@ สมัครงานให้ได้งาน
เนื่องด้วยเห็นมีคนถามเกี่ยวกับเรื่องสมัครงาน ก็เลยขอแทรกเรื่องที่จะเขียนต่อจากคราวที่แล้ว โดยคราวนี้ก็เลยจะเขียน 2 เรื่อง คือ
สมัครงานให้ได้งาน
เส้นทางสู่ดวงดาว
ซึ่งจะเป็นตอนต่อกันครับ ( กว่าจะนึกชื่อออก เล่นเอาปวดหัว ) หวังว่าคงเป็นแนวทางให้กับหลายๆคน ได้นะครับ
ปล. ส่วนคนที่ถามเกี่ยวกับตลาดยา เขียนแน่ครับ รอคิวนิดนะครับ ซึ่งคิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับ
การตลาดยา และ ภาพรวมตลาดยา
@ แบ่งบันประสบการณ์ @ สมัครงานให้ได้งาน
จากที่มีคนถามถึง ผมคงต้องขอย้อนกลับไปเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งก่อน คือ กว่าจะเข้ามาเป็นผู้แทนยาได้นั้น ต้องผ่านกระบวนการที่เรียกว่า การคัดสรร หรือ ภาษาชาวบ้านก็สมัครงานนั่นแหละครับ
สมัยผมการสมัครงานยังไม่ยุ่งยาก และ ขั้นตอนมโหฬารเท่าสมัยนี้หรอกครับ แต่ก็ถือว่าหินพอสมควร แต่สมัยนี้คนเก่งเยอะ และจบมาก็มีมาก ดังนั้นขั้นตอนการกลั่นกรองจึงมากตามไปด้วยเพื่อให้ได้คนที่ตรงกับงานจริง ๆ
แหล่งหางานของการเป็นผู้แทนยาเดี๋ยวนี้ก็มีหลายแหล่งครับ ไม่ว่าจะเป็น
ทางหนังสือพิมพ์
อินเตอร์เน็ต ซึ่งสมัยนี้ก็มีเว็บไซด์หางานเพียบ
หรือสำหรับคนที่อยู่ในแวดวงยา บางทีอยู่ในแวดวงอยู่แล้วและอยากเปลี่ยนงานก็ตามโรงพยาบาลก็มี
หรือตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ บางที่ HR ขยันเขาก็จะเดินไปติดประกาศให้อันนี้ก็สบายหน่อย
แต่สำหรับคนที่มีรุ่นพี่รุ่นน้องยิ่งสบายเลยครับใช้โทรศัพท์นี่แหละ กริ๊งกร้างหากันหน่อย รับรองมีงานให้ทำแน่ครับ
สิ่งสำคัญ ที่ผมอยากเน้นในขั้นแรกหลังจากที่เราคัดเลือกหรือได้องค์กรที่อยากสมัครงานมาแล้วนั้น คือ
การเขียน Resume และ Application letter นั่นเอง
ซึ่งเดี๋ยวนี้ผมว่าสะดวกสบายกว่าอดีตมาก เพราะ มีตัวอย่างสามารถที่จะนำมาปรับ หรือลอกแบบมาตราฐานมาเลยก็ได้ หรือจะเข้าไปดาวน์โหลดจากเว็บไซด์ต่าง ๆ ก็ได้มีให้เลือกเยอะ
แต่ขอเตือนนะครับว่าอย่าลอกทั้งดุ้น ให้เอามาปรับให้เข้ากับลักษณะงาน และประวัติขของแต่ละคนจริง ๆ ไม่งั้นจะหนาวตอนไปสัมภาษณ์แน่นอนครับ
การจะเขียนใบสมัครให้สะดุดตา และได้รับการเรียนไปสัมภาษณ์นั้น นอกจากจะต้องเขียนให้ดูมีมาตราฐาน มีความตั้งใจแล้ว ยังต้องพยายามใส่ทุกอย่างที่น่าสนใจในตัวเราเข้าไปให้หมด เช่นมีข้อดียังไง มีเกียรติคุณยังไงบ้าง
เพราะฝ่าย HR เขาไม่มานั่งหาเพชรในตมหรอกครับ Resume และ Application letter นี่แหละที่จะทำให้เขาสนใจคุณ และพยายามบอกตำแหน่งที่อยากจะสมัครด้วย อย่าให้เขาเดาเอง ถ้าเขาไม่เดาให้จะแย่ครับ
จากนั้นเมื่อผ่านเข้ามาในรอบสัมภาษณ์ได้ ก็ต้องทำให้ดีที่สุด
อ้อ! การแต่งตัวมาสัมภาษณ์ก็ควรให้ดูเรียบร้อยแต่ไม่ควรเชยเกินไป เพราะอาชีพเซลล์นั้นต้องเป็นอาชีพที่ต้องพบปะคนเยอะ
ส่วนเรื่องของเวลานั้น ผมขอร้องว่าควรตรงเวลามาก ๆ หรือมาก่อนได้ยิ่งดี เพราะบางที่เขาจะอำนวยความสะดวกด้านความรู้ให้คุณด้วย การหาเอกสารมาไว้ให้อ่านก่อน ซึ่งใครมาก่อนก็ได้ประโยชน์ไป ใครมาช้าละก็นั่งทำใจได้เลย เพราะ ไม่มีใครมองคนมาสาย ว่ามีความตั้งใจ หรืออยากทำงานแน่นอนครับ
ผมเคยเจอคนที่มีการเตรียมตัวที่ดีมาก ก่อนมาสัมภาษณ์เขาจะเข้าเว็บไซด์เพื่อไปดูข้อมมูลของบริษัทที่เขาต้องมาสัมภาษณ์ก่อนว่า มีความเป็นไปเป็นมายังไง มียาอะไรบ้าง ซึ่งนั่นผมว่าเป็นตัวอย่างที่ดีทีเดียวครับ
เพราะแสดงถึงความตั้งใจที่อยากจะเข้ามาทำงาน มากกว่าการมาทำงานเพราะกลัวว่างงาน
วิธีการสัมภาษณ์ที่ดีนั้น ผมจะห้ามไม่ให้ตื้นเต้นก็คงไม่ได้ เอาเป็นว่า ให้ควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นหน่อยก็แล้วกัน อาจจะนั่งทำสมาธิหรือหายใจลึก ๆ ก่อนเข้าไปสัมภาษณ์ก็ได้
จากนั้นก็พยายามฟังคำถามให้จบก่อนค่อยชิงตอบ เขาไม่มองว่าคุณตอบช้าหรอกครับ เพราะสมองจะได้กลั่นกรองคำถามและคำตอบ
จากนั้นก็พยายามตอบให้ตรงคำถาม และอย่าพูดเร็วหรือช้าจนเกินไป เพราะบางคนเขาไม่อดทนฟังคุณตอบนานนัก ที่สำคัญพยายามที่จะพูดความจริงให้มากที่สุด เรียกว่าอย่าโม้มากเกินไป เพราะถ้าเข้าไปได้แล้วและทำได้ไม่เหมือนที่โม้ละก็จะแย่
สำหรับคำถามยอดฮิตในการสัมภาษณ์ก็มีไม่มากหรอกครับ
เช่น อาจจะถามว่าทำไมถึงสนใจงานขาย หรือทำไมถึงอยากเป็นผู้แทนยา บางทีก็ถามว่าคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติอะไร ถึงมาสมัครอาชีพนี้
คำตอบที่ดีนั้น ก็อาจจะตอบว่า เป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ชอบพบปะคน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
หรืออย่างคำถามที่ให้วิเคราะห์ตัวเองถึงจุดแข็งจุดอ่อน
ก็ให้พูดข้อดีของตัวเอง และ พยายามให้มีข้อเสียบ้างเพราะไม่มีใครมีแต่ข้อดี เหรอกครับ แต่ข้อเสียที่บอกออกไปนั้นอย่าให้ขัดกับตำแหน่งงานที่เราสมัครเด็ดขาด เช่น มาสมัครเป็นเซลล์ไม่ใช่บอกว่าข้อเสียคือมีความอดทนต่ำยุ่งเลยครับ เขาคงไม่ให้คุณอยู่ฝึกความอดทนแน่นอน
คำถามว่าวางแผนอนาคตไว้อย่างไร
คำตอบที่ดีก็เช่นว่า อยากเติบโตในองค์กรอะไรประมาณนี้ เพราะทุกที่เขาก็อยากได้คนที่จะเติบโตไปในตำแหน่งอื่น ๆ ไม่ใช่เสียเวลาอบรมพอถึงเวลาไม่ทำ หรือลาออกไปที่อื่น
หลังจากผ่านการสัมภาษณ์เรียบร้อย ถึงจุดสำคัญคือ การทำ Psychometric Test นั่นเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นที่นิยมแพร่หลาย และไม่ได้ใช้วัดเฉพาะในระดับผู้บริหารเท่านั้น รวมไปถึง การวัดความรู้ด้านภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้ามีการเตรียมความพร้อมในทุกด้านก็จะดีที่สุด เมื่อผ่านการทดสอบเรียบร้อยก็รอฟังผลได้เลยครับ ผมเชื่อว่าถ้าเราพยายามที่จะทำให้ดีที่สุด ก็ไม่มีอะไรที่จะยากจนเกินไปแน่นอน
เห็นไหมครับว่าการจะสมัครเข้าทำงานที่หนึ่ง ไม่ใช่เรื่องง่าย การเตรียมตัวและความตั้งใจจริง ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการที่เราจะได้งานดีๆหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่เราทำเองทั้งนั้นแหละครับ
ผมเชื่อว่าเมื่อหลายคนก้าวเข้ามาทำงานสักอย่างหนึ่ง สิ่งที่สำคัญคือการเติบโตในองค์กร หรือต่างองค์กร แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในสายอาชีพเดิม สิ่งที่น่าสนใจคือ เส้นทางของการเดินทางสู่ดวงดาว ผมจะนำเสนอต่อจากนี้
Create Date : 24 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 29 มิถุนายน 2552 21:51:40 น. |
|
5 comments
|
Counter : 2829 Pageviews. |
|
|