*~ หลงเข้ามาแล้วลงชื่อ [ตรงนี้!!!] เอาไว้ ... *สาธุ*
... ขอให้ได้ "แฟน" หน้าตาดี 555 ~*
Group Blog
 
All blogs
 
วัดพระบาทน้ำพุ กับ บางเรื่องราวที่ไม่มีใครอยากรับรู้ ...

วันนี้อยากพาไปเที่ยวครับ ...

บางคนเคยร่วมบริจาคเงินให้กับวัด แต่ไม่เคยเห็นความเป็นไปในวัดนึกภาพไม่ออก จิตนาการไม่ชัด แต่ถ้าได้เห็น ได้รับรู้ แม้เพียงไม่กี่ภาพ ความสุขใจจากการได้บริจาคเงิน ช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ติดเชื้อเอดส์ อาจมีเพิ่มมากขึ้นแม้เพียงน้อยนิด ... ก็ยังดี



ภายในวัดค่อนข้างร่มรื่น โดยเฉพาะวันที่ฝนตก วันนี้เป็นวันหยุด ผู้คนมาเที่ยวหนาตา ... ไม่เงียบเหงาวังเวงเหมือนวันปกติ



บ้านพักหลังน้อยของผู้ป่วย เรียงเป็นแถวปานรีสอร์ท บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ด้านหลังพิงภูเขา คนปกติแม้มีเงินก็หมดสิทธิ์ที่จะมาอ้อนวอนขอเข้าอยู่อาศัย ต้อนรับเฉพาะผู้ติดเชื้อไร้บ้านเท่าันั้น

ชุมชนแหล่งสุดท้ายของผู้ติดเชื้อ ถูกขับออกจากบ้าน ไม่มีครอบครัว บ้างก็ถูกนำมาทิ้งไว้ที่โคนต้นไม้หน้าวัด บ้างก็เสียชีวิตเพียงเข้าพักในคืนแรก ด้วยร่างกายที่อ่อนแอ ถูกหอบหิ้วมาไกลแสนไกลจากภาคเหนือ แถมถูกทิ้งให้นอนหนาวอยู่หน้าวัดตลอดคืน กว่าเจ้าหน้าที่ของวัดจะไปพบในตอนเช้า ก็สายเสียแล้ว ...



พิพิธภัณฑ์ชีวิต ... บางคนบอกเป็นสุสานที่ไม่มีดินกลบหน้า หลายคนไม่อยากเฉียดเ้ข้าไปใกล้ หลายคนบอกดูแล้วกินข้าวไม่ลง

แต่หลายคนก็ได้แง่คิดติดกระเป๋ากลับบ้าน ...



พิพิธภัณฑ์ที่นี่ไม่ได้มีไว้แสดงงานศิลปะ ไม่มีของที่มีค่า หรือของเก็บสะสมของใคร

ภายในมีซากศพของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคเอดส์ ที่บริจาคเป็นวิทยาทานให้ทางวัดจัดแสดง เพื่อกระตุ้นเตือนต่อมรักสนุกของผู้ที่ยังมีลมหายใจ ... ว่าเอดส์ไม่ใช่เรื่องที่อยู่ไกลตัวเหมือนที่หลายคนคิด

ภาพแรกเป็นเด็กชายอายุเพียง 5 ขวบที่ติดเชื้อเอดส์จากแม่ ส่วนใหญ่ผู้เป็นแม่จะตายก่อน เด็ก ๆ จะวิ่งเล่นในวัดได้นานหลายปี

ปัจจุบันเด็กเล็ก ๆ ที่ติดเชื้อเอดส์จากแม่จะถูกย้ายไปอยู่โครงการ 2 ที่อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ที่วัดจึงไม่มีเด็กเล็ก ๆ วิ่งเล่นให้เห็นเหมือนก่อน ...



เมื่อตอนที่ผมอายุ 5 ขวบ ผมจำความไม่ได้ เด็กคนนี้จำแม่ของเขาเองได้หรือเปล่าคงไม่มีใครรู้

ถ้าเป็นสมัยก่อน เมื่อผู้เป็นแม่ใกล้เสียชีวิต หลวงพ่อจะไปจูงมือลูกมาเพื่อให้กราบเท้าแม่เป็นครั้งสุดท้าย เด็กหลายคนจะรีบกราบ ๆ ให้เสร็จเพื่อวิ่งออกไปเล่นต่อกับเพื่อนๆ

ปล่อยให้ผู้เป็นแม่นอนน้ำตาไหลด้วยความห่วงใยใน อนาคตข้างหน้าของลูก เหมือนคนที่เป็นแม่ทั่วไป ...

เด็กหลายคนรู้เพียงว่าแม่ไปสวรรค์แล้ว และอีกไม่นานเขาก็จะได้พบกับแม่ของเขาอีกครั้ง ...



ร่างนี้เป็นร่างของสาวประเภท 2 หน้าตา(เคย)ดี จากป้ายประวัติข้างตัวบอกว่าเป็นสาวบริการ ...



คนนี้อดีตนักร้องสาวค่าเฟ่ และขายบริการเช่นกัน ป่านฉะนี้ ผู้ที่เคยใช้บริการกับเธอคงตามเธอไปเรียบร้อยแล้ว ...



บริเวณห้องรับบริจาค ... มีคนค่อนข้างมาก ผู้ติดเชื้อบางคนบอกว่า ถ้าวันไหนที่ห้องบริจาคมีผู้คนคับคั่ง..จะเป็นอีกวันที่พวกเขามีความสุข

เขาไม่ได้สนใจในปริมาณเงินว่าจะมากน้อยขนาดไหน เพียงแต่เขารู้ว่า..ผู้คนในสังคมยังไม่หลงลืมพวกเขา

แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่เหลือญาติพี่น้องอีกแล้ว
แต่อย่างน้อยก็ยังมีใครบางคนที่แม้ไม่เคยรู้จัก แม้จะไม่ใช่ญาติ..ยังคอยเป็นห่วง



ส่วนใหญ่ผมจะหยอดเงินใส่กล่องบริจาคที่วางอยู่ด้านหน้าห้องบริจาค ภายในห้องมีไว้สำหรับออกใบอนุโมทนาบัตรสำหรับผู้ที่ต้องการหลักฐานเอกสาร



บริเวณกุฏิหลวงพ่อ วันนี้ผู้คนพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว ที่นี่ถูกบรรจุเข้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีเรียบร้อยแล้ว



หลวงพ่อกำลังต้อนรับแขกผู้มาเยือนอย่างไม่รู้จักเหนื่อย มีการแจกภาพถ่ายพร้อมลายเซ็นเป็นที่ระลึก ...



ด้านหน้าอาคารผู้ป่วยระยะสุดท้าย ... คนไข้บางคนยังพอมีเรี่ยวแรงก็สามารถออกมาเดินเล่นได้



ภายในอาคาร กลิ่นยาโชยเข้าจมูก หลายคนนอนหมดแรงอยู่บนเตียง เจ้าหน้าที่มาบอกให้ผมสามารถถ่ายภาพภายในห้องได้ แต่ผมยิ้มเขิน ๆ ไม่อยากเอากล้องไปจ่อถ่ายภาพพวกเขา ไม่อยากให้คนป่วยรู้สึกว่าพวกเขาเป็นตัวประหลาด ทำได้เพียงเดินดูบรรยากาศภายในห้องเท่านั้นเอง ...



คงมีสถานพยาบาลของวัดพระบาทน้ำพุเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่มีโลงศพวางกองอยู่หลังห้องผู้ป่วย วางท้าทายสายตาของผู้ป่วย และทุกคนก็มองเห็น ไม่มีใครมองว่าเป็นลางร้าย หรือบั่นทอนสุขภาพจิตของผู้ป่วย เพราะทุกคนไม่มีใครออกไปจากวัดแห่งนี้ได้ทั้งๆ ที่ยังมีลมหายใจ ... เขาอยู่ไปแต่ละวันเพื่อรอคอยวันตายเท่านั้นเอง



กองเถ้ากระดูกมนุษย์นับพันเพื่อรอคอยญาติมารับ และมีไม่ถึง 1% ที่ถูกนำกลับบ้าน ... ลองหลับตาและจินตนาการเล่นๆ ... ถ้ากองกระดูกเหล่านี้กลายร่างเป็นคน ... บริเวณนี้คงแออัดยัดเยียด บ้างก็คงนั่งกอดเข่า บ้างก็ยืนชะเง้อมองหาบุคคลอันเป็นที่รัก บ้างก็คงร้องไห้จนน้ำตาเหือด ... ช่างเป็นการรอคอยที่ไร้จุดหมายจริงๆ



วันนี้ฝนตก ... ยามที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จะได้กลิ่นอับจางๆ อยากมีหูทิพย์ ... อยากฟังว่าพวกเขาจะมีเรื่องราวอะไรมาเล่าให้ัฟัง แต่ถ้าเป็นจริง ... หูของผมคงอื้ออึงจนฟังไม่รู้เรื่อง



บางส่วนถูกบดเป็นผง บรรจุลงกล่อง เพียงหวังว่าจะได้ง่ายและไม่อุดจาดตา ยามที่ญาตินำกลับบ้าน แต่เมื่อความพยายามของทางวัดไร้ผล แม้จะอำนวยความสะดวกให้ปานใดก็ตาม แต่กองเถ้ากระดูกก็ไม่เคยลดน้อยลง ... ไม่เคยมีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ

สุดท้ายความเพียรพยายามก็หมดแรง ... ผมถามเจ้าหน้้าที่ว่า แล้วอนาคตของกองกระดูกเหล่านี้จะเป็นอย่างไร

แกบอกว่า ... ในอนาคตจะใช้เถ้ากระดูกพวกนี้ผสมปูนหล่อเป็นองค์หลวงพ่อเพื่อให้คนมากราบไหว้ ไม่รู้แกพูดประชด ... หรือเป็นความตั้งใจจริง



ก่อนจะเดินจากมา ... แกชี้มือให้ผมมองดูสองแม่ลูก ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด แต่แกบอกว่า ... ผมเข้าใจผิด

แม่ลูกคู่นี้คือผู้ติดเชื้อรายล่าสุดที่ถูกนำมาทิ้งไว้ที่หน้าวัดเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งสองคนกอดคอกันร้องไห้จนตาบวม แกบอกว่าเพียงเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของผู้เป็นแม่เพียงแว๊บเดียว แกก็รู้ว่าผู้เป็นแม่เข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว ส่วนลูกสาวตัวน้อยยังไม่มีใครรู้ว่าติดเชื้อจากผู้เป็นแม่หรือไม่

แกบอกให้ผมถ่ายภาพ ... ผมจะอ้อมไปถ่ายที่ด้านหลังเพื่อไม่ให้มองเห็นหน้าชัดเกินไป แต่แกบอกว่าไม่จำเป็น ... เพราะคุณจะไม่มีโอกาสได้เห็นผู้ป่วยที่นี่ออกไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอก

วัดพระบาทน้ำพุคือแดนประหารทางสังคม ไม่มีใครได้ออกไปจากวัด ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนถูกขับไล่ออกมาจากบ้าน จากครอบครัว จากสังคม ... เป็นเพียงขยะมนุษย์ที่ไร้ค่าในสายตาของผู้คนภายนอก

แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีขอพรางหน้าเธอไว้หน่อยก็แล้วกัน
ผมนั่งมองดูสองแม่ลูกอยู่เป็นนาน สำหรับผมวัดแห่งนี้เป็นแดนประหลาด

ถ้าเป็นนักโทษ ยังมีเวลาพ้นโทษ ยังมีโอกาสที่จะฝันถึงอนาคต ถ้าเป็นคนป่วย ก็ยังมีวันหาย มีวันที่จะกลับออกไปใช้ชีวิตภายนอกท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น

แต่ที่นี่เหมือนเป็นอีกโลก ... อีกสังคม ที่นี่ไม่มีอนาคต ไม่มีวิมานในอากาศที่สวยหรู และไร้ซึ่งความฝัน มีแต่ความจริงของชีวิต ... ว่่าทุกคนกำลังจะตายไม่มีข้อยกเว้นว่าเด็กหรือผู้ใหญ่

จากอดีตอัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ 3-5 รายต่อวันเผาศพจนเมรุแตก แต่ปัจจุบันด้วยเงินบริจาคที่มากพอจะหายาดี ๆ มาผู้ป่วยได้ใช้ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตลดลงเป็นเดือนละ 4-5 ราย

แต่ถ้าไม่มีรายได้จากการบริจาคของผู้ใจบุญ และถ้าวัดแห่งนี้มีอันต้องปิดตัวลง ผู้ป่วยเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน ... ผมหันหน้าไปถามลุงสัปเหร่อ แกส่ายหน้าบอกไม่รู้เหมือนกัน รู้แต่ว่างานของแกคงเพิ่มมากขึ้น อัตราการตายอาจกลับไปเหมือนยุคก่อน คงได้เห็นเมรุเผาศพต้องแตกอีกครั้ง ...

แล้วเราสองคนก็นั่งกอดเข่ากันเงียบๆ ... มองดูเด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเล่นอย่างไม่รู้ประสา จะมีคนภายนอกสักกี่คนที่จะรู้ว่า..ภายในวัดพระบาทน้ำพุมีเรื่องเศร้ามากมายที่เล่าไม่รู้จบ ... ???




Create Date : 18 กรกฎาคม 2550
Last Update : 13 ตุลาคม 2550 8:27:52 น. 2 comments
Counter : 1990 Pageviews.

 
น่าสงสารจังเลยครับ
แต่ก้อ


โดย: บุญลื้อ IP: 124.121.224.223 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:09:19 น.  

 
น่าสงสารจัง


โดย: say IP: 202.136.242.21 วันที่: 26 กันยายน 2556 เวลา:8:45:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ken99
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






Emo ล.ลิงจ๋อ
Emo ห.หัวหอม
Emo ด.ดุ๊กดิ๊ก
X
X
X
New Comments
Friends' blogs
[Add ken99's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.