I'm a sheepman(มนุษย์แกะ)
Group Blog
 
All Blogs
 
ความรู้สึก

ความรู้สึก

เสียงเพลงบาลาส์บรรเลงด้วยเปียโนสะกดอารมณ์ให้หยุดนิ่งสงัด ความเหงาเข้ามาปะทะกระทบความรู้สึกให้เปลือกตาต้องบรรจบ มือขวาป้องปากปิดจมูกพร้อยสูดอากาศหายใจเข้าอย่างเนิบช้านิ่งนาน เพียงต้องการความสงบขึ้นในจิตใจ

ฉันตั้งใจเหม่อมองเหนือนอกกระจกผ่านฟิลม์ใส(อาการตั้งใจเหม่อของฉันมักเกิดขึ้นบ่อยยามหวนนึกคิดถึงบางสิ่ง) ไฟท้ายรถคันหน้าทั้งสองฝั่งทางซ้าย-ขวา กระพริบส่องสีแดงอ่อนเป็นระยะที่เคลื่อนไหว เสียงแตรบีบไล่ทำให้ฉันต้องแตะสัมผัสขยับคันเร่งตามความด่วนรีบสัญจรของท้องถนน ตัวเลขสีเขียวบนป้ายจราจรบ่งบอกเวลาในการจำกัดการเคลื่อนเขยิบ รถคันที่หนึ่ง คันที่สอง และสาม สี่ ต่างแทรกตัวเบี่ยงซ้าย มุดขวา เพื่อต้องการไปให้พ้นจากแยกไฟแดงแห่งนี้ให้เร็วที่สุด

‘เวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน’ วลีนี้ฉันไม่แน่ใจว่าจดจำมาจากไหน แต่พฤติกรรมที่ผ่านพบทำให้ฉันสะกิดถึงถ้อยคำดังกล่าว

กี่คันแล้วที่แซงแทรกตัดหน้าเบียดเลนส์ ฉันก็ชะลอจอดให้ผ่านก่อนเสียงแตรคันหลังจะแสดงความไม่พึ่งใจ พร้อมหักเลี้ยวหลบมาขนาบข้างเพื่อจะเบือนหน้ามามองแล้วแซงไป

‘มีความจำเป็นต้องเร่งรีบถึงเพียงนี้’ ฉันคิด เบียดแซงไปสักกี่คันก็ไปติดรวมกันอยู่แยกทางข้างหน้าเหมือนเดิม ช่องต่อระหว่างรถคันต่อคันจะเพิ่มเวลาในการถึงที่หมายต่างกันได้มากมายสักเพียงใด ผู้คนต่างแต่ก็คิดถึงปลายทางของตนจนไม่เรียวมองรอยต่อของความรู้สึกซึ่งกันและกัน

เท้าขวายังทำหน้าที่แตะเบรกเพื่อเคลื่อนตัวเป็นระยะ เส้นทึบเส้นปะบนท้องถนนเป็นส่วนประกอบให้ผู้คนท่องจำขณะเตรียมสอบใบขับขี่มากกว่าความต้องการที่ควรจะเป็น ตัวเลขดิจิตอลสีแดงบ่งบอกให้รถยนต์ต้องหยุดจอดการเคลื่อนเขยิบ อันที่จริงการเปลี่ยนเป็นสีเขียวก็มีความหมายไม่ต่างกัน อัตราสัญจรยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

เพลงบรรเลงเลื่อนลำดับเป็นบทเพลงที่สิบสาม ภาพอดีตลอยมาประดับกระตุ้นเตือนความทรงจำขึ้นอีกครั้ง บทเพลงทิ้งรอยร่องของความหลัง สองมือฉันกำพวงมาลัยเอนหลังลงพิงเบาะพร้อมถอนใจ ครั้งแรกที่สัมผัสความรู้สึกของบทเพลง ฉันพยายามทบทวน

“คุณไม่เคยให้เวลาผม” เสียงเขาสะท้อนก้อง อันที่จริงฉันน่าจะตรองคิดตั้งแต่ประโยคแรกที่เขาเอ่ย แต่ความเป็นจริงฉันกับคิดเข้าข้างตัวเองหรืออาจเพราะความเห็นแก่ตัวที่เถียงไป โดยว่าติดขัดธุระ การงานที่ต้องทำ ถึงกระนั้นฉันก็ทำงานจริงๆไม่ได้กล่าวอ้าง เพียงแต่ช่วงนั้น ฉันคิดว่าเขาไม่เข้าใจ

จนแล้วจนรอด เขาก็ไปหาเวลาจากคนอื่น บทเพลงที่สิบสามคือความรู้สึกที่เขาเหลือทิ้งไว้

มือซ้ายเอื้อมไปกดปุ่มตรงหน้าปัดของเครื่องเสียงเพื่อทำการเล่นซ้ำ บ่อยครั้งที่เพลงเดิมจะเล่นวนมาก รอบตามแต่ฉันจะต้องการ เสียงแตรคันหลังขัดจังหวะของบทเพลง ฉันเลื่อนคันเกียร์พร้อมเท้าขวาแตะเบรก ข้างหน้ารถหลายคันพยายามแทรกเบี่ยงมาจากเลนบังคับเลี้ยว แต่ฉันต้องขยับเพื่อปิดการเบียดแซงเพราะรถคันหลังคงไม่ยอม สีหน้าคนขับแสดงความไม่พอใจ ฉันเหลือบมองผ่านกระจกหลัง

ไฟท้ายสีแดงยังส่องทอดยาวเป็นทิวแถว หลายคนหลายคันแข่งกันพ่นควัน คนหนึ่งลดกระจกพ่นควันจากลมปาก คันหนึ่งเหยียบคันเร่งพ่นควันจากปลายท่อเสียงดังคำราม แออัดวุ่นวาย ฉันถอนใจ ไฟหน้าจากรถมอเตอร์ไซค์สาดใส่กระจกข้างเป็นระยะทั้งซ้าย ขวา ก่อนจะไปจับเกาะรวมกันเป็นกลุ่มเหมือนฝูงผึ้ง รอการปล่อยตัวแตกรัง

ตัวฉันไม่ต่างจากพฤติกรรมของหลายคนบนท้องถนน เฝ้าแต่คิดถึงจุดหมายปลายทางของตน จนหลงลืมรอยต่อของความรู้สึก น้ำตาคลอจนยากจะกลั้นเก็บ การปาดน้ำตาไม่ง่ายเหมือนการทำงานของที่ปัดน้ำฝน กระบวนการทำซ้ำหมุนวน ไม่มีทางที่ก้านปัดน้ำฝนจะหันเหมาชนกัน

ผิดถนัดกับตัวฉัน ที่ต้องทนเห็นการเรียกร้องขอเวลาจากคนอื่นของตัวเขาในสายตา บ่อยครั้งที่เขาจงใจทำให้ฉันเห็น จริงแท้ ถึงแม้ตัวฉันจะทำเป็นไม่แยแสใส่ใจ แต่ข้างในส่วนลึกก็ยากจะทานทน

ไม่อาจกล่าวโทษเอาผิดกับตัวใคร เป็นฉันที่ขว้างทิ้ง ‘ความรู้สึก’ ของเขาด้วยน้ำมือของตัวเอง

เสียงบีบร้องของรถลาในถนนยังคงกังวาน ไม่ผิดต่างจาก เสียงกรีดร้องที่เกิดขึ้นในจิตใจ อีกครั้งที่ปลายนิ้วเอื้อมไปกดปุ่มบนหน้าปัดของเครื่องเสียง บทเพลงที่ สิบสาม ดนตรีบาลาส์ของเปียโนกำลังบรรเลง



'Xjapan' /a



Create Date : 10 มกราคม 2550
Last Update : 10 มกราคม 2550 12:52:20 น. 3 comments
Counter : 325 Pageviews.

 
Translation

Music: Tears
Artist: X japan

Where do we go after we're separated
Now that hanging question has passed
On an endless night, I dreamt of a journey
I gazed at the foreign skies
and embraced the loneliness
Tears always flow with the winds of time
It's not over, feel your sigh.

* Dry your tears with love

Loneliness, your silent whisper
fills a river of tears through the night
Memory, you never let me cry
and you, you never said good-bye
Sometimes our tears blinded the love
We lost our dreams along the way
But I never thought
you'd trade your soul to the fates,
never thought you'd leave me alone

Time through the rain has set me free
Sands of time will keep your memory
Love everlasting fades away
Alive within your beatless heart

Tears always flow with the winds of time
It's not over, blue rose from sadness

Tears always flow with the winds of time
It's not over, feel your sigh.


โดย: kitt (kittchah ) วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:14:39:29 น.  

 
embed type="application/x-mplayer2" style="filter:xray" pluginspage="//www.microsoft.com/windows/mediaplayer/en/download/" src=" //202.142.220.137/rwma/22/2948.wma
" ShowTracker="1" ShowControls="1" ShowStatusBar="1" EnableContextMenu="1" autostart="false" loop="false" height="66" width="280"volume="100%"


โดย: คิท IP: 58.10.84.123 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:9:23:03 น.  

 
อ่านงานเขียนชิ้นนี้แล้ว ได้รับอารมณ์ความรู้สึกบางอย่าง กระทบกระเทือนอยู่ในใจ

...มองเห็นช่วงยามบางครั้งที่มีม่านหมอกอบอวลอยู่รอบกาย ไม่ว่าเรื่องราวนี้ จะเป็นเหตุการณ์ในความคิดจินตนาการ หรือเป็นเหตุการณ์จริงก็ตามที

...บรรยายได้ดีนะคะ...


โดย: แม่มดยุคกลาง IP: 203.113.38.13 วันที่: 29 มีนาคม 2550 เวลา:18:14:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kittchah
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




แกะเป็นสิ่งมีชีวิต
ที่ไม่มีเขี้ยวเล็บ หรือ
เนื้อหนังไว้ป้องกันตัว

ไม่ผิดแปลกแตกต่าง
หากมนุษย์ผู้อ่อนแอ
จะเป็นเสมือน แกะ
Friends' blogs
[Add kittchah's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.