Bride to be::ลองชุดกันก่อนดีกว่า ^^
สวัสดีค่า~~~~หายหน้าไปพักนึง หลังจากที่มาเกริ่นถึงงานแต่งงานของจขบ.ไปแล้ว แฮะๆ..ระหว่างที่หายหัวไปนี่มีเรื่องวุ่นๆๆหลายเรื่องสำหรับการแต่งงานที่ค่อนข้างกระทันหันของเรา เราไปดูฤกษ์กับอาจารย์ที่ทางบ้านเจ้าบ่าวนับถือเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 54 และอาจารย์บอกว่าฤกษ์ที่ดี่สุดของเราสองคนคือวันที่ 9 พ.ค. 54 หันไปมองสบตาเจ้าบ่าวแว๊บนึง...ใจก้อคิดว่าคงเร็วไปมั้ง เตรียมตัวไม่ทัน..แต่ วท.เจ้าบ่าวพยักหน้าตอบว่าทันครับ -_-" *O*... กรี๊ดดดด..มีเวลาแค่สามเดือนกับอีกกะตึ๊งนึง..ช้านจะเตรียมตัวทันม้ายยย..คนอื่นเค้าเตรียมกันเป็นปี ตัวยังผอมกะหร่อง..หน้าก้อสิวเขรอะ..ตัวตากแดดมายังไม่หายดำเลย เข้าคอร์สเจ้าสาวจะทันมั้ย *&%^#@&^$+_! บลาๆๆๆ ตอนนั้นสมองมันฟุ้งไปหมด คิดไรมั่วซั่ว แล้วที่คิดออกมาแต่ละอย่างก้อไม่ได้มีประโยชน์เลย... พยายามตั้งสติ ตัดเรื่องฟุ้งซ่านออกไปก่อน ดีที่ว่าเราหาข้อมูลงานแต่งมาบ้างพอสมควร (แต่จะบอกว่าไอ้ที่หามา พอเอาเข้าจริงๆแล้วไม่ได้ทำตามที่คิดไว้เลย..แค่คิด..จะเอายังไงก้อได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วมันถูกจำกัดด้วยอะไรหลายๆอย่าง) เรื่องแรกที่เราให้ความสำคัญก่อนเลยคือเรื่องสถานที่ เพราะค่าใช้จ่ายหลักจะอยู่ที่นี่ แต่เราจะมารีวิวเรื่องสถานที่ทีหลัง เพราะมันจุกจิกมากกก ตอนนี้ขอรีวิวเรื่องชุดแต่งงานที่ไปลองมาก่อนแล้วกัน (แล้วมันพล่ามอะไรมาตั้งนานวะ!!!! 555 อย่าถือสา จขบ เลยน้า~~มันบร้า..) เรื่องชุดแต่งงานเราตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะเช่า..ไม่เอาตัดเช่าเด็ดขาด ไม่รู้สิ..เราไม่มีแบบไหนที่ชอบเป็นพิเศษ ชุดราตรีขอให้เป็นเกาะอก ส่วนชุดไทยก้อขอเป็นสีชมพู.....แล้วที่เหลือก้อตามแต่จะพิจารณา และเราชอบที่จะเห็นและลองใส่ก่อนมากกว่าว่าเราชอบมันจริงๆมั้ย คือ..บางทีจินตนาการ ความคาดหวัง กับความเป็นเป็นจริงมันก้อไม่ใช่เรื่องเดียวกันเสมอไปนะ ^^ เอาหล่ะ..พอคิดได้ดังนี้ เราก้อมุ่งหน้าไปหาร้านเช่าชุดกันเลย....... ร้านแรกที่เราคิดว่ายังไงๆก้อต้องไปดูให้ได้คือน้องตั๊ก Fullrich.. ติดตามผลงานเค้ามานาน ชอบที่โครงของเค้า งามมากกพอไปดูแล้วก้อไม่ผิดหวัง บริการดีเลิศสมคำร่ำลือ ชุดเยอะ สวยๆทั้งนั้น แถมให้ลองกันจนเมื่อยไปข้างนึง... แต่ติดนิดนึงว่าชุดที่เราชอบราคาเช่ายังสูงอยู่ เจ้าบ่าวไม่อนุมัติ..ตอนนั้นงอนกันไปเลยหล่ะ แต่ตอนหลังพอเห็นค่าใช้จ่ายที่เข้ามาเรื่อยๆก้อนะ..เอาที่สวยน้อยลงหน่อยก้อได้(วะ) มาดูชุดร้าน Fullrich กันจ้า...เริ่มด้วยชุดไทย ส่วนที่เราชอบในชุดไทยของ Fullrich คือถึงแม้เค้าจะทำเป็นชุดไทบแบบสำเร็จ คือเย็บท่อนล่าง+บนติดกันเลย แต่ตรงรอยต่อช่วงเอว เค้าทำเสมือนเรานุ่งสด ไม่ใช่ชุดสำเร็จ ทำให้เราดูมีเอวมากขึ้น ลองหลายชุด แต่คัดเอามาเฉพาะที่ชอบ มามะตามมาดู ชุดนี้เห็นแล้วปิ๊งทันที..สไบสวยยย เป็นลูกไม้สีโอวัลตินทั้งผืน งามมม แต่พอรู้ราคาเช่าแล้วก้อต้องทำใจ เพราะเราเช่าเป็นมือที่สองราคาเลยยังสูงอยู่ ดังนั้น เลยบอกงบประมาณกับพี่โสไปว่าเราอยากได้ราคาที่ไม่แพงมาก พอจะมีชุดไหนเข้าข่ายได้บ้าง..ก้อได้เป็นชุดนี้มา ชุดนี้ก้อสวยยยย...เจ้าสาวที่สั่งตัดน่าจะหุ่นเหมือนเราแน่ๆ เพราะใส่ออกมาแล้วเป๊ะมากๆๆ ทั้งอก เอว สะโพก ความยาว เรียกว่าไม่ต้องแก้ไขกันเลยทีเดียว ส่วนราคาลดลงมาจากชุดแรก..ชักเข้าเค้า แค่ก้อยังเกินงบไปนิดนึง เก็บไว้ในใจ ลองดูชุดต่อไปก่อนดีก่า (ขอบังหน้านิดนึง..รูปนี้ไม่ไหวจิงๆ หน้าอึนมากกกก) ตอนแรกเห็นแขวนอยู่ก้อไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่..มันดูหมองๆ แต่พอใส่เท่านั้นแหละคุณขา...ชอบมากกกก สไบสีทองขับผิวดูผ่องขึ้นมาทันที (ดูเฉพาะชุดอย่าดูหน้า จขบ นะ เยินมากกก) แถมไม่โ ปกปิดความแห้งของเราได้มิดชิดชอบกว่าชุดแรกอีก แถมราคายังถูกกว่ากันเกินครึ่ง หมายตาชุดนี้ไว้ก่อนเลย ^^ มาต่อกันที่ชุดราตรี.... เช่นเคย เราบอกงบประมาณของเรากับพี่โส แล้วพี่โสก้อจัดมาให้ชุดใหญ่เลย..เฮ้อออ ลองจนเหงื่อตก โครงเค้าสวยจริงๆ บริเวณหน้าอกเนียนกริบทุกชุดนี่ขนาดไม่ได้ส่งตัดตามขนาดเรานะ ขนาดเราเป็นผู้หญิงตรงๆ (ไม่มีเอว) กังวลอยู่ว่าใส่ชุดแต่งงานแล้วจะไม่สวย แต่ชุด Fullrich ช่วยด้ายยย ใส่แล้วมีเอวทุกตัว >_< ชุดนี้น่ารักดี..เรียบร้อยแบบหวานๆ มีโบว์ข้างหลังด้วย แต่เรารู้สึกว่ามันดูเป็นชุดราตรีไปหน่อย..เก็บไว้ก่อนละกัน ชุดนี้ก้อพอใช้ได้ แต่ก้อยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ (นี่ขนาดว่าไม่เรื่องมากนะเนี่ย -_-") และแล้วก้อมาเจอชุดนี้...ชอบมากก โดยเฉพาะช่วงหน้าอก จับเดรปงาม มีโบว์ด้วย รูสึกว่าใส่แล้วน่ารักเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยๆ (คิดไปนั่น) แต่ไม่ค่อยชอบกระโปรงแฮะ เจ๊เราก้อปลื้มมากกก ขนาดๆร่ำจะวางมัดจำชุดให้ได้ กลัวว่าคนอื่นจะมาจองตัดหน้า..... เราก้อชอบมากเหมือนกัน แต่ต้องห้ามใจไว้ก่อน ราคาชุดนี้แพงกว่าทุกชุดที่เราลอง และอย่างน้อยเราก้อน่าจะส่งรูปให้คุณว่าที่ช่วยดูให้ด้วยว่าเค้าโอเคมั้ย..เพราะงานแต่งไม่ใช่ของเราคนเดียวนี่เน๊อะ (เราไปลองชุดกับแม่อ่ะค่ะ คุณว่าทีทำงานอยู่ต่างจังหวัด มาดูด้วยไม่ได้) คิดได้ดังนั้นก้อตัดใจบอกกับพี่โสว่าขอกลับไปคิดดูก่อน ทั้งๆที่ใจเนี่ยตัดสินใจจองทั้งสองชุดไว้ได้แล้ว ทางร้านก้อดีมากกกกไม่มีแสดงอาการไม่พอใจหรือบังคับให้จองเลย แถมยังบอกว่าให้เราค่อยๆดูค่อยๆตัดสินใจ ถามเจ้าบ่าวดูก่อนจะได้สบายใจ (สงสัยพี่เค้าคงเห็นเจ๊ของเราบอกว่าให้จองเลยๆๆๆ แต่เรายังอิดออดขอกลับไปถามเจ้าบ่าวก่อน 555) สุปแล้วก้อไม่ผ่านการอนุมัติงบประมาณจากเจ้าบ่าว..อดเลย เสียดายนะใครๆก้ออยากสวย แต่ต้องทำใจ งบเราบานปลายจิงๆ หลังจากนั้นเลยพยายามมองหาร้านเช่าชุดที่มีขาย package ถ่ายรูปด้วย ราคาจะได้ถูกลง และขอที่ใกล้บ้านหน่อยเวลาเดินทางจะได้สะดวก เฮ้อออ..ร้านที่ชั้นหมายตาไว้ก้ออยู่ไกลๆทั้งน้านนน เหลืออยู่ไม่กี่ร้านเองที่อยู่ในวงโคจร... และเราก้อตัดสินใจมาที่ร้าน 898loveare ของพี่พอลล่า ร้านนี้ไม่ใกล้ไม่ไกล(แต่รถติด) แถวๆหน้าราม ราคา package ถูกมากกกก ดึงดูดใจอย่างยิ่ง ลองอยู่หลายชุด แต่เรายังไม่ถูกใจเท่าไหร่..ชุดแต่งงานเค้ายังไม่ใช่แนวที่เราชอบ เราคิดว่าร้านนี้เค้าไม่ได้เป็นแนวตัดชุดเอง ออกๆแนวซื้อชุดมาแล้วเอามา adapt เพิ่มอะไรประมาณนั้น(ตามความคิดเรานะ) รู้สึกว่าแบบของเค้าเราเห็นอยู่ในเว็บขายส่งชุดแต่งงานหลายเว็บเลยอ่ะ แต่ต้องบอกจริงๆว่าร้านนี้จุดเด่นอยู่ที่เรื่องราคาที่ถูกจนเหลือเชื่อแถมมีผ่อน 0% ด้วยนะเธอ!!!! เอาเป็นว่าถ้าเราคิดเทียบราคาเช่าชุดบ่าวสาวจากร้าน Fullrich ร้านนี้สามารถได้ทั้งชุดวันจริง ทั้ง pre-wedding แถมอัลบั้ม LCD อีกต่างหาก OMG!! ลองดูรูปละกัน... (ถ้าเห็นหน้าวทจส แล้วอย่าตกใจจนเลิกดูไปซะก่อนนะ...วันนั้นไม่ไหวแล้ว เครียดกับเรื่องสถานที่จนไมเกรนขึ้น ส่วนจะเครียดอะไรนักหนานั้น..ติดตามได้ในบล็อคถัดไป coming soon!) ชุดนี้ก้อน่ารักดี ชอบตรงเกาะอก มันทำให้เราดูอวบมากขึ้น แต่ด้วยความที่เคยเห็นชุดนี้ในเว็บขายส่ง..เลยขอผ่าน.. ชุดนี้พี่พอลล่าเชียร์ให้ลอง..แต่เราว่าดอกมันอลังการไป เหมาะกับใส่ถ่าย pre-wedding แต่ไม่เหมาะอย่างแรงในวันแต่งจริง แถมเป็นอีกชุดนึงที่เห็นตามเว็บขายส่ง...ขอผ่านอีกเช่นกัน ชุดนี้ก้อพอได้อยู่นะ แต่แอบติผ้าที่ทำกระโปรง มันเป็นเหมือนผ้าแก้วมันๆ มันเลยดูแปลก แต่แอบคิดในใจว่าที่ลองมา ชุดนี้ใส่ออกมาก้อสวยดี แต่คุณปู้ชายไม่ชอบลายปักสีเงิน..เลยตกไปตามระเบียบ ชุดไทยสีชมพูหนึ่งเดียวในร้าน..สีสวย หวานดี แต่ใส่แล้วเป็นคนตรงๆมากเลย อดไปตามระเบียบ เริ่มเมื่อยมือแล้วแฮะ..เอาน่าสู้ๆ เหลืออีกแค่สองร้านเอง ร้านต่อมาที่เราได้เข้าไปลองคือร้าน Debride Club ร้านอยู่เลยแยกเหม่งจ๋ายไปหน่อย เดินทางสะดวกนะ ขับรถจากบ้านเราถ้ารถในซอยไม่ติด ไม่เกิน 20 นาทีก้อถึง เนื่องจากเป็นร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ (เห็นพี่แจ็คบอกวันที่เราไปลองชุดครั้งแรกร้านเพิ่งเปิดได้ 6 เดือนเอง) บรรยากาศภายในร้านเลยดูใหม่ ดูดีมากๆๆ มองไปทางไหนก้อเป้นระเบียบ ชุดก้อยังใหม่เพราะเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ขอลองชุดตามระเบียบ.... ชุดนี้คุณผู้ชายชอบ แต่เราว่ามันเรียบไปสำหรับเรา (ที่จริงชุดเป็นเกาะอก แต่ที่เห็นสายๆนั่นสายเสื้อในเรานะ ไม่ได้มากับชุดจ้ะ) เพราทั้งชุดจะมีปักแค่ช่วงใต้อกแค่นั้น..กระโปรงเป็นขยุ้มๆ แต่จับเดรปช่วงอกสวยเนียนกริบ.. ชุดนี้ตอนไปลองยังปักไม่เสร็จ สวยดีเหมือนกันถึงแม้จะไม่ใช่เกาะอกตามคอนเซ็ปต์ >_< แต่เราใส่แล้วเป็นคนตรงๆหาเอวไม่เจอ ชายกระโปรงเต่อไปนิด วันจริงเราต้องใส่ส้นสูงกว่านี้อีกคงยิ่งเต่อไปกันใหญ่ ชุดนี้ไม่ไหว..ตันมากๆๆๆๆ ชุดนี้เรามาเจอกันเมื่อสายไป...เนื่องจากวันแรกที่ไปลองเราไม่เจอชุดนี้ และก้อไม่มีชุดไหนที่โดนสุดๆ เราเลยตัดสินใจไปเช่าชุดจากอีกร้านนึงแทน ทั้งๆที่ package ที่เราซื้อไว้ก้อให้ชุดวันงานสองชุดแล้ว (อยากบอกว่าชุดคล้ายกันมากๆ ถ้าเราไม่ด่วนตัดสินใจเช่าที่อื่นก่อน เราก้อจะเอาชุดนี้แหละ) อาจจะงงๆ คือเรามาลองชุดที่ร้าน debride หลายครั้งมากๆๆๆจนเกรงใจ แต่พี่แจ็คกับพี่เอ๋ ก็มี service mind ดีมากๆๆ ด้วยเช่นกันที่อดทนกับความจุกจิกของเรา (ไหนหล่อนบอกไม่เรื่องมากไง!!) ด้านหลังค่า~~~เลือกได้ว่าจะเอาโบว์หรือกุหลาบ..แต่เราว่าโบว์น่ารักกว่า ชุดไทยสีชมพูกลีบบัวค่า...ถึงจะเป็นสีชมพูชุดเดียวในร้าน แต่เราก้อถูกใจที่ซู้ดดด เลือกโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย (ถึงจะดูไม่มีเอวก้อเถอะ..) ชุดสุดท้าย..อิอิ เป็นชุดแบบสั้นค่า ด้วยความเรื่องมากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และมีอารมนึงอยากใส่ชุดแบบสั้นด้วย เลยได้เป็นภาพนี้มา น่ารักดีนะ ตอนแรกกะใส่ไปยกน้ำชาที่บ้านเจ้าบ่าว แต่ก้อเป็นอันยกเลิกไปเพราะอะไรเอ่ย???(เจ้าบ่าวไม่อนุมัติอีกตามเคย -_-") สรุปแล้วเราก้อจอง package ที่ร้าน debride club ซึ่งเค้า co กับทาง Cozyloft ที่ทำด้านสตูดิโอคุ้มมากๆๆๆๆ เด่วจะมารีวิวอีก blog นึงนะ แต่ในส่วนของ package ที่รวมชุดบ่าวสาวคนละ 2 ชุด ของเราเลือกเป็นชุดไทยทั้งสองชุดเลย (สีชมพูกับสีครีมที่ไม่ได้ถ่ายรูปตอนลองไว้อ่ะ) สงสัยใช่มั้ยว่าเราเลือกชุดงานกลางคืนที่ไหน....นี่เลยร้าน Jira Bridal ด้วยความที่ว่าร้าน Jira เป็นทางผ่านเวลาที่เราจะมาร้าน Debride เราเลยจอดรถแวะดูเผื่อเจอชุดถูกใจ(เพราตอนนั้นยังไม่ถูกใจชุดไหนเลย) ร้าน Jira เค้ามีสองสาขา เรามาแวะดูที่สาขาห้วยขวาง ซึ่งรู้สึกว่าชุดจะน้อยกว่าสาขาที่สุขุมวิท ประกอบกับร้านที่กำลังปรับปรุงอยู่ด้วยเลยไม่ได้ทำชุดใหม่ออกมา ชุดมีให้เลือกไม่มาก ถึงแม้ชุดจะดูหมองๆหน่อยแต่ปักอลังการจิงจัง..บางตัวเราจะยกมาดูต้องเกรงแขนแทบแย่ ก้อเล่นปักซะทั้งตัว!!! งามจริงๆๆๆ แต่ชุดที่ร้านส่วนใหญ่เป็นชุดมีแขน มีแบบเกาะอกอยู่ไม่กี่แบบ และอย่างที่บอก หนักมากกกก ปักอลัง..พองฟูอลัง ไม่ไหวๆ เราต้องแบกน้ำหนักไม่ไหวแน่ๆ แต่กลับไปถูกใจกับชุดนี้ ไม่มากไม่น้อยเกินไปเป็นชุดเดียวที่ลองแล้วตัดสินใจทันที ชั้นจะเอาตัวนี้ (ก่อนจะจองก้อมีแอบสอบถามราคานิดนึง..พอทราบราคาแล้วตาลุกวาวววว โอ้วววถูกกว่าที่คิดไว้เยอะเลยอ่ะ อย่างนี้ไม่ต้องคิดมาก ถึงแม้จะมี package ร้าน debride อยู่แล้วก้อเหอะ) อิอิ ด้านหน้าดูเรียบร้อย แต่แอบเซะซี่ที่ด้านหลัง ^^ ปักแค่ช่วงบนและตรงชายกระโปรง ด้านหลังจับขยุ้มเล็กน้อยพอกรุบกริบ แถมมีโบว์ช่วยเพิ่มตูสสอีกต่างหาก มีแต่คนบอกว่าด้านหลังสวยกว่าด้านหน้า...หมายถึงหน้าหรือชุดฟร่ะ... แต่ขอเสียของกระโปรงเรียบๆแบบนี้คือมันเห็นรอยสุ่มด้านในง่าย(หรือเราใส่ไม่เป็นหว่า) วันงานต้องจัดดีๆ เผลอเมื่อไหร่เห็นรอยสุ่มทู้กกที เห็นมะ สุ่มมาให้เห็นโดยไม่ได้รับเชิญ!!!! ประสบการณ์การลองชุดแต่งงานของเราก้อมีเท่านี้แหละค่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองลองเยอะหรือน้อย เพราะบางคนบอกว่าต้องลองหลายๆๆๆๆร้านกว่านี้เพื่อที่จะเปรียบเทียบดูว่าเราชอบอันไหนที่สุด..อันนี้ก้อแล้วแต่วิจารณญาณส่วนบุคคลก้อแล้วกันนะคะ แต่เราคิกว่าแค่นี้ก้อพอแล้ว เราได้ชุดที่เราพอใจแล้ว ก้อสมควรพอใจได้แล้ว..หยุดแล้วเอาเวลาไปเตรียมอย่างอื่นดีกว่าเน้อ~~~~
Free TextEditor
Create Date : 16 มิถุนายน 2554 |
| |
|
Last Update : 16 มิถุนายน 2554 18:18:43 น. |
| |
Counter : 17833 Pageviews. |
| |
|
|