:: เที่ยวตรุษจีนที่ปั้มพัฒนาผลปิโตรเลียม เพชรบูรณ์ ::
เมื่อวานนนี้ตรงกับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 25454 เป็นวันชิวอิก หรือว่าวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน ตามปกติแล้วที่บ้านจะหยุดทำงานทุกอย่าง ปิดบ้านและได้ไปเที่ยว ปีนี้เราเลือกการไปพบปะสังสรรค์กันระหว่างญาติพี่น้อง
ตื่นที่นอนปกติยามเช้าเหมือนนาใกในร่างกายทำงานจนชิน แม้วจะรู้ดีว่าวันนี้ตื่นสายได้ไม่ต้องรีบลุกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ที่โกดัง ว่าจะนอนเล่นต่อแต่ไม่ไหวแล้วลุกขึ้นมาชวนคุยกับที่บ้านถามอาปากับแม่ว่าจะไปไหนดี เพราะทั้งคู่เพื่งไปเที่ยวตลาดสามชุกสุพรรณีบุรีเที่ยวตลาดต่างๆทั่วไปในภาคกลาง ทั้งคู่พร้อมใจกันบอกว่าไม่ไปตลาดแล้ว
ยังเหลือฉันคนเดียวที่เบื่อที่จะอยู่บ้านเพราะธรรมดาเราต้องออกไปข้างนอกทุกปี แหม ตรุจีนวันเที่ยวจะมีมาเยือนแค่ปีละครั้ง จะนอนอ่านหนังสือเล่นวันนี้ก็กระไรอยู่ ทีวีก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ระหว่างที่เตรียมตัวหาข้าวเช้ากันอยู่เมื่อทานข้าเสร็จ ฉันนั่งหาข้อมูลเกี่ยวกับตลาดที่น่าเที่ยวในอินเตอร์เน็ตว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้างไปตลาดไหนดีที่ใกล้กับบ้านเรา แบบไปเช้าเย็นกลับได้ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องทำงานต่อ
ระหว่างที่หาแหล่งเที่ยวอยู่นั้นรถของอาที่แต่งงานแยกครอบครัวออกไปแล้วแวะมาเที่ยวที่บ้านพอดี พออาเอารถมาจอดที่หน้าบ้าน มีอากับลูกชายคนเล็ก แวะเอาเป็ดพะโล้มาให้ ฉันลุกขึ้นละสายตาจากหน้าจอ แสดงความดีใจจนออกนอกหน้า มีคนที่เราจะไปเที่ยวด้วยแล้ว
" ไปเที่ยวสมอทอดกันไหม " ระหว่างที่เดินจากรถเข้ามาในบ้าอาชวนฉัน "ไปซิอากู ไปเลย " ฉันเรียกอาว่าอากุ แปลว่าน้องสาวของพ่อในภาจีนแคะหรือฮากกา
ฉันเห็นด้วยอย่างคนที่คิดไม่ออกว่าจะไปไหน ทางอาปากับแม่ยังนิ่งเฉย แบบหยั่งใจ "
พอดีที่บ้านมีลูกค้าทำบุญข้าวหลามประจำปี มีคนเอาข้าวหลามมาแจกเจ้าละสองกระบอก รวบรวมไว้ได้เป็นกระบุงใหญ่ ฉันเตรียมใส่ถุงไปฝากบ้านอากูที่มีลูกน้องช่วยทำขนมเปี๊ยะไหว้เจ้า นั่งคุยกันพักใหญ่ในที่สุดทั้งอาปาและแม่ต่างลงความเห็นว่าไปไหนไปกัน เอารถอากูจอดไว้ที่โรงรถที่บ้าน แล้วเอารถที่บ้านฉันไปแทน
ระหว่างทางโทรไปบอกเจ๊ๆที่อยู่ทางโน้นว่าจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนกัน ที่บ้านเจ๊ก้หยุดงานกันแต่มีที่ปั้มหยุดไม่ได้เพราะเป็นธุรกิจที่ต้องให้บริการนักเดินทาง
พอโทรไปบอกเจ๊บอกว่าคนไม่เยอะมากนัก ไม่เหมือนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ที่นั่นต้องเปิดโกดังสินค้าด้านหลังให้ลูกค้าปั้มจอดรถด้านใน เพราะรถแวะที่ปั้มเยอะมาก ตรุษจีนปีนี้ไม่ตรงกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ด้วย
พอไปถึงเจ๊ชวนไปกินอาหารกลางวันที่วิเชียรบุรีที่นั่นมีส้มตำไก่ย่างอร่อยๆที่นักเดินทางชอบไปแวะชิมระหว่างเดินทาง พอพวกเราไปถึงที่สมอทอดนั่งเล่นที่บ้านสักพักก็ไปทานกลางวันกันต่อที่ไก่ย่างบัวตอง ที่อ.วิเชียรบุรี ออกจากซับสมอทอดไปประมาณ 10 กิโลกว่าก็ถึงร้านแล้ว
พอเห็นคนที่กำลังนั่งกินอาหารอยู่ที่ร้าน ระว่างที่เจอกันส่วนใหญ่คุยเรื่องกิจการการค้า การขยายกิจการที่ปั้มที่คนเริ่มทะยอยมาใช้บริการมากขึ้น รวมทั้งคุยเรื่องการแก้ชงสำหรับคนที่เกิดปีชวด เถาะ มะเมียและปีระกา
ตอนแรกคิดว่าลุกค้าที่ร้านคงไม่เยอะมากนักคะเนผิดเสียแล้ว เจ๊บอกว่านี่ยังน้อยกว่าตอนปีใหม่ เพราะปีใหม่ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันจับจองที่นั่ง ขนาดของร้านมีเก้าอี้เยอะมายังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลุกค้า ทางร้านต้องประกาศว่า ทางไมโครโฟนแจ้งลูกค้าที่ทะยอยกันเดินทางมาในร้านอย่างไม่ขาดสายว่าของในครัวไม่พอต่อคนที่จะมารับประทาน คนเสริ์ฟก็ไม่ไหวเลยเดินจนแข้งขาอ่อนแรง เห็นอย่างนี้แล้ว ใครว่าเศรษฐกิจไม่ดี อาจเปลี่ยนใจได้เมื่อมาเห็นร้านส้มตำร้านนี้
เรื่องและภาพ
โดย
KorP@i
Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554 |
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2554 15:12:46 น. |
|
1 comments
|
Counter : 448 Pageviews. |
|
|