Group Blog |
กว่าจะถึงสวาลบาร์ด กว่าจะถึงสวาลบารฺ์ด เป็นการนั่งเครื่องที่ยาวนานมาก บินตรงจากไทย มาเฮลซิงกิ ประเทศ ฟินแลนด์ แล้วอิเบาะสายการบินนี้ก็เป็นอะไรที่ทรมานมาก เอนได้นิดเดียว นั่งหลังแข็งยาวไป สิบเอ็ดชั่วโมง++ พอมาถึงที่นี่เราก็จะต้องผ่านตม. เพราะว่าเราเข้ามาในโซนเชงเก้น ตามที่เราขอวีซ่ามา นอกจากนี้ยังต้องรอต่อเครื่องที่นี่ไปอีกหกชั่วโมง แล้วก็นั่ง ๆ นอน ๆ นั่ง ๆ นอน ๆ ไฟลท์ต่อไป ก็คือจากเฮลซิงกิ ไปออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ไม่นานมาก ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงแล้ว แต่คือเหนื่อยมาก ณ เวลานี้ มีเวลาเปลี่ยนเครื่องประมาณ ชั่วโมงครึ่่ง เหมือนจะนาน แต่แถวตม. ของที่นี้ก็ไม่รู้จะยาวไปไหน คือถ้าจะไปสวาลบาร์ดเนี่ย ถึงเราได้แสตมป์วีซ่าเข้าเขตเชงเก้นมาแล้ว เราก็ต้องแสตมป์ออก เพราะ สวาลบาร์ด ไม่ใช่เชงเก้น !!! แต่ต้องขอวีซ่าเชงเก้น เพื่อใช่ผ่านนอร์เวย์ ซึ่งอยู่ในเขตเชงเก้น ใครจะมา ต้องจำไว้นะจ๊ะ แล้ววีซ่าที่ขอก็ต้องเป็นแบบ Multiple ด้วย นะ รอนานมาก นานจนได้วิ่งขึ่้นเครื่อง ขึ้นเครื่องแล้วก็กลับซิจ๊ะ หลับตั้งแต่เครื่องยังไม่เทคออฟด้วยซ้ำ จำได้ว่า ไฟลท์นั้นคนฝรั่งเศสเยอะมาก อื่้ออึงเลยทีเดียว มียายสองคนนั่งข้าง ๆ พอใกล้จะถึง ด้วยความที่ยายหวังดี ยายก็เลยปลุก อิหนู อิหนู ตื่นเร็ว วิวข้างนอกสวยมาก เราก็ตื่นมาด้วยความสลึมสลือ วิวที่เห็นคือ มีแต่ภูเขา และภูเขา สีน้ำตาล มีหิมะคลุม ๆ นิดหน่อย ตอนมาถึงคือ เที่ยงคืน แต่สว่างมาก เพราะตอนนี้เป็นช่วงซัมเมอร์ของที่นู่น เราก็จะได้เห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืน เครื่องแลนด์แล้ว ก็จะตื่นเต้นนิดนึง อากาศก็ยังหนาว ๆ อยู่นะ ขนาดตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อน เจ้าของร้านมารอรับที่สนามบิน ระหว่างทาง จำได้ว่า วิว มันเป็นสีน้ำตาล ๆ ออกดำ ๆ จะว่าเป็นเมืองก็ไม่เชิง เราเพิ่งมารู้ทีหลังว่า ที่นี่เค้าทำเหมืองถ่านหิน ก็จะมีถ่านหินเยอะมาก ดินมันก็เลยดู ดำ ๆ ไปหมด แล้วที่พิเศษมาก ๆ ๆ ไปกว่านี้ ก็คือ สวาลบาร์ด ไม่มีต้นไม้ จ้าาาาาาา เซอร์ไพรส์ต่อไปก็คือ ตอนมาถึงอพาร์ทเมนต์เนี่ย ต้องถอดรองเท้า แต่คือคิดมาตลอดว่าเมืองนอกเนี่ยเค้าใส่รองเท้าเข้าบ้าน แต่ที่นี่ ต้องถอดรองเท้า คือดีอ่ะ มีความรู้สึกว่าเหมือนเมืองไทยเลย มาถึงห้อนนอนแล้ว พี่พร พี่ที่เป็นรูมเมทและเป็นเพื่อนร่วมงานก็น่ารักมาก จัดที่นอนไว้แล้ว ไม่พูดพล่ามทำเพลงอะไรมาก นอนเลย และที่โหดไปกว่านั้นคือ ตอนเช้า ต้องตื่นมาแล้วไปทำงาน เลย แต่ดีอย่างที่ไม่ต้องตื่นเช้ามาก งานเริ่ม เก้าโมงครึ่ง ตื่นเก้าโมงก็ได้ เดินไปสิบนาทีถึง พี่เค้าบอกว่าอย่างนั้น ชีวิตจะเป็นยังงัยต่อไปหลังจากเริ่มทำงาน มาดูกัน !!! |
kohkoodlover
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] I was born in Trat. Now I've been living on Koh Kood where I was fallen in love since first time I came 6 years ago. I spend my life here doing a small guesthouse for backpakers and cheap budget tourists. I'm happy with what I'm doing here and see how people enjoy their holidays on Koh Kood.
|