I'm a sheepman(มนุษย์แกะ)
Group Blog
 
All Blogs
 

somebody

-0-
แก้วเบียร์สดค่อยๆ ถูกเติมเต็ม ด้วยฟองเบียร์ที่ฟูฟ่อง

-0-
ซากรถยนต์เก่าสีขาวจอดทิ้งอยู่เบื้องหน้า หลังจากเพิ่งประสบอุบัติเหตุผ่านมาไม่นาน รถแก่เก่าอายุ 16 ปี สมควรต่อเวลาที่ต้องหยุดพัก-ผมคิด

-0-
‘เมี้ยว’ ท่อนเสียงหนึ่งจังหวะที่ช่วงขาดหาย
‘ไง’ ผมว่า

แมวแก่สีขุ่นเดินอ้อยอิงอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเอาใบหน้ามาถูไถกับแข้งขา แมวแก่ไม่ทราบที่มาที่ไป รู้เพียงวันหนึ่ง ผมหลวมตัวให้เศษอาหารที่กินเหลือ หลังจากนั้นเจ้าแมวแก่ก็ไม่เคยไปไหนอีกเลย

‘หิวล่ะสิ’
‘เมี้ยว’ แมวตอบ

-0-
เบียร์สดผ่านไป 3 เหยือก กับแก้วใบเดิม

-0-
เวลาตี 3 โดยประมาณของคืนวันที่ 10 เดือนธันวา รถแก่เก่าสีขาวปิดอายุไขของตัวเอง ด้วยการเลือกท้ายรถบรรทุกปูนเป็นจุดจบของชีวิต

รถบรรทุกปูนวิ่งต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา ทิ้งรถแก่เก่าให้อยู่ริมทาง

-0-
แมวแก่ไม่ส่งเสียงมาหลายวัน มีเพียงดวงตาข้างซ้ายที่มองผ่านเวลาผมถือจานอาหาร ตาขวาอีกข้าง เดาว่าคงจะมืดบอด ตาขุ่นมัว ไร้ประกาย

‘มากินซะสิ’ ผมว่า
‘….’

-0-
แก้วว่างเปล่า ปราศจากเบียร์

ครั้งสุดท้ายก่อนที่รถยกจะมานำซากรถแก่เก่าจากไป หลังจากที่ผมยอมจ่ายแล้วหนึ่งครั้งเพื่อนำกลับมาจอดไว้หน้าบ้าน ไม่มีใครใคร่ให้รถแก่เก่าที่เป็นซากมาจอดทิ้ง ผมต้องยอมให้รถยกมาลากไปเป็นการด่วน ไม่อาจรู้ว่าหลังจากนั้น รถแก่เก่าสีขาวที่เคยผ่านอุบัติเหตุจะเป็นเช่นไร

ภายใน-แมวแก่สีขุ่นนอนหมดลมหายใจ อยู่ในรถแก่เก่าสีขาว

ศพแมวถูกห่อด้วยเสื้อเก่าเพื่อใส่ลงไปในถุงพลาสติกสีดำ ถุงพลาสติกสีดำห่อหุ้มสามชั้นวางอยู่ข้างถังขยะ ซากรถแก่เก่าถูกรถยกนำพาให้ค่อยๆ เคลื่อนตัวจากไปอย่างช้าๆ



Title: Somebody
Artist: Moderndog
Album: The Very Common of Moderndog
Original Version : Depeche mode
Label: Bakery Music


I want somebody to share
Share the rest of my life
Share my innermost thoughts
Know my intimate details
Someone who'll stand by my side
And give me support
And in return
She'll get my support
She will listen to me
When I want to speak
About the world we live in
And life in general
Though my views may be wrong
They may even be perverted
She'll hear me out
And won't easily be converted
To my way of thinking
In fact she'll often disagree
But at the end of it all
She will understand me

I want somebody who cares
For me passionately
With every thought and
With every breath
Someone who'll help me see things
In a different light
All the things I detest
I will almost like
I don't want to be tied
To anyone's strings
I'm carefully trying to steer clear of
Those things

But when I'm asleep
I want somebody
Who will put their arms around me
And kiss me tenderly
Though things like this
Make me sick
In a case like this
I'll get away with it

//www.doo-dd.com/music/play.php?id=1912




 

Create Date : 02 พฤษภาคม 2550    
Last Update : 2 พฤษภาคม 2550 17:57:41 น.
Counter : 357 Pageviews.  

เจ็บซ้ำ ซ้ำ



ฟ้าแกล้งกันใช่ไหม ฟ้าจงใจใช่ไหม
ที่ทำให้ฉัน ได้แต่ร้องไห้อย่างนี้
เรื่องราวก็เดิมๆ เหมือนเดิมอยู่ทุกที
ก็คือวันนี้ ฉันไปรักคนที่ไม่รักกัน

รักคนที่ไม่รัก สนคนที่ไม่สน
กี่ทีกี่หน เขากลับไม่เคยใส่ใจ
หรือเป็นเพราะฉันเอง ไม่มีสิทธิ์รักใคร
ทุ่มเทแค่ไหน สุดท้ายลงเอยด้วยน้ำตา

เจ็บแบบซ้ำๆ จบแบบช้ำๆ
เรื่องราวก็ซ้ำ ตรงคำว่าเสียใจ
เมื่อไหร่ความรัก จะหยุดทำลายหัวใจ
ไม่รู้ทำไม จะเจ็บช้ำเท่าไหร ไม่เคยจำ

ขอแค่เพียงซักครั้ง ขอแค่เพียงหนึ่งคน
ที่ไม่ทำร้าย ให้เจ็บปวดใจอย่างนี้
ขอเพียงแค่คนเดียว รักฉันจริงซักที
ให้คนๆนี้ ไม่ต้องลงเอยด้วยน้ำตา

ให้คนๆนี้ ไม่ต้องลงเอยด้วยน้ำตา


-บางที คนเราก็ไม่โดนฟ้ารังแก แค่เพียงความรัก-

//www.myfirstsight.com/music/ann1.htm




 

Create Date : 13 มีนาคม 2550    
Last Update : 13 มีนาคม 2550 14:53:46 น.
Counter : 311 Pageviews.  

ความเรียง ทางที่เลือก

ทางที่เลือก

ยังมีความสุขดีไหม? ผมเพิ่งถามตัวเองด้วยคำถามดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้เอง

ปฏิเสธได้เลยว่าชีวิตผมยังไม่เข้าขั้นเลวร้ายหรือมีอารมณ์ อาการ หดหู่ หม่นหมอง แต่ที่คำถามผุดโผล่ขึ้นมากวนใจจนพาดพิงไปกวนกายก็เป็นเพราะ อารมณ์ ของการนอนป่วยเพียงลำพัง

ในชีวิตเรา อาการป่วยไข้ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ควรหนีห่างเป็นที่สุด เพราะคงไม่มีใครใคร่ชอบนอนซมไม่กระดิกอยู่บนเตียง ผมก็ไม่ต่างจากหลายคน แต่เหตุการณ์ที่ประสบนอกเหนืออาการป่วยกาย คือ ภาวะป่วยใจ ขั้นรุนแรง

ก็เป็นเรื่องปกติที่ต้องน้อยใจของคนป่วยที่ปราศจากคนดูแล

ย้อนไปเมื่อช่วงวัยที่อยู่ในรั้วมหา’ลัย การเกาะกลุ่มกันของเพื่อนในวัยเรียน เป็นส่วนหนึ่งของการติดสนุก หรือ ที่มักจะได้ยินจนชินหูว่าการมีอิสระ เมื่อถึงช่วงที่เบื่อในการสนุกหรืออิสระที่นิยมพูดกันแล้ว เพื่อนในกลุ่มหลายคนก็ปลีกตัวไปหาการมีชีวิตที่ต้องการคนมาจัดระบบระเบียบมากขึ้น โดยการมีแฟนหรือคนรัก

แฟนหรือคนรักนอกจากจะมีให้สวีตหวาน บันเทิงอารมณ์แล้ว ยังเสมือนเป็นผู้ปกครองที่เพื่อนๆผมต่างพากันเคารพมากกว่าบุคคลในครอบครัว

ส่วนพวกที่เหลือในกลุ่มกระจิดริด ยังต้องฝึกรับฟังคำปฏิเสธของบรรดาเพื่อนที่ต้องค่อยทำหน้าที่แฟนที่ดีให้คุ้นเคยไปโดยปริยาย กลุ่มของเราจึงเหลือกันไม่กี่คน ที่สามารถนับรวมได้ไม่เกินหนึ่งมือ

แต่ท้ายที่สุดเราก็เลือก ติดสนุกกันอยู่อย่างนั้นเรื่อยมา

หลังจากผลช่วงวัยการศึกษา ต่างคน ต่างหน้าที่ ต่างวาระ ล้วนแยกหาย บ้างไปตามหาฝันเรียนต่อถึงเมืองนอกเมืองนา บ้างมุ่งทำงานเก็บสตางค์เพื่อคาดหวังผ่อนบ้านผ่อนรถ บ้างติดเพื่อนกลุ่มใหม่ที่ทำงาน

บ้างคิดได้เร่งหาแฟนหรือคนรู้ใจ ก่อนที่ไม่มีเวลาจะหา ส่วนผมตกอยู่ในกลุ่มมุ่งทำแต่งาน

โดยต่อมามีหลายครั้งหลายครา ที่ผมมองเหม่อดูคู่รักจนลืมตัว การมองผู้หญิงสวยของผมไม่น่าสนใจเท่าการมองคู่รักที่เดินเคียงคู่กัน

ซึ่งมีหลายที่หลายจินตนาการ ที่ผมสอดแทรกภาพคนรักที่ยังไม่มีตัวตนเข้าไปอยู่ในสถานที่หรือเหตุการณ์ที่ผมประทับใจ โดยเชื่อว่าวันหนึ่งถ้ามีโอกาสจะพาเธอมาสัมพัสกับภาพฝันของผม

จนแล้วจนรอดวันนั้นก็ยังไม่มาถึง สุดท้ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมถึงต้องย้อนถามตัวเองอีกครั้ง ว่าปัจจุบันยังมีความสุขดีไหม ยังคิดยังชอบ ยังติดในความสนุกอยู่หรือเปล่า ทั้งหมดล้วนต่างเป็นคำถามที่ผมยังไม่สามารถตอบตัวเองได้เลยสักเพียงนิด

แต่ที่ผมต้องบอกตัวเอง คือ ที่ผ่านมาผมเลือกที่จะเป็นเลือกที่จะทำด้วยตัวของผมเอง เมื่อถึงคราวที่เกิดปัญหาก็ไม่ควรลุกมาแหกปากเรียกร้อง หรือครวญครางหาใคร ผมต้องคิดให้ฝังใจ ว่าผมได้ตัดสินใจไปแล้ว

ที่ดีที่สุด
ผมควรทำตัวให้คุ้นชินกับการอยู่คนเดียว
และ เชื่อว่าตัวเองยังมีความสุขดี




 

Create Date : 19 ธันวาคม 2549    
Last Update : 19 ธันวาคม 2549 18:53:09 น.
Counter : 325 Pageviews.  

เงาแห่งความทรงจำ

เงาแห่งความทรงจำ

-ปัจจุบัน-
โขดหินสะท้อนเสียงคลื่นทะเลกระทบ ฉันยืนไม่ห่างพอให้ละอองสาดผ่านปะทะใบหน้า เมื่อวานฉันอยู่ที่ใด แล้วเพราะเหตุใด ชั่วขณะนี้ เวลานี้ ฉันถึงยืนอยู่ตรงนี้ เพียงลำพัง

-วันวาน -
ทุ่งหญ้าโล่งกว้าง ทอดสายตาไปยาวพอให้เห็นระลอกของสายลมที่พัดพริ้วยอดหญ้าจนปลิวไหว ฉันหนาวขนาดต้องเปิดตาตื่น แน่นอนเป็นที่สุดว่าภาพวิวทิวทัศน์ที่เห็นเคยปรากฏผ่านดวงตา แต่ครั้นจะให้นึก ความคิดก็ต้องทดถอย ไม่อาจจำว่าเคยรู้จักผ่านสิ่งใด ไม่แน่ใจว่าสัมผัสการมาเยือนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ ตรงกันข้าม อาจจะอุปมา คิดนึกไปเอง

ฉันคุ้นในความรู้สึกของสถานที่ เพียงแต่ติด....................ติด....................ติด....................ติด

เฮ้อ! ฉันยอมแพ้ นั่นสิ ! ฉันคิด กี่ครั้งแล้วที่พ้นพูดคำว่ายอมแพ้ออกมาง่าย ๆ เพียงไม่ทันจะฝืนทำให้ถึงเท่าที่จะสุดความสามารถอันพึงมี ฉันมักจะล้มเลิกยอมแพ้ เหมือนครั้งนี้เสมอ แต่เวลายามนี้ คงไม่ถูกเหมาะ ที่จะพร่ำเพ้อต่อความมักง่ายของตนเองมากนัก ฉันหลุดหลงมาอยู่ ณ ที่แห่งหนใด ทำไมถึงคุ้นชินนักแต่ในทางกลับกันเสมือนไม่เคยแม้แต่จะย่างกายผ่าน

ฝัน แน่นอนไม่มีคำตอบอื่นใด เป็นความฝันเสมอ ฉากเช่นนี้ เหตุการณ์เช่นนี้ พบเจอบ่อยในนิยายที่ไร้ทางออก ตีบตัน บทละครที่ผูกเรื่องกันพันละวัน ความฝันมักเป็นทางออก ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลรองรับ ความฝันมักคลี่คลายเรื่องราวทุกอย่าง แม้ไม่ค่อยจะลงตัวก็ตามที

ฉันหยิก เช่นกัน จำมาจากบทนิยายบางตอน ผู้ที่หลงลืมไม่รู้ตัวเพียงใช้กระดูกอ่อนตรงปลายนิ้วจิกแตะ จิตสำนึกจะตักเตือน หากไม่ฝันก็เจ็บนิดหน่อยเท่านั้นเอง

เพียงแต่ ฉันไม่รู้สึกในการหยิกเนื้อของตัวเอง

-ปัจจุบัน-
ฟ้าแทบจะกลืนเป็นสีเดียวกับพื้นครามของทะเล หากไม่มีเส้นขอบมาแบ่งกั้น ฉันยืนต่อไปไม่ไหว เกิดเหตุใดขึ้นกับฉันเล่า สองวันแล้ว สองวันมาแล้วสินะ ที่ฉันหลุดพลัดมาอยู่ต่างที่ต่างเวลาเช่นนี้ ไม่มีใคร ไม่มีใครเลย สักหนึ่งคน

ทะเล หิน ทราย ใช่ แตกต่าง ฉันพยายามรำลึก ที่แห่งนี้ฉันเคยมีความผูกพัน ย้ำชัดไม่มีสิ่งใดยืนยัน แต่ฉันมั่นใจว่าฉันเคยข้องแวะ แม้ไม่ถลำลึกจนตกหลุมพราง ให้มีความทรงจำสุดท้ายมาพันผูก แต่การมาเยือนในคราสองคราไม่น่าจะส่งผลหรืออิทธิพลมากมายให้ฉันต้องมาติดหนึบหนับในที่แห่งนี้เวลานี้

จะมีใครสักคนเล่นตลก ฉันคงไม่ตลกแม้จะเย้ยเยาะให้ความเขลาของตัวเอง

ใช่ จริงแท้ สิ่งเดียวที่นึกออกและน่าจะเกี่ยวโยง เธอ อืม เธอ
เธอคือตัวแปรของคำตอบ

-วันวาน-
ผิดแปลก ต่อให้พระเจ้าสร้างความหฤหรรษ์ เพียงใด ทุ่งหญ้าก็มิสมควรมีสีโทนหม่น ไม่ทั้งหมดไม่เฉพาะเจาะจง ฟ้าก็หม่น ภูเขาไกลริบก็หม่น ต่างกัน ตัวฉันยังเปรอะเปื้อน เสื้อเชิ้ตสีชมพู กางเกงยังเป็นสีครีม รองเท้าสี สี สี?

เฮ้ย! เท้าฉัน คำอุทานไร้สิ้นเสียง

ว่างเปล่า เท่าที่พอจะจำความได้ สองเท้าไม่เคยแยกห่างไปไกลจากกาย ฉันไม่เคยยืนอยู่ที่ใดโดยไร้ซึ่งเท้าทั้งสองแต่บัดนี้ เดี่ยวนี้ ณ นาทีนี้ ยังยืนอยู่โดยไร้เท้า ว่าแต่ ฉันยังจะเรียกว่ายืนได้อยู่หรือ?

ก่อนทำใจจะยอมรับ ตัดทิ้งเรื่องเท้าทั้งสองไปเสีย เพียงเรื่องที่ปรากฏก็สับสนเกินพอ ละเรื่องเท้าไว้ทีหลัง ในเมื่อตัวฉันก็ยังยืนได้อยู่โดยปราศจากสองเท้า

กลับมาที่ฉากอันหม่นหู่ คราวนี้ไม่ต้องจำแนกเป็นละเอียดปลีกย่อย ทุกอย่างถูกฉาบเป็นซีเปีย เว้นเพียงแต่ตัวฉันที่ครบครันด้วยเฉดสี แต่ไร้ซึ่งเท้าทั้งสอง

อย่างไรก็ดี ความคุ้นชินไต่ไล่ขึ้นเป็นลำดับ ถึงยังไม่รู้ว่าอยู่ ณ แห่งหนใด แต่ก็อุ่นใจด้วยความรู้สึก ย้ำชัดอีกครั้ง ว่าเคยผ่านพบ ที่พอจะทำได้คือ รอ

รอให้ความทรงจำเรียกกลับคืนมา

-ปัจจุบัน-
เธอ คำตอบไม่เป็นอื่นใด ทะเล หาด ทราย และโขดหินก้อนนั้น ใช้ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับเธอ สาวน้อยที่นิยมมัดผมเป็นหางม้า ห่างหาย นานเท่าไร? ความเป็นจริงตลอดหลายปีผ่าน ฉันลืมเธอไปแล้ว เราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมากนัก หลับนอนกันบ้างตามโอกาสและอารมณ์

วันหนึ่งเมื่อเปิดตาตื่นพร้อมรับรู้ว่าเธอจมหายไปในทะเล

ผู้พบเห็นเล่าว่าเธอยืนอยู่บนโขดหิน เนิ่นนาน ไม่มีใครรู้ว่าเธอก้าวเดินลงสู่ก้นบึ้งของมหาสมุทร จนเมื่อตะวันขึ้นสู่วันใหม่ ร่างเธอปรากฏไม่ไกลโขดหิน แน่นอน ภาพเธอไม่ค่อยจะน่าดู

ครั้งเธอว่า เป็นไปได้ยากที่จะมีการรวมตัวกันของคำบางคำ แต่เธอก็จะพยายาม ฉันไม่ใส่ใจนัก แปรปรวน เป็นคำคิดที่ผุดขึ้นจากสมอง เธอมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ แทบไม่ปริปาก นิ่งเฉย แม้กระทั่งยามเรามีเซ็กซ์ แต่บดจะพร่ำพูด ก็พ้นคำที่แทบต้องสดับพินิจฟัง

การรวมตัวของคำบางคำที่เธอว่า คงไม่ต่างจากทางเลือกที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทะเล

ฉันยืนอยู่บนโขดหิน จุดสุดท้ายที่เท้าเธอสัมผัสแตะตั้งตรงเป็นมุมเก้าสิบองศา กี่ปีนะที่จากไป ฉันคิด ความทรงจำเกี่ยวกับเธอทะลักทยอยไหลเชี่ยวมาไม่ขาด ฉันไม่น่าจะจดจำเธอได้มากมายถึงเพียงนี้ เพลงที่เธอฟัง หนังสือที่เธออ่าน ทุกอย่างไม่แตกต่าง เธอเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันฉันโดยไม่รู้ตัว

น้ำตาพรากไหล อย่างน้อยในรอบสองวัน น้ำตาก็เป็นเครื่องยืนยันว่าฉันยังมีความรู้สึก รับรู้ หาไม่ใช่ว่างเปล่า

-วันวาน-
ยากจะจับต้อง ฉันไม่รับรู้ถึงสัมผัส การปราศจากเท้าทั้งสองทำให้สภาวะความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ฉันไม่คิดว่าตัวเองลอยไปมาหรือไหวตามแรงลม เพียงแต่ทุกย่างก้าวไร้ซึ่งสัมผัส หม่นหู่ คราวนี้เกิดขึ้นภายใน ฉากซีเปียยังดำรงอยูคงเดิม ทุ่งหญ้ายังพริ้วเป็นระลอกคลื่น ฉันต้องอยู่อีกนานเท่าไร ไกลสุดตาจะเป็นทางออก ฤา

ไม่ ไม่มีเหตุจำเป็นที่ฉันต้องพยายาม เมื่อมาได้ก็กลับไปได้ เหตุใดต้องถ่อเดินไปไร้ซึ้งจุดหมาย

สุดท้ายฉันก็เดินไปตามทางไกลสุดตา โดยปราศจากเท้าทั้งสอง

-ปัจจุบัน-
ครั้งล่าสุดที่พร้อยตาหลับจากเมื่อวาน ไม่ระบุชัดในระยะเวลา เมื่อเปิดตาจึงพบโขดหิดกับผิวทะเล ทุ่งหญ้าซีเปียขาดหาย เท้าทั้งสองกลับมา สมควรเป็นเช่นนั้น ฉันคิด

รูปภาพประดับแผ่นเดียวในห้องเธอ ไม่ต่างจากฉากเมื่อวันวาน ฉันเชื่อเช่นนั้น

ความทรงจำย้อนกลับ ฉันสิ้นสติ ล้มพับ ไม่มีสาเหตุอื่นใด ผู้คนหลากหลายมารุมล้อม ไร้เสียง ไร้ความรู้สึก
ไม่แน่ชัดถึงเหตุการณ์ต่อไป ฉันเปิดตามาก็ปะทะกับสายลมและพบเจอตัวเองอยู่ในภาพประดับ โมเนต์? โกแกง?
ไม่ ฉันไม่มีความรู้พอ อาจจะเป็นภาพวาดดื่นดาษทั่วไป เธอนิยมพิเศษกับสองศิลปิน แต่ไม่ถึงขั้นจำเป็นต้องยกภาพลอกเลียนราคาถูกมาแปะประดับ

แต่ฉันก็ติดอยู่ในภาพนั้นมาแล้ว จริงแท้เป็นที่สุด

โขดหินสะท้อนเสียงคลื่นทะเลกระทบ ฉันยืนไม่ห่างพอให้ละอองสาดผ่านปะทะใบหน้า เพียงลำพัง
พรุ่งนี้ละ..... ฉันประมวล ต้องเดินทางไปแห่งหนใด





 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2549 18:17:43 น.
Counter : 318 Pageviews.  


kittchah
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แกะเป็นสิ่งมีชีวิต
ที่ไม่มีเขี้ยวเล็บ หรือ
เนื้อหนังไว้ป้องกันตัว

ไม่ผิดแปลกแตกต่าง
หากมนุษย์ผู้อ่อนแอ
จะเป็นเสมือน แกะ
Friends' blogs
[Add kittchah's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.