พาไปดู "หาดลายัน" ภูเก็ต เมื่อบลูลากูน และคลองสีมรกตมาบรรจบ
ฟังดูหัวเรื่องหลายคนอาจจะคิดว่า "เว่อร์ไปมั๊ง" หรือล่อให้เข้ามาดูหรือเปล่า
คำตอบก็คือ อยากให้ลองดูภาพด้วยตาตนเองครับ ว่าธรรมชาติได้สรรค์สร้างสิ่งสวยงามให้กับมุมเล็กๆ ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ต อยางไรบ้าง
มาเริ่มต้นจากแผนที่ดาวเทียมนี้ก่อน นี่คือหน้าตาของหาดลายัน และเกาะกะทะ" ครับ
ระหว่างทางที่ขับรถเข้ามาที่หาดลายัน จะต้องผ่านโครงการ Laguna Residences รวมไปถึง David Llyod Resort Lotus Gardens และ Phuket Pavillions....
เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางเข้าซอยมาก็จะถึงหาดลายัน
ลานกางเต้น ?!?
นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่หาดของเกาะภูเก็ต ที่ยังสามารถตั้งแคป์ได้ ดังนั้นใครที่ไม่อยากเสียตังค์ก็มาที่นี่ได้นะครับ เอาเต็นท์มาด้วย ดีเสียอีกเพราะได้นอนใกล้ชิดธรรมชาติแบบสุดๆ ห้องอาบน้ำก็มีพร้อมครับ
หาดลายันนี้มีชื่อเต็มๆ อย่างเป็นทางการว่า "สถานศึกษาธรรมชาติ ป่าชายเลนแหลมสนลายัน"
ตั้งแต่ตรงปากทางเข้า ตรงบริเวณที่จอดเรา ก็จะสามารถเห็นลำคลองได้ มีชาวบ้านกำลังจับปลาในลำคลองอยู่ นี่ล่ะครับเศรษฐกิจพอเพียง
เรือประมงสีสันสดใสจอดเทียบฝั่งคลอง
ส่วนเรือลำนี้ จอดนิ่งอยู่บนบก
กลับมาดูอีกด้านหนึ่ง นั่งท่องเที่ยวฝรั่งสูงวัย กำลังนั่งชมวิวทะเล ด้วยเก้าอี้ที่นำมาเอง
ใครมาตั้งแคมป์ที่นี่ กรุณาอย่าก่อไฟนะครับ หากป่าสนทะเลเหล่านี้จะต้องมอดไหม้ไป คงน่าเสียดายมากๆ
ภาพแรกเต็มๆตาของ "หาดลายัน" น้ำสีฟ้าใส สะอาด ปราศจากคลื่นลม (ภาพที่เห็นถ่ายตอนเดือนกุมภาพันธ์นะครับ) ลูกเด็กเล็กแดงสามารถมาเล่นน้ำที่นี่ได้ครับ แต่ถ้าเป็นช่วงนี้คือฟดูมรสุมอาจไม่เหมาะนักนะครับ ยกเว้นวันที่แดดดีไม่มีฝน
ที่เห็นไกลๆ นั่นคือ เกาะกะทะนะครับ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแหลมสนลายัน แต่ในเวลาที่น้ำลดแรงๆ ก็จะสามารถเดินไปได้เลยครับ จะเรียกว่า "ทะเลแหวก" ก็ย่อมได้เช่นกัน
เดินเข้าไปดูใกล้ๆกันดีกว่า...จะเห็นว่ามีร่องน้ำแคบๆ สีเขียวมรกตกั้นกลางแค่นั้น ถ้าเป็นช่วงน้ำลงก็จะสามารถเดินไปยังเกาะได้
เกาะกะทะอยู่แค่เอื้อม
แดดร้อนมากเลยครับ เนื่องจากไปเก็บภาพช่วงเวลาที่อาทิตย์ตรงหัว เดินไปหน้ามืดไป แถวนี้เป็นแหลมทรายที่ยื่นไปในทะเล ไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาได้เลย
สันดอนทราย สลับด้วยน้ำทะเลสีเทอร์ควอยส์ และร่องน้ำสีมรกต....ส่วนที่เห็นอยู่ในแบ็คกราวน์เป็นหลังคาสีส้มๆ นั่นคือโรงแรม TRISARA ที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่ง ในภูเก็ตของหม่อมตรีฯ ครับ
อีกด้านหนึ่งจะมองเห็นโรงแรม Layan Beach Village และโรงแรม Bundrika Villas ถ้าจะไปถึงโรงแรมเหล่านั้นได้ต้องใช้ทางเข้าอีกทางหนึ่งครับ ต้องอ้อมไปนิดหน่อย
ลากูนธรรมชาติ และสันดอนทราย สลับกัน มองเห็นโรงแรมลายันบีชอยู่ไกลๆ
บรรยากาศชวนให้นึกถึงหมู่เกาะแถววานูอาตู เคยเห็นภาพของลากูนธรรมชาติแบบนี้เช่นกัน ชื่อ Erakor Lagoon อันนี้เป็นภาพที่เอามาเปรียบเทียบให้ดูนะครับ (ภาพจากเว็ป Pacific Travel Guides)
คราวนี้มาดูของบ้านเรากันบ้างครับ คุณว่าที่ไหนสวยกว่ากัน...
ที่หน้าโรงแรม Bundrika Villas มีซากเรือประมงเกยตื้นอยู่ครับ ไม่ทราบว่ามาจากยุคสมัยใด เป็นช่วงสึนามิหรือไม่ ไม่ทราบแน่ครับ
ระหว่างทางที่เดินสำรวจนั้น พบว่าหาดทราบบริเวณนี้มีความนุ่มละเอียด และทุกย่างก้าวที่ก้าวไป จะฝากรอยเท้าจมลึกในผืนทราย แสดงให้เห็นว่าเป็นที่ๆ มีนักท่องเที่ยวมาเดินน้อย ทรายก็เลยไม่ได้อัดแน่นจนสามารถเอารถมาวิ่งได้เหมือนหาดบางหาด
เนื่องจากไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านหาดทรายบริเวณนี้ ทำให้เป็นที่อยู่อาศัยอย่างสงบของปูลมจำนวนมกามาย ทิ้งร่องรอยเอาไว้เกลื่อนหาด
ขามาผมพาเดินเลียบชายหาดลายัน แต่ขากลับผมจะพาเดินไปตามหาดทรายเลียบลำคลองสีมรกตนี้แทน ระหว่างทางจะเห็นเรือประมงวิ่งเข้าไปในลำคลองอยู่เป็นระยะๆ
มองย้อนไปในทิศที่เพิ่งเดินจากมา...
ชาวประมงนำเรือเทียบท่า แล้วตะโกนมาทางผมซึ่งยืนอยู่บนฝั่งว่า "กินข้าวกัน..." นี่คงเป็นคำทักทายด้วยน้ำในใจจริงของคนท้องถิ่น ซึ่งหาไม่ได้ง่ายนักในสังคมเมือง
เรือเหล่านี้ช่วยย้ำเตือนให้ทราบว่า นี่เรากำลังอยู่ที่เมืองไทย ที่ภูเก็ตนี่เอง สวรรค์ทะเลใต้หาได้ที่บ้านเรานี่เอง ไม่ต้องไปไหนไกล...
อย่าลืมแวะมาเที่ยวนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่า เมืองไทยเราสวยไม้แพ้ที่ไหนในโลก...
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 | | |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 11:29:14 น. |
Counter : 16124 Pageviews. |
| |
|
|
|