::ขออภัยบล็อคโป๊มาก ไม่ได้แต่งตัวให้บล็อคเลย::
Group Blog
 
All blogs
 
ปฏิบัติการเขียนกู้โลก(1จ)(2จ)(3ส)




ชั่วโมงที่ 1 [17:10-18:10]

วิชา จรรยาบรรณการเขียน
งาน 1) ค้นหาเป้าหมายการเขียนของตัวเอง


คำถาม : เราจะเขียนไปทำไม?
คำตอบ : อยากเขียน (ตอบง่ายไปมั้ง)

การเขียนช่วยให้เราค้นพบอะไรบางอย่าง
ช่วยคลี่คลายความมัวหมองข้องใจ
ช่วยลำดับความคิด--ทำให้เราเข้าใจอะไรๆได้ดีขึ้น
ทราบข้อมูลภายในจิตใจของเราทั้งที่เรารับรู้ และอาจไม่รู้
ส่งมอบความรู้สึกและเจตนารมณ์ที่ดีไปยังผู้อื่นหรือตัวเอง

ในแง่ที่ส่งถึงคนอ่านนั้น  เราเองก็เคยได้รับความรู้สึกดีๆ
จากการอ่านหลายๆอย่าง จากหลายๆคน รวมถึงตัวเราเอง

เป้าหมายในการเขียนของเรา..
คือ สื่อสารบางอย่าง ถึงคนบางคนที่พร้อมจะรับ..
ใครก็ตามที่กำลังล้มเหลว  ใครก็ตามที่สิ้นหวัง
ใครก็ตามที่กำลังมีชีวิตอยู่แต่ไม่รู้คุณค่า
ใครก็ตามที่รอคอยสัญญาณบางอย่าง
ใครก็ตามที่อยู่ในโลกสีเทา
ใครก็ตาม..

พลังที่เราได้รับมาจาก 'ผู้สร้างแรงบันดาลใจ'
เราจะขุดมันออกมาจากเบื้องลึก
แล้วส่งต่อให้กับผู้คนที่รอคอย

เราเชื่อมั่นใน 'เรื่องแต่ง' ที่เติมชีวิตให้กับผู้คน
แม้ว่าเราจะมีปัญหาเรื่อง ความมุ่งมั่นไม่สมดุล
(สมาธิไม่ดี ซึ่งก็เชื่อว่า การเขียนจะช่วยได้อีกนั้นแหละ)
ปัญหาของทุกคนไม่เคยหมดไป
แต่ไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นโดยไม่มีทางแก้
ปัญหาที่แก้ยากที่สุดคือ การที่เราไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร?

ชั่วโมงหนึ่ง แต่กลับเขียนได้ไม่มาก
เป็นปัญหาเดิมๆ  ไม่มีสมาธิ
อ่านโน้นนี่สลับไปมา  ทำอย่างอื่นบ้าง
แล้วก็คอยหลบคนอ่านบ้าง...(เราไม่ชอบให้ใครอ่านก่อนเสร็จเสมอ)
ชอบแอบเขียนมั้ง  พอเสร็จแล้ว  ค่อยเซอร์ไพร์ส  ชอบจัง อิแบบนี้


แนวการเขียนที่ถนัดที่สุด คือ เขียนไดอารี่
เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา  ไม่ชอบโกหก
ถ้าจะโกหก  ต้องทำให้แนบเนียนที่สุด
ปัญหาในตอนนี้ คือยังไม่รู้ว่าเราควรเขียนเรื่องแนวไหน
ชอบแต่งเรื่อง  แต่เขียนนิยายไม่จบสักเรื่อง
ขาดวินัย แล้วก็ไม่มีแรงบันดาลใจให้แต่งต่อ
อ่านนิยายน้อยด้วย  ชอบอ่าน ก็ต่อเมื่อสนใจจริงๆ
แล้วความสนใจก็สั้น  ก็เลยอ่านนิยายไม่ค่อยจะจบเรื่อง
แต่งเองเลยไม่จบด้วย 55
แต่คราวนี้  จะตั้งมั่นให้มากขึ้น  เลยทำให้ดูจริงจังขึ้น
มีคนที่อาจจะอ่าน  คอยเป็นพยานให้กับเราด้วย
เราต้องทำให้สำเร็จ  ต้องสำเร็จแน่คราวนี้


เลยกำหนดมาสองนาทีแล้ว
แต่คงไม่เสียหายอะไร  เพราะบางนาที เราก็ไม่ได้เขียน
ให้กำลังใจตัวเองพอแล้ว ตั้งใจทำให้ดีที่สุดนะ

---------------------------------------------------------------

ชั่วโมงที่ 2 [10:43-11:43]

วิชา จรรยาบรรณการเขียน
งาน 1) ค้นหาเป้าหมายการเขียนของตัวเอง(ต่อ)

เราพยายามศึกษาวิธีการก้าวสู่การเป็นนักเขียน
เพื่อที่อย่างน้อย..จะไม่หลงทาง..หลงไปกับตัวเอง

อันดับแรก ก็มักจะเสิร์ชหาในกูเกิล หรือเด็กดีไรท์เตอร์ทิป
เจอเรื่อง  5 สิ่งที่ต้องเตรียมสู่การเป็นนักเขียน

สรุปออกมาดังนี้
เปิดทัศนะ  กล้าที่จะสร้างสรรค์ 
ไม่ว่าเรื่องจะยาก หรือแตกต่าง หรือท้าทายเพียงใด
รักการอ่าน จับเทคนิคของผู้อื่นมาศึกษา และยังได้ข้อมูลที่ใช้อ้างอิง
รู้จักสังเกต เพราะสิ่งรอบตัว เป็นวัตถุดิบในการปรุงนิยายที่ดี
ฝึกฝนการคิด พลิกแพลงสถานการณ์ต่างๆ ด้วยมุมมองที่ต่างออกไป
เป็นตัวของตัวเอง  ไม่ยึดติดแนวทางของนักเขียนคนอื่น  แค่มั่นใจในตัวเองก็พอมั้ง


เปิดโลกของเราเข้าสู่โลกปรุงแต่ง
เหมือนกับที่เราหลอมรวมในโลกปรุงแต่งที่ผู้อื่นสร้าง
ในโลกปรุงแต่งของเรา  จำเป็นจะต้องกะเกณฑ์ส่วนผสมและวัตถุดิบ
คนให้เข้ากัน  ให้ผสานกันลงตัว  คำนึงถึงสุขภาพของผู้บริโภคอักขระด้วย


เปิดอ่านอีกหนึ่งทิปที่กำลังเหมาะกับเรา  ในตอนนี้
8 ขั้นตอน การเขียนนิยาย
ซึ่งเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายในการเขียนนิยาย

เขียนแนวไหน? แนะนำให้เริ่มจากแนวที่เราชอบอ่าน
(ชอบอ่านแนวผสมรวมๆกัน ถนัดอ่านที่สุดก็ แนวสืบสวนญี่ปุ่น
ต้องใช้คำว่า ถนัด เพราะอ่านสืบสวนของฝรั่งที่รายละเอียดเยอะๆ ไม่ค่อยจบ
เป็นคนที่ไม่ละเอียดอ่อนสินะ  ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นปริศนา กระตุ้นให้อ่าน
ก็อ่านจบนะ แต่นานๆทีจะเจอ  เหมือนเจอบ่อน้ำในทะเลทราย)
แก่นเรื่อง ก็คือเนื้อความที่ส่งถึงผู้อ่าน
(มีหลายข้อความที่อยากส่งต่อ  คงจะหาทางแทรกให้สมเหตุสมผล
สำคัญคือ อยากเป็นแนวร่วมส่งเสริมกำลังทางใจ)
โครงเรื่อง  สิ่งนี้ขยายมาจากแก่นเรื่อง
(ถ้าเช่นนั้น  เราคงอยากแต่งแนวสงครามรบกันทางใจละมั้ง)
ค้นหาข้อมูล  แน่นอนว่า เรื่องของเราต้องมีข้อมูลมาจากโลกจริงเสริม
(คงต้องสืบค้นข้อมูลเรื่อง การรบ สงคราม จิตวิทยา การแพทย์ ฯลฯ)
เขียนสรุป บ๊ะ เร็วจริง แต่สมควรนะ จะได้รู้ลู่ทาง
(เมื่อก่อนเวลาแต่งนิยาย  มักเริ่มจากตัวละคร 
และไอเดียเล็กๆน้อยๆที่น่าจะเป็นเพียงส่วนเสริม
พอเริ่มในอีกแบบ ก็ดูว่า  อาจจะสำเร็จก็ได้
จะแต่งนิยาย ก็คงจะทำได้  ไม่เคยคิดมาก่อนว่า
จะต้องเขียนสรุปก่อนเปิดเรื่อง  น่าลองๆ)
แบ่งเรื่อง แบ่งบท แล้วก็ใส่รายละเอียดที่จำเป็น
(อยากจะทำสัก 25 บท จำนวนเท่ากับอนิเมะที่ชอบดู)
ลงมือเขียน กำหนดมุมมอง เขียน ๆๆๆๆ และจบ
(ดูเหมือนจะง่าย แหะ)
แก้ไข กลับมาอ่านอีกครั้ง ทลายจุดอ่อน ต่อเติมส่วนที่ขาดหาย
และกำจัดส่วนเกินที่ไร้สาระเกินกว่า จะให้ใครอ่าน 55
(ชอบเขียนเว่ออีกตามเคยนะเรา  ใช้ภาษาได้น่าถีบมาก)

เป้าหมายในการเขียนของเรา
จะทำให้ชัดเจนขึ้นละนะ  เริ่มได้..
เขียนเรื่องสงครามให้สร้างสรรค์
ยังลังเลใจอยู่ว่า จะเขียนการรบที่เราไม่ถนัดได้มั้ย
แต่ก็อยากลองดู  มีแรงบันดาลใจมาจากการตายของลูลูช
ทั้งที่เราไม่ได้ชอบการต่อสู้  การใช้ความรุนแรง  อาวุธทำลายสร้าง
แต่มันมีความรู้สึกที่อ่อนโยนแทรกอยู่ในเรื่อง โค้ด กีอัส หรือ แฮร์รี่ พอตเตอร์
แม้ว่าในตอนนั้นๆ จะกล่าวถึงสงคราม  การต่อสู้ของอะไร หรือใครก็ตาม
และสิ่งนั้น ดึงดูดเราเข้าไป โดยที่ในตอนแรก ก็ไม่รู้ตัวเอาซะเลย
เอาล่ะ เวลากำลังจะหมดแล้ว เป้าหมายก็ชัดแล้วนะ
แรงบันดาลใจก็มีพอสมควร คงทำได้แหละ


ขอบคุณแหล่งข้อมูลเสริม
//www.dek-d.com/content/writer/31312/
//www.dek-d.com/content/writer/30703/

---------------------------------------------------------------


ชั่วโมงที่ 3 [11:45-12:45]

วิชา การสื่อความหมาย
งาน 1) บรรยายฉากสงครามการต่อสู้ให้ห้องฝึกรบ

เอาล่ะ มันต่อเนื่อง มาจาก ชั่วโมงที่ 2
ที่ค้นหาเป้าหมายในการเขียนได้แล้ว
แต่พอคิดดูแล้ว  ไม่มีประสบการณ์เลย แหะ
ต้องลองเริ่มจากเรื่องสืบสวนก่อนละมั้ง


ฉากคือ ห้องฝึกรบที่จำลองสถานการณ์เสมือนสมรภูมิจริง
ปัญหาคือ โลกแบบไหนที่เป็นอยู่ สมรภูมิรบแบบไหน
องค์กร หรือหน่วยงานดังกล่าวเป็นอย่างไร
ตัวละครเป็นอย่างไร  จำนวนเท่าไหร่
ยังไงซะก็กำหนดขึ้นมาเองเลยละกัน

โลกอนาคต ราว ปี ค.ศ.2024
สมรภูมิรบ คือ โลกที่มนุษย์เคลื่อนย้ายจิตไปมาในวัตถุต่างๆ
แต่แทรกซึมกันเองไม่ได้ หรือเข้าไปในสัตว์ก็ไม่ได้
ก็คล้ายๆเดอะแมททริกซ์ อินเซปชั่น  หนังอื่นๆที่มนุษย์เอาร่างกายไปซ่อนไว้
แล้วก็ใช้จิตเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆได้อย่างอิสระ
แต่แน่นอนว่าต้องมีกฏต้องห้าม  เช่น  ห้ามเข้าไปยังที่...
มนุษย์ที่มีความสามารถในการโยกย้ายจิตได้ จะเรียกว่า..(อะไรสักอย่าง)
มนุษย์ธรรมดาก็ใช้ชีวิตธรรมดา วิทยาการไม่ได้ล้ำหน้าไปสักเท่าไหร่
เพราะมนุษย์มัวแต่ประดิษฐ์อาวุธ  คิดวิธีกำจัดกัน ...
องค์กร หรือหน่วยงานที่จะกล่าวถึงเป็น...(คิดไม่ออกแหะ)
เอาเป็นหน่วยงานรัฐธรรมดาดีไหม
ชื่อหน่วย Psychic Transporter Institution
อะไรทำนองนี้  มีเป้าหมายคือ การควบคุมนักเคลื่อนย้ายทางจิตทุกคน
ว่าแต่บรรยายยังไง ถึงจะเป็นสงครามได้นะ เห้อ! ถอนใจดังไปสามภพ

=====================

               ดวงจันทร์ไร้กระต่ายฉายส่องในค่ำคืนที่สงัดเงียบ  ยังมีกลุ่มเด็กนักเรียนผู้รวมตัวกันอย่างไร้สุ่มเสียง  เด็กหญิงผู้ฉายแววตามุ่งมั่นเดินนำหน้า  เด็กหญิงอีกคนตัวสั่น หน้าซีดเดินตาม  ถัดมาเป็นคู่รักวัยเรียน ควงแขน กระซิบกระเซ้ากันไม่ใยดีต่อหนทาง  คนสุดท้ายนั้น เป็นเด็กชายตัวเล็กเอาหน้าแนบแว่นขยายส่องตามทางเดิน  ไม่มีใครอ้าปากพูดถึง เป้าหมายของการเดินทางในยามวิกาล ครั้งนี้   บ้านเรือนที่ทรุดโทรมผุพังก็ไม่เปิดเผยเรื่องราวอีกเช่นกัน
               " คุณเพียวครับ  คุณเพียวครับ หยุดก่อนเถอะครับ "
               " มีอะไร อะตอม หยุดทำไม " หญิงสาวหัวหน้าขบวนหยุด  ทุกคนทำท่างงๆ หยุดตาม
               " ดูนี่สิครับ " เด็กชายตัวเล็กชี้ให้ดูที่ปลายเท้าของตนเอง 
               ทุกคนพอมองเห็นไส้เดือนดินสีเทาแดง ขนาดไม่เกิน 3 เซนติเมตร 
               " ยี้ น่าขยะแขยง "  ไมอาร่าอุทาน กอดแขนฟล็อบแน่น
               " หิวเรอะ " ฟล็อบกล่าวขบขัน
               " ขนาดมันเล็กเกินไป " อะตอมกล่าวโดยไม่สนใจคำพูดฟล็อบ
               เพียวเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย  เธอดูเหมือนรู้สึกพอใจอยู่ลึกๆ  แล้วคว้าเอาปืนขนาดปากกายิงใส่ไส้เดือน  ในขณะที่มันพยายามชอนไชหนีจนเหลือแต่หางที่โผล่มาจากดิน
               ฟิ้ววว!  เกิดแสงสว่างวาบใต้เบื้องเท้าของเด็กชาย  ไส้เดือนตัวดังกล่าวหายไป
               " คุณชาเดอลีนหรือเปล่าค่ะ " เฟนนี่พูดกับลูกแก้วกลมใสในมือเธอ
               " คุณนี่ ใจอ่อนกับพวกเราจังเลยค่ะ " เพียวกล่าว " พวกเราต้องทำยังไงต่อดีค่ะ "
               " แยกออกเป็นสองกลุ่ม  เวลากำลังจะหมดแล้ว " เสียงออกมาจากลูกแก้วที่ไม่น่าจะพูดได้
               "อะตอม  มากับพวกเรา" ฟล็อบล็อคคออะตอมเอาไว้  โบ้ยหน้าให้เพียวกับเฟนนี่เดินไปทางอื่น
               อะตอม เด็กชายตัวเล็กยังคงเอาแว่นขยายแนบหน้าไว้ตลอด  แม้ว่าเขาจะพากลุ่มให้เดินไปได้ช้ามากก็ตาม  ในขณะที่กลุ่มของเพียวเดินไปได้ไกลกว่านัก  แต่เสียงเกรียวกราวดังระงมราวแก้วแตกนับสิบใบ  เกิดขึ้นในบ้านโทรมๆ หลังหนึ่ง ทำให้กลุ่มของเพียวหยุดลง
               " เฟนนี่  พี่รู้ว่า น้องทำได้ "  ทั้งสองจับมือกันไว้  ปิดเปลือกตาลงพร้อมกัน
               เหมือนว่า เวลาจะหยุดเดิน หรือไม่ก็เดินช้าเกินกว่าจะเป็นจริง
               " ฉันทำได้แล้ว พี่ " เสียงคล้ายเฟนนี่กระซิบดังมาจากจานใบหนึ่ง  ในห้องครัวมีเครื่องครัวกระจัดกระจายเต็มพื้น  " ฉันถึงบอกว่า รู้ไง" อีกเสียงดังมาจากกระทะที่นอนคว่ำลงกับพื้น  ชั่วเวลาเพียงพริบตาก็ย้ายจากกระทะไปยังตะปูเหนือบานหน้าต่าง  ตะปูบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูปร่าง  เกิดควันออกมาจากตะปูเบี้ยวนั่น
              " เรียบร้อยแล้ว เฟนนี่ กลับกัน "
              ภายในเวลาไม่ถึงสามวินาที บ้านทั้งหลังถล่มลงมา  ไม่ใช่แค่หลังเดียว  แต่ทุกหลังที่รายล้อมรอบตัว  ดวงจันทร์ที่เคยส่องสว่างหายไป  ตกอยู่ในความมืดมิดยิ่งนัก  แล้วความมืดก็สลายไปเช่นกัน  เกิดแสงสีขาวส่องสว่างขึ้นมาที่ละจุด สองจุด จนสว่างทั่วทั้งห้อง  ภายในห้องสีขาว ขนาด 4x4 เมตร เด็กนักเรียนทั้งห้าคนสบตากัน

=====================


จบแบบเลยกำหนดเวลาแหะ  13:09 น. 14/5/2556
ไว้ว่างๆ จะมาเสริมต่อ  แก้ไข






Create Date : 13 พฤษภาคม 2556
Last Update : 14 พฤษภาคม 2556 13:20:27 น. 0 comments
Counter : 464 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

knichaay
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]











เกี่ยวกับบล็อคนี้
ก็เหมือนๆกับไดอารี่บล็อคทั่วๆไป
จะแตกต่างก็ตรงที่มัน
เป็นไดอารี่บล็อคที่เหมือนๆกับ
ไดอารี่บล็อคทั่วๆไป

เกี่ยวกับผู้เขียน
ตื้นตัน Smiley Smiley
น้ำตาไหล..ซึ้งมาก
^ นี่ไม่ได้เขียนไว้ข้างปกสักหน่อย
.........................
.........................
.........................

เกี่ยวกับอารมณ์ของผู้เขียน
ขึ้นๆ ลงๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้
บางวันอยากตาย บางวันอยากเกิดใหม่
บางวันอยากตื่น บางวันอยากนอน
บางวันอยากกิน บางวันอยาก Smiley
แต่ไม่ใช่อยาก กิน+Smileyแน่นอน

เกี่ยวกับแมวของผู้เขียน
-คลิกดูรูป-
หายตัวไปอย่างลึกลับ
ใครพบช่วยจับอาบน้ำ เหม็นมาก
ไม่ๆๆๆๆ ใครพบช่วยส่งจับกลับบ้านที


ชอบเพลงนี้มาก แต่ฟังมากไม่ได้
ฟังแล้ว อยากกลับบ้าน..
บ้านแสนสุขใจที่กำลังตามหา
ถ้าจะฟังเพลง กรุณาช่วยตัวเอง
กดปุ่มเพลย์เล่นเอาเน้อ






New Comments
Friends' blogs
[Add knichaay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.