทริป คือ อยุธยา กับเชียงคาน พี่ปานเลยเสนอ “ทริปจำปาสัก” ผมตอบตกลงโดยไม่คิดมากเลย ใจง่ายมากๆ แล้วเดินทางวันไหนล่ะครับ พี่ปานว่า “วันศุกร์” ๕๕๕ ชวนพุธไปศุกร์ ให้มันได้อย่างนี้ซี พับผ่า!!!


วันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ เดินทาง


เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทาง วุ่นวายด้วยการหาหนังสือเดินทางไม่เจอ แล้วต่อไปก็จะรู้ว่า หนังสือเดินทางนี่เองเป็นตัวปัญญหาแรกของการเดินทาง

ออกเดินทางเย็นๆ เพื่อจะได้ไปพักแถวๆ อุบล ได้ที่พักที่เรือนพักวิเขื่อน ที่ อ.สิรินธร พักผ่อนๆ


วันเสาร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๓ สู่ลาวใต้ สวรรค์ของคนรักธรรมชาติ


จุดมุ่งหมายของคนรักประวัติศาสตร์อย่างผมที่จำปาสัก คือ วัดพู มรดกโลกแห่งที่ ๒ ของลาว หลังจากที่ได้ไปหลวงพระบางมรดกโลกแห่งแรกของลาวไปแล้วเมื่อสองสามปีก่อน หัวหน้าคณะทัวร์บอกว่าต้องไปแน่นอน และที่สำคัญต้องหาคำตอบเรื่องพระราชวังหลวงเมืองจำปาสักมาให้นักเรียนด้วย
การเดินทางเริ่มต้นด้วยความขลุกขลัก หลังจากออกจากที่พักแล้ว ก็ไปที่ด่านช่องเม็ก (ลาวเรียกด่านวังเต่า) ตอนแรกก็ไม่ได้ทำบัตรผ่านแดน แต่หนังสือเดินทางเหลือแค่ ๑ เดือน เจ้าหน้าที่สาวชาวไทยบอกว่าลาวไม่ได้ให้เข้าแน่ๆ เลยต้องออกมาทำหนังสือผ่านแดน ทำผิดอีก ต้องกลับไปทำอีกรอบ กว่าจะได้ออกเดินทางก็ปาเข้าไปสิบโมงกว่าแล้ว



ชาวคณะ ผมเป็นคนถ่าย


พี่เนี่ยวติดต่อรถเหมาได้คันหนึ่งวันละพันห้า ไม่รวมค่าน้ำมัน เลยตกลงไป คนขับชื่ออ้ายแกะ เป็นชาวลาวที่เคยมาทำงานที่ไทย แถวหัวหิน และสมุทรปราการ ก่อนจะกลับไปขับรถรับจ้างที่ปากเซ
อ่อ...ผมจะเรียกทั้งจำปาสัก และปากเซปนๆ กันเลยนะครับ ให้เข้าใจว่าปากเซเป็นเมืองเอกของแขวงจำปาสักแล้วกันนะครับ ง่ายดี
จากนั้นก็เดินทางเข้าไปในลาว ผ่านหมู่บ้านหลายๆ แห่ง สะพาน หรือขัว บางแห่งต้องเสียค่าข้าม เพราะว่าเป็นสะพานเอกชน เขาจะสัมปะทานกันเป็นปีๆ เมื่อครบสัมปะทานแล้วจะมอบให้เป็นของรัฐ ซึ่งจะข้ามได้ฟรี
เดินทางไปราว ๓๐ กม. ก็จะถึงสะพานมิตรภาพลาว – ญี่ปุ่น เป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่เมืองปากเซ



สะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น


เราผ่านเมืองปากเซไปเลยเพื่อไปสู่จุดหมายแรกของการเดินทาง คือ วัดพู โบราณสถานสำคัญที่เป็นมรดกแห่งที่ ๒ ของลาว วัดพู เป็นศาสนาสถานที่สร้างขึ้นตามคติขอมโบราณ เพื่อบูชาเทพเจ้าในศาสนาฮินดู ต่อเมื่อเมื่อพุทธศาสนาเผยแผ่เข้ามาในแถบนี้ ก็มีการเปลี่ยนศาสนาสถานแห่งนี้เป็นวัด และเรียกกันว่าวัดพู

เดินขึ้นไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย แต่ก็สวยมากสมใจ เพราะว่าทับหลังกับลายสลักค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียวครับ





แผนภูมิ "สะถานบูรานวัดพู"


กองหินที่น่าจะเคยเป็นลานพลับพลาบริเวณบาราย


เสานางสองข้างทางเดินเข้าสู่บริเวณปราสาท


บริเวณปราสาทที่เหมือนจะเป็นวัง หรือพลับพลารับเสด็จกษัตริย์


หน้าบรรณ (จั่ว) ที่กำลังได้รับการบูรณะให้สมบูรณ์ ก่อนนำขึ้นไปติดตั้งไว้ที่เดิม


เก๋มากส่วนนี้
น่าจะเป็นศาลาเปลื้อง ก่อนจะเข้าสู่บริเวณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์


ส่วนเริ่มต้นของสะพานนาค ทางเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับเขาพระสุเมรุ
สังเกตว่ามีต้นลีลาวดี หรือจำปา (ลาว) ปลูกอยู่มากมายตั้งแต่เริ่มสะพานนาค
ถ้ามองย้อนกลับไปรูปจากเสานางจะเห็นต้นจำปาลาวตลอดทางเดินขึ้นไปถึงตัวปราสาททีเดียว

ขอมโบราณ มีตาล เป็นสัญลักษณ์
ลาวพี่น้อง ที่รัก มีจำปาเป็นเอกลักษณ์ เช่นกัน



ตัวพลับพลาถ่ายจากชั้นแรก


บริเวณทางขึ้นไปชั้นที่ ๒


บริเวณทางขึ้นชั้นไปที่ ๓ ทางขึ้นนี้สูง และชันมาก แต่ก็ไม่เกินวิสัยจะขึ้นไปได้


ตัวปราสาทประธาน


ทวารบาลหนึ่งในสองตน แห่งวัดพู


อัปสราแห่งวัดพู
อัปสราตนนี้มีลักษณะคล้ายอัปสราที่ปราสาทบันทายสรี ในกัมพูชา


ส่วนอัปสราตนนี้คล้ายกับที่นครวัด นครธม



ลองเปรียบเทียบดูนะครับ
(บนซ้าย) นางอัปสราแห่งนครธม
(บนขวา) นางอัปสราแห่งนครวัด
(ล่าง) นางอัปสราแห่งบันทายสรี


ทับหลังนารายณ์ทรงครุฑ


ทับหลังอีกชิ้น (เรียกไม่ถูก)


ทับหลังพระอินทร์ทรงช้างเอราวรรณ
คล้ายสัญลักษณ์จังหวัดสุรินทร์


จขบ. กับทับหลังด้านในชั้นที่สอง ทับหลังด้านหน้าที่สำคัญที่สุดไม่เห็น
อาจจะนำไปจัดแสดงที่สถานแสดงประจำโบรารณสถานวัดพูก็เป็นได้


ทับหลังอีกชิ้น
ที่วัดพูมีทับหลังหลายชิ้น ที่สวยงามและค่อนข้างอยู่ในสภาพสมบูรณ์


ภาพสลักพระพรหมณ์??? ด้านหลังปราสาท ซึ่งสลักบนหินธรรมชาติ


ภาพปราสาทประธานจากด้านข้าง


ภาพจากบนสุดของปราสาท


ตัวปราสาทด้านหน้า อีกที


บันไดขึ้นจากด้านบนสุด จะเห็นว่าชันมาก
และจะเห็นว่าต้นจำปาลาวเต็มสองข้างบันไดเลยทีเดียวครับ




ความยิ่งใหญ่ของปราสาทวัดพู คงเทียบได้กับความยิ่งใหญ่ของปราสาทพระวิหาร (ซึ่งผมยังไม่ได้ไป)
เมื่อเขายกวัดพูเป็นมรดกโลกได้
ก็ไม่แปลกที่จะยกพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่ก็ควรจะยกทั้งหมด ไม่ใช่ยกเฉพาะตัวปราสาทบนเขา
การเมืองอีกแระ...ไม่เอา ไม่พูด!!!


แล้วจะมาใหม่ครับ
รูปอื่นๆ ขมกันได้นะครับ
//www.facebook.com/kruaun#!/album.php?aid=24320&id=100000819926742









Create Date : 19 ตุลาคม 2553
Last Update : 19 ตุลาคม 2553 23:06:01 น. 4 comments
Counter : 2712 Pageviews.

 
คิดเหมือนกันเลยค่ะว่าที่มุงจากไว้เนี่ยเก๋มาก


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:19:25:24 น.  

 


โดย: เชิญจุติ วันที่: 19 ตุลาคม 2553 เวลา:23:57:52 น.  

 
เคยดูรายการทีวีผ่านๆ นึกว่าเหลือแต่ซาก

แต่ดูจากบลอคนี้นี่ลายสลักยังสมบูรณ์อยู่มากเลยนะ


โดย: VET53 วันที่: 21 ตุลาคม 2553 เวลา:15:37:50 น.  

 
มาอ่านตอนแรกเลยทราบว่าเช่ารถไป..น่าสนค่ะ


โดย: Maew-Tua-Lek วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:19:58:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.