Five things fans may not know about Keanu Reeves

By Tim Kenneally
Thu Sep 1, 2011 5:09pm EDT
Reuter.com


(อรัมภบท)
แองจี รู้สึกแปลกๆยังไงพิกล เวลาคอลัมนิสต์ของบริษัทข่าวดังๆ อย่าง Time Forbe หรือ Reuter กล่าวถึง "สุดที่รักของเดี๊ยน"

ยิ่งหัวคอลัมน์ จั่ว มาว่า "5เรื่องที่แฟนๆอาจไม่รู้เกี่ยวกับ คีอานู รีฟส์"

อะจ๊ะ

มันจะมีอะไร(วะ)
ที่ชั้นไม่รู้เกี่ยวกะคีนูรี๊ฟ

ไหน ดู ซิ
อิรอยเตอร์ มันจะรู้ไรมากกว่า ชั้น

5) He's Extremely Generous
5) เขาสุดแสนจะใจกว้าง

แม้เขาจะได้รับส่วนแบ่งก้อนใหญ่จากหนังดังอย่าง"Matrix" แต่เขาเซ็นมอบส่วนแบ่งของตัวเองส่วนหนึ่งให้ทีมที่ทำสเปเชียลเอฟเฟ็ค และทีมงานคอสตูม ซึ่งฟังดูเหมือนว่ามันเป็นแค่"ส่วนหนึ่ง" แต่คุณคงไม่รู้ว่า ส่วนหนึ่งอันนั้นมีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ เขาก็เคยลดค่าตัวลงเพื่อให้ทีมงานสามารถจ่ายค่าตัวของ อัล ปาชิโน เพื่อมารับบทนำด้วยกัน ใน"The Devil's Advocate"

รีฟส์บอกว่า "เวลารับงานแสดง เงินคือเรื่องสุดท้ายที่ผมจะคิดถึง ผมสามารถอยู่ไปได้ถึงศตวรรษหน้าจากเงินที่มีอยู่ในตอนนี้"

4) He's a Coke Man
4) พ่อคนนี้ เกิดจากโค้ก

ก่อนเขาจะดังจาก "Bill & Ted's Excellent Adventure" หรือแม้แต่ "River's Edge" รีฟส์เป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์โฆษณาของ Coca-Cola ซึ่งเขาแสดงเป็นเด็กวัย16 ที่ชนะการแข่งจักรยาน ด้วยการพึ่งพาพลังงานของน้ำอัดลม


3) He's Ambidextrous
3) เขาถนัดทั้งสองข้าง

บางคนรู้ว่าเขาเขียนด้วยมือซ้าย แต่น้อยคนจะสังเกตว่า เขาเล่นกีตาร์เบสสด้วยมือขวา ไม่รู้ว่านี่คือจุดเด่นของวงดนตรีที่เขาเคยเป็นสมาชิกหรือไม่


2) He's Picky
2) เขาช่างเลือก

การตัดสินใจรับบทของคีอานูนั้นไม่เหมือนนักแสดงอื่นๆ เขาปฎิเสธบทใน"Platoon" เพราะไม่ชอบความรุนแรง แต่รับบทหนุ่มตีนโหดใน"The Gift" ไม่ยอมเล่น"Speed 2: Cruise Control," ทั้งที่ตัวเองทำให้ "Speed."ภาคแรกเป็นหนังฮิต ปฏิเสธที่จะเป็น Racer X ใน"Speed Racer,"ทั้งที่เป็นทีมงานสร้างจาก the Matrix สรุปแล้ว ไม่มีใครเดาได้เลยว่า เขาจะรับเล่นอะไร หรือไม่ อย่างไร


1) He Just Might Have the Coolest Name Ever
1) คงไม่มีใครชื่อ Cool กว่านี้อีกแล้ว ในฮอลลีวูด

เขาได้ชื่อแรกมาจากคุณลุงชาวฮาวาย, Henry Keanu Reeves, คีอานูเป็นภาษาท้องถิ่น แปลว่า "ลมเย็นเหนือขุนเขา" เราก็เลยไม่ต้องสงสัยกันอีกแล้ว ว่าทำไมเขาถึงดูเป็นคนผ่อนคลายและเยือกเย็นได้ขนาดนี้


อะฮิ้ววววววววววว
ปัด โถ รอยเตอร์
นึกว่าเธอจะรู้อะไร
เรื่องพวก เนียะ
เบสิคที่สุดเลย ย่ะ, สำหรับ ชั้น อะ นะ


แถมภาพล่าสุดของคุณพี่
วันที่ 11 กันยา (ไนน์วันวัน) ให้ชมกันละกัน
ภาพมาจาก คลับคีอานูที่เดิม

อุณหภูมิ ประมาณ 82'F = 28'C แต่คุณพี่ใส่ซะหลายชั้น
คาดว่า เตรียมจะซิ่งโต้รุ่ง ถึงได้แต่งกายเตรียมพร้อมขนาดนั้ลลล

อิ อิ




 

Create Date : 13 กันยายน 2554    
Last Update : 13 กันยายน 2554 15:48:17 น.
Counter : 1459 Pageviews.  

Keanu Reeves and ’47 Ronin’

search for ‘honor, revenge and impossible love’
LAtimes May 24, 2011 | 10:36 a.m.
– Geoff Boucher


คีอานู รีฟส์ มีเหตุผลร้อยแปด ที่จะปฏิเสธการคุยกับผม แต่เขากลับ, ยินดีจะสนทนาผ่านโทรศัพท์อินเตอร์เน็ต ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลังน่าตื่นเต้น จนแม้แต่เสียงรบกวนจากสัณญาณออนไลน ก็ยังไม่ทำให้เรื่องเหล่านี้น่าสนใจน้อยลง

"เรากำลังเก็บกองครับ วันนี้เป็นวันสุดท้ายในฮังการี พวกเราอยู่ที่เมืองบูดาเปสท์" รีฟส์พูดถึงกองถ่ายภาพยนตร์อีพิคในตำนาน 47 Ronin ที่มีกำหนดลงโรงฉาย พฤศจิกายน ปีหน้า "เราถ่ายมา34วันเต็มๆแล้วในบูดาเปสท์ ตอนนี้กำลังจะย้ายไปถ่ายทำต่อในลอนดอน ผมดีใจมากที่งานเดินไปตามแผนที่วางไว้ คุณเคยรู้เรื่องตำนาน47 Roninไหม ? เรื่องของการกอบกู้เกียรติยศกลับมา การแก้แค้น และความรักที่ไม่มีทางสมหวัง เรื่องนี้โด่งดังมากในญี่ปุ่น"

รีฟส์ประเมินผมต่ำไป ผมรู้ดีว่า47 Roninคือเรื่องจริงที่เกิดประมาณศตวรรษที่ 18 แต่แม้ว่าจะเกิดขึ้นนานแล้ว เรื่องนี้ก็ยังอยู่ในใจของชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ทำให้มีการผลิตเป็นหนังและละครมาแล้วหลายครั้ง กว่าจะมาถึงโปรดักชันใหญ่ยักษ์ของสตูดิโอยูนิเวอร์แซลในครั้งนี้ ซึ่งแม้ว่าผู้กำกับ จะเป็นมือใหม่แบบคาร์ล รินซ์ แต่รายชื่อนักแสดงชื่อดังของญี่ปุ่นที่ตั้งใจเข้ามารับบทต่างๆ อาทิเช่น ฮิโรยูกิ ซานาดะ, ทาดาโนบุ อะซาโน, โค ชิบาซากิ และ รินโกะ คิคูจิ ก็ยืนยันได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ตีความตำนานอันยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นผิดไปจากเรื่องเดิม

แต่จะว่าไป การทำหนังให้ได้เงินในยุคนี้ ต้องมีส่วนประกอบที่หลากหลายมากกว่าพล็อตหลักที่โดนใจ ยูนิเวอร์แซลตัดสินใจที่จะเสี่ยงครั้งใหญ่ ด้วยการใส่แฟนตาซีลงไปในตำนาน หนังจึงมีตัวละครที่เป็นทั้งยักษ์และแม่มด ฉากต่อสู้ก็มีคอมพิวเตอร์กราฟฟิคมากมาย ออกแนวคล้าย 300 มากกว่าGladiator สำหรับตัวเอก "ไค" ที่รับบทโดยรีฟส์ ก็ถูกจัดหนักเช่นกัน เพื่อยืนยันความหนักแน่นในด้านเนื้อหา ไคเป็นลูกครึ่งที่เกิดจากกลาสีเรือชาวอังกฤษกับแม่ที่เป็นหญิงชาวญี่ปุ่น ลักษณะภายนอกของ ไค จึงเข้ากันได้กับ คีอานู รีฟส์ ซึ่งมีมุมหนึ่งเป็นชาวเอเชียในสายตระกูลเช่นกัน และด้วยความเป็นเอเชียในเลือดของเขานั่นเอง ที่ทำให้คีอานูพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างระมัดระวัง

"เด็กๆในญี่ปุ่นโตขึ้นมากับตำนาน47 Ronin มันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม พวกเขาเรียนเรื่องนี้ในห้องเรียนแล้วกลับมาคุยกับพ่อแม่ที่บ้าน เผลอๆอาจได้เคยดูเมื่อมันถูกสร้างเป็นละครทีวี หรือในโรงหนังด้วย คิดง่ายๆก็เหมือนเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของชาวโรมันที่พวกเราได้รู้ ได้ดู ได้ฟังมาหลายแบบนั่นแหละ ความประทับใจพวกนี้จะถ่ายทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นเราทุกคนแคร์ในจุดนี้ และจะให้ความเคารพกับต้นเรื่องเสมอ"

เกี่ยวกับ ไค, คีอานูเล่าว่า "ไคเป็นพวกลูกครึ่ง คนประเภทที่ไม่มีใครคิดว่าจะมีอะไรดีเด่น ก็แค่ หนึ่งในกลุ่มของท่านโออิชิ ที่จะไปแก้แค้นให้นายของพวกเขาซึ่งโดนเจ้าคิระกลั่นแกล้ง จนเสียชีวิตอย่างน่าอัปยศ ตัวไคเองก็เข้ากับเพื่อนได้ไม่กลมกลืนนัก อันที่จริง ผมว่าเขาถามตัวเองอยู่เสมอว่ามายืนตรงนี้ทำไม แล้วความสับสนของเขาก็หนักขึ้น เมื่อรู้ว่าตัวเองตกหลุมรัก มิกะ ลูกสาวของนายที่ล่วงลับไปแล้ว, บทเขียนมาค่อนข้างดีในสถานการณที่ทำให้การล้างแค้นครั้งนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค ซึ่งทำให้โรนินแต่ละคนต้องทดสอบความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทดสอบความซื่อสัตย์และความเข้มแข็งในใจตัวเอง ที่จะก้าวเดินไปในอุดมการณ์เดียวกัน"

รีฟส์กล่าวถึงตัวละครของเขาว่าเป็นพวกคนนอกที่พยายามหาจุดยืนให้ตัวเอง "ชีวิตของไคมีเรื่องเศร้าเยอะ แต่เขากลับเป็นคนที่แคร์คนอื่นเสมอ รับผิดชอบในหน้าที่ ทั้งที่เกิดมาอย่างมีปมด้อยในสังคมขณะนั้น ไม่เคยโกรธโชคชะตา เขารู้ว่าตัวเองถูกชาวบ้านมองอย่าไร มันก็เลยเป็นเรื่องเศร้า ผมชื่นชมแนวคิดแบบนั้น ไม่ว่าใครคิดกับเรายังไง เราเลือกได้ที่จะคิดต่างจากคนอื่น แล้วตอบกลับไปด้วยความเมตตา"

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทีมงานเบื้องหลังที่แน่นหนา งานสำคัญล้วนอยู่ในมือผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านรางวัลมามากมาย หลังการถ่ายทำปกติ ยังต้องมีงานที่ต้องสร้างต่อไปในห้องทำสเปเชียลเอฟเฟ็คอีกหลายฉาก เพื่อสร้างความสมจริงที่สะใจผู้ชม

คีอานูเล่าว่า ความท้าทายหลักอย่างหนึ่งของานนี้อยู่ที่ภาษา สคริปท์ทั้งหมดเขียนครั้งแรกเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วค่อยแปลจากยี่ปุ่นกลับมาเป็นอังกฤษ เพื่อให้ทีมงานทุกคนเข้าใจตรงกัน รีฟส์เล่าว่า เขาทึ่งมากที่ทีมงานชาวญี่ปุ่นทุกคนมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและพร้อมเสียสละตัวเองเพื่องานเสมอ และสิ่งนั้นทำให้งานนี้ เต็มไปด้วยความชุ่มชื่นเบิกบานทุกวัน รีฟส์เล่าอย่างตื่นเต้น ที่ได้จับดาบซามูไร ตั้งแต่ฉากแรกของหนัง "ผมไม่เคยใช้ดาบที่ต้องจับสองมือมาก่อน จึงเริ่มฝึกหนักมาตั้งแต่ปีที่แล้ว" นักแสดงซึ่งเคยทำให้ฉากต่อสู้ในเดอะแมทริกซ์กลายเป็นตำนาน, กล่าว "ดาบซามูไรมีสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร จังหวะต้องแม่น ลงดาบให้เร็ว, ยากเชียวแหละ แต่ไม่เกินความสามารถผมแน่ๆ เพราะผมตั้งใจที่สุดกับการฝึกซ้อมเสมอ"

เขาเล่าว่าตัวเองแอบศึกษากองถ่ายใกล้ชิดกว่าเดิม เพราะเพิ่งเคยทำงานแรกที่จะถ่ายแบบ 3D และใช้การบันทึกภาพแบบดิจิตอล คีอานูหัวเราะเบาๆก่อนบอกว่า "สมัยนี้ จะทำหนังต้องมีความลึกหลายๆแบบ นอกจากบทที่ลึกแล้ว ภาพก็ยังต้องมีหลายมิติอีกด้วย ผมสงสัยว่าถ้ามันจะมีอะไรให้"ลึก"ได้มากกว่านี้ เราก็คงต้องทำ"








Source : LAtimes.com




 

Create Date : 31 พฤษภาคม 2554    
Last Update : 31 พฤษภาคม 2554 10:50:30 น.
Counter : 3157 Pageviews.  

Keanu Reeves’ Dedication to Art Is No Mystery

April 4, 2011
By Elliot V. Kotek
(from Moving Pictures, spring issue, 2011)



emo
โบร๋ววว....
แองจี ทรานสเลชัน
ขอ เสนอ

emo
ผลงานที่ ข้าพเจ้า พูมใจ


emo
พี่คี สุดเลิฟ บนยอดเขา
ของอาชีฟนักแสดงงงง ฮอลลีวู่ดดด



บทความนี้
แปลแบบ จับแพะชนแกะ
แปะปู จับปลา มากมายยยย
ท่านที่อ่านแล้วไม่ชัวร์
ว่า อินี่ มั่วนิ่ม รึ ไม่


เชิญไปอ่านต้นฉบับ ที่
movingpicturesnetwork#1
movingpicturesnetwork#2
movingpicturesnetwork#3


สำหรับใครที่ รอ อ่าน

ขอบคุณ นะคะ
emo




MP: สวัสดีครับ,คีอานู ได้ข่าวว่า กำลังถ่ายหนังเรื่อง47Roninอยู่ในฮังการี, คุณคิดว่าบูดาเปสท์เป็นไงมั่ง
KR: ก็ดีครับ เราไปอยู่นั่นเกือบอาทิตย์ ก่อนจะเปิดกล้องวันที่ 11 มีนาคม

MP: ได้ออกไปนั่งเล่น กินข้าวเย็นกันบ้างไหม
KR: ไม่ได้ไปไหนเลย ทันทีที่แลนด์ดิง ผมก็ไปซ้อมคิว-ซ้อมฉากทันทีเลย
ซึ่งก็ดีนะ ผมมีฉากต่อสู้เยอะมากในหนังเรื่องนี้

MP: ฉากต่อสู้จะตื่นเต้นเหมือนใน เดอะ แมทริกซ์ ไหม
KR: แน่นอนฮะ หนังตะวันตกต้องมีฉากต่อสู้กันอยู่แล้ว
แต่จะตื่นเต้นมากแค่ไหน ก็เป็นแค่การสู้กันในหนัง(หัวเราะ)
ผมชอบเล่นฉากแบบนี้ มันเหมือนเราได้ออกกำลังกายในขณะที่ทำงาน
แล้วที่สำคัญ ก็คือ ไม่ว่ามันจะดูรุนแรงแค่ไหน เราก็ยังสนุกกับมันได้
เพราะทีมงานจะคอยดูแลความปลอดภัยให้เราเสมอ

MP: เดอะ แมทริกซ์ ครบรอบสิบปีแล้วนะครับ
สำหรับคุณ,มันเหมือนผ่านมาแล้ว นานแสนนาน หรือว่าเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้
KR: แม้หนังจะครบสิบปี แต่ผมยังจำทุกอย่างได้ดีเหมือนเพิ่งจบไปเมื่อวาน
ยิ่งในช่วงที่ต้องเทรนบทบู๊กันหนักอย่างทุกวันนี้ เข่าของผมก็ยิ่งยืนยันว่า มันเคยเจ็บ,เมื่อสิบบีที่แล้ว

MP: คุณทำงานหนักแบบนี้ ไม่อยากไปคลายเครียดในเมืองบูดาเปสท์บ้างเลยหรือ ?
KR: อยากไปนะ แต่กังวลเรื่องงานมากกว่า ถ้าวันไหนตารางงานบอกว่าให้ไปถ่ายทำในเมืองได้ ผมไปแน่ๆ

MP: มีใครเตือนคุณว่าห้ามไปตรงไหนของเมืองบ้างไหม
KR: ไม่มีนะ ผมใช้ชีวิตง่ายๆ ไม่เคยห่วงอะไรหรอก นึกอยากไปไหนก็ไป
ส่วนใหญ่ที่แล้วมา ถ้ามีใครเข้ามาทัก ก็เป็นคนดีๆทั้งนั้น

MP: หนังที่คุณเล่นป๊อบปูลาร์จะตาย
แต่บทของคุณ ในเดอะแมทริกซ์กับบิลลแอนด์เท็ด น่ะ มันไปกันคนละทางเลยนะ,
คุณจะรู้ได้ไงว่าแฟนที่เข้ามาทักนั้น เขาชอบคุณที่เป็นเท็ดหรือนีโอ

KR: ส่วนใหญ่ ใครที่ชอบนีโอก็มักจะชอบเท็ด ผมไม่รู้หรอกว่าเขาชอบใครมากกว่า
มันเป็นแค่ช่วงเวลาที่พวกเขาเข้ามาทักทายผมแล้วเราก็คุยกันเรื่องงานที่ผมเคยทำ
ไม่ว่าจะยังไง ผมก็มีความสุขเสมอที่มีคนจำงานของผมได้

MP: แล้วมีใครเคยบอกว่าปลื้มคุณ
จากบทผัวตีนโหด ดอนนี บาร์คเดล ใน เดอะกิฟท์ บ้างไหม
KR: (หัวเราะ)มีครับ เมื่อเร็วๆนี้เอง
ผมว่าเขาคงเพิ่งดูเรื่องนี้ทางเคเบิลหรืออะไรทำนองนั้น
แล้วต่อมาอีกวันหนึ่ง ผมก็ไปเจอแฟนอีกคนหนึ่งที่เข้ามาบอกว่าชอบ สแกนเนอร์ดาร์คลี เวลาเจอใครที่มาคุยเรื่องหนังที่มันไม่ป๊อบปูลาร์ ผมจะคิดในใจว่า "เออ เนอะ หนังเล็กๆก็ถูกใจบางคน เหมือนกัน"

MP: งั้นคุยเรื่องหนังเล็กๆของคุณที่ชื่อ เฮนรีส์ ไครม์,
ได้ข่าวว่าเป็นผลงานแรกของบริษัทสร้างหนังของคุณเอง

KR: ใช่ครับ, ผมมีหุ้นส่วน สตีเฟน ฮาเมล, เราเริ่มทำมาแปดปีแล้ว
เขียนสคริปท์โดยซาช่า เกอวาซี ที่ใช้เวลาเขียนบทตั้งห้าปีกว่าจะเสร็จ
ดังนั้นเราพร้อมทุกอย่างแล้วในตอนที่เปิดกล้อง
ตอนแรกที่คิดจะทำหนังเอง ผมก็คิดแค่ว่าจะลองทำดู
ซึ่งผมขอสารภาพตรงๆว่า ตอนแรกนั้น ผมแทบไม่รู้อะไรเลย(หัวเราะ)
ซึ่งมันก็ดีไปอย่างหนึ่ง ในความไม่รู้มันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง

ถึงตอนนี้ผมก็คิดว่าผมผ่านบทเรียนสำคัญมาแล้วช่วงหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ ผมทำหน้าที่แค่การแสดง
ผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นขณะที่สั่งเดินกล้อง ฉากอย่างนี้ถ่ายยังไง,
แต่เรื่องการจัดการให้เกิดสิ่งต่างๆในฉาก ผมไม่เคยรู้เลย
เราจะเอารถบรรทุกมาเข้าฉากต้องขออนุญาตใครมั่ง
จะเรียกทีมงานมาทำงานใช้วิธียังไง เรื่องพวกนี้ ผมไม่เคยต้องทำ
แต่ในงานที่ผมเป็นโปรดิวเซอร์ ผมต้องรู้ทุกสเต็ป
โชคดีที่มีคนสั่งสอน
ผมขอบคุณเลมอร์ ซีแวน โปรดิวเซอร์ที่ผมรู้จักจากงานปิ๊บปาลี
ผมขอบคุณมัลคอล์ม เวนไวล์ผู้กำกับ และนักแสดงหลายคนที่ช่วยสั่งสอนผม
ทั้ง เจมส์ คาน วีรา ฟาร์มิกา สตีเฟน สโตแมร์ พวกเราร่วมใจกัน ทำให้ได้งานที่สนุกมาก

MP: สิ่งที่คุณทำในกองถ่ายนั้น
เลียนแบบมาจากทีมงานหนังเรื่องอื่นที่คุณเคยทำงานมาแล้ว หรือเปล่า?

KR: ผมรู้ว่า
ตัวเองพยายามทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นั่นคือ "ทีมงานที่ทุกคนมีความสุข"
ผมแคร์ไปหมดทุกคน ทำตัวเป็นเชียร์ลีดเดอร์ คอยร้องเพลงเชียร์ว่า
"มาเถอะ" "รีบทำงานกันเร้ว" "พวกเรา สู้ สู้" อะไรทำนองนี้
และไม่ว่ามัลคอล์มจะอยากได้อะไร ผมก็พยายามหาให้เขาทุกอย่าง
รวมถึงดูแลเขาในห้องตัดต่อด้วย

แต่ถ้าถามว่า สิ่งที่ผมทำนี้ เลียนแบบมาจากกองถ่ายไหน ผมก็พูดไม่ถูก
รู้แต่ว่า สิ่งสำคัญในกองถ่าย คือ ความเคารพที่ทุกคนมีให้กัน
ผมโชคดีที่เคยอยู่ในกองถ่ายที่ดีๆทั้งนั้น
กองถ่ายหนึ่งที่ผมประทับใจคือ พาเรนท์ฮูด ของ รอน โฮเวิร์ด
เป็นกองที่มีนักแสดงเยอะมาก แถมยังหลากหลายวัยด้วย
แต่ทุกคนเป็นโปรฯทั้งนั้น ได้อยู่รวมกับนักแสดงมืออาชีพแบบนี้ เราก็มีความสุข และมีกำลังใจที่จะทำงาน

MP: เจมส์ คานแสดงเป็นแกนหลักตัวหนึ่งของหนังเรื่องนี้
เขาเป็นยังไงมั่งในเวลาถ่ายทำ แล้วเขาชอบไหมที่ได้เล่นเป็นตัวเดินเรื่อง

KR: ผมว่าเขาสุดยอดมาก เป็นคนแอ็คทีฟ
ชอบคุยกับคนอื่น แล้วไม่เคยถือตัวกับใคร
เขาไม่มีอคติไม่ว่าคุณจะคุยกับเขาในผลงานเรื่องไหน
ไม่ว่าจะเป็น ก็อดฟาเธอร์ที่เขามีความทรงจำดีๆกับมัน
หรือว่า โรลเลอร์บอล ที่เขาคิดว่าเป็นหนังสุดเพี้ยนแต่เจ๋งชมัด
เขาก็คุยกับเราได้สนุกทั้งนั้น

MP: และในหนังเรื่องนี้
คุณเอาละครเวทีเรื่องเชอรรี ออชาร์ด มาเดินเรื่องซ้อนกับพล็อตหลักด้วย
ผมจำได้ว่าคุณเคยเล่นละครเวที แฮมเล็ท ในโรงละครของแคนาดา
แต่เมื่อผมเห็นฉากละครเวทีในหนังเรื่องนี้
ผมนึกถึงตอนที่คุณไปรายการทอล์คโชว์ของชาร์ลีโรส
ที่คุณบอกว่าอยากเล่นละครเวทีเรื่อง แม็คเบท
แล้วขอให้ เวอร์เนอร์ เฮอซ็อกเป็นผู้กำกับให้

KR: ผมคงต้องขอโทษเวอร์เนอร์
ที่ไม่ได้ติดต่อไปทั้งที่เขารับปากที่จะกำกับ

ที่จริงผมอยากเล่นแมคเบท แล้วก็พยายามจะทำเรื่องนี้จริงๆ
แต่มันไม่สำเร็จ ผมไปอ่านบทกับโรเจอร์ มิเชลล์ แบบว่าพยายามช่วยกันคิดว่าเราจะทำมันออกมายังไง แต่มันไม่เวิร์ค และก็คงไม่ได้ทำแล้วล่ะ

ไม่รู้ว่าผมแก่เกินไปที่จะเป็นแม็คเบ็ทรึยัง
แต่ยังไง ผมยังวางใจในเชคสเปียร์
เขาเขียนบทคนแก่ไว้เยอะ ผมคงได้เล่นสักบทนึงล่ะนะ

การที่คุณพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้ผมคิดถึงประโยคที่ว่า
“Oh no! The spark is alive again!”
ที่จริงแล้ว การใส่ละครเวทีเชอรี ออชาร์ดลงไปเป็นไอเดียของซาช่า
แล้วพอเราสุมหัวกันคิดที่จะทำเรื่องนี้คู่ขนานไปกับพล็อตหลัก
มันก็น่าตื่นเต้นมาก

คิดดูสิ คุณได้อยู่บนเวทีละคร
แล้วยังถูกถ่ายไว้ด้วยฟิลม์ 35 มม. อีกด้วย สุดยอด อะ
ผมอยากอ่านบทละครของเชคอฟ คู่กับวีรา
แล้วผมก็ต้องการจะเล่นมันจริงๆ
แม้ละครเรื่องนี้ จะแปลงบทมาจากภาษารัสเซีย
แต่มันมี ทั้งดรามา คอเมดี พาโธส์ มีทุกอย่างเลยที่น่าสนใจ
มันเหมือนคุณได้เฟรมเปล่าๆมาอันนึงแล้วเขาบอกว่า
"เอาสิ ระบายสีไปเลย ตีความยังไงก็ถ่ายทอดออกมา"
ผมชอบจัง อะไรที่ฉูดฉาดอย่างนี้

MP: ฟังคุณพูดแล้วผมนึกถึงตอนคุณให้สัมภาษณ์
เมื่อครั้งเดอะแมทริกซ์ออกฉาย
ผมสงสัยว่า คราวหน้าคุณคงอยากกำกับหนังเองซะแล้วมัง

KR: คงต้องยอมรับว่าในห้าปีที่ผ่านมานี้
ความคิดของผมเปลี่ยนไป
ผมได้อยู่เบื้องหลังเฮนรีส์ ไครม์ และผ่านสารพัดงานของการทำหนังมาแล้ว

ผมจึงเริ่มคิดเรื่อง การทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์
แต่คงต้องรออะไรอีกสักระยะหนึ่ง

ถ้าได้โอกาสนั้นจริงๆ ก็คงจะดีไม่น้อย
งานกำกับเหมือนการสร้างอะไรสักอย่างที่พิเศษ
ไม่ว่าผู้กำกับคนไหนที่ผมเคยทำงานด้วย
หรือว่ามัลคอล์มเองก็ตาม พวกเขามักพูดกับนักแสดงว่า
"นายก็แค่มาเข้าฉาก แล้วก็ทำงานตรงนั้น ในอีกแบบหนึ่ง ให้ฉันดูอีกที แค่นั้น"

นั่นคือในฉากหนึ่งๆนั้น ผู้กำกับอยากเห็นเราตีบทออกไปในลักษณะต่างๆ
ซึ่งบางทีมันจะสร้างสรรค์อะไรออกมาได้
และในบางขณะนั้นเอง บางสิ่งที่พิเศษ มันก็เกิดขึ้นมาได้จริงๆ
ผมอยากรู้เหมือนกันว่าตัวเองจะมีโอกาสสร้างสิ่งเหล่านั้น ในฐานะผู้กำกับไหม

MP: พูดถึงเรื่องศิลปะ
คุณรู้ไหมว่า เจมส์ ฟรานโกกับ กัส แวนซองค์
จัดนิทรรศการที่เอาฟุตเทจจาก มายโอนไพรเวทไอดาโฮมาทำใหม่
ฟรังโกเอาฟุตเทจพวกนั้นมาจัดแบบ ทั้งย้อนหลังและไปข้างหน้า ทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆมากมาย ในฐานะที่คุณเคยผ่านงานทั้งการเล่นดนตรีร็อค ละครเวที และถ่ายหนังในช่วงเวลาเดียวกัน คุณคิดว่าเส้นทางศิลปะพวกนี้ เชื่อมโยงกันอย่างไร

KR: แค่ฟังคุณเล่า
ผมอยากเห็นนิทรรศการนี้แล้ว น่าจะเป็นงานที่สร้างสรรค์มาก
ยิ่งรู้ว่าเขานำฟุตเทจจากไอดาโฮมาใช้ ผมก็ยิ่งอยากดู
สิ่งที่ผมจำได้จากการถ่ายทำเรื่องนี้มีทั้งความสุข และการสูญเสีย คงจะดี ที่ได้เห็นตัวเองกับเพื่อนเก่าอีกครั้งในงานใหม่

MP: นักแสดงมักถูกถามเวลาที่เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต
ในกรณีของคุณ ทั้งริเวอร์ ฟินิกซ์ แพทริค สเวซี และคนล่าสุด เดนนิส ฮอปเปอร์ ซึ่งคุณเคยทำงานกับเขาสองครั้ง ทั้งใน ริเวอร์เอดจ์ และหนังดังของคุณ-สปีด คุณอยากกล่าวถึงเขาอย่างไร บ้างไหม

KR: ถือเป็นเกียรติของผมที่ได้พบเขา
ตอนที่ถ่ายริเวอร์เอดจ์ เขาเพิ่งจบงานมาจาก บลูเวลเว็ท
และเขาตื่นเต้นกับมันมาก เขาใจดีกับเราทุกคน ไม่ถือตัวเลย

แล้วพอได้เจอเขาอีกในสปีด
ผมก็ต้องสู้กับเดนนิส ในฉากบนหลังคารถไฟด้วย
คุณรู้ไหม เขาแข็งแรงนะ ถ่ายไปหัวเราะไปยังกะเล่นเกมเลยล่ะ
แล้วการคุยกับเขาก็สนุกมาก ผมได้ทำงานกับเขาหลายเดือน
ไม่ว่าใครก็ชอบเขาทั้งนั้นเพราะเขาเป็นคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นเสมอ

MP: คุณทำยังไงเมื่อต้องไปทำงานต่างถิ่น
ต้องมีอะไรที่ทำให้อุ่นใจไหม อย่างเช่นต้องพาหมาตัวโปรดไปด้วย หรือต้องมีของชอบที่ต้องกินทุกวันเสมอ อะไรแบบนั้น

KR: ที่คุณว่ามา ผมไม่เคยทำ
อย่างหนึ่งที่ผมทำบ่อยๆ เพื่อให้ตัวเองอุ่นใจคือท่องกลอนของเช็คสเปียร์, เป็นโคลง14บรรทัดที่ดีมาก

ผมมักพกโคลงนี้ไว้ในกระเป่า
เวลาไหนที่ว้าวุ่นใจ ก็ควักออกมาอ่านดังๆให้ตัวเองได้ยิน
เคยท่องได้ทีเดียวห้าบรรทัดโดยไม่ต้องดูด้วย
แต่เดี่ยวนี้แก่แล้ว จำได้แค่สามบรรทัด
เป็นบรรทัดที่เปี่ยมด้วยความยอดเยี่ยม
“When to the sessions of sweet silent thought I summon up remembrance of things past,
I sigh the lack of many a thing I sought,
and with old woes new wail my dear times waste.” เห็นมั้ย เจ๋งจริงนะ

MP: คนส่วนใหญ่ที่ตั้งบริษัท มักจะหาชื่อที่ไพเราะและแปลกหู แล้วทำไมบริษัทของคุณถึงมีชื่อเรียบง่ายปานนั้น
KR: (หัวเราะ)ก็เพราะ สตีเฟน ฮาเมล ไปตรวจทะเบียน
แล้วพบว่า คำง่ายๆอย่าง Company Films (บริษัทภาพยนตร์) ยังไม่มีใครจดทะเบียนชื่อนี้
แล้วผมชอบความหมายของคำว่า คอมพานี มันหมายถึงเราสร้างบางอย่าง แต่ต้องร่วมมือกันทำหลายคน
นำหลายสิ่งมารวมกัน เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ในมุมมองที่เปลี่ยนไป อะไรทำนองนี้

MP: คุณรู้ไหมว่า โซเฟีย คอปโปลา ต้องคิดอะไรกับคุณแน่ๆ
เธอเขียนขอบคุณคีอานู รีฟส์ไว้ ในเครดิตของหนังเรื่อง ลอสต์อินทรานสเลชัน เมื่อสิบปีที่แล้ว และในหนังใหม่ของเธอ ที่ชื่อเรื่อง ซัมแวร์
ก็พูดถึงนักแสดงหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตในโรงแรมชาร์โตว์เมอมงท์ ซึ่งมันจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากคุณ

KR: หนังเรื่องอะไรนะ ซัมแวร์ หรือ ?, ยังไม่ได้ดูเลยครับ, อยากดูจัง, พูดถึงโรงแรมนั้น ผมอยู่ที่นั่นช่วงยุคไนน์ตี เข้าๆออกๆตามแต่งานไหนถ่ายที่ไหน ทางโรงแรมใจดีกับผมมาก ยอมให้เก็บของส่วนตัวไว้ที่นั่นได้เลย
อยู่โรงแรมสนุกมากครับ ไม่มีภาระ ไม่ต้องคิดอะไร ตอนนั้นผมก็ยังเด็กด้วยนะ
แค่ทำงานตามบท แล้วกลับมานอนโรงแรม มีคนดูแลให้หมดทุกอย่าง สบายมากๆเลย

MP: ตกลงคุณจะพูดถึงโซเฟียไหม
KR: โซเฟียเป็นเพื่อนผม เธอไม่เคยบอกว่าจะเอาเรื่องของผมไปทำหนังนะ แล้วผมก็ไม่อยากคิดว่า ตัวเองจะมีค่าอะไรกับเธอมากมายขนาดนั้น
เรื่องที่สร้างอาจมาจากตัวเธอเองก็ได้ เธอก็ผ่านหลายเรื่องมามาก
โดยเฉพาะ เธอมีคุณพ่อคนพิเศษ ซึ่งสร้างความทรงจำดีๆให้เธอมากมาย
ผมเคยมีอดีตที่สวยงามกับโซเฟีย เป็นความสุขแสนโรแมนติค แต่มันก็ผ่านไปแล้ว เหมือนการเดินผ่านประตูทิศตะวันออกของปราสาทเพื่ออกไปทางตะวันตกของฮอลลีวูด

MP: เอางั้นนะ งั้นคุยเรื่องงานละกัน
เวลาที่งานถ่ายทำหนักๆจบลง คุณผ่านสัปดาห์ที่ว่างงานไปยังไง

KR: ผมก็ยังจะทำเป็นว่ายังทำงานอยู่ อาจจะหลบไปพักสักสอง-สามวัน
แล้วหลังจากนั้นก็พยายามรวบรวมความทรงจำเกี่ยวกับงานนั้น อย่างเช่น
ครั้งล่าสุดนี่ ผมทำสารคดี เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และผลที่เกิดขึ้นของการถ่ายหนังแบบดิจิตอล
เทียบกับการถ่ายทำแบบพิคเซล ที่จริงผมแอบทำสารคดีนี้มาห้าเดือนแล้วนะ
เป็นการตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนผ่านของวิธีทำหนัง
จากยุคที่ผมคุ้นเคย และยุคปัจจุบันที่เราใช้กล้องดิจิตอลมากขึ้น
เป็นการพยายามมองว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้น เป็นคำถามว่า -นี่มันเป็นจุดจบของฟิล์ม-แล้วใช่ไหม ?







25 April 2011
Side Dishes

trailer หนังเรื่อง somewhere
ของโซเฟีย คอปฯ ค่ะ



เห็นแล้วนึกถึงคีอานู จริงๆด้วย
คีอานูกับลูกสาวของเค้า อิซเบล
emo




 

Create Date : 22 เมษายน 2554    
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 20:50:31 น.
Counter : 1525 Pageviews.  

Bojana as Keanu Reeves’ lover

Blic.rs/Culture-Showbiz/
Marija Mijatovic | 08. 02. 2011. - 23:37h |


Bojana Novakovicนักแสดงสาวชาวเซอร์เบีย
กล่าวถึงGeneration Um ที่เธอร่วมแสดงกับKeanu Reeves
ซึ่งถ่ายเสร็จไปแล้วในนิวยอร์ค

"ภาพยนตร์เรื่องนี้ล่อแหลมมาก ฉันคิดว่าเนื้อเรื่องของมันนำเสนอสิ่งที่สังคมไม่อยากพูดถึง แต่การที่มีคีอานู รีฟส์อยู่กับเราทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น เขาเป็นนักแสดงที่ฉลาดและสร้างสรรค์ ความกล้าของเขาทำให้เราอยากทำให้ดีที่สุด เขามีพรสวรรค์ที่หาได้ยากในโลกใบนี้ เป็นเพราะเขานั่นเองที่ทำให้ฉันอยากลุกขึ้นจากที่นอนเร็วขึ้น แล้วรีบมาทำงานแต่เช้า"

"คีอานูมีบางอย่างที่เหลือเชื่อ ฉันไม่เคยคิดเลยว่า คนแบบนี้จะมีอยู่จริง ภาพยนตร์ของเราเป็นแนวอินดี้ ซึ่งแปลว่าทั้งผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ต้องการทำออกมาในแนวอาร์ต ซึ่งจะไม่เหมือนหนังตลาดทั่วไป และนักแสดงก็ต้องเข้าใจตรงกันในจุดนี้ ซึ่งแม้ชั้นจะยอมรับงานแล้ว แต่โดยส่วนตัว ฉ้นยังคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป คือฉันไม่มั่นใจเท่าไรในตอนแรก"



"แต่เมื่อพบคีอานู ทั้งความฉลาดและความกล้าอย่างเหลือเชื่อของเขา รวมถึงความกระตือรือร้นและไหวพริบในการต่อบท ทำให้ฉันเปลี่ยนไป มั่นใจขึ้น กล้าขึ้น เขาทำให้ฉันเห็นว่าการเปิดใจให้กว้าง จะทำให้เราฉลาดและเห็นสิ่งต่างๆไม่เหมือนเดิม"

โนวาโควิคกล่าวด้วยประกายตาสดใสเมื่อพูดถึงฉากรักในหนัง
"เราถ่ายฉากเซ็กส์แบบที่ใช้อารมณ์กันมากมาย เป็นการบอกให้คนดูรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ แต่ถึงแม้ว่าผู้กำกับจะอยากถ่ายฉากพวกนี้ใหม่โดยจะให้มันเป็นแบบเอ็กซ์กันจริงๆ ฉันก็ไม่เกี่ยงเลยที่จะทำงานซ้ำ ตราบใดที่ได้แสดงคู่กับ คีอานู รีฟส์" เธอกล่าวด้วยเสียงหัวเราะ







Source : Blic RS

THNX : Club Keanu

My
Comment
: นักแสดงหญิงคนที่เท่าไรแล้วนะ ที่พูดแบบนี้




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 15:31:56 น.
Counter : 1634 Pageviews.  

......อยากฟัง คีอานูอ่านกลอน (^-----^)



สมาชิกของคลับคีอานูสองนาง
เขียนเล่าประสบการ์ณของพวกเธอ
ในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ไว้ในฟอรัมของคลับ

ข้อความแรก มาจาก chetohead

Hi CK Gang

ตั้งแต่ฉันสมัครเข้าบอร์ด ก็เป็นผู้อ่านมาตลอด
นี่จึงเป็นครั้งแรกที่จะเขียนเรื่องของตัวเองให้ทุกคนอ่าน
เพราะฉันกับเพื่อนสาวคนสนิท อยู่ในงานแจกลายเซ็นต์บนหนังสือ "Ode to Happiness"
ซึ่งจัดขึ้นเมื่อบ่ายวันนี้ จึงได้พบขวัญใจของพวกเรา คีอานู รีฟส์

เราถึงที่นั่นราวบ่ายสามโมงครึ่ง เพราะรู้ว่าประตูเปิดสี่โมงเย็น
แต่เมื่อไปถึงก็พบหางแถวที่ยาวมาก ตั้งรออยู่แล้ว
พอใกล้สี่โมงเย็น แถวก็ยาวจนเกือบจะล้อมรอบตึกได้ละ

เมื่อถึงเวลาประตูเปิดและรู้ว่าห้องจัดงานจุคนได้ไม่หมด
ฝ่ายผู้จัดแก้ปัญหาด้วยการแบ่งผู้ชมเป็นสองกรุ๊ป
โดยให้คนยืนคิวแรกๆเข้าไปก่อน พวกเราท้ายแถวต้องรอเป็นกรุ๊ปหลัง ช่างโชคร้ายจริงๆ

เรื่องร้ายกว่านั้นก็คือ ในกรุ๊ปที่สอง ไม่มีการเล่าเรื่องหรืออ่านกลอนให้ฟังอีกแล้ว
เมื่อเราเดินเข้าไปในห้อง
เห็นคีอานูและอเล็กซานดรานั่งอยู่ที่โต๊ะ ต่างคนก็กำลังเซ็นต์ชื่อลงหนังสือ
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้อยู่ใกล้ คีอานูตัวเป็นๆ อย่างนี้

สิ่งแรกที่ฉันคิดก็คือ เขาช่างเหมือนชายคนที่ฉันเห็นในภาพจนชินตา
มีทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนคนที่ฉันคิดว่าเขาเป็น
ดูอ่อนหวาน พูดกับเราด้วยเสียงนุ่มนวล แถมยังมองตาในเวลาที่เราสื่อสารกันด้วย

หลังจากที่ฉันและเพื่อนได้ลายเซ็นต์ของเขาบนหนังสือ
เราทั้งคู่ยังไม่อยากออกไปจากที่นั่น จึงยืนคิกคักกันอยู่ที่มุมห้อง
แล้วดูเหมือนฉันจะหัวเราะดังเกินไปจนเขาได้ยิน
มือเขาชะงักจากการเซ็นต์ชื่อ เงยหน้ามองมาที่ฉันแล้วยิ้มให้
เราสบตากัน ตรงๆ อย่างจัง !
ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังละลาย จึงต้องหลบสายตาเขา
ขอเตือนคุณว่า อย่ามองตาผู้ชายคนนี้เป็นอันขาด มิเช่นนั้น คุณอาจหัวใจวายตายได้

คนมากมายรอรับลายเซ็นต์ของเขาแล้วทยอยเดินออกไป แต่เราไม่ทำอย่างนั้น
ฉันพยายามห้ามตัวเองไม่ให้อยู่ใกล้เขามากเกินไป
ขอแค่ยืนดูเขาอยู่ไกลๆก็พอ การได้เห็นเขาคุยกับแฟนๆ ถือว่าเป็นความสุขของฉัน

เขาดูโอเคกับคนส่วนใหญ่ แต่ฉันรู้สึกว่า เขาลำบากใจที่จะรับมือกับบางคน
เขาดูเหมือนคนไม่ช่างพูด
แค่เซ็นต์ชื่อลงหนังสือ คุยสั้นๆ ยอมถ่ายภาพคู่ด้วย ถ้าคุณขอ
เสร็จแล้วก็กลับไปเซ็นต์ให้คนอื่นต่อ

เพื่อนสาวของฉันเดินเข้าไปขอถ่ายรูปกับเขา
เมื่อเธอกลับมาก็เล่าว่าเขาน่ารักมาก รีบบอกให้ฉันไปขอถ่ายบ้าง
แต่ดูเหมือนฉันจะคิดช้าเกินไป
คิวถ่ายรูปกับเขายาวจนเกินกว่าจะเสร็จได้ในวันนี้แน่ๆ
ฉันยอมรับว่า ตัวเองขี้อายเกินกว่าจะเข้าไปยืนใกล้ๆเขาได้อีกครั้ง
ฉันกลัวว่าตัวเองจะเป็นลมลงไปตรงนั้น จึงขอยืนดูเขาอยู่ห่างๆแบบนี้ดีกว่า

เรายืนอยู่อย่างนั้น จนทุกอย่างจบลง และมองเห็นเขาจากไป
ฉันตะโกนบอกว่า "ขอบคุณนะคะ"
ไม่รู้ว่าเขาได้ยินไหมเพราะเขาเดินเร็วมากเนื่องจากมีแฟนๆวิ่งตามไปเป็นขโยง

ฉันว่าเขาเป็นคนมีมารยาทดีที่ตั้งใจมาทำงาน แม้จะขัดเขินที่ต้องถูกพวกเรารุมล้อม
ฉันคิดว่า เวลาที่พวกเราแสดงการชื่นชมอย่างจริงใจเขาก็มีความสุขและซาบซึ้งกับเรา

แต่ก็มีบางคนที่ทำให้อึดอัดจนเขาต้องพยายามถอยห่างจากเธอ
ฉันเห็นหญิงสาวคนหนึ่งพยายามยัดนามบัตรใส่มือเขา แต่เขาไม่อยากรับไว้
เขาหลีกเลี่ยงโดยเอามือไขว้หลังแล้วเดินหนีไป

ฉันรู้ว่านี่เป็นแค่วันทำงานวันหนึ่งของเขา
แต่เขาคงไม่รู้ว่านี่คือวันที่มีความสุขของฉัน





ข้อความถัดมาเป็นของ quirkyKR

Hi guys,

ฉันอยู่ในงานแจกลายเซนต์บนหนังสือ"Ode To Happiness"
ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ ที่the LACMA
ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมาย(ดวงดาวส่องประกายเจิดจ้า)

ฉันอยู่ในกลุ่มแรกที่ได้เข้างาน ช่วงเวลาที่มีค่านี้มีแค่ 30 นาทีเท่านั้น
พวกเขาตัดบางส่วนออกไป เพราะมีคนอีกกลุ่มหนึ่งรอเข้าคิวรับลายเซ็นต์อยู่ด้านนอก

พิธีกรเป็นสาวผมบลอนด์ เริ่มงานด้วยการเล่าแบคกราวน์ของคีอานู อเล็กซานดรา และบริษัทผู้พิมพ์ให้พวกเราทราบอย่างสั้นๆ จากนั้นเธอขอให้คีอานูอ่านหนังสือของเขา ซึ่งฉันไม่อยากเชื่อว่า คีอานูจะอ่าน
แต่ เขา ก็ อ่าน
น้ำเสียงของเขาราวกับอยู่ในโรงละคร มันก้องกังวานและทรงพลังมาก
ทุกคนนิ่งฟังและเปิดหนังสือตามไปอย่างเงียบกริบ
จนกระทั่งมาถึงบรรทัดสุดท้าย โดยมิได้นัดหมาย
พวกเราก็อ่านบรรทัดนั้นพร้อมกันไปกับเขา

ต่อจากนั้น พิธีกรถามถึงที่มาของหนังสือ
คีอานูชี้ไปที่ "เจนี" ซึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มผู้ฟัง แล้วเล่าว่า

วันหนึ่ง เจนีซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและผู้ช่วยส่วนตัวของเขา
บ่นเรื่องความเศร้าในชีวิตของเธอให้ฟัง
เขาจึงเขียนบทกลอนร้ายๆจำนวนหนึ่งให้เธอ
ซึ่งเธอชอบมันมากจนถึงขนาดว่า
เมื่อใดที่เกิดเรื่องที่ทำให้เธอเสียใจ
บทกลอนของคีอานูก็ช่วยให้เธอดึงอารมณ์ตัวเองกลับมาได้ทุกครั้ง
(เขาจงใจพูดตลกว่า
ตนเองรู้ว่าเจนีชอบฟังเพลงเศร้าเหมือนสาวๆทั่วไป
กลอนของเขาจึงช่วยเธอได้เหมือนเพลงพวกนั้น)

หลังจากนั้น ในงานวันเกิดของเจนีเมื่อสอง-สามปีที่แล้ว
คีอานูได้พบอเล็กซานดรา ซึ่งเป็นเพื่อนของเจนีด้วย
เรื่องกลายเป็นว่า
อเล็กซานดรา แอบเขียนภาพ จากกลอนของคีอานูมานานแล้ว
เพราะหวังว่าจะมอบภาพประกอบบทกลอนนี้ เป็นของขวัญวันเกิด แด่ เจนี

แล้วเมื่อทุกคนในงานได้เห็นของขวัญชิ้นนั้น ทุกคนก็อยากได้มันบ้างทันที
นี่จึงเป็นที่มาของการหาผู้จัดพิมพ์จำหน่าย ซึ่งตกลงเป็นของ บ.เกอฮาร์ด

เล่ามาถึงตอนนี้ เกอฮาร์ดผู้พิมพ์ ก็ขออธิบายขั้นตอนการจัดทำหนังสือ
ว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก และมีความเสี่ยงสูง
เพราะหนังสือภาพเล่มนี้ไม่เหมือนงานทั่วไป
รวมทั้งสภาวะตลาดสื่อสิ่งพิมพ์ก็ประสบความสำเร็จไม่ง่ายนัก
นอกจากนั้น การพิมพ์ภาพสีน้ำของอเล็กซานดราให้เหมือนต้นแบบที่สุด
ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย

มาถึงตอนนี้
คีอานูถูกถามว่าจะแต่งหนังสือออกมาอีกหรือไม่ เขาตอบว่าจะมีอีก
แต่ฉันดูไม่ออกว่า เขาพูดจริงหรือเล่น
เพราะเขายิ้มอย่างทะเล้นตอนที่บอกว่า

"เล่มหน้าผมจะแต่งกลอนไฮกุ แล้วตั้งชื่อว่า Haiku To Hope"

มีคนถามว่า นี่เขาคิดจะเป็นนักเขียนแล้วหรืออย่างไร
เขายิ้มหวานให้คำตอบคลุมเคลืออีกครั้ง ก่อนจะตอบ"ครับ"

ยังมีคำถามเกี่ยวกับการร่วมงานกันในครั้งนี้
ของคนทั้งสามที่ไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน
ทำให้ทั้งหมดผลัดกันเล่าว่าใครทำอะไร
กว่าจะตกลงกันได้เป็นผลงานเล่มที่เห็นอยู่ตรงหน้า

คีอานูล้อว่า
งานลุล่วงได้เพราะตนเองและอเล็กซานดรา
ยอมให้ เกอฮาร์ดเป็นคนตั้งชื่อหนังสือ
ซึงใช้คำว่า Ode To Happiness
เพราะหวังว่าจะทำให้มันสะดุดตามากขึ้น เมื่ออกวางขายบนชั้น ในร้านหนังสือ

ฉันคิดว่างานนี้จัดขึ้นอย่างน่ารัก
ทุกคนในงานดูดี เครื่องดื่มและของว่างมีให้เลือกมากมาย
กลุ่มคนที่มานั้น ส่วนใหญ่เป็นแฟนของคีอานู
แต่ก็มีส่วนหนึ่ง ที่มาเพราะชอบหนังสืออาร์ต ไม่ใช่เพราะคีอานู
ถือเป็นอีเวนต์ที่ประสบความสำเร็จ ฉันแอบเห็นกล้องวิดิโอที่มุมห้อง
จึงเชื่อว่าต้องมีการบันทึกเทปไว้ และเราคงได้เห็นมันอีกในวันใดวันหนึ่ง

ในสายตาของฉัน คีอานูดูดีมากในวันนั้น
ช่างเป็นโอกาสอันวิเศษที่ได้ฟังเขาอ่านกลอนที่เขาแต่งเอง
ฉันมีความสุขจนล้น

ถึงchetohead
ฉันไม่ได้สังเกตว่ามีแถวยาวแค่ไหนที่รอลายเซ็นต์อยู่
เพราะไปถึงที่นั่นบ่ายสองครึ่งแล้ว
แต่โชคดี ที่ยังได้เป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่เข้างาน และเป็นงานที่ทำให้ฉันมีความสุขมาก แม้ห้องจัดงานจะเล็กกะจิ๋วริ๋ว

ฉันว่า เป็นเพราะผู้จัดงาน ประเมินจำนวนแฟนๆของคีอานูต่ำเกินไป เสียดายที่พวกเราไม่ได้ฟังเขาอ่านกลอนด้วยกัน



ยังมีรายงานอีกชิ้นหนึ่งในบล็อกของ prettysandyfeet
มีรูปของหนังสือบางส่วนด้วย
สนใจเชิญคลิกไปชม The Full Keanu Story:by katelin on February 15, 2011

และ
นี่คือกลอนของคีอานู รีฟส์ที่เขาอ่านวันนนั้น
ขอบคุณ quirkyKR ผู้พิมพ์
(ผลงานมีลิขสิทธิ ห้ามนำไปใช้แสวงหารายได้โดยไม่รับอนุญาต)

I draw a hot sorrow bath
In my despair room
With a misery candle burning
I wash my hair with regret shampoo
After cleaning myself with pain soap
I dry myself with my gorgeous white
One hundred percent and it will never change towel
Then smooth on my I don't deserve lotion
And I hate myself face cream
Then I put on my alone again silk pajamas
And go to sleep
When the hue has gone blue
And you can't quite grin and bear it
Let this word picture remind you
It can always be worse


เสียดาย......
อยากได้ยิน กะ หู.........


และ ขอโทษนะคะ chetohead
อย่ามาเตือน ห้ามจ้องตง จ้องตา อะไร เล้ยยยยย

ถ้า เดี๋ยนพบ พ่อ กอร์กอน คีอานู คนนี้
แม้ต้องแข็งเป็นหิน เดี๋ยนนน ก็ ย้อมมมมมม



SUPER THNX : Club Keanu's crew and member




 

Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554    
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2554 12:54:47 น.
Counter : 1588 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

angy_11
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




ปุกาด

ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ

เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย

ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก
***
เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป
ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่
กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น
*********
แองจี้เป็น
หนึ่ง-ใน-แอดฯ
ของเพจเฟสบุค
v
v

แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ
LastBlogs


2023

22:09:66 :Swiz Pizza
23:08:66 :theHat
20:08:66 :HBD 59
21:06:66 :JW4 in 3 mth
07:03:66 :KR AMA 2023
27:02:66 :KwNeverS2theMachines

2022

01:09:65 :HBD58
06:07:65 :KR&TheKid

2021

12:12:64 :Tools=M.Resurrections
23:11:64 :EsqNov2021
09:11:64 :HAGAKURE
16:09:64 :HowCome
02:09:64 :HBD*57
18:6:64 :HairExtention
23:4:64 :JW4 Preparing
2020
26:8:63 :WhatIf...HBD
22:4:63 :SocialDist
6:2:63 :92nd Oscar
8:1:63 :ถ้ารัก อย่าล้ำเส้น

2019
5:11:62 :KeaLexandra
14:10:62 :Dad'sFuneral
12:09:62 :Japan Adv
01:09:62 :HBD*55*
24:07:62 :NicestGuy
03:06:62 :Meme in ABMM
16:05:62 :#AskJohnWick
12:05:62 :JW3's coming
16:04:62 :ยาวไป ยาวไป
16:03:62 :Sandwich

2018

19:12:61 :FakeKeanu
02:09:61 :HBD*54
14:08:61:DestinationWedding
20:07:61 :MySiberiaReview
18:04:61 :จีมา-ปริก-

2017

01:09:60 :HBD 53
22:08:60 :ADC'sBook
09:08:60 :ToTheBone
15:06:60 :JRain
01:06:60 :KRphenomenon
26:05:60 :JW3 will do
26:04:60 :K hates S.media
21:02:60 :C=Wick
08:02:60 :หัวใจน่ากอด

2016

27:12:59 :HNY 2017
02:09:59 :HBD 52
31:08:59 :SwedishD
10:08:59 :Replicas#1
11:07:59 :Rally Car
12:05:59 :M Figaro
31:03:59 :To the Bone
23:03:59 :TWT@tokyo
28:01:59 :ฉงฉานครีนู
26:01:59 :Exposed

2015

04:05:58 :my KnKn
18:11:58 :10/10KnKn
12:11:58 :moreJW2
05:11:58 :JW2 shooting
09:10:58 :@Kimmel 8Oct
30:09:58 :Mrs.Wick
17:09:58 :The-R-Files
07:09:58 :Cinder-K-ella
01:09:58 :HBD- 51
21:08:58 :ARCH - VF
13:08:58 :How Pick
05:08:58 :indie KR
31:07:58 :KRGT-1
15:07:58 :Where's K
28:06:58 :mystery woman
17:06:58 :K miss theP
29:05:58 :TLB 4 Nepal
28:05:58 :No หนวด
18:05:58 :KnKn stills
13:05:58 :K NewLook
09:05:58 :Hide his face
24:04:58 :The New K
20:04:58 :K is funny
12:02:58 :Gauguin Event
06:02:58 :The Neon Demon
26:01:58 :Travelling Actor

2014

17:12:57 :I'm going to start a family again
08:12:57 :Passenger Update !
24:11:57 :I have no time for Amore
31:10:57 :#IMDbAskKeanu
30:10:57 :Welcome back
22:10:57 :JW on KM Live
20:10:57 :JW the best act mov
16:10:57 :Rddt AMA KR#1
14:10:57 :NYC JohnWick
09:10:57 :Miami airport
29:09:57 :ทำไมถึงไม่แต่ง งาน
24:09:57 :2วัน2รอบ !
23:09:57 :STACEY
22:09:57 :obsessive fan
01:09:57 :HBD 50
19:08:57 :J.Rain T.V. Series
14:08:57 :R.day of JW
08:08:57 :K@LAX
01:08:57 :K & Israel PM
16:07:57 :KR bachelorette party
07:07:57 : Clean shaven
24:06:57 :TheWholeTruth
9:06:57 :SandyAward
6:06:57 :GuyChAward
25:05:57 :ARCH on the road
12:05:57 :ปิดกล้องKnockๆ
04:05:57 :K in Chile
15:04:57 :1stPict KnkKnk
08:04:57 :KnockKnock
02:04:57 :K on eBay
20:03:57 :PostponePassenger
06:03:57 :Indi Spirit Awards
25:02:57 :Passenger'll be do
11:02:57 :German gay
31:01:57 :K @ Uru
25:01:57 :more JW
17:01:57 :1st look JW
4:01:57 :Kai Diaster

2013
29:12:56 :X'mas Keanu
26:12:56 :Kai & Keanu
24:12:56 :My 47R review
13:12:56 :cutie K
11:12:56 :47R aud rate
20:11:56 :47R Pr Con
13:11:56 :47R intview
31:10:56 :Bhind 47R
29:10:56 :J.Wick
21:10:56 :KR Reddit AMA
14:10:56 :Apple Store
12:10:56 :47Ronin more
30:09:56 :Nicest guy ever
25:09:56 :Fantastic fest
21:09:56 :John Wick
11:09:56 :@TIFF
10:09:56 :@Toronto
09:09:56 :Fat with Muscle
02:09:56 :HBD 49
30:08:56 :Exercise is Good
28:08:56 :Cute Clip
06:08:56 :47โรนิน ตัวอย่าง
05:08:56 :สาวลึก ลับ
24:07:56 : รายได้ MOTC
17:07:56 :บทความในสิงคโปร์
16:07:56 :18 กค นี้ MOTC ในไทย
10:07:56 :LongLong dragon
09:07:56 :หนังสั้น17mins w VW
20:06:56 :Kid&K on MOTCpromo
11:06:56 :Arch Motorcycle
22:05:56 :MOTC Cannes
10:05:56 :GenUm LA
22:04:56 :Trailer of MoTC
11:04:56 :Delay of MoTC
22:03:56 :Suicide in Cinema
07:03:56 :@ฺBJ CloudAtlas
06:02:56 :FB page
06:02:56 :K's Home
22:01:56 :MOTC releaseDate
11:01:56 :K's back 2 BJ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angy_11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.