Group Blog
 
All Blogs
 
@ นี่แหละผู้แทนยา( Medical Representative )

สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่าน จากคราวทีแล้วที่ผมนำเสนอเรื่อง @กว่าจะเป็นผู้แทนยา หวังว่าทุกท่านคงจะชอบนะครับ  Smiley



จากคราวก่อนก็ก็เป็นเรื่องที่เกรินๆเพื่อเข้าเนื้อหาหลักต่อๆไป วันนี้ก็ได้เอาเรื่องต่อของเรื่อง  กว่าจะเป็นผู้แทนยา  มาให้ทุกๆท่านได้อ่านต่อชื่อว่า @นี้แหละผู้แทนยา หวังว่าทุกท่านคงจะชอบเหมือนเรื่องที่ผ่านมานะครับ ขอบคุณครัSmiley







@ นี่แหละผู้แทนยา( Medical Representative )




คำว่า .."ผู้แทนยา"  หลายคนอาจจะเพิ่งเคยได้ยินด้วยซ้ำไป แต่สำหรับคนที่อยู่ในวงการแพทย์คงจะรู้ว่า คืออะไร แน่นอนถ้าภาษาคนทั่วไปเรียกว่าเซลล์ แต่เชื่อผมสิ การทำงานมันต่างและยากกว่าเซลล์อื่นเป็นไหนๆแน่นอน


ในอดีตคนมักจะเรียกผู้แทนยาว่า ดีเทลเลอร์ Detailer คือผู้ให้รายละเอียดของยา ในปัจจุบันจะเรียกว่า medical representative หรือ ผู้แทนยา ซึ่งน่าจะถูกต้องกว่า สำหรับผมคำว่า ผู้แทนยานั้น บทบาทมันกว้างมาก เหมือนกับการเป็นฑูต (Brand Ambassador) เพราะไม่ใช่แค่ให้รายละเอียด แต่ต้องมีความรู้ทั้งด้านการตลาดและเวชภัณฑ์ด้านยาพอตัว ทำให้บุคลากรด้านนี้ส่วนมากมักจะจบทางด้านเภสัชกร หรือวิทยาศาสตร์ 

ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบทุกด้าน ตั้งแต่การนำเสนอเข้าโรงพยาบาล การสั่งซื้อ การเปลี่ยนยา การขจัดข้อโต้แย้งสงสัย การปิดการขาย และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งผมว่าคนที่จะทำงานนี้ได้ความรู้อย่างเดียวก็ไม่ช่วยให้สำเร็จได้ ต้องบวกความพยายามความอดทน และความเป็นมืออาชีด้วยครับ เพราะเรื่องของมนษยสัมพันธ์เป็นอะไรที่สำคัญมากพอ ๆ กับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เหมือนกัน 

อีกอย่างประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมเรื่องของการส่งเสริมการขายของยาอยู่มหาศาลพอสมควร ก็เพราะมันเกี่ยวพันกับสุขภาพและความเป็นความตาย ทำให้การส่งเสริมการขายของยาในปัจจุบันของประเทศไทยโดยเฉพาะ ยาที่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ (Prescription Drug) ยังเป็นการส่งเสริมการขายหรือโฆษณากับบุคลากรทางการแพทย์ (Healthcare Provider) ป็นหลัก เช่น แพทย์ เภสัขกร และพยาบาล ป็นต้น ขณะที่ประเทศอื่น ๆ อย่างอเมริกา บริษัทสามารถที่จะสื่อสารกับคนไข้ได้โดยตรง หรือที่เรียกว่า DTC (Direct to Consumer)


สำหรับขั้นตอนกว่าจะอกมาเป็นผู้แทนยาแบบสำเร็จรูปได้ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการอบรมทุกขั้นตอนเพื่อให้มีความรู้แบบลึกซึ้ง  ซึ่งหลัก ๆ แล้วบริษัทที่มีมาตรฐาน จะมีการอบรมเรื่องหลักๆอยู่ 5 เรื่อง


1. Disease & Product Knowledge เรื่องของความรู้เกี่ยวกับการรักษาโรคนั้น ๆ คือโรคที่เราต้องเข้าไปขายยา โดยจะมีการอบรมทบทวนตั้งแต่เรื่อง เภสัชวิทยา Pharmacokinetics Pharmacodynamics Anatomy Physiology
การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ  เช่นยาโรคกระเพาะ
หรือยาโรคมะเร็งก็ต้องรู้ว่าเกิดจากอะไร มีวิธีการรักษายังไง 
แล้วจึงเข้าสู่เรื่องผลิตภัณฑ์
ที่ต้องแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากคู่แข่ง 
ซึ่งคนที่มีหน้าที่มาให้ความรู้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ
Product Manager และ Medical Director


2. Selling Skills คือ เรื่องของทักษะการขาย ก็จะมีการสอนตั้งแต่การวางแผนการขาย  การสร้างบรรยากาศในการสนทนา การควบคุมการสนทนา การเสนอขาย  การถามความต้องการ การขจัดข้อโต้แย้ง การปิดการขาย และการสรางความสัมพันธ์ 


3. Personality คือการพัฒนาบุคลิกภาพเสริมด้วย เพราะบางครั้งจะเห็นว่าการมีบุคลิกภาพที่ดีก็สร้างความประทับใจไปได้ส่วนหนึ่แล้ว


4. Territory Management การวางแผนการทำงานและการเดินทาง การบริหารข้อมูลเขตการขาย การจัดลำดับความสำคัญของลูกค้า และความถึ่ในการเข้าพบ


5. เรื่องของ Laws & Regulations รวมไปถึง Guideline Code of Conduct และ Compliance ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เนื่องจากบุคลากรในวงการยาจำเป็นที่จะต้องมีจริยธรรมในการทำการขายและการตลาดยา เช่นเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องมีจริยธรรมในการรักษาผู้ป่วย เนื่องจากเกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นความตาย นอกเหนือจากกฎระเบียบที่สำคัญที่ของบริษัทเองแล้ว ที่ควรมีการอบรมคือ PReMA Code of Sales & Marketing Practices, IFPMA, ระเบียบการโฆษณาของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา



พอนักขายฝึกหัดผ่านขั้นตอนการอบรมและพร้อมกับการทำงานแล้ว
ต่อไปคือการออกไปสังเกตการณ์นั่นเอง
ก็จะมีการออกไปกับตัวแทนที่มีประสบการณ์เพื่อดูตัวอย่างการปฏิบัติจริง




จำได้ว่าครั้งแรกในชีวิตของผมที่ต้องออกไปทำเองนั้น ตื่นเต้นสุด ๆ เลยครับ Smiley


เพราะยุคนั้นยังมีการเทรนไม่มากต้องลุยเอง  แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี Smiley




สิ่งที่ผู้แทนยาต้องคำนึงถึงนอกเหนือจากการเข้าไปขายยานั้นคือ ต้องเข้าใจในวิชาชีพแพทย์ ว่าเป็นอาชีพที่มีบุคลากรน้อย ดังนั้นแพทย์ 1 คนจึงมีงานหลายด้าน เวลาที่มีจึงน้อยมาก ดังนั้นผู้แทนยาที่ดีจึงต้องใช้เวลาทุกโอกาสที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุด


เริ่มต้นด้วยต้องศึกษาว่าโรงพยาบาลที่เรารับผิดชอบ
รวมถึงแผนกที่เรารับผิดชอบนั้นมีแพทย์กี่ท่าน
แต่ละท่านมีตารางการทำงานยังไงบ้าง เราควรที่จะไปพบได้เวลาไหน
ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่เบาเลยนะครับ
เพราะถ้าพลาดละก็กว่าจะได้คุยอีกก็ยาวทีเดียว


ซึ่งส่วนมากเวลาที่ผู้แทนยามักจะไปดักรอแพทย์ก็จะเป็นเวลาช่วงก่อนเข้าตรวจ
เพราะบางคนจะคิดว่าถ้าพูดก่อนหมอตรวจจะทำให้จำชื่อยาได้ 
แล้วก็หลังเวลาตรวจเสร็จ
แต่บางครั้งก็พบว่าแพทย์จะเหนื่อยแล้วไม่มีเวลาคุย
หรือไม่อยากคุยกับเราต่อ  โดยเฉพาะถ้าเป็นหน้าใหม่ยังไม่เคยคุยกัน
หรือเจอกันมาก่อนละก็ต้องอดทนรอไปก่อน


ในขณะที่ในต่างประเทศอย่างอเมริกาจะมีการทำเป็นตารางนัดหมาย แต่ในประเทศไทยก็มีแพทย์บางท่านที่เริ่มทำแล้ว ซึ่งก็ทำให้เราทำงานกันง่ายขึ้นมาบ้าง


และถึงแม้โชคจะช่วยให้ได้เข้าไปคุยกับแพทย์ แต่ผมบอกเลยเวลาที่แต่ละคนมีรับรองไม่เกิน 5-10 นาทีแน่นอน เว้นแต่จะบังเอิญแพทย์อยากรู้หรืออยากได้ข้อมูลจากเราพอดีนั่นแหละครับถึงจะนั่งสาธยายได้มันเลย Smiley


แต่ถ้าโชคอำนวยเวลาเพียงน้อยนิด
และเหลียวหลังแลหน้าแล้วยังมีคิวบริษัทคู่แข่งจ่ออยู่หลังอีกเพียบละก็ Smiley ต้องใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่าหน่อย



เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเองว่าชื่ออะไร
มาจากที่ไหน และอาจโยนคำถามที่เป็นทั้งปลายปิด และปลายเปิดเข้าไป
เพื่อให้รู้หลักการทำงานของแพทย์แต่ละท่านว่ามีการทำงานยังไง
เพราะบางครั้งแพทย์บางท่านก็จะเน้นเรื่องความสะดวกสบาย
ขณะที่บางท่านก็จะเน้นเรื่องของผลข้างเคียง จากนั้นก็
ตามด้วยประสิทธิภาพของยา ความแตกต่างกับคู่แข่ง และความคุ้มค่า
ถ้าจับจุดได้ในครั้งแรกการมาพบครั้งต่อไปก็จะสบายมากขึ้น
และจะทำให้แพทย์สนใจและอยากคุยกับเรามากขึ้น



ปัญหาที่สำคัญอีกอย่างคือ เรื่องของความสัมพันธ์ ที่ผมบอกมาตั้งแต่แรกและเน้นมาตลอด  ต้องมีการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว แต่ที่พบบ่อย ๆคือ การสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นเพียงระยะสั้น ๆ พอเปลี่ยนไปดูแลยาแผนกอื่น
ๆ ก็ไม่ได้มีการติดต่อกับแพทย์กลุ่มเดิม  
แต่คนที่ทำงานได้ดีจะพบว่าถึงไม่ได้ดิวซ์งานกันก็ยังมีการแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนเสมอ



ที่สำคัญการที่จะเป็นผู้แทนยาที่ดีนั้นต้องพยายามหาประสบการณ์และอัตเดตตัวเอง
เสมอเพื่อให้สามารถรู้ทันเหตุการณ์ต่าง ๆ  และสามารถที่จะคุยกับแพทย์ได้



แต่การจะเป็นผู้แทนยาที่ดีได้นั้น ไม่ใช่แค่การขายยาไปวัน ๆ แต่สิ่งที่ถือเป็นวิทยายุทธ์ขั้นสูงในการที่จะเลื่อนตำแหน่ง หรือสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์คือการ "ทำยาเข้าโรงพยาบาล"



.


..






วันนี้ ก็หมดแค่นี้กับเรื่อง @ นี้แหละผู้แทนยา  แล้วครับ หวังว่าทุกท่านคงชอบ เรื่องต่อไปที่อยากจะเขียนคือ การทำยาเข้าโรงพยาบาลนั้นสำคัญไฉน หวังว่าทุกๆท่านคงยังติดตามเช่นเดิมกันนะครับ Smiley




Create Date : 21 มิถุนายน 2552
Last Update : 21 มิถุนายน 2552 23:33:33 น. 13 comments
Counter : 8899 Pageviews.

 
ให้ความรู้ดีค่ะ หนูกำลังอยากรู้เลยว่า

Med rep ที่ดีควรทำยังไงบ้างจึงจะประสบความสำเร็จ

ขอบคุณค่ะ



โดย: Med Rep Practice IP: 124.120.115.205 วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:13:32:02 น.  

 
สุดยอดไปเรย

ถึงแม้ยังไม่ได้ทำ

แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม



โดย: มิกิ IP: 222.123.20.123 วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:1:16:48 น.  

 
อยากสอบถามค่ะว่าการนำเสนอขายยาของดีเทลปัจจุบัน

ขายยากหรือเปล่า แล้วมีหลายคนมั้ยคะที่ปิดยอดไม่ได้


โดย: นน IP: 124.122.163.76 วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:23:04:54 น.  

 
ได้ความรู้ดีมากเลยครับพี่


โดย: tomcat007 วันที่: 24 มิถุนายน 2552 เวลา:15:53:55 น.  

 
ดีมากค่ะ ถ้ามีเวลาช่วยเพิ่มรายละเอียดในเรื่องจริยธรรมสำหรับผู้แทนยาด้วยค่ะ



โดย: พี่เปี๊ยก IP: 58.136.74.92 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:25:11 น.  

 
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากมายเลยครับ


โดย: jayshuro วันที่: 5 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:22:22 น.  

 
อยากได้ภาคต่อเร็ว ๆ จัง เรื่องยาเข้าโรงพยาบาลคะ


โดย: nooair IP: 165.89.84.88 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:16:16:04 น.  

 
ไม่ทราบว่าการสมัครงานเป็นผู้แทนนี่สมัครยังไง ที่ไหน ครับ


โดย: Naratip IP: 10.0.100.116, 58.9.213.22 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:02:31 น.  

 
ไม่ทราบว่าการสมัครงานเป็นผู้แทนนี่สมัครยังไง ที่ไหน ครับ

ถ้าพี่ว่างๆผมขอรายละเอียดด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

hippototo@hotmail.com


โดย: Naratip IP: 10.0.100.116, 58.9.213.22 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:03:48 น.  

 
อยากทราบว่าการสมัครเป็นผู้แทนยาสามารถสมัคร
ได้ที่ไหนบ้างค่ะ

ปล. รบกวนหน่อยนะค่ะ..ช่วยแนะนำกลับมาที่ e-mail ต่อไปนี้นะค่ะ i_aese@yahoo.com

ขอบคุณคะ


โดย: Ap IP: 202.12.73.6 วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:20:23:17 น.  

 
อยากทราบเช่นกันค่าเรื่องสมัตรงานผู้แทนยา

เพราะเข้าไปเวปไซต์ของ บ. ยาดังๆ เค้ามักจะให้ทิ้ง CV ไว้ รอตำแหน่งงานว่าง เลยรู้สึกเหมือนว่าต้องรอต่อไปไม่รู้นานแค่ไหน ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

tms_kk@hotmail.com


โดย: Thitima IP: 203.144.144.164 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:38:13 น.  

 
อยากทราบว่าถ้าเปรียบเทียบระหว่างคนที่ไม่ได้จบเภสัชหรือวิทยา
แต่มีประสบการณ์ผู้แทนยา 1 ปี กับคนที่เพิ่งจบเภสัชหรือวิทยามา
ใครจะมีโอกาสได้งานมากกว่ากันคะ

ขอบคุณนะคะถ้าตอบ


โดย: SN IP: 124.121.24.103 วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:21:21 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้คับ ได้รู้สโค๊บงานคร่าวๆ ขอบคุณมากคับ ^^


โดย: PUNPUN IP: 125.27.43.103 วันที่: 14 มิถุนายน 2553 เวลา:0:10:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Khun U
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




สวัสดีเืพื่อนๆพี่ๆน้อง ชาวพันทิพทุกท่านครับ และขอขอบคุณทุกท่าน ที่ได้แวะเข้ามาเยี่ยมเยียน bloggang ของผม (หวังว่าคงมากันบ่อยๆนะครับ เดี๊ยว blog ผมเหงาแย่ แหะๆ )

ที่ผมได้ทำ blog นี้ก็เพื่อแบ่งปันประสบการณ์การทำงานของผมให้กับทุกท่าน หวังว่าคงจะชอบกันนะครับ...

ถ้าท่านใดมีปัญหาให้ช่วยปรึกษาก็รบกวนหลังไมค์มาได้ครับ จะช่วยเท่าที่สามารถทำได้ครับ
Friends' blogs
[Add Khun U's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.