|
คืนสู่เหย้า
๑
แม่น้ำใหญ่ไหลเรื่อยเอื่อยเอื่อยช้า
รินธาราปริ่มนองเต็มสองฝั่ง
เรือนแพร่มริมตลิ่งอิงพฤกษ์บัง
ตะวันยังค้างฟ้าใกล้สายัณห์
ภูเขาสูงเสียดยอดตลอดย่าน
สะท้อนธารเย็นใสหว่างไพรสัณฑ์
ชื่นชอุ่มพฤกษาผกาวัลย์
พาใจฝันกลั่นถ้อยร้อยเรียงคำ
สุดขอบโค้งฟ้าฝันตะวันตก
เหนือป่ารกเมฆลอยสูรย์คล้อยต่ำ
ปล่อยอารมณ์เรือนแพแลผืนน้ำ
ปลาผุดดำเวียนว่ายในสายชล
๒
สนทนาบางทีมีสาระ
วิวาทะเหล่าสหายหลายเหตุผล
รำลึกวันเยาว์วัยได้ร่วมซน
บ้างพูดจาวกวนบางคนเมา
ร่ำเมรัยแกล้มเพลงบรรเลงร้อง
ต่างสนองร่วมสนุกลืมทุกข์เศร้า
ในบ้านเกิดแดนดินถิ่นลำเนา
คืนสู่เหย้าญาติมิตรสนิทใจ
จนผ่านเลยสนธยาเวลาล่วง
กระจ่างดวงดาราส่องฟ้าใส
วนาลีบรรเลงเพลงเรไร
กล่อมพฤกษ์ไพรพุ่มพงทั่วดงลึก
ดาวตกแสงวาบวับแล้วลับหาย
มิตรทั้งหลายร่ำลาเมื่อคราดึก
คงฝากความทรงจำคำนึงนึก
ตราผนึกแน่นไว้ในใจนี้
๓
แม่น้ำใหญ่ไหลเรื่อยเอื่อยเอื่อยช้า
ทุกชีวาก้าวไปในวิถี
กาลเวลาเปลี่ยผันวันเดือนปี
มิตรเคยมีมากค่อยเหลือน้อยคน
แม่น้ำแควสะท้อนดาวเมื่อคราวดึก
โอบดงลึกพฤกษ์เหงาคลายเศร้าหม่น
รินธาราฉ่ำนองเลี้ยงผองชน
รินหลั่งมนต์ดลฝันทุกวันมา
พักเรือนแพแลดาวพราวกระพริบ
คลื่นกระซิบเสียงสั่งดังห่วงหา
สัตว์,พฤกษ์ไพรราตรีร่ายคีตา
กล่อมนิทราผ่านคืนอันชื่นบาน
เรือนแพเมืองกาญจน์ บ้านเพื่อนเก่าคนหนึ่ง
อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ
Create Date : 04 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 4 สิงหาคม 2552 12:29:30 น. |
|
1 comments
|
Counter : 610 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: คมเย็น (คมเย็น ) วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:14:53:47 น. |
|
|
|
|
คมเย็น |
|
|
|
|
ในเส้นทางวกวนจนเวียนวุ่น
ชีวิตยังวนหมุนชุลมุน
คอยหมกมุ่นขุ่นมัวไม่เว้นวัน