Group Blog
 
All blogs
 

ป๋า กับ หลอดเลือดหัวใจตีบ


ก่อนวันสิ้นปี ป๋าบ่นๆ ว่าไม่ค่อยสบาย และแวะไปหาหมอที่คลีนิค คุณหมอตรวจแล้วนัดมาเจาะเลือดในวันที่ 1 มกรา ประเดิมวันปีใหม่กันเลยทีเดียว ระหว่างนั้นป๋าก็ยังไม่ดีขึ้น

3 มกรา

ป๋ารู้สึกแน่นหน้าอกนิดหน่อย ไม่สบายตัว บอกไม่ถูก เลยไปตรวจที่ รพบ.ที่บ้าน ปรากฎว่าหมอสั่งแอ๊ดมิตเลย ให้อ๊อกซิเจนด้วย แต่ไม่ให้ย้ายเข้าห้องพิเศษ ป๋าเลยนอนไม่ค่อยหลับ

4 มกรา

วันนี้ได้ย้ายเข้าห้องพิเศษ เราโทรติดต่อกะน้องสาว น้องก็โทรไปคุยกะพี่แฟนที่เป็นหมออีกที สุดท้ายได้ติดต่อคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่ รพบ.มอ.หาดใหญ่ ชื่อคุณหมอนพดล ชำนาญผล คุณหมอนัดให้ไปตรวจพรุ่งนี้ ที่คลีนิคนอกเวลาของรพบ. มอ.

5 มกรา

ไปตรวจที่ มอ. คุณหมอถามว่าเวลาออกกำลังหรือทำอะไรแล้วเหนื่อยมั๊ย ป๋าบอกว่าไม่อ่ะ อยู่เฉยๆ ก็เหนื่อย คุณหมอซักถามอยู่นานพอสมควร ก็บอกว่าไม่น่าจะเป็นอะไร แค่หัวใจเต้นไม่ปกติ เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า ให้ยาและนัดมาวิ่งสายพานวันที่ 10 มกรา .. ค่อยโลงอกไปที่ไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรงเกี่ยวกับหัวใจ

10 มกรา

ไปตรวจอัลตร้าซาวด์ ตรวจคลื่นหัวใจ และวิ่งสายพาน คุณหมอบอกว่า ตอนวิ่งสายพานมันมี 'หลักฐาน' แสดงว่า ออกกำลังกายแล้วเหนื่อย ไม่เหมือนกับที่ป๋าบอกว่าอยู่เฉยๆ แล้วเหนื่อย คุณหมอเลยนัดให้มาฉีดสีในวันถัดไป และอธิบายให้ฟังว่า ถ้าเจอว่าเส้นเลือดตีบ ก็จะทำบอลลูนให้เลย แต่ถ้าอาการหนักทำไม่ได้ ก็ต้องส่งไปทำบายพาสอีกที

ซึ่งอันหลังนี้นับว่าน่ากลัวมาก มีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตถึง 5% คุณหมอพูดพร้อมยกมือทำท่าประกอบ .. แบบว่าเห็นท่าทางคุณหมอแล้วน่ากลัวมาก อิชั้นมึนไปเลย คุณหมอบอกว่ามันต้องผ่าตัดใหญ่ เปิดอก เอาหัวใจมาทำอะไรซักอย่างให้หยุดเต้น กี่วินาที กี่นาที จำไม่ได้แล้ว เพราะตอนนั้นหัวหมุนแล้ว รู้แต่ว่าขออย่าให้ป๋าเป็นเยอะขนาดนั้นเลย

คุณหมอบอกว่าเครื่องที่วิ่งสายพาน ผลตรวจที่ผ่านมาค่อนข้างมั่นใจได้ว่าถ้าเครื่องฟ้องว่าเป็น คือน่าจะเป็นจริงๆ ไม่ค่อยผิดพลาด แต่เขาดูจากกราฟหรืออะไร เราไม่รู้เพราะเขาไม่ได้ให้เข้าไปดูด้วย ได้แต่มองๆ จากด้านนอก มันก็เหมือนเครื่องวิ่งออกกำลังกายในบ้านนี่หล่ะ ป๋าเราวิ่งแค่ 3 นาทีเองก็รู้ผลแล้ว ตอนรออยู่ด้านนอกก็ลุ้นๆ เพราะมีคนบอกว่าบางคนวิ่งๆ แล้วเดตไปเลยก็มี .. เหอๆๆ .. โชคดีที่พ่อเราวิ่งแค่ 3 นาทีเอง ไม่ต้องลุ้นนาน

11 มกรา

เข้าแอ๊ดมิตที่ รพบ. ตึก ฉบ. 11 ตั้งแต่เช้า ก่อนฉีดสีป๋าเราต้องกินยาอะไรซักอย่างด้วย กิน 6 เม็ด 2 วันติดกัน เพราะป๋าเคยมีประวัติแพ้ยาฉีดสีด้วย

กว่าจะถึงคิวก็เป็นตอนเย็นๆ เพราะของป๋าทำเป็นกรณีนอกเวลา ตอนแรกคุณหมอบอกว่าถ้าเส้นเลือดตีบ ทำบอลลูนได้ก็จะทำไปเลย ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องบายพาส ป๋าเข้าไปประมาณ 1 ชั่วโมง คุณหมอก็ออกมาเรียกเราไปดูภาพหน้าจอ ป๋ามีเส้นเลือดตีบหลายๆ จุด เส้นใหญ่ก็ตีบ เส้นฝอยๆ ก็ตีบ คุณหมอเลยบอกว่าขอหยุดไว้ก่อนเพื่อรอปรึกษาคุณหมอท่านอื่นๆ ที่จะมาจากกทม. เพื่อประชุมอาทิตย์หน้า ดูก่อนว่าจะทำยังไงดี และนัดอีกทีวันที่ 26 มกรา

ตอนนั้นก็เครียดๆ เพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะฟังคุณหมออธิบายแล้วก็งงๆ ว่าตกลงป๋าเราอาการเยอะแค่ใหน ตอนหลังรู้จากน้องสาวว่าคุณหมอคุยกับพี่แฟน บอกว่าของป๋าหน่ะเส้นเลือดตีบไป 3 เส้น และฟังดูเหมือนว่าเป็นเยอะด้วย เห็นว่าตีบไปถึง 60% แล้วด้วย (ซึ่งมารู้ที่หลังว่าน้องเรา หรือเราคงฟังผิดไปเอง มันไม่ได้เยอะขนาดนั้น)

ตอนป๋าออกมา ก็ไม่กล้าเล่าอะไรมาก กลัวป๋ารับไม่ได้ (เพราะตอนแรกเราเองก็นึกว่าเป็นเยอะ) บอกไปแค่ว่าคุณหมอขอปรึกษาคุณหมอท่านอื่นๆ จากกทม.ก่อน แล้วค่อยว่ากัน ป๋าก็คงคิดว่าตัวเองเป็นเยอะหล่ะ เพราะดูเครียดๆ เงียบๆ ไปเหมือนกัน

12 มกรา

ออกจากรพบ. กลับมาบ้าน คืนนั้นหลังเข้านอนป๋ามีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ค่อยออกอีก เรารีบโทรเรียกรถรพบ. มารับ ก็ต้องไปนอนสูดออกซิเจนที่นั่นอีก 1 คืน

13 มกรา

ตอนเช้าอาการดีขึ้นหมอให้กลับบ้าน พร้อมยาอมใต้ลิ้น เพื่อขยายหลอดเลือดกลับบ้านมาด้วย พยาบาลบอกว่าให้อมเวลาแน่นหน้าอก ทุกๆ 5-10 นาที ถ้าอาการไม่ดีขึ้น

ตกค่ำก็เป็นเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว เราให้อมยาไป 1 เม็ด แล้วรออีก 20 นาที เพราะไม่กล้าให้ติดๆ กันแบบพยาบาลบอก กลัวว่ามันเยอะเกิน แต่ก็ยังไม่ค่อยดีขึ้น เลยต้องส่ง รพบ.อีกรอบ

แต่พอดีตอนเข้า ER โชคดีที่พี่สาวของแฟนน้อง คุยกะหมอเวรวันนั้น ซึ่งก็เป็นหมอเด็กๆ นี่หล่ะ พี่เขาฟังแล้วแปลกๆ เลยรีบติดต่อคุณหมอนพดล คุณหมอรีบโทรมาคุยกะหมอที่นี่ แล้วบอกว่าฝากไว้ 1 คืน พรุ่งนี้ให้ไป มอ.เลย คุณหมอจะหาห้องไว้ให้ และจะติดต่อมาอีกทีว่าให้ไปยังไง พร้อมสั่งว่าถ้าคุณหมอไม่โทรมา ก็ให้เราโทรไปตอน 9.00 น.

คืนนี้หลังจากป๋าเข้าพักที่ห้องรวมเรียบร้อย เราก็เห็นว่าโทรศัพท์เราไม่มีสัญญาณ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะนึกว่าเตียงป๋าอยู่มุมอับสัญญาณแค่นั้น

14 มกรา

เช้านี้หงุดหงิดมาก เพราะโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณตั้งแต่เมื่อคืน เช็คไปเช็คมา ของชาวบ้านเขาก็เป็น แว่วๆ ว่าเมื่อคืนมีเหตุระเบิด เลยต้องตัดสัญญาณ .. ซวยแล้วสิ .. คุณหมอจะโทรมาอ่ะ .. ก็นั่งลุ้นไปเรื่อยๆ ว่าเมื่อไหร่จะใช้ได้ แต่ก็คิดหาวิธีไว้แล้วว่าถ้าถึงเวลายังใช้ไม่ได้ ก็คงต้องยืมของใครซักคนแถวนั้น ที่ใช้ระบบอื่นมาโทรหาคุณหมอแทน

เกือบๆ 9 โมง เห็นท่าไม่ดี รีบกลับบ้านไปใช้โทรศัทพ์บ้านดีกว่า พร้อมกับโทรบอกน้องสาวไว้ว่าโทรศัพท์เราใช้ไม่ได้ แต่ไม่ทัน 9 โมง น้องก็โทรมาบอกว่าคุณหมอติดต่อผ่านไปทางแฟนของพี่สาวของแฟนน้อง บอกว่าติดต่อเราไม่ได้ ให้เราโทรกลับด่วน น้องเลยโทรมาบอกเราอีกที เรารีบโทรไปเลย คุณหมอบอกว่าหาห้องให้ได้แล้ว ให้มาได้เลย .. โย่ว .. โล่งอก .. ขอบพระคุณมากๆ ค่ะคุณหมอ

ทีนี้ตอนออกจาก รพบ. คุณหมอให้เราไปเองได้ แต่พยาบาลที่นี่เขาไม่ยอม บอกว่าป๋าหัวใจเต้นช้ามาก ไม่น่าจะให้ไปเอง หมอที่นี่เลยจัดให้รถ รพบ. ไปส่ง โดยเราต้องจ่ายค่ารถเอง ซึ่งก็ไม่มีปัญหา ดีซะอีก ปลอดภัยดี

เป็นครั้งแรกที่ป๋านอนรถรพบ. ไปมอ. (ต้องบอกว่านอน เพราะนอนจริงๆ ไม่ใช่นั่ง) และเป็นครั้งแรกของเราเช่นกัน ที่ได้ใช้บริการรถหวอ ไปหาดใหญ่ (55) เราใช้เวลาเดินทางแค่ 1 ชม. แบบว่านั่งรถคันนี้แล้วเส้นใหญ่มาก ไม่ต้องติดไฟแดง ไม่ต้องจอดด่านตรวจ อิอิ (ชอบ .. แต่ขอไม่นั่งอีกแล้วนะ)

เราได้เข้าพักที่ ฉบ. 11 เหมือนเดิม แต่คนละห้องกะคราวที่แล้ว พยาบาลยังจำหน้าได้อยู่เลย

ตอนกลางคืนป๋าก็มีอาการแน่นหน้าอกนิดหน่อย อีกแล้ว แต่ที่นี่ เขาไม่ให้สูดออกซิเจนอ่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

15 มกรา

วันนี้คุณหมอมาตรวจแล้วบอกว่างง กะอาการป๋ามาก เพราะมันไม่เหมือนกะคนอื่น แล้วก็เป็นเฉพาะตอนนอน คุณหมอเลยให้ติด holter เป็นเครื่องติดตามการทำงานของหัวใจ

ตอนไปติดที่ศูนย์หัวใจ จนท. สั่งว่าให้กดปุ่มดำๆ ถ้ามีอาการหน้ามืด เหงื่อแตก จะเป็นลม เราบอกว่า ของป๋าเราไม่เคยมีอาการแบบนั้นนะ อย่างมากก็แค่แน่นหน้าอก ใจสั่น หายใจไม่ออก และถามว่าถ้าเป็นแบบนี้ต้องกดมั๊ย จนท. เขาบอกว่าไม่ต้อง .. คืนนั้นป๋าเป็นแค่แน่นหน้าอกนิดๆ เลยไม่ได้กดเครื่องซักครั้ง! เช้ามาป๋ายังบ่นๆ ว่า แหม เสียดาย พอติดเครื่องแล้วดันไม่มีอาการ (ประมาณว่าถ้ามีอาการ หมอจะได้ตรวจออกไงว่าเป็นอะไรกันแน่)

16 มกรา

เช้ามาคุณหมอผู้หญิงมาตรวจ เราเลยถามวิธีใช้เครื่องที่ถูก คุณหมอเลยบอกว่า ให้กดทุกครั้งที่มีความผิดปกติ ไม่ว่าจะอาการใหน พร้อมบอกว่า จนท. เขาก็แนะนำไปตามมาตรฐานทั่วไป (.. อ้าว ??)

วันนี้เลยต้องติดเครื่องต่ออีก 1 วัน คราวนี้กดไป 5 ครั้ง ทุกครั้งคือมีอาการหัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอกเล็กน้อย เป็นแป๊บๆ พอสูดหายใจลึกๆ อาการก็หายไป แล้วหลับต่อได้ เราก็งงๆ กะป๋าเหมือนกัน ว่าทำไมตอนอยู่บ้านดูเป็นมากกว่านี้เยอะ แต่พอมา รพบ. ทำไมไม่เห็นเป็นอะไรมาก

17 มกรา

คุณหมอเรียกไปถอด holter ออกตั้งแต่ช่วงบ่าย คงเพราะเมื่อคืนกดไปหลายครั้ง น่าจะเอาผลมาดูได้แล้ว บวกกับตอนไปศูนย์โรคหัวใจ ก็มีคนมาคอยติดเครื่องต่อแล้ว

ลืมเล่าไปว่าเครื่องนี้ราคา 2 แสนบาท ตอนใช้เขาสั่งว่าห้ามทำตก ห้ามเปียกน้ำด้วย

ตอนบ่ายคุณหมอมาบอกว่า ทุกครั้งที่ป๋ากด กราฟหัวใจก็ปกตินะ หมองงว่าทำไมป๋าถึงรู้สึกได้ถึงกับต้องกดเครื่อง สุดท้ายคุณหมอเลยบอกว่าเดี๋ยวเอาไปทำบอลลูนก่อนละกัน เราเลยถามว่าแล้วทำกี่เส้น คุณหมอบอกว่าแค่เส้นเดียวก่อน

18 มกรา

ป๋าได้คิวที่ 6 พยาบาลแจ้งว่าวันนี้จะมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญมาจากกรุงเทพ มาช่วยแนะนำคุณหมอด้วย .. ดีใจมาก รู้สึกขอบคุณคุณหมอมากๆ ที่ช่วยเวิร์คสุดๆ เพราะว่าคิวของป๋านั้นเป็นกรณีที่คุณหมอขอให้ทำเป็นกรณีเพิ่มเติมจากคิวปกติ ซึ่ง จนท.ก็แจ้งแล้วว่าอาจจะไม่ได้ทำถ้าคิวก่อนหน้าๆ ใช้เวลานาน หรือ มีคิวฉุกเฉินแทรกเข้ามา ซึ่งเราก็ยอมรับและทำใจไว้ล่วงหน้า แค่รู้ว่าคุณหมอช่วยขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว

บ่ายสองโมงกว่าๆ จนท.มาตามลงไปศูนย์หัวใจชั้น 9 ไปถึงถึงได้รู้ว่าคนที่มาก่อนหน้าๆ เขารอกันเป็น 2-3 ชั่วโมงแล้ว เลยบอกป๋าว่าใจเย็นๆ ไม่ต้องเครียด ต้องรออีกนานนนน เขาให้รอในศูนย์ฯ ซึ่งถ้าเป็นเรา เราคงเครียดเหมือนกัน มันเย็นมากๆ และอยู่ใกล้ๆ ห้องสวนหัวใจด้วย เลยบอกป๋าไปว่าถ้าเบื่อๆ ก็ทำเป็นไปเข้าห้องน้ำละกัน จะได้ไม่ต้องนั่งเครียดอยู่

ระหว่างรอคิวป๋า เราก็ถามๆ พี่ๆ แถวนั้นที่มานั่งรอญาติเหมือนกัน บางคนเข้าไปตั้งแต่เช้า ยังไม่ออกมาเลย ซึ่งมีสองคนที่ญาติเขาเป็นมาก่อนหน้านี้แล้ว เคยทำบอลลูนมาแล้ว ครั้งนี้มาทำเพิ่มอีก .. เหอๆๆ .. น่ากลัวอ่ะ

ตอนที่พี่ๆ เขาออกมาก็ถามๆ ว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่ละคนเนี่ยะเป็น 2 แสน 3 แสน เลยอ่ะ แต่ส่วนใหญ่เขาก็เบิกได้กัน จ่ายเพิ่มอีกไม่เท่าไหร่ .. เราก็นั่งนึกในใจ .. ตายละตรู บัตรเครดิต 2 ใบรวมกัน ยังไม่ถึงแสนเลย (55) .. งงเหมือนกันว่าทำไมเขาไม่บอกยอดเราก่อนหว่า แต่ก็คิดอีกทีว่า ปกส. คงจ่ายบางส่วนเหมือนตอนฉีดสีครั้งแรก และเราจ่ายเพิ่มบางส่วนแค่นั้น

กว่าจะได้ทำจริงๆ ก็ประมาณ 5 โมงครึ่ง ป๋าเดินเข้าห้องสวนหัวใจเองเลย ผ่านไป 1 ชม. 40 นาที คุณหมอออกมาตามให้พวกเราไปดูหน้าจอนั้นอีกแล้ว และอธิบายให้ฟังว่า ทำไป 1 เส้น ใส่บอลลูนไป 2 จุด ใส่ขดลวดไป 1 จุด แล้วเอาภาพครั้งที่แล้วมาให้ดูเปรียบเทียบ .. ป๋าออกมาจากห้องสวนหัวใจแล้ว นอนรู้ตัวดีอยู่ เลยเข้าไปคุยๆ รอเคลียร์เอกสาร แล้วก็กลับห้องได้

ค่าใช้จ่ายตามเอกสารทั้งหมด 2 แสนกว่า .. โฮก .. สูงมากๆ แต่ป่ามีประกันสังคม เลยไม่ต้องจ่ายอะไรเลย แต่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะบริจาคให้ศูนย์โรคหัวใจนี้หล่ะ แต่พอดีทุกครั้งที่ออกจาก รพบ. มันจะตรงกะวันหยุด ซึ่งมูลนิธิเขาปิด ต้องรอวันใหนที่คุณหมอนัดแล้วไม่ตรงวันหยุด ถึงจะได้ไปบริจาคจริงๆ

คืนนี้หลังทำเสร็จ คุณหมอยังคาเข็มเอาไว้ และจะเอาออกได้หลังจากทำเสร็จ 4 ชั่วโมง พอเอาเข็มออกแล้วก็ต้องกดไว้อีก 20 กว่านาทีให้เลือดหยุด แล้วหลังจากนั้นอีก 6 ชั่วโมงก็ห้ามงอขาเลย ต้องนอนนิ่งๆ เบ็ดเส็ดแล้วของป๋ากว่าจะได้นอนก็เกือบๆ 5 ทุ่ม ซึ่งคุณพยาบาลมาบอกให้ฟังเช้าอีกวันว่าตอนนั้นคุณหมอก็ยังมีเคสอยู่เลย .. เหอๆๆ เป็นคุณหมอนี่เหนื่อยจังเนอะ

19 มกรา

เมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลย เฝ้าดูป๋าไม่ให้งอขา .. มีแอบลืมตัวด้วย รีบลุกมาจับขาแทบไม่ทัน .. วันนี้คุณหมอมาตรวจตั้งแต่ยังไม่ 8 โมง ทั้งๆ ที่เป็นวันเสาร์ ญาติคนไข้อย่างเรายังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันเลย (แหะๆ) คุณหมอบอกว่าวันนี้ให้นั่งๆ นอนๆ รอดูอาการ เย็นๆ ค่อยออกไปเดินหน้าห้องได้

คืนนี้ป๋าหลับสบาย ถามดูเห็นว่ามีแน่นเล็กน้อย ครั้งเดียว

20 มกรา

วันนี้คุณหมอก็มาตรวจตั้งแต่เช้าอีกแล้ว คุณหมอให้กลับบ้านได้ และนัดมาตรวจอีกครั้งวันที่ 9 กุมภา

ตอนเข้ามาแอ๊ดมิตวันแรกๆ ป๋าฟันแตก เลยแวะไปร้านหมอฟันเพื่อนน้องสาว แต่ไม่ได้ทำอะไรมาก เพราะป๋ากินยาแบบที่ทำให้เลือดหยุดช้า ถ้าจะทำอะไรคงต้องรอถามคุณหมอก่อน เลยได้แค่อุดๆ ไว้ชั่วคราว ระหว่างนี้ก็ต้องระวัง ค่อยๆ กิน ค่อยๆ เคี้ยว

21 มกรา

ก่อน 9 โมง คุณหมอยังโทรมาถามว่าเมื่อคืนป๋าเป็นยังไงบ้าง มีอาการอะไรมั๊ย นับเป็นคุณหมอที่น่ารักมากๆ ซึ้งน้ำใจจริงๆ .. ป๋าก็บอกว่าหลับสบายดี ไม่มีแน่นหน้าอกแล้ว มีแต่อาการปัสสาวะบ่อย แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่เป็นอะไร เรารายงานว่าวันนี้จะให้กินข้าวข้างบนก็ไม่ยอม จะลงมาข้างล่าง คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไร ทำอะไรก็ได้ตามที่อยากทำ แถมสั่งป๋าด้วยว่า อย่าไปเชื่อญาติเยอะ .. 555 .. คุณหมอนะคุณหมอ เด๋วก็ทอดทิ้งคนป่วยซะหรอก!

ถึง ณ ตอนนี้ ป๋าหลับไปแล้ว หวังว่าจะหลับสบายไปได้ทุกๆ คืน ไม่กลับมาเป็นอีกแล้ว .. เมื่อคืนเรายังแอบสะดุ้งตื่นหลายรอบเลย เพราะมันติดจากตอนอยู่ รพบ.

ตอนนี้ที่บ้านก็เปลี่ยนวิถีชีวิตไปหน่อยนึง งดมื้อเบรคบ่าย กินข้าวก่อน 6 โมงเย็น หลัง 6 โมงแล้วจะพยามไม่ให้มีอะไรตกถึงท้อง เผื่อจะลดน้ำหนักได้บ้าง

บล๊อกวันนี้หลังจาก Publish แล้วคงยาวน่าดู น่าจะยาวที่สุดตั้งแต่เขียนมาแล้วมั้ง จริงๆ มันมีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่ไว้มาแก้ไขใหม่วันหลัง เพราะช่วงนี้ไปอีกนานเราคงไม่ว่างมากนัก กลัวว่าจะลืมเลยมาเขียนเป็นเบื้องต้นไว้ก่อน


ขอกราบขอบพระคุณ คุณหมอ นพดล ชำนาญผล และคุณหมอผู้ช่วย (ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้นะคะ)

ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ศูนย์โรคหัวใจทุกท่าน

ขอขอบคุณ คุณพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาลตึก ฉบ. 11 ทุกท่าน

และที่ลืมไม่ได้เลยคือพี่และพี่เขยของแฟนน้องสาว
ที่ช่วยติดต่อคุณหมอให้เรา และโทรสอบถามอาการตลอด


ขอบคุณภาพประกอบจากชาวบล๊อกแกงค์ซักท่านนึงนี่หละค่ะ





 

Create Date : 21 มกราคม 2551    
Last Update : 21 มกราคม 2551 22:57:34 น.
Counter : 5399 Pageviews.  

อ โ ร ค ย า ป ร ม า ล า ภ า

' ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ ' ---> สามสี่วันที่ผ่านมานี้ อยากให้คำนี้เกิดกับป๊ะป๋าเราเป็นที่สุด เพราะเพียงแค่ผ่านปีใหม่มา 1 วัน ป๊ะป๋าเราเกิดอาการแน่นหน้าอก ต้องพาไปส่งโรงพยาบาล ทำเอาทั้งคนไข้และญาติคนไข้ (คือเรานั่นเอง) เกิดอาการเครียดเลยทีเดียว

ใครไม่เจอกะตัว คงนึกไม่ออก .. ใบหน้าทั้งหน้า กดไปตรงใหนมันก็เจ็บๆ เหมือนคนปวดเมื่อย คงเพราะเกิดจากความเครียดนี่แหละ .. อารมณ์แบบว่า มีที่ใหนรับนวดหน้าบ้างมั๊ย อยากไปนวดดดดดดดดด!

จากคนที่เคยจำเลขบัตรประชาชนตัวเองได้หมด แต่พอเจอพยาบาลให้กรอกในใบยืมฟิล์มเอ็กซเรย์ เราต้องยืนคิดอยู่ตั้งนาน ว่าเลขตรูเลขอะไรวะ .. ปกติถ้าท่องเลขเริ่มต้นได้ ก็จะท่องออกมาได้หมดทั้ง 13 หลัก แต่วันนั้น แม้แต่ตัวแรก ยังนึกไม่ออกเลย .. ต้องบอกพยาบาลว่า "ขอยืมดูบัตรคุณหน่อยได้มั๊ย จังหวัดเดียวกัน ตัวเริ่มต้นคงเหมือนกัน" .. แบบว่าสมองไม่สั่งงานชั่วคราว นึกๆ แล้วก็ขำดี คิดหาวิธีไปได้นะตรู

แต่ในความเครียด เราก็ยังพอสบายใจขึ้นได้ เพราะได้เจอคุณพยาบาลที่น่ารักหลายคน .. อยากบอกว่าอาชีพนี้น่ายกย่องนะ .. ถึงจะอยู่กับคนเป็นโรค แต่เค้าก็ยังน่ารัก พูดจาโอภาปราศรัยดีมาก ต้องขอบคุณที่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น

แต่รู้สึกแย่ ที่ รพบ.ประจำจังหวัดเรา ไม่มีเครื่องมือเพียงพอ ที่จะใช้ตรวจได้ คุณหมอจะส่งไป รพบ.ใหญ่ในอีกจังหวัด เตียงก็ไม่ว่าง เพราะทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ เขาส่งไปที่นั่นที่เดียว .. ทำได้แค่รอ

เหอๆๆ .. โรคหัวใจ ใครจะอยากเสี่ยงรอ .. โชคดีที่ได้พี่ของน้องเขย แนะนำคุณหมอผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจใน รพบ.นั้นให้ ทำให้ป๊ะป๋าเราได้ไปตรวจที่นั่นเร็วขึ้น .. ปล่าว .. ไม่ได้ไปแซงคิวใครเลย ไปต่อคิวปกตินี่แหละ เพียงแต่ตอนเช็คไป หมอที่นี่เขาไม่รู้ว่ามีเปิดตรวจนอกเวลาด้วย

ล่าสุดป๊ะป๋าเรากลับมาบ้านแล้ว คุณหมอบอกว่าเป็นโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า .. ไม่มีสาเหตุของโรค .. คนเป็นกันเยอะ .. ไม่ได้เป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ หัวใจขาดเลือด .. ค่อยโล่งอกหน่อย แต่ก็ต้องนัดไปวิ่งสายพาน และตรวจคลื่นหัวใจอีกครั้ง หวังว่าจะไม่เป็นอะไรมาก เพราะเป็นแค่นี้ อิชั้นก็เครียดชิปแล้ว

ปล. นอกจากอิชั้นแล้ว นังจูดี้ที่บ้านก็เหมือนๆ ว่ามันจะพลอยเครียดไปกะคนด้วย เพราะตอนป๊ะป๋าไปนอน รพบ. เรานอนไม่หลับ นังจูดี้มันก็นอนไม่หลับด้วย .. เอากะมันสิ! .. ดุ๊กดิ๊กไป ดุ๊กดิ๊กมาจนเรารำคาญ สุดท้ายต้องลุกขึ้นมาถอดสร้อยคอกรุ๊งกริ๊งมันออก ไม่งั้นทั้งคนทั้งหมา คงไม่ได้นอนทั้งคู่!!

ขอบคุณคุณหมอ ขอบคุณคุณพยาบาลทุกท่านค่ะ






 

Create Date : 06 มกราคม 2551    
Last Update : 6 มกราคม 2551 22:45:29 น.
Counter : 581 Pageviews.  

ทำไมต้อง ' เ ม า ไ ม่ ขั บ ' ??



ทุกครั้งที่ได้ยินคำรณรงค์ ' เ ม า ไ ม่ ขั บ ' อันนี้ เราเป็นต้องสวนกลับในใจว่า .. มันจะรณรงค์ทำไมว้าาาา .. ก็คนมัน 'เมา' แล้วอ่ะ .. คนเมามันจะรู้มั๊ย ว่ามันไม่ควรจะขับ???

ทำไมมันไม่รณรงค์ไปในแนวทางที่ให้คนข้างเคียง ประเภท ภรรยา - สามี - เพื่อน - พี่ - น้อง - ฯลฯ ให้เค้าคอยห้าม ไม่ให้คนที่มันเมาแล้ว ขับ

ล่าสุดเมื่อวาน เพิ่งได้ยินคำรณรงค์ใหม่ ' ดื่ ม ไ ม่ ขั บ ' .. ไม่ทันสังเกตุว่าคำนี้ออกมาจากหน่วยงานใหน และออกมานานรึยัง แต่พอได้ยิน แบบว่า .. เฮ้ยยยยย .. เย้ .. คนคิดคำนี้ เค้าต้องมองเห็นเหมือนเราแน่เลย .. ดีใจจัง .. มันต้องคำนี้ดิ ถึงจะเหมาะ .. ประมาณเตือนไปล่วงหน้าเลยว่า ถ้ามรึงดื่ม มรึงกรุณาเตรียมตัวว่ามรึงไม่ต้องขับ .. เข้าใจ๊??

แบบใหนหนังเกาหลีอ่ะ .. เวลาคนเค้าจะไปดื่ม เขาจะเตรียมตัวเลยว่าเขาจะไม่เอารถไป .. หรือถ้าเขารู้ว่าเขาจะต้องขับ เขาก็จะไม่ดื่มเด็ดขาด

หนังไทยน่าจะเอาคำนี้ไปใช้ในหนังบ้างนะ ใช้กันบ่อยๆ ใช้กันให้ครบทุกเรื่อง


' ดื่ ม ไ ม่ ขั บ '






 

Create Date : 30 ธันวาคม 2550    
Last Update : 30 ธันวาคม 2550 18:17:49 น.
Counter : 505 Pageviews.  

สักกี่คนกัน ได้ไปเลือกตั้งใน [ วั น เ กิ ด ]



บล๊อกนี้เป็นบล๊อกที่ 2 ที่ได้เขียน ณ วันเกิด
แสดงว่าเล่น bloggang มาเกิน 1 ปีแล้ว
แสดงว่า 1 ปีที่ผ่านมา ตรูยังไม่เลิกบ้านั่งหน้าคอม - -'

จริงๆ แล้วยังไม่เลิกมาหลายปีแล้วหล่ะ และดูท่าว่าคงจะเลิกไม่ได้ซะด้วย
แต่อย่างน้อย 1 ปีที่ผ่านมา เราก็ใช้คอมฯ และ เน็ตฯ
ในทางที่สร้างสรรค์มากขึ้น

ที่ว่าสร้างสรรค์มากขึ้น ก็เห็นจะเป็นไปในด้านการรับฟังข่าวสารบ้านเมือง
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจากคนที่อดีต เปิดทีวีช่องใหน
ถ้าเจอรายการการเมือง ก็จะเปลี่ยนช่องทันที
กลายเป็นคนที่ เปิดทีวีช่องใหน ถ้าเจอรายการเกมส์โชว์
ละครน้ำเน่า (ไทยๆ) - วาไรตี้โชว์ (ไร้สาระ) ก็จะเปลี่ยนช่องในฉับพลัน

แต่กลับให้ความสนใจกับรายการข่าว หรือ สนทนาการเมืองมากกว่า
และอย่างมากด้วย!

แน่นอน สิ่งที่ทำให้เป็นแบบนั้น ส่วนนึงมาจากคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้า
และโลกอินเตอร์เน็ตนี่แหละ
เพราะข้อมูลข่าวสาร ที่ได้รับฟังจากช่องทางนี้
มันแตกต่างและคงหาไม่ได้ จากฟรีทีวีบ้านเรา
ต้องขอบคุณมัน ที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลง

แต่ .. ชีวิตก็คงไม่ได้มีแต่ 'สาระ' ด้านเดียว
เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เราคงเป็นคนดูดีเกินไป

.. 1 ปีที่ผ่านมา ก็ยังคง 'บ้าละครเกาหลี' ต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ..
ถามว่าละครน้ำเน่าไทย ต่างกับละครเกาหลียังไง?
ก็ต้องบอกว่า เพราะละครเกาหลี มันมาเป็นแบบซีดี
อยากเปิดก็เปิด อยากปิดก็ปิด
ละครไทย มันชอบมาตอนมีข่าว เราเลยไม่ดู แค่นั้นแหละ
พอไม่ได้ดูนานเข้า มันเลยกลายเป็นความเคยชิน
จนงดเสพถาวร!

เขียนซะยาว .. ตกลงมันเข้ากะหัวข้อเรื่องยังฟระเนี่ยะ?

สักกี่คนกัน ได้ไปเลือกตั้งใน [ วั น เ กิ ด ]

ใช่ จะมีสักกี่คน ที่ใน 1 ชีวิต จะได้มีวันเลือกตั้ง ตรงกะวันเกิดพอดี
ไม่ง่ายหรอกนะ .. แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นโชคดีอะไร
เพราะถ้าผลที่ออกมา ได้คนปากหมามาเป็นผู้นำ
ชีวิตต่อไปคง โค-ตะ-ระ-ซวย!!
( และตรูคงต้องรีบแจ้นมาลบบล๊อกนี้ออก
เนื่องจากไม่อยากโดนเช็คบิล )

แต่มันเป็นโชคดี ที่ในวันเกิด ได้มีโอกาสไปเป็น 1 เสียง
ในการเลือกบุคคลที่เราคิดว่าเป็นคนดี มีคุณธรรม มีจริยธรรม
เพื่อหวังว่าเขาจะได้มาเป็น 'ผู้นำที่ดี' มาปกครองประเทศต่อไป
ซึ่งนั่นเท่ากับว่า วันนี้เราได้ทำบุญให้กับชีวิตข้างหน้าของเราแล้ว


โอ้ .. วันเกิดปีนี้ เขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเชียว

สรุปก็คือ .. สุขสันต์วันเกิดตัวเองละกัน

ปล. ขอบพระคุณทุกท่านที่มาอวยพรวันเกิดเอาไว้
ในบล๊อกข้างล่างด้วยนะคะ
เดี๋ยวเย็นๆ จะตามไปขอบคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ตอนนี้ขอเวลาทำงานก่อนละกันค่ะ





 

Create Date : 21 ธันวาคม 2550    
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 11:31:07 น.
Counter : 1478 Pageviews.  

Q U E S T I O N [ [ M A R K ] ]



รู้ว่ามีหนังสือเล่มนี้ออกจากบล๊อกของน้องชิงชิง เห็นชื่อเรื่องปุ๊บก้อกะไว้เลยว่า ที่นี่ออกเมื่อไหร่จะสอยมาทันที ชอบชื่อหนังสือ ' QUESTIONMARK ' เราว่าคนตั้งชื่อเขาเข้าใจคิดดีนะ เป็นความบังเอิญที่ลงตัว

ในหนังสือมันก็เป็นการที่คนเขียนเขาไปสัมภาษณ์คุณอภิสิทธิ์แบบตัวต่อตัว แล้วถอดเทปมาเป็นหนังสือเล่มนี้อีกที .. จริงๆ ถ้ามันออกมาในรูปภาพเคลื่อนไหวก็คงดี เพราะจริงๆ แล้ว เราจะเห็นคุณอภิสิทธิ์ทางทีวี ในแบบเป็นทางการมากกว่า อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าคุยกันแบบสบายๆ อริยาบทของคุณอภิสิทธิ์จะเป็นยังไง

และด้วยเหตุผลที่บอกมา ตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ มันเลยแตกต่างจากการอ่านบทสัมภาษณ์พวกศิลปิน เพราะปกติ ถ้าเป็นพวกศิลปิน เราจะรู้ว่าบุคลิคของเค้าเป็นยังไง เวลาอ่านบทสัมภาษณ์ไป ก็จะพอนึกท่าทางของเขาเหล่านั้นออก .. แต่ในกรณีหนังสือเล่มนี้ ไม่สามารถวาดภาพคุณมาร์คได้จริงๆ .. นึกออกภาพเดียวคือตอนให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง .. 55

จุดนึงที่ไม่ชอบ (มาก) ในหนังสือเล่มนี้คือ คนเขียนเขาไม่มีสรรพนามนำหน้า ตอนเขียนถึงคุณอภิสิทธิ์ว่า "คุณ" .. เขาจะใช้แค่ "อภิสิทธิ์" เฉยๆ .. รู้สึกขัดๆ ตั้งแต่เริ่มอ่านบทนำ พาลทำให้คิดไปเองว่า เอ .. เหมือนเขาไม่ค่อยให้เกียรติเท่าไหร่ แต่ก็เดาๆ ให้มันไปในแนวทางมองโลกในแง่ดีเอาว่า เขาคงอายุมากกว่าคุณอภิสิทธิ์เยอะ

อีกอันคือภาพประกอบ ตอนแรกก็แอบนึกในใจว่า แหม .. ประหยัดรูปจัง .. แต่พอได้อ่านเนื้อหา ก็เดาเอาเองว่า คุณอภิสิทธิ์ไม่ชอบถ่ายแบบ เลยได้มาแค่นี้ แต่ถึงได้มาแค่นี้ เขาก็เอามาเล่นภาพ ให้กลายเป็นรูปที่แตกต่างได้โอเคเลย

สรุปคือใครอยากรู้เรื่องราวของคุณอภิสิทธ์ ในแบบที่ไม่เคยเห็นทางจอทีวี ก็ลองหาซื้อมาอ่านได้ เล่มเล็ก พกสะดวกดี เนื้อหาในเล่มสามารถอ่านจบได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ปล. เมื่อเช้าฟังข่าวว่ารถคุณอภิสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุ .. เหอๆๆ .. หลังฟังข่าวแอบฟันธงในใจว่าคุณมาร์คต้องได้เป็นนายกฯ คนต่อไปแน่นอน .. เพราะส่วนใหญ่คนที่ดวงจะเปลี่ยน มันต้องมีเรื่องอะไรไม่ดีก่อน .. แต่คิดอีกที ถ้าจะคิดแบบนั้น คนที่ควรได้เป็นจริงๆ ก็น่าจะเป็นท่านบรรหาร เพราะท่านเจอเรื่องไม่ดีก่อนคุณอภิสิทธิ์ซะอีก .. ฮี่ๆ

เอาเป็นว่า 23 ธันวาคม อย่าลืมไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เลือกคนดีมีคุณธรรม จริยธรรม ละกัน

Post : 18/12/07





 

Create Date : 18 ธันวาคม 2550    
Last Update : 22 ธันวาคม 2550 20:51:36 น.
Counter : 1548 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




www.flickr.com
This is a Flickr badge showing public photos and videos from koo-story. Make your own badge here.

Counter Stats
optometry
optometry Counter


Free shoutbox @ ShoutMix
Friends' blogs
[Add ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.