ใครดีเราดีตอบ ใครชอบเราตอบแทน ใครร้ายจะร้ายแสน ให้เหมือนแม้นที่มันทำ
Group Blog
 
All Blogs
 

@เมื่อความรักอยากรู้จักคุณ@

เรื่องราวนับต่อจากนี้ มันคือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง เมื่อหนุ่มหน้าตี๋(ต่อไปจะเรียกว่า "โฟล์ค" ) ได้เริ่มเข้ามาในชีวิตเราเรื่อย ๆ ทุกวัน เมื่อโฟล์คไปถึงที่ทำงาน (เข้ากะบ่าย) โฟล์คมักจะโทรมาบอกเก๋เสมอ เป็นช่วงเวลาประมาณเที่ยงครึ่งของทุกวัน และระหว่างที่คุยโทรศัพท์อยู่กับโฟล์คในวันนั้นอยู่ ๆ สายก้อหลุดไป โทรกลับไปก้อไม่รับสาย จนเก๋เองก้อกลับมาทำงานเหมือนเดิม สักพักใหญ่ ๆ โฟล์คก้อโทรกลับมา เค้าพูดตามสายมาด้วยเสียงสั่น ๆ เลยสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ได้รับรู้ก้อคือ เมื่อครู่แฟนเก่า J โทรมาเข้าเครื่องโฟล์ค เพราะคิดว่า J ใช้มือถือเครื่องนี้ แล้วพอคนรับสายกลายเป็นโฟล์ค สิ่งที่ คนสองคน ได้รับรู้ก้อคือ แฟนเก่า J บอกว่า J ยังติดต่อเค้าอยู่ และยังไปร่วม... กับเค้าอยู่ ได้ฟังเท่านี้ เป็นใคร ใครก้อต้องโกรธ โฟล์คมาปรึกษาว่า เค้าควรจะทำยังไงดี เค้าโทรไปหา J แล้ว เลิกงานจะเคลียร์กัน เค้าจะไม่เข้าไปทำงานวันนี้ เพราะต้องการเคลียร์กับ J ให้รู้เรื่อง เราเองก้อทำได้แค่ปลอบให้เค้าใจเย็น ๆ ค่อยๆไปพูด ไปฟังเหตุผล J ว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าทำจริงรึป่าว เค้าเลยบอกว่า เค้าคุยกันแล้ว J ยอมรับว่า ทำจริง ๆ > เฮ้อ !!! เครียดแทนไหมละ เป็นเราก้อคงเจ็บน่าดู แล้วเค้าก้อวางสายไป โทรมาอีกครั้งเค้าก้อเล่าให้ฟังว่า เค้าจะไม่กลับไปอีกแล้ว เค้าจะขนของทุกอย่าง ออกไปจากห้องนั่น เค้าจะกลับไปอยู่บ้านกับแม่และน้อง ฟังดูแย่ ๆ เนาะ เมื่อโดนคนรักหักหลังมันคงเจ็บน่าดูเชียวละ แล้วเรารู้ได้เลยว่า เค้าต้องมาพูดเรื่องขอคบกับเรา แล้ว หลังจากนั้นไม่นานเค้าก้อพูดเรื่องนั้นจริง ๆ บอกตรง ๆว่าเราสับสนมาก เค้าเองก้อเป็นคนดีคนนึง แต่เราคิดว่ามันเร็วเกินไปที่จะไปถึงขั้นนั้น เราบอกเค้าว่า ก้อคุยกันไปอย่างนี้ก่อน อย่าเพิ่งเร่งรัดอะไรเลย ไม่ใช่ว่าเค้าไม่ดีพอ แต่เราเองต่างหากที่กัวใจตัวเอง สุดท้ายเราสองคนก้อยังโทรคุยกันตามปกติ

วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฏาคม 2550 เค้าโทรมาบอกว่า วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา ไปวัด เวียนเทียนกัน เราเลยตกลงไปเวียนเทียนกันที่วัดที่ซอยตรากบ ซึ่งเป็นวัดในซอยบ้านขวัญ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ขากลับก้อแวะตลาดราชา ที่ปากน้ำ เพื่อซื้อกับข้าวมากินกันที่คอนโดเรา เป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ด้วยกันแบบจริงจัง ถือได้ว่าเป็นเดทแรก ก้อได้มั้ง หลังจากนั้น เลิกงานทุกวันโฟล์คจะมาหาเราทุกวัน เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น เค้าเป็นคนที่เอาใจเก่งคนนึงก้อว่าได้ แต่ก้อไม่รู้เหมือนกัน ว่านี่จะเป็นนิสัยของผู้ชายทุกคนรึป่าว มันเหมือน "ของใหม่ใหม่ ใครใครก้อเห่อ" เราตกลงใจคบกับเค้า ทุกอย่างดูราบรื่น เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร เค้าให้เราไปรับเค้าที่ 7Eleven ทุกวันที่เค้าเลิกงาน ทั้งที่เราไม่อยากไปเลย เพราะคนใน 7Eleven ทุกคนคิดว่า เราเป็นมือที่ 3 ที่ไปแย่งโฟล์คมาจาก J แต่หากวันไหนเราไปช้าหรือไปสายเค้าก้อจะงอล เราเองก้อตามใจเค้าเหมือนกัน เลยต้องไปรับเค้าที่ร้านทุกวัน จนมาถึงวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม 2550
เป็นวันที่เรานัดกับพี่ชายไว้ ว่าจะไปดูลูกพี่ชายที่เพิ่งเกิด แต่ตื่นนอนตอนเช้า เราก้อโทรหาโฟล์คตามปกติ แต่แม่เค้าเป็นรับสายบอกว่าโฟล์คไม่อยู่และเดียวกำลังจะออกไปทำธุระกับแม่ เราก้อวางสายไป สักพักโฟล์คก้อโทรกลับมาบอกว่าจะพาแม่ไปงานต้นไม้อะไรสักอย่าง แล้วก้อได้ยินเสียงแม่พูดมาว่า ก้อให้ชวนเก๋ไปด้วย โฟล์คเลยบอกว่า แม่เค้าไม่เคยให้ชวนใครไปด้วย เราเองก้อเกรงใจก้อเลยตกลงรับปากว่าโอเคจะไปด้วย นัดเจอกันที่ Lotus อ่อนนุช เราไปช้ากว่าโฟล์ค 15 นาที เกรง ๆเหมือนกันเพราะเราเองก้อไม่เคยต้องไปพบหน้าผู้ใหญ่แบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เลิกกะแฟนเก่าได้ 2 ปี แม่โฟล์คเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ช่างพูด ช่างคุย แม่จะเรียก โฟล์คและน้องว่า "ลูกโฟล์ค" และ "ลูกแฟต" ตลอดเวลา ดูเค้าเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจัง ยิ่งย้อนกลับทำให้เรานึกไปถึงว่า J เค้าไปทำอะไรไว้ ทำไมแม่โฟล์คถึงได้อคติขนาดนั้น วันนั้นเรา 4 คน โฟล์ค เก๋ แม่ และน้องแฟต ไปเดินจตุจักรกัน พาแม่ไปดูของแต่งบ้าน ไปดูต้นไม้ โฟล์คเค้าเดินกุมมือเราไว้ตลอดทาง เค้าคอยเทคแคร์ ดูแลเราตลอด แม่โฟล์คก้อใจดีกับเรามาก ๆ ขากลับ แวะพาแม่ไปกินแคนตัสสุกี้ ตรงซอยอุดมเดช นี่ก้อเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เราได้กินข้าวร่วมกับครอบครัวของโฟล์ค เรากับโฟล์คตกลงกันว่าจะไปแวะตลาดปากน้ำเพื่อซื้อพวงมาลัยไหว้แม่ โฟล์คพาเราไปที่บ้านเค้า เราได้นั่งพูดคุยกับแม่เค้าเล็กน้อย เพื่อทำความคุ้นเคยและความรู้จักกัน แม่โฟล์คเป็นคนอารมณ์ดี คุยสนุก ยิ้มแย้มแจ่มใส วันนั้นเราได้เห็นภาพ โฟล์คและน้องแฟต นำพวงมาลัยไปไหว้แม่ ค่อยก้มลงกราบที่ตักแม่ เชื่อไหม !!! เราไม่เคยได้ทำอย่างนี้กับแม่เราเลย ตั้งแต่เราจบม. 3 เรากับแม่และพ่อก้อไม่ได้อยู่ด้วยกัน ด้วยสาเหตุที่เค้าสองคนกลับไปอยู่ใต้ ภาพที่เราเห็น ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นครอบครัวนึง แม่ลูกหยอกล้อกัน เหตุการณ์ระหว่างเราและโฟล์ค ทุกวันก้อยังคงดำเนินต่อไปอย่างมีความสุข แต่ใครเลยจะคิดว่า ความสุขที่มีจะอยู่กับเราได้ไม่นาน




 

Create Date : 11 ตุลาคม 2550    
Last Update : 11 ตุลาคม 2550 15:20:46 น.
Counter : 247 Pageviews.  

@เริ่มต้นที่คำว่า "เพื่อน"@

ตั้งแต่หนุ่มตาตี๋เอาเบอร์โทรไปก้อยังไม่โทรมาเลย แต่เราเองก้อแวะเวียนไปซื้อของที่ 7Eleven นั่นบ่อย ๆ จนวันอาทิตย์ ที่หนุ่มตาตี๋เค้าไปเรียนหนังสือ เค้าก้อโทรมาหา คุยโน้นนี่กันจิปาถะ เรารู้แล้วละว่าเค้ามีแฟนอยู่แล้ว ก้อคุยกันเหมือนเพื่อนเฮฮา ปาจิงโกะ ไปเรื่อยๆ วันเวลาผ่านไปเกือบเดือน เค้าก้อโทรมาหาเราบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งตัวเราเองก้อไม่ได้คิดอะไรมากมาย ก้อคุยกันได้เหมือนเพื่อน ๆ จนเค้าเล่าให้ฟังว่า แฟนเค้า (สมมติชื่อย่อว่า J) J มักจะมีปัญหากับแม่เค้าเสมอ เพราะ J มักจะใส่กางเกงสั้น ๆ แต่งตัวไม่เรียบร้อย เค้าเคยทะเลาะกับแม่หลายครั้งเพราะเรื่องของ J เค้าทำให้แม่เค้าร้องไห้มา 2 ครั้งแล้ว เค้าก้อบอกว่าอยากให้ J ปรับปรุงตัวใหม่ แม่เค้าจะได้ไม่อคติ เราเองก้อได้แต่แนะนำไป ว่า ก้อต้องคุยกันให้รู้เรื่องว่า J ต้องปรับปรุงตัวใหม่นะ จริงๆ แล้ว เรามองว่าเรื่องแค่นี้มันเป็นปัญหาแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง ไม่ใช่เลย มันกลับสร้างปัญหาใหญ่ ปัญหาหนึ่งให้กับแม่และลูกคู่หนึ่งที่น่าจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ตอนนี้ เวลาที่คุยกัน เราก้อเหมือนเป็นที่ปรึกษาเค้าไปเลย คอยแนะคอยบอกเค้าตลอดเวลา ดู ๆ ไปเค้าเองก้อเป็นคนดีคนนึง ดูเค้าเองก้อรักแม่เค้ามาก แต่กะแฟนเค้า ซึ่งมาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน เค้าเองก้อคงรักแฟนเค้ามากเหมือนกัน เรื่องราวผ่านไป ช่วงหลังๆ เค้าก้อโทรหาเราบ่อยขึ้นเพราะว่าเค้าเข้ากะดึกและแฟนเค้าเองก้อไปอบรมคอร์สสำหรับเป็นผู้ช่วยคัดสรร 1 อาทิด เหมือน "แมวไม่อยู่ หนูร่าเริง" เยยเนาะ ช่วงเวลานี้ทำให้เราสองคุยสนิทกันมากขึ้น ได้เรียนรู้ พูดคุยแลกเปลี่ยน นานาสาระกันไปเรื่อยเปื่อย
sms แรกที่เราส่งเค้าคือ "อย่าแอบงีบเวลาทำงานนะรู้ไหม :-P" วันที่ 11/07/2007 เวลา 23:40:19 เป็นช่วงเวลาที่เค้าทำงานกะดึกช่วงแรกที่เราได้คุยกัน แต่เราเองก้อยอมรับอย่างนึงว่า ปกติไม่ว่าผู้ชายคนไหนที่เรารู้ว่าจะมาจีบเรา เราไม่เคยให้เค้าล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวเราแม้แต่น้อย อย่างจอน เราให้เค้าโทรมาคุยได้แค่ช่วงเวลาหลังเลิกงานเท่านั้น และ 4 ทุ่ม เราจะบอกจอนตลอดว่าเราง่วงนอนแล้ว ทั้งที่จริง ๆป่าวเลย แต่เราต้องการความเป็นส่วนตัวตามแบบของเรา แต่กะผู้ชายคนนี้ เรากลับปล่อยให้เค้าเข้ามาทำลายความเป็นส่วนตัวของเราอย่างง่ายดาย เค้าเข้ากะดึกตั้งแต่ 4 ทุ่มเลิกงานตอนเช้า แต่เราก้อปล่อยให้เค้าโทรหาเราได้ทั้งคืน ตลอดคืน ตี 1 ตี2 ตี3 คุยกันยันเช้า เราปล่อยให้เค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเราโดยไม่รู้ตัวเยยสักนิด จนสุดท้ายก้อเกิดเรื่องจนได้ เพราะเราส่ง sms ไปหาเค้าว่า
"อย่าลืมทานข้าว ทานยานะรู้ไหม พักผ่อนเยอะ ๆ นะ จะได้หายไวไว" วันที่ 16/07/2007 เวลา 12:21:14

เพราะเรารู้ว่าเค้าไม่สบาย แย้วแฟนเค้าดันมาเปิดเจอ เค้าก้อโทรมาบอกว่าเราไม่ต้องโทรหาเค้าแย้วนะ แฟนเค้าจับได้เรื่อง sms เด่วจะมีปัญหาอีก เราก้ออืม อืม อืม เค้าหายไปจากเราเกือบอาทิด จนวันอาทิดเค้าไปเรียนเค้าก้อโทรมาอีก (โทรได้เฉพาะตอนไปเรียน ไม่ง้านเด่วโดน J จับได้อีก) เค้าก้อบอกว่าเค้าขอโทดที่เค้าไม่ได้โทรหาเยย รู้สึกผิดไรงี้ และก้อเกิดเรื่องอีกจนได้ เรื่องราวต่อไปนี้ มันคือเรื่องราวที่พลิกชีวิตคนคนนึงให้เปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2550    
Last Update : 11 ตุลาคม 2550 13:43:33 น.
Counter : 221 Pageviews.  

ลงร้าน ณ 7Eleven สาขา แบริ่ง

เริ่มต้นยังไงกันดี กับการปฏิบัติงานครั้งนี้ เหมือนได้เปลี่ยนชีวิต ญ สาว คนนึง ไปเป็นอีกแบบนึง ซึ่งก้อไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจุดเริ่มต้นของการลงร้านที่ 7Eleven ทำให้เราได้พบเจออะไรมากมายขนาดนี้ เริ่มต้นการทำงาน 7 วันใน 7Eleven ด้วย

วันที่ 1 (พ. 20 มิย. 2550) ตามตารางเค้าให้เข้างานกะเช้า 6.30 - 14.30 ดีนะที่สาขาอยู่ใกล้คอนโด เยยไม่ต้องกัวรถติด มอไซด์ปราดเดียวไปถึง เดินทำหน้าเอ๋อ ไปขอพบผจก. ร้าน แต่ดันยังไม่มาเจอผช.ผจก. ก้อรายงานตัวไปซะเสร็จสรรพ ได้หน้าที่ จัดเซลฟ์มา เอาละเว้ยงานแรก สู้ ๆ
อยากบอกว่ามันเป็นงานที่น่าเบื่อมาก วัน วัน ได้แต่ fonrt self ให้ดูดี เรียบร้อยมีชาติตระกูล นั่งนับแต่เวลาเมื่อไหรจะได้เบรก ทำงานครบ 4 ชม. แรกปุ๊บ รีบขอ ผจก.ไปเบรกทันที กลับมาหลังจากกินข้าวเสดก้อ บลา ๆๆ ทำงานเดิมๆ ไม่เห็นหนุกเยย ตกบ่ายนิดหน่อย เด็กกะบ่ายเริ่มมาเปลี่ยนกะกันละได้เห็นพนักงานเพิ่มขึ้น ทำไมกะบ่ายคนเยอะจัง พอดีมีหนุ่มหน้าตี๋มาชวนไปกินส้มตำปูปลาร้า แต่ดันกินข้าวแย้ว เยยอดไป (เสียดายปลาร้าเจงๆ) วันแรกหมดไปอย่างช้ามากกก

วันที่ 2 (พฤ. 21 มิย. 2550) วันที่สองเข้ากะเช้าเช่นเคยผ่านไปอย่างเลื่อนลอยไม่มีอารายน่าทำสักกะอย่าง มานช่างน่าเบื่อจริงๆ แต่ตกบ่ายเอาอีกละ หนุ่มหน้าตี๋คนเดิมอีกละมาชวนไปกินส้มตำ โทดทีนะยะ ฉันกลับไปหม่ำข้าวที่คอนโดเรียบร้อยแล้ว อิอิ

วันที่ 3 (ศ. 22 มิย. 2550) เข้ากะเช้าอีกเช่นเคย วันสุดท้ายของกะเช้าแย้ว อย่างเด่วที่รู้สึกดีของการเข้ากะเช้าค่อทำให้เราได้เลิกงานเร็ว ก้อเลิกตอน 14.30 น. นิหน่า มีเวลาว่างให้ทำอีกเยอะแยะเยยอ่า ลัลล้า อยากเข้ากะเช้าหมดทุกวันเยย แต่ไปขอ ผจก. แล้วเค้าไม่ให้ เค้าบอกต้องเข้าให้ครบทุกกะ ใจร้ายชะมัดเยย

วันที่ 4 (จ. 25 มิย. 2550) เข้ากะบ่ายวันแรก งานก้อคงเดิม ๆ เดิม fornt self ไปเรื่อยๆ กะคอยสังเกตุการณ์ดูขโมยซีดี วันนี้ก้อเหมือนเดิมพ่อหนุ่มหน้าตี๋ก้อมาชวนไปหม่ำส้มตำปลาร้าเหมือนเดิม จะพลาดได้ไงละคร๊า เตรียมพุงมาฟาดเต็มที่ เพราะเริ่มคุ้นเคยกะพี่ๆ ในที่ 7Eleven แล้วด้วยละ เยยอยากนั่งหม่ำข้าวด้วยจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น มีพี่องุ่น (ผจก.) ป้าจัน หนุ่มหน้าตี๋ น้องเบลล์ และข้าพเจ้าเอง อิอิ หม่ำกันไปได้อรรถรสในการกินเหลือเกิน อาหารมื้อนี้มี ปลาเผาด้วยอ่า อร่อยจริงๆรู้สึกหนุ่มหน้าตี๋จะให้น้องเบลล์ไปซื้อมา ชักตะหงิด ๆ ละว่าจะต้องมีอารายสักอย่าง พอหม่ำเสดก้อเอาเงินไปจ่ายหนุ่มหน้าตี๋ ดันไม่ยอมรับเงินเราซะอีก นั่นแน่ !!! รู้นะคิดอารายอยู่ กะอีแค่เลี้ยงข้าวมือเดียว ฉันไม่หลงกลตาตี๋ นายหรอก จะบอกให้ 5555

วันที่ 5 (อ. 26 มิย. 2550) เข้ากะเช้าวันสุดท้าย มาถึงปุ๊บ โดนใช้ให้หั่นผัก แตงกวา ฯลฯ แย้วคนอย่างอิฉ๊านเคยทำกะเค้าซะทีไหน หนุ่มตาตี๋เยยรับหน้าที่ผู้สอนให้ อิอิ รู้สึกแปลก ๆ ตั้งแต่เมื่อวานแร้นอ่า ว่าเอ๋ !!! เค้าแอบชอบเรารึป่าวหน้า หน้าไม่สวย ตัวก้อดำ อ้วนก้ออ้วน คงไม่หรอกม้าง เข้าข้างตัวเองมากก่า แต่พอกินข้าวช่วงบ่าย ๆ ด้วยกัน เค้าก้อมีอาการมากระแซะ ๆ แบบว่าบอกน้องเบลล์ให้ไปไกลๆ คนจะจีบกาน ฮิ้วววว เอาละเว้ย โดนจีบแย้วเรา อิอิ ตกตอนค่ำ หนุ่มหน้าตี๋ก้อมาขอเบอร์ บอกว่ามีลูกค้าอยากได้ ฮะนั่นแน่ !!! มุกเก่า ๆอีกแร้นน๊า เค้ารู้หรอกว่าตัวเองจะเอาเบอร์เค้า จะเหลือเหรอค่ะ ให้ทันทีแบบไม่คิดอะไรเยย ใจง่ายไปรึป่าวฉ๊าน แหม !! ก้อแอบชอบคนตาตี๋เป็นทุนเดิมอยู่แร้น เยยใจอ่อนจดเบอร์ให้เค้าไปซะเฉยๆ เยยอ่า


วันที่ 6 (พ. 27 มิย. 2550) วันนี้เข้ากะดึกวันแรก แต่เราก้อรีบไป ไปทำไมนะเหรอ ก้อเพราะว่าอยากเจอหน้าหนุ่มหน้าตี๋นะสิ ก้อเค้าเข้ากะบ่ายนิหน่า เค้ายังดูเด็กอยู่เยย แต่ก้อน่ารักดี เป็นโรคอะไรอีกแล้วเนี๊ยะ เจอหน้าตี๋ทีไร ใจละลายทุกที


วันที่ 7 (พฟ. 28 มิย. 2550) วันสุดท้ายของการเข้ากะดึก ช่างทรมานเสียนี่กระไร มานง่วงมั่กมาก แทบไม่อยากไปทำเยยอ่า แต่ก้อรีบไปเข้ากะก่อนเวลาเหมือนเดิม เพราะว่าจะได้เจอหนุ่มหน้าตี๋วันสุดท้ายแล้ว เฮ้อ แต่มาปฏิบัติงานที่ร้าน 7Eleven ก้อหนุกหนานดี ได้เรียนรู้ชีวิตการทำงานอีกแบบ ที่ไม่ใช่แต่นั่งโต๊ะเขียนโปรแกรม สู้ สู้ !!!




 

Create Date : 08 ตุลาคม 2550    
Last Update : 10 ตุลาคม 2550 8:34:38 น.
Counter : 242 Pageviews.  


khawjaow
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นางมารหน้าคม ตากลมโต ผิวสีแทน
น้องใหม่หัดร้ายยย (รึป่าว) มีอารายแนะนำการได้นะเค๊อะ
Friends' blogs
[Add khawjaow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.