A Perfect Husband : Keanu Reeves


การเปลี่ยนสถานะเข้าสู่ 'ชีวิตคู่' ของมนุษย์แต่ละคนนั้น มีความยากง่ายแตกต่างกัน
บางคนไม่คิดมาก------------บางคนก็คิดนาน
และบางคน หลังจากไตร่ตรองอย่างรอบคอบว่า
ไม่สามารถใช้ชีวิตคู่กับใครได้แน่ๆ ก็จะ"ฟันธง" แก้อาการหน้าแตกว่า
"ชั้นขอเป็นโสดดีกว่าย่ะ เพราะความรักทำให้ชั้นเสียการทรงตัว"

สำหรับ มิสเตอร์คีอานู รีฟส์

ชีวิตแต่งงาน ดูเหมือนแดนสนธยา ปน สวนสนุก เพราะบางทีก็บอก"อยาก" บางทีก็บอกว่า"ขอคิดดูก่อน"
ทั้งนี้ คงเป็นเพราะ นิสัยส่วนตัว ที่รักอิสระ แต่ขี้เกรงใจของเขา ที่ไม่อยากทำให้ผู้หญิงคนไหน ซึ่งจะดำรงตำแหน่งเป็นแม่ของลูกต้องมีอาการหวาดระแวงในขณะที่ตัวเองเริงร่าอยู่ท่ามกลางเพื่อนฝูง

ข้อดีอย่างหนึ่งของคีอานู คือ การไม่โกหก
เมื่อครั้งที่ยังหนุ่มๆ เขาบอกว่า "อยากมีลูกสักสามคนครับ แต่เรื่องแต่งงาน ผมยังไม่แน่ใจ" (แล้วลูกนี่ มันจะมาทางไหนคะ เพ่ ? ) หลังจากนั้น เมื่อนักข่าวที่เยอรมัน ถามเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาว(ตอนนั้น) อแมนดา ดิ คาดิเนท ว่า จะเข้าพิธีวันไหน เพราะใครๆก็รู้กันว่า อแมนดาเธอเลิฟนายคีอานูสุดฤทธิ์ เอาอกเอาใจสารพัด(มีข่าวลือว่า ชีซื้อของขวัญประเคนให้เป็นปี๊บๆ แต่ไม่มีใครยืนยันข่าว แถมsheยังตามติดคีอานู ยังกะ ตังเม ทั้งๆที่งานการตัวเองก็มีให้ทำ ก็ยังไม่ค่อยจะทำ) นายคีอานู กลับตอบว่า "ผมบอกผู้หญิงของผมทุกคน ว่าผมยังไม่พร้อมที่จะแต่งงาน มันยากเกินไป ที่จะซื่อสัตย์กับผู้หญิงเพียงคนเดียว" โอ้ววววววว ตอบได้ 'ตรง' อะไรขนาดนั้น

Photobucket - Video and Image Hosting


แต่แล้วหลังจากนั้นไม่นาน แฟนๆคีอานูก็ช็อคพร้อมกัน เมื่อทราบว่า คนรักคนหนึ่งของพี่คี ที่ชื่อ เจนนิเฟอร์ ซีมส์ ตั้งท้องลูกให้เขา
พวกเราก็ได้แต่ทำใจ ว่าครานี้ 'เสือ'คงต้องเดินเข้ากรงซะทีละวา

แต่ว่า โชคร้ายไม่เคยเลือกมนุษย์ ลูกสาวที่คีอานู รีฟส์ ยอมทิ้งลาย เพื่อจะได้เป็นคุณพ่อ เสียชีวิตก่อนคลอดในช่วงคริสมาส ปลายปีนั้น และทำให้ทั้งคู่ แยกทางกันไปในที่สุด

วิกฤตชีวิตครั้งนี้ ทำให้ความเห็นของนักแสดงหนุ่มเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่เลวร้ายลงไปอีก เขาพูดหลังจากโดนนักข่าวถาม ในการให้สัมภาษณ์ว่า "อย่ามาถามผมเรื่องผู้หญิงเลย ผมไม่พร้อมจะมีพันธะกับใครทั้งนั้น ครั้งหลังสุดที่ผมคิดจะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงกับใครสักคน ยังทำให้ผมยังเวียนหัวไม่หายเลย ตอนนี้ ผมมีแต่สาวๆที่ได้พบ ตอนออกไปเที่ยวกลางคืนอะไรแบบนั้น แต่ว่า พอจะเริ่มจริงจังกันนี่ ผมก็คิดว่า เฮ้ออ ! เป็นเพื่อนกันดีกว่าครับ" แสดงว่า ช่วงสั้นๆ ของการพยายามมีครอบครัวคงจะทำให้ ฮีปวดหัวไม่เบา

Photobucket - Video and Image Hosting


จะว่าไป น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน เพราะอาชีพนักแสดงนั้น การมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคู่ก็อยู่กันไม่ยืด เนื่องจาก ตารางการทำงานของพวกนักแสดง ไม่เหมือน officer ทั่วไป ต้องย้ายที่ทำงานไปตาม location ถ่ายหนังอย่างต่ำก็ครั้งละสามเดือน แถมยังมีโอกาสที่เปิดเข้ามาให้'ว่อกแว่ก'อีกหลายแบบหลายประเภท หากจิตใจไม่เข้มแข็งจริง ชีวิตคู่ก็รอดยาก

อย่างไรก็ดี คำถามว่า เมื่อไรจะมีครอบครัว ก็ยังเป็นคำถามยอดฮิต ที่ทุกคนอยากรู้ เกี่ยวกับคีอานู รีฟส์ และ คุณคี แกก็ตอบคำถามนี้ เล่นบ้างจริงบ้างอยู่ตลอดเวลา ข้อดีของเขา ก็คือ ไม่เคยสร้างภาพว่าตนเป็นคนดี หรือไม่มีแฟนเลยครับอะไรแบบนั้น ส่วนใหญ่แกจะบอกตรงๆว่า ผู้หญิงน่ะมี แต่ไม่มีรายละเอียดจะบอกพวกคุณเพราะมันชีวิตส่วนตัวผม ซึ่งเราก็เข้าใจดี

แต่คำตอบของเขา ที่อ่านแล้วเร้าใจก็คือ วิธีการที่เขาอยากใช้ หากได้มีโอกาสมีคู่ ของคีอานู รีฟส์

***************"ช่วงเวลาที่ดีที่สุด เวลาได้อยู่กับคนรัก คือการนั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้วยกันยามเย็น และมีเพียงแค่เราสองคน"
**************************"ส่วนเวลาที่โรแมนติคที่สุด คือยามเช้า ที่เราตื่นมาใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แล้วได้นอนกอดกัน คุยกัน ใช้ปลายเท้าเขี่ยกันเล่น อะไรแบบนั้น"
**********"และหากว่า เมื่อไรที่ผมแต่งงาน ผมจะเป็นสามีที่ทุ่มเทให้เธอ มันต้องมีทั้งเซ็กส์ที่ยอดเยี่ยม แล้วก็การเล่นสนุกผจญภัยด้วยกันหลายๆแบบ" เขาหัวเราะ "แล้วผมจะช่วยเธอล้างจานด้วยล่ะ"


โอ วาวววววววววววววววววววววว A Perfect Husband but, For Who?


Photobucket - Video and Image Hosting
Scene from Sweet November 2001


:หมายเหตุ :

::ข้อความทั้งหมด เขียนขึ้นใหม่ จากการอ่านบทสัมภาษณ์คีอานูหลายๆชิ้น บางถ้อยคำอาจไม่ตรงต้นฉบับ แต่ถือว่า เป็นการ เม้าท์เอามันส์ หากท่านมีข้อขัดข้อง หรือความเห็นต่าง กรุณาเขียนคอมเม้นท์เพื่อการปรับปรุง

::เดิม Group Blog "บทความ" ใช้เป็นที่แปะ บทสัมภาษณ์คีอานูที่แองจีแปลเองจากต้นฉบับ แต่เนื่องจาก กระแสตอบรับไม่ดี(ก็แปลว่าไม่มีใครอ่านนั่นแหละ) ข้าพเจ้าจึงเกิดความคิดว่า การเขียนใหม่ขึ้นเองโดยใช้ความทรงจำนั้นง่ายกว่าจะนั่งแปลตามต้นฉบับ ดังนั้น ตรูจะทำให้ลำบากทำไม บทความวันนี้ มันก็เลยกลายเป็นซะแบบนี้

::แฟนๆของคีอานู อ่านพบแล้วควรแสดงตัวโดยด่วน ก่อนที่บล็อก"บ้าคีอานู" จะกลายร่างเป็น "แองจีไดอะรี" ฮะฮ่า


:Reference:

1::"Es ist hart f?r mich, nur einer Frau treu zu sein"
(It is hard for me to be faithful to only one woman),Brigitte ( Germany) - January 21, 1998

Dann allgemeiner: Was bringen Sie in eine Beziehung ein?
Aufrichtigkeit, Leidenschaft, Verst?ndnis. Und absolute Offenheit. Ich sage ganz klar, da? ich noch nicht bereit zum Heiraten bin, da? es hart f?r mich ist, nur einer Frau treu zu sein. Ich lass' meine Partnerinnen wissen, was ich k?rperlich und gef?hlsm??ig geben kann. Ich h?re ihnen zu. Ich glaube nicht, da? sie irgend einen Grund haben, sich zu beklagen.
Then more generally: What do you bring into a relationship?
Sincerity, passion, understanding. And absolute openness. I legend completely clearly that I am not yet ready for marrying that it is hard for me, to be faithful only one woman. I let ' my partner inside know, what I can give physically and by feel. I listen to them. I do not believe that they have possibly a reason to deplore itself.

2::The Dishes, Maddy O'Donnell: New Weekly: 2000-08-28

On the personal front, the actor - once crowned MTV's Most Desirable Male - isn't in a rush to get hitched. "But when I do get married, I'm going to be a very nurturing husband. There'll be good sex and lots of adventure," he laughs. "And I'll help out with the dishes, too."

3::Zen and the art of Keanu Reeves,Vanity Fair ( USA) - February 2001

Also, since only about a million readers are wondering, he has not been much involved in serious romances lately. "Unfortunately, at the moment, I'm not," he says. "But, you know, I'm looking. I haven't been in a relationship for like five years now. I mean, I've gone out and stuff; but I haven't been in a relationship."
Then he adds, "It was so hard the last time. Literally it was just in the last couple of years where I was even open to the idea of being in another relationship ... It was just like, 'Agggh! God, forget all that, man. Let's be friends."'
"Are you protective because you don't want someone going out with you only because you're a movie star?" he's asked. He shakes his head and, laughing loudly, says, "Well, for one night..."

4::The Tragic Hero,Cosmopolitan ( Germany) - September 2004

Do you believe in true love and spiritual kinship?
Yes, absolutely, I believe in that.
How do you define romantic?
For me, romantic is sharing intimacy with another person, looking inside, but also to enjoy a sense of place to the outside. Romantic is awareness of life, it is about existing together in the here and now. Sometimes a beautiful place can reinforce this feeling. But this kind of romanticism works only on good days.
So you are more of an occasional romantic?
I am not sure. At any rate, being hopelessly in love is very beautiful. And dangerous.

5::I am a normal guy,Hello magazine [UK] 11/04/2005

"I'm not a loner and I'm not introverted. What do I find romantic? Hmm. The thing that comes to me right now is it's so lovely to spend time in the morning with someone in bed when you just kind of like play with your feet, you're hanging out and you look at each other and spend time talking and laughing in bed... Yeah. That's a great time."




 

Create Date : 23 มกราคม 2550    
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2551 10:23:42 น.
Counter : 1404 Pageviews.  

Satan:::>Constantine Promotion Article


คุณนายโจเซฟิน โผล่มาทวง บล็อกของดั๊นแต่เช้าเชียวค่า
...
แปลบทความอันนี้สั้นๆ ให้อ่านกันเล่นๆ
...
ส่วนเรื่อง โหวตบล็อกแก๊งค์

แองจียังเข็ดหลาบจากปีที่แล้ว ปีนี้ เลยไม่เน้นฮ่ะ

ส่วนเพื่อนจะให้แองจีกดโหวตให้บล็อกไหน
เข้ามาบอกกันได้นะฮ้า





Satan
Vanity Fair ( Italy) - February 2005

VF: คอนสแตนตินสูบบุหรี่ ตัวคุณเองก็สูบ เคยคิดจะเลิกบ้างไหมเนี่ย?
KR:ผมรู้ว่าผมควรเลิกได้แล้ว แต่ผมกลับไม่เคยพยายามจะเลิกสักที ผมสูบวันละ 12 มวน แล้วก็ชอบหลอกตัวเองว่า คงไม่เป็นอันตรายอะไรนัก ถ้าจะยืดเวลาเลิกบุหรี่ไปอีกสักนิด เพราะผมเริ่มสูบช้า เริ่มมวนแรกเมื่อตอนอายุ 30 นี่เอง เพราะว่า บทที่ผมเล่นในหนังเรื่อง Feeling Minnessotaมันต้องสูบ แล้วผมก็เลยติดกับดัก ตั้งแต่ตอนนั้น



VF:จริงหรือเปล่าที่ว่า คุณไปพบหมอผีเอ็กซ์โซซิส เพื่อเตรียมตัวรับบทนี้ด้วย
KR:จริงสิครับ มันฟังดูบ้าๆใช่มะ แต่ว่า ฮอลลีวูดมีผู้เชี่ยวชาญให้คุณปรึกษาในบททุกประเภทแหละ ผมได้พบหมอผีตัวจริงด้วยเพื่อเรียนรู้จากเค้า เขาน่ารักครับ อายุราวๆ 55 ฉลาด แล้วก็ดีกับผมมาก เขาสอนท่าทางที่จะต้องทำเวลาไล่ผี แต่เราไม่ได้คุยกันเรื่อง ศรัทธา ศาสนาหรือปรัชญาอะไรนะ มีแต่เรื่องการทำท่าอย่างไรให้ดูเป็นหมอผีอาชีพในหนังเท่านั้นแหละ เขาบอกผมว่า งานเขาอันตรายมาก แต่ผมว่า งานมันก็อันตรายทุกงานล่ะ

VF:คุณคิดจะใช้บริการไล่ผีของเขาบ้างไหมล่ะ?
KR:ก็ถ้าเพื่อนผมโดนผีเข้า ทำไมผมจะไม่ใช้ล่ะครับ? นี่ผมยังเก็บนามบัตรเขาไว้เลย.....โอ ไม่ ผมล้อเล่นน่ะ

VF:คุณเป็นคนถนัดซ้าย ซึ่งเราเคยเชื่อกันว่า มันคือข้างของปีศาจ เด็กๆหลายคนที่ถนัดซ้ายมักถูกบังคับให้เปลี่ยนเป็นถนัดขวา
KR:จริงรึ ทำไมทำป่าเถื่อนกับเด็กกันอย่างนั้นล่ะ ! ผมหวังว่าเรื่องแบบนี้น่าจะไม่มีอีกแล้วนะ จากความรู้นิดๆหน่อยๆด้านประสาทวิทยาของผม สมองด้านซ้ายเป็นด้านของความคิดสร้างสรรค์ แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆแล้วอะไรเป็นเหตุผลที่ทำให้บางคนถนัดซ้าย เพราะที่เรารู้ก็คือ หัวใจของเรามันเป็นกล้ามเนื้อไม่ใช่ข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ซะหน่อย

VF:อัจฉริยะมือซ้ายหลายคนก็แปลกๆนะ อย่าง Leonardo da Vinci คุณรู้เรื่องหนังสือขายดีของDan Brownเรื่อง 'Da Vinci Code'หรือเปล่า
KR:คุณคงไม่บอกผมว่า ทุกอย่างในนั้นเป็นเรื่องจริงหรอกนะ

VF:คุณดูหงุดหงิดเพราะคุณอยากได้บทพระเอกเรื่องนี้ แต่เขาไม่เลือกคุณ หรือเพราะว่า คุณไม่ชอบที่มันมีเรื่องลัทธิOpus Dei ?
KR:ผมบอกได้แต่ว่า ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้เลย

VF:บทที่คุณเคยเล่น มีหลากหลายมาก ทั้ง'Speed', 'Little Buddha', 'Matrix' หรือแม้แต่หนังตลกอย่าง 'Something's Gotta Give' บทไหนอธิบายตัวคุณได้ดีที่สุด
KR:ผมก็เป็นเหมือนทุกบทที่คุณพูด และในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่สักบทด้วย ผมไม่เคยเล่นเป็น"ตัวเอง"ในหนัง สิ่งที่คุณเห็นบนจอเป็นผลมาจากการทำความเข้าใจ ระหว่างตัวผมเองกับบทที่ผมเล่น แต่ทุกบทนั่น ก็สะท้อนบางส่วนของชีวิตผม มันเหมือนเงาสะท้อน ของสิ่งที่เรารู้ ผู้คนที่เรารู้จัก ความทรงจำที่เราเก็บเกี่ยว อย่างเช่น ตอนผมทำเรื่อง สปีด ผมรู้จัก Sandra Bullock แล้วเราก็สนิทกัน เราจะนัดกินข้าวกลางวันกันปีละครั้ง แล้วเดือนมีนานี้ ผมก็จะได้ทำงานกับเธออีกครั้งในหนังเรื่อง 'Il Mare' แล้วตอนที่ผมทำงานใน 'Something's Gotta Give' ผมมีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของJack Nicholsonอย่างใกล้ชิด ผมทึ่งจริงๆที่โลกนี้มีนักแสดงยอดฝีมืออยู่มากมายเหลือเกิน อ่อ สำหรับอิตาลี คุณมีBernardo Bertolucci ผมไม่พบท่านนานแล้ว แต่ว่า เราก็ฝากความคิดถึงกันผ่านคนอื่นๆไปอีกที ดังนั้น ในฐานะที่ผมมาอิตาลี นี่จึงเป็นโอกาสดี ที่ผมจะฝากสวัสดีท่านเบอร์นาโด ที่ตรงนี้ด้วยครับ




VF:ในวันที่ 2 กันยายน ที่จะถึงนี้ คุณจะอายุครบ 40 ปี มีวิกฤตอะไรเกิดขึ้นกับคุณไหมไหม
KR:น่ากลัวจังนะ ผมว่าจะซื้อรถเฟอรารีสักคันปลอบขวัญตัวเองอยู่เนี่ย มันคงเท่เหลือร้ายเลยนะ น่าจะเอาสักคัน คุณว่ามะ

VF:คุณจะเลิกสะสมรถมอเตอร์ไซค์แล้วหรือ
KR:เฮ้ย ไม่ ไม่มีทางเลิกพวกสองล้อนั่นหรอก

VF:ก็แม้แต่วง 'Dogstar' ที่คุณรักนักหนา คุณก็ยังเลิกวงไปแล้วเลย
KR:แต่ผมยังเล่นเบสส์กีตาร์ที่บ้านผมนะ ไม่ก็ไปเล่นกับวงเพื่อนๆ

VF:ตอนนี้ คุณฟังเพลงใครอยู่บ้าง?
KR:ล่าสุดนี่ มีInterpol, John Coltrane แล้วก็ ซาวด์แทร็คของ'Barry Lyndon'

VF:มีข่าวลือว่า คุณปฏิเสธบท 'Superman'
KR:ไม่จริง ผมไม่เห็นใครเคยเสนอบทนี้ให้ผมเล่นเลย แล้วผมก็แก่เกินไปที่จะเป็น 'Superman'แล้ว ยกเว้นว่า เขาจะเขียนบทให้ซูเปอร์แมนดื่มยาเพิ่มอายุ อะไรแบบนั้น

VF:เมื่อเทศกาลหนังSundance Festivalที่ผ่านมา
คุณปฏิเสธของขวัญที่ระลึกซึ่งเค้าแจกให้ดาราฟรีๆ แล้วเราได้ยินมาว่า ของพวกนั้นเป็นของไฮเทคราคาแพง ทั้งนั้นเลย ทำไมล่ะครับ คุณไม่ชอบถูกสปอยล์หรือไง
KR:ใครๆก็ชอบโดนสปอยล์ทั้งนั้นแหละ แต่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องสิ่งของไฮเทค คอมพิวเตอร์ผมก็ไม่มี กล้องดิจิตอลก็ไม่มี ผมมี ไอพ็อดอยู่เครื่องหนึ่ง ก็ยังไม่เคยใช้เลย

VF:งั้นมันก็จริงสิที่ว่า วีรบุรุษจากเดอะแมทริกซ์ ไม่ชอบเล่น เครื่องเพลย์ สเตชัน แต่ชอบเล่นเกมพื้นๆแบบ หมากรุกมากกว่า
KR:จริงแท้แน่นอนเลยล่ะครับ ผมเป็นนักเล่นหมากรุก ที่สุขุมรอบคอบ แต่ไม่คงเส้นคงวา บางช่วงก็เล่นทุกวัน บางทีก็เบื่อ แล้วบางครั้งก็กลับมาเล่นอีก

VF:คุณยังหาคนเล่นหมากรุกกับคุณได้หรือ ในยุคสมัยไฮเทคแบบนี้
KR:คุณจะต้องแปลกใจ มีคนเล่นหมากรุกได้ มากกว่าที่คุณคิดเยอะเลย โดยเฉพาะสาวๆ คุณกล้าถามเธอรึเปล่าแค่นั้นเอง

VF:นี่คุณแนะนำวิธีจีบหญิงให้ผมเลยนะเนี่ย?
KR:อ่าฮ้า มันใช้ได้นะคร้าบ คุณก็แค่เดินเข้าไปในบาร์ แล้วถามพวกเธอว่า"ใครอยากไปบ้านผม แล้วเล่นหมากรุกกันสักตาหนึ่งไหม" เท่านั้นเอง

VF:ผมล่ะ ไม่อยากจะเชื่ออารมณ์ขันของคุณเลยนะเนี่ย คุณเคยได้ยินเรื่องที่เค้าพูดกันเรื่อง ทฤษฎีความลึกลับ เกี่ยวกับตัวคุณไหม?
KR:ก็เพียงเพราะว่า ผมปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว แค่นั้นกลายเป็นว่า ผมเป็นคนแปลกไปซะได้

VF:แล้วคุณไม่เซ็งบ้างรึไง เวลาอ่านพบว่า ใครๆก็ว่าคุณประหลาด แล้วก็เข้าใจยาก?
KR:จะไปเซ็งมันทำไม้ เค้าไม่ว่า ผมแย่กว่านั้น ก็ดีแล้ว







แมะ แหม มีสอนลูกไม้จีบหยิงให้คุณนักข่าวล่วย
แต่หนูว่า ลูกไม้หาคนไปเล่นหมากรุกเนี่ย


มันคงใช้ได้เฉพาะกับคีอานูคนเดียว มากกว่ามั้งคะ








 

Create Date : 12 ธันวาคม 2549    
Last Update : 12 ธันวาคม 2549 13:06:29 น.
Counter : 946 Pageviews.  

KEANU REEVES - HOPEFULLY I'LL MAKE MY WAY, AND GET TO ACT AND MAKE GOOD FILMS.

FLIX magazine (Jap), April 1997
Interview by: Lynne Lane

ก่อนอ่าน
::บทสนทนาอันนี้ เมื่อ 9 ปีที่แล้วนะคะ เป็นช่วงโปรโมท "Feeling Minnesota" พี่คีอายุ 33 กำลังเริ่มมีปัญหากับการโดนสื่อมวลชนบุกรุกพื้นที่ส่วนตัว แต่ที่สนใจแปลมาให้อ่านกัน เพราะมีมุมมองที่เขาพูดถึง การทำงานในอาชีพของเขา ที่ต้องรับความเสี่ยงจากการที่หนังจะแป้ก หรือดังก็ได้ การเผชิญกับ พายุข่าวลือ และการปรับตัวในฐานะการเริ่มเป็นดาราดังระดับโลกที่ถูกคาดหวัง งานอดิเรกที่เขารักจะทำแม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าไร้สาระ แถมบรรยากาศการพูดคุยก็ไม่ เกร็งเท่าไร::
เชิญค่ะ............................................





LL:ชั้นเดาว่า คุณเซ็นต์สัญญาเล่นเรื่อง"Feeling Minnesota" ก่อนSpeedใช่ไหมคะ
KR:คุณหมายความว่ายังไงที่ว่า "ก่อนSpeed"

LL:ก็แปลว่าคุณไปตกลงเล่นหนังเรื่องนั้น ก่อนที่จะรู้ว่าเรื่อง สปีด มันจะดังมากขนาดนี้ไงคะ
KR:อืมม..จริงๆแล้ว ผมจำไม่ได้ว่าเซ็นต์สัญญาเล่นเรื่องไหนก่อน แต่ผมว่า มันไม่ใช่แบบที่คุณคิด

LL:เอาเหอะ ยังไงซะ Feeling Minnesota ก็ไม่ใช่หนังทุนสร้างใหญ่เลยนะ จริงไหม ? แล้วบทก็ 'ประหลาด' จะตาย ใครๆก็พูดกันว่า "คีอานูนึกยังไง ที่ไปเล่นบทพันธุ์นั้น" ไหนคุณลองบอกเราหน่อยซิ?
KR:ผมเล่น เพราะผมเห็นว่า สคริปหนังมันดีนะสิ ตอนที่พบผู้กำกับซึ่งเป็นคนเขียนบทเองด้วย เขาชื่อ Steven Baigelman เขาเล่าสิ่งที่เขาอยากทำในหนัง รวมทั้งตัวละครในนั้นได้อย่างสุดยอด ผมชอบความตั้งใจของเขามาก แล้วคนอื่นๆที่ตกลงเล่นหนังเรื่องนี้ก็เก่งๆทุกคน ก็เท่านั้นเอง เหตุผล

LL:คุณจะบอกว่า หนังจะขึ้นอันดับbox-officeหรือไม่ ไม่ใช่'เรื่องใหญ่'สำหรับคุณงั้นสิ
KR:ผมไม่รู้หรอกว่า'เรื่องใหญ่'ของผมคืออะไร แต่ผมอยากให้คนไปดูหนังเรื่องนี้ แล้วผมยังหวังให้มันฮิตด้วยนะ ผมว่าหนังมันสนุกมากนะ Themeก็น่าสนใจ นักแสดงก็เล่นเก่งทุกคน แม้เนื้อเรื่องมันจะทำให้เวียนหัวมั่ง แต่ผมก็ชอบ ผมเล่นบทนี้สนุกโคดเลย

LL:แล้วมีดาราร่วมอย่าง Courtney Love เป็นยังไงบ้าง
KR:ผมพบเธอครั้งเดียวเอง ก็แค่ เซย์ฮัลโหล

LL:คุณไม่ชอบเธอหรือไง พวกคุณก็นักดนตรีเหมือนกันนี่นา
KR:เฮ้ ! เฮ้ ! ก่อนจะไปกันใหญ่ เรื่องดนตรี เธอเป็นมืออาชีพกว่าผมนะ ผมเป็นแฟนวงเธอด้วย วงHoleน่ะ ซื้ออัลบัมของเธอด้วยนะ ส่วนเรื่องที่กองถ่าย เธอก็เยี่ยมมาก ทำให้ทุกคนสนุกสนาน พวกเราน่ะได้แต่ แบบว่า "โอ้ ว้าว ! นั่นล่ะ คอร์ทนีย์ เลิฟ"

LL:ได้ข่าวว่าคุณคลั่งไคล้ดนตรีจนปฏิเสธไม่เล่นภาคสองของ สปีด
KR:เฮ้ย ! ไม่จริง มันไม่เกี่ยวกันเลย สองเรื่องนั่นน่ะ, ใครปล่อยข่าววะ !

LL:แล้วเรื่องจริงมันเป็นไงละคะ?
KR:ตอนนั้น ผมเพิ่งทำ "Bill&Ted BogusJourney" เสร็จ ก็แบบว่า อ๋อ หนังภาคต่อมันประมาณนี้เอง ไรงั้น อะนะ แล้วบอกตรงๆว่า ผมไม่ค่อยอยากเล่นภาคต่อของหนังเรื่องไหนอีกแล้ว นั่นแหละ

LL:วงของคุณเพิ่งมี CD ออกมาใช่มะ?
KR:ช่าย ซีดีพิเศษนะ ถ้าเปิดในคอมพิวเตอร์ คุณจะดูวิดิโอได้ด้วย

LL:แล้วคุณก็ออกทัวร์กับวงด้วย
KR:แน่นอนดิ เราไปเล่นในยุโรปก่อนแล้วก็ไปญี่ปุ่น แต่ผมก็ต้องกลับมานี่ เพื่อมาให้พวกคุณสัมภาษณ์ ในขณะที่คนอื่นๆในวงได้ไปตีกอลฟ์ที่ ดับลิน

LL:ได้ยินข่าวลืออีกอันว่า คุณไม่เล่น สปีดสอง เพราะคุณเพิ่งถ่าย Chain Reactionจบ คุณจึงเบื่อจะเล่นหนังแอคชัน อันนี้จริงรึเปล่า?
KR:อันนี้เป็นเหตุผลหนึ่ง ถ้าต้องถ่ายหนังแอคชันต่อกันสองเรื่องในไม่กี่เดือนผมว่ามันหนักไป เหนื่อยนะคุณ เล่นหนังวิ่งๆโดดๆเนี่ย ผมว่า สปีดภาคสองมันต้องออกมาดีอยู่แล้วล่ะ ทั้งJan De Bontและ Sandra Bullock เก่งทั้งคู่ ใครจะมาเล่นบทนำแทนผมมันไม่สำคัญหรอก ผมว่าหนังมันสนุกก็ต้องสนุก ผมไม่เกี่ยวหรอก

LL:แล้วคนรอบตัวคุณไม่มีใครท้วงติงอะไรเลยหรือคะ? เค้าไม่พูดทำนองว่า คุณกำลังทำลายอาชีพตัวเองหรือคะ?
KR:เค้าก็คิดกันแบบนั้นแหละ..ว่าผมบ้ามั่งอะไรมั่ง ไม่ว่าผมเจอใคร ผมโดนแบบเดียวกันหมดเลย จนชักจะคิดเหมือนกันว่า"เออ กรูโดนด่ายังกะว่าเพิ่งฆ่าตัวตายไรงั้นเลยว่ะ" แล้วผมก็ชักจะเกิดอาการประสาทกิน ตามพวกเขาไปเหมือนกันนะ แต่เอาเหอะ หวังว่า สิ่งที่ผมทำไปแล้วมันจะไม่ร้ายแรงอะไร ผมว่า ผมเลือกทางของผมแล้ว แล้วก็ตั้งใจทำงานของผมต่อไป

LL:ชั้นว่า คุณน่าจะชินกับปฏิกริยาของคนได้แล้วนะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกซะหน่อย ตอนที่คุณตกลงใจไปเล่น เชคสเปียร์ คุณก็โดน เหมือนกันนี่
KR:อืมม..คุณคงไม่ลืมว่า หนังที่ผมเล่นบางเรื่อง ก็ดังเกินคาด อย่างสปีด บางเรื่องก็ไม่ ผมอยู่วงการนี้มาหลายปีแล้วก็จริง แต่ผมก็ยังอยากอยู่ต่อไป แม้นักวิจาร์ณบางคนจะไม่อยากให้เป็นแบบนั้นก็ตาม แต่ว่า คุณว่า ผมควรทำไงดีล่ะ? ผมว่า ผมโชคดี ที่ได้เล่นหนังหลายแบบ มีโอกาสได้ทำงานกับผู้กำกับเก่งๆหลายคน ได้เล่นทั้งบทคนดีคนชั่ว อย่างใน Chain Reaction หรือ Feeling Minnesota ผมก็ได้บทนำที่เล่นเป็นคนดีด้วยกันทั้งคู่ แต่หนังมันก็เป็นหนังคนละสไตล์กันเลย จริงไหม บทJjacksในเรื่องหลังนี่ ค่อนข้างเพี้ยนนิดๆแต่ก็เจนโลกมากๆ

LL:ก็ไหนว่า เบื่อบทแอคชัน แต่Feeling Minnesota ก็มีฉากชกต่อยไม่น้อยนี่คะ
KR:ช่าย ใช่ ใช่ ฉากชกกันครั้งใหญ่ด้วย ทั้งเตะทั้งต่อยแถมโดนกัดหูด้วยนะ นอกจากนั้น มันมีฉากเซ็กส์ที่ แบบว่า เอ่อ สุดยอดเร้าใจด้วย

LL:แบบไหนนะ ประมาณว่า มีรอยขีดข่วนงั้นหรือคะ
KR:ประมาณนั้น

LL:งั้นคุณเล่าฉากต่อสู้ให้เราฟังก่อน
KR:ผมกับวินเซนต์ ที่เล่นเป็นพี่ชายในเรื่องนะ ก็มาตกลงกันก่อน ประมาณว่า อย่าชกเราหน้าแหกนะเพื่อน ไรงั้น ก็แบบว่า "โอเค นายตบเราก่อนแล้วเราชกนายกลับนะ" อะไรแบบนี้ แล้วเราก็ไม่ได้มีตัวช่วยอะไรเลยนะ พอถึงเวลาถ่ายจริงมันก็ไม่ได้เป็นไปตามคิวหรอก ชกกันน่วมจนล้มไปทั้งคู่ ก็สนุกดีครับ

LL:ต่อมา ก็ช่วยเล่า ฉากในห้องน้ำ สำหรับคุณ นี่ไม่ใช่ฉากเซ็กส์ครั้งแรกใช่ไหมคะ โอเค เป็นเซ็กส์ครั้งแรกบนพื้นห้องน้ำ แต่ว่าสำหรับนางเอก คาเมรอน ดิแอช ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเธอ คุณช่วยเธอคลายความกังวลได้ไหม
KR:ไม่นะ เซ็กส์ซีนแบบนี้ ผมไม่เคยถ่าย มันก็ยากสำหรับผมเหมือนกัน แล้วที่แย่คือ เราถ่ายฉากนี้ในช่วงแรกๆด้วย วันนั้นมันฝนตก เราก็ไม่ได้เตรียมตัวจะเล่นฉากนี้ แต่ ผู้กำกับแกบอกว่า"พรุ่งนี้เราจะถ่ายฉากห้องน้ำ! คาเมรอน! ฉากนี้สำคัญมากที่จะทำให้ดนดูเข้าใจ ตัวละครของคุณนะ" แล้วเธอก็ "คุณอย่าล้อเล่นนะ โอ! ชั้นจะทำได้ไง" อะไรแบบนี้ แล้วเธอก็กังวลนิดหน่อย แต่พอถึงเวลาจริงๆ ผมว่าเธอเยี่ยมนะ ผมไม่นึกว่า จะถูกสั่งให้ถ่ายฉากนี้ตั้งแต่แรก เพราะมันยากกกมากกก เราน่าจะคุ้นๆกับบทกันก่อนที่จะมาถ่ายฉากแบบนี้ แม้ว่าเราจะเข้าใจบท เข้าใจเรื่อง แต่ว่า คุณเข้าใจมะ มันยังมีรายละเอียดอีกเยอะนะ แต่ว่า สตีเวนก็ช่วยพวกเราได้มาก

LL:หนังมัน แปลก เพี้ยน แล้วก็หม่น แถมบทคุณก็ประหลาด แล้วยังเป็นครั้งแรกของ ผกก. ด้วย มันไม่เสี่ยงไปหน่อยหรือ คุณไว้ใจเขาได้ไง
KR:มันคงเป็น ความเชื่อมั่นของผม หรือบางทีมันก็เป็นแค่ความหวัง ผมจะเชื่อในบทบนกระดาษที่ผมปิ๊งก่อน แม้ว่าตอนหลัง มันจะต่างไปจากครั้งแรกที่ผมอ่านก็ตาม มันก็เป็นแบบนี้ทุกเรื่อง นักแสดงอย่างเราก็เป็นแค่ส่วนประกอบในผลงาน บางทีมันก็น่ารำคาญเหมือนกัน แต่ผมรู้ว่า สตีเฟนรู้ว่าเขาทำอะไร เขาเคยเรียนการแสดง ผมว่าเขาเข้าใจพวกเรา ส่วนเรื่อง เครดิตผู้กำกับอะไรนั่น ไม่เกี่ยวนะ ผมเล่นกับ ผกก.ที่กำกับเป็นครั้งแรกบ่อยๆ เรื่องนี้ก็แค่หนึ่งในนั้น

LL:แล้วคุณเข้าใจบทJjacksที่คุณเล่นหรือ มีอะไรที่คนดูจะเข้าใจเขาได้ง่ายๆไหม
KR:เออ ตอบยากแฮะ ผมว่าผมทำดีที่สุดแล้วนะ แม้มันจะไม่เหมือนอย่างที่หวังไว้เท่าไรก็เหอะ ตอนที่ผมว่า ผมเก็ท Jjacks ที่สุดก็คือ ตอนผมเจอบทพูดของเขาที่ว่า "คุณเห็นไหม มันดีจะตาย แม้เรื่องที่เกิดขึ้นมันจะเฮงซวย" มันเป็นบรรทัดที่อธิบายJjacksได้ดีที่สุด เขามันเจ๋ง เรื่องบ้าแค่ไหนเขาก็รับได้

LL:แล้วTuesday Weldเป็นยังไงบ้าง คุณเป็นแฟน(ผลงานของ)เธอนี่
KR:เธอคือนางฟ้าของพวกเรา เธอเยี่ยมมาก เธอไม่เคยบ่นเรื่องอะไร แล้วผมยังได้เล่นเป็นลูกชายเธอด้วย ผมชอบมากๆ

LL:ในธุรกิจบันเทิง ถ้าใครสักคนอยากประสบความสำเร็จนี่ เราพูดกันว่า ต้องหักขาทิ้ง ใช่ไหม แล้วถ้ามีใครมาถามคุณเกี่ยวกับการขี่รถมอเตอร์ไซค์ล่ะ
KR:ผมจะบอกเขาว่า ขาคุณหักสองข้างแน่ๆ

LL:แล้วคุณก็ยังขี่รถอีกนะ
KR:ก็ผมชอบขี่ อะ

LL:แล้วพวกผู้บริหารสตูดิโอเค้าไม่ว่าบ้างหรือคะ
KR:ส่วนใหญ่ เขาก็สั่งว่า "ห้ามขี่รถมอเตอร์ไซค์ นะ คีอานู" แต่บางคนก็ไม่ว่านะ ตอนผมไปออดิชันเรื่อง แดรกคิวลา ผมก็ขี่รถไป แถมยังบอก"หวัดดีครับ ผู้กำกับฟรานซิส(ฟอร์ด คอปโปลา)"บนเบาะมอไซค์เลย

LL:มันดีอะไรนักหนากับมอเตอร์ไซค์ พวกนักบิดที่แอลเอ ต่างก็บอกว่า ที่นั่นขี่รถยากจะตาย เพราะรถมันเยอะมาก
KR:เจงเรอะ ถ้าจะมีมีปัญหา ผมว่าคงเป็นเรื่องไฟสัณญาณจราจรมั้ง ประเภทพวกที่นั่งรถเก๋งแล้วโทรศัพท์ไปด้วย ไม่ก็มัวแต่เปลี่ยนแผ่นซีดีเลยลืมเปิดไฟเลี้ยวอะไรแบบนั้น

LL:ก็ไม่ได้มีเรื่องแบบนั้นบ่อย ไม่ใช่หรือคะ
KR:ไม่บ่อยงั้นหรือ! สงสัยผมต้องไปถอยเบนซ์มาขับสักคันจะได้เข้าใจพวกขับรถเก๋ง ! โอ้! ไม่หรอก ผมว่าไม่เข้าท่าแน่!

LL:คุณเคยพูดว่า เรื่องที่ใครๆพูดถึงคุณส่วนใหญ่ เป็นข่าวมั่วทั้งนั้น อย่างเช่นเรื่องเหตุผลที่คุณไม่เล่น สปีดภาคสอง
KR:ผมก็งงนะ เรื่องข่าวลือพวกนี้เนี่ย ไม่รู้มันเกิดได้ไง ไม่เคยมีใครมาถามผม แล้วผมก็ไม่เคยบอกใครเล้ยย แล้วก็ ให้ตายเหอะ! หนังเรื่องสปีด เนี่ย มันก็แค่หนังเรื่องหนึ่งเท่านั้นเองนะ แค่หนังแอคชันเรื่องหนึ่ง ผมไม่เข้าใจว่า มันเป็นเรื่องใหญ่ได้ไง

LL:คุณคิดไงเกี่ยวกับการที่สื่อมวลชนทำกับคุณแบบนี้ คุณว่ามันยากที่จะรับมือไหม
KR:บางทีก็ยาก พวกเค้าจะจัดการผมเมื่อไรก็ได้

LL:คุณว่าคุณโอเคกับพวกเขาไหม หรือว่าเบื่อเหลือเกินแล้ว
KR:ไม่รู้ดิ เรื่องนี้มันเป็นดาบสองคม ผมดีใจที่ผมมีงานทำ ดีใจที่มีคนสนใจไปดูงานผม ซึ่งก็ต้องพึ่งสื่อ แต่ว่า เวลาที่ต้องเจอกับคนพวกนี้ คุณนึกออกมะ มันเพี้ยนๆพิลึก

LL:คุณบอกว่า แฟนๆของคุณเพี้ยนงั้นหรือ
KR:เฮ้ยไม่ใช่ ผมไม่ได้พูดเรื่องแฟนๆ ผมหมายถึง ปาปารัสซีแล้วก็พวกที่ตามล่าลายเซ็นต์ต่างหาก เรื่องพวกนี้ล่ะที่น่ารังเกียจ(It's disgusting.)

LL:แล้วคุณว่า แฟนๆของคุณเป็นใคร มีลักษณะเฉพาะอะไรไหม
KR:ผมว่า น่าจะมีทุกแบบ

LL:มีประสบการ์ณพิเศษอะไรพอจะเล่าได้ไหม
KR:แบบไหนนะ

LL:แบบว่า มีใครให้คุณเซ็นต์ชื่อบนลูกแตงโมอะไรแบบนั้น
KR:ลูกแตงโม ! อะ นะ !?! ไม่มี้! ผมพูดว่างั้นเหรอ !?!

LL:เปล่าค่ะ ก็เห็นคุณพูดว่า พวกล่าลายเซ็นต์มันน่ารังเกียจมาก ชั้นก็เลยนึกว่า คุณเคยพบอะไรแปลกๆ
KR:ไม่เคยครับ ผมไม่ค่อยคุยกับพวกเขาหรอก ไม่มีอะไรจะเล่า ส่วนใหญ่ เวลามาเอาลายเซ็นต์เขาก็บอกทำนองว่าชอบหนังที่ผมเล่น อะไรงั้น

LL:เล่าเรื่องหนังใหม่บ้างสิ
KR:ผมกำลังถ่ายเรื่องDevil's Advocate"เป็นหนังตื่นเต้น กำกับโดย Taylor Hackford

LL:เรื่องมันเป็นยังไง
KR:จะว่าไป ก็เป็นหนังผีนะ

LL:หมายความว่า คุณเล่นเป็นแวมไพร์หรือคะ
KR:ไม่ใช่ ผมเล่นเป็นทนาย

LL:มันก็เหมือนกันนั่นล่ะ
KR:อืมม เกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมได้ยินมาว่า ตอนนี้เรามีนักศึกษาที่กำลังเรียนกฏหมาย มากกว่าจำนวนนักกฏหมายทั้งหมดในโลก ดังนั้น จำนวนทนายจะเพิ่มเป็นสองเท่าทุกห้าปี ฟังแล้วตลกเนอะ ส่วนหนังที่ผมเล่นเรื่องนี้ มันเหมือนนิทานเปรียบเทียบ ผมเล่นเป็นทนายที่เชี่ยวชาญในคดีลวมลามเด็ก ต่อมาก็ได้เข้าไปในองค์กรกฏหมายระดับชาติ แล้วก็เริ่มเข้าสู่ด้านมืดของชีวิต

LL:แล้วคุณก็กำลังเล่น"The Last Time I Committed Suicide" ด้วย
KR:ใช่ ผมเล่นเป็นเพื่อนของNeal Cassadyตอนหนุ่มๆ มีSteven Kayเป็นผู้กำกับ บทนำเป็นดาราหน้าใหม่ชื่อThomas Janeผมว่า เขาอนาคตไกลแน่ หนังสร้างมาจากจดหมายของCassadyที่เขียนถึงJack Kerouac เป็นเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งที่หลงรักผู้หญิงแล้วฝันจะมีครอบครัวที่มีความสุข แต่อีกด้านหนึ่ง เขาก็ยังอยากเป็นอิสระ เป็นเรื่องของคนขี้แพ้ที่มีคนเสเพลแบบผมเป็นคู่หู





หลังอ่าน

::สนุกไหมคะ ไม่ค่อยมีใครคอมเม้นท์เกี่ยวกับลีลาการแปลของแองจีเลยโนะ แปลว่า มันดีแล้ว ไม่ต้องปรับปรุงแล้ว ใช่ปะ เคี๊ยกกกกกกกก

::บทความสมัยเดียวกันนี่ แองจีเคยทำไว้อันหนึ่ง ใครอยากอ่านต่อ คลิกตรงนี้ ค่ะ>Premire 1997 อ่านแล้วคุณจะรู้ว่า คีอานู รีฟส์ นี่แกเป็น ลมๆ กับนักข่าว บางทีก็ร่วมมือดี บางที ก็ทำนักข่าวมึนๆเกร็งๆไปซะงั้น

**********************ก็เพราะ เค้าเป็นของเค้าแบบนี้ละ แองจี ถึงได้ 'หลง' นักหนา******




 

Create Date : 28 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 12:04:14 น.
Counter : 1557 Pageviews.  

Keanu knows two things he does not like


CREA ( Japan) - December 2006


[this is a translation effort from Japanese to English by 'kea_kei'; an impression; certainly no exact quotes]
แปลไทย"angy_11"



นักแสดงสื่อสารกับผู้ชมผ่านท่าทางและอารมณ์บนใบหน้า แต่ถ้าทุกอย่างที่เขาทำต้องถูกดัดแปลงเป็นภาพอนิเมชัน พวกเขาจะลำบากกว่าเดิมหรือไม่, คีอานู รีฟส์ให้ตอบนั้นแก่เราหลังทำงานใน "A Scanner Darkly"ซึ่งกำกับโดย Richard Linklater

"ในหนังเรื่องนี้ผมไม่มีอุปสรรคอะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องที่คุณถาม เพราะผมแสดงไปตามปกติ แม้ผมจะรู้ว่า ทุกถาพที่ถ่ายไปต้องนำไปทำเป็นอนิเมชันอีกครั้งก็ตาม ไม่ว่ากระบวนการหลังการถ่ายทำจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้รบกวนการแสดงของผมเลย"

คีอานูรับบทเจ้าหน้าที่แผนกปราบยาเสพติดชื่อบ็อบ อาร์คเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ในเมืองๆหนึ่งในอนาคตของอเมริกา แต่ตัวเจ้าหน้าที่ปปส.รายนี้กลับติดยาเสพติดนั้นเสียเอง

ยาทำให้สมองของเขาทำงานไม่ประสานกัน ก่อให้เกิดบุคลิกแตกแยกเป็นคนสองคน เมื่อออกนอกหน่วยงานเขาจะเปลี่ยนไปเป็นพ่อค้ายาชื่อ Fred ที่หวาดระแวงเพื่อนร่วมแก๊งค์และจำไม่ได้ว่าตนเองเป็น จนท.ปปส. ในที่สุด ชีวิตและจิตใจของเขาจึงสับสนจนติดกับดักของโชคชะตาอย่างน่าสงสาร

บทประพันธ์ต้นฉบับเป็นของ P.K. Dick ส่วน ริชาร์ด ลิงแคสเตอร์ เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะใช้ เทคนิคอนิเมชันวาดทับการแสดงแบบปกติ เพื่อทำให้ภาพนำเสนอโลกของอนาคตและสิ่งที่ยาเสพติดทำร้ายโลกได้ตรงกับความต้องการของผู้ประพันธ์ได้ดีที่สุด

"ทันทีที่ผมตกลงเล่นบทนี้ ผมเริ่มอ่านนิยายต้นฉบับทันที โดยการอ่านหลายรอบอย่างละเอียด"คีอานูกล่าว

แม้จะเป็นหนังไซไฟ ที่มีฉากจากอนาคต แต่การเลือกฉาก ใช้สถานที่จริงในเมือง Austin Texasซึ่งให้ความรู้สึกความน่ากลัวของการติดยา

"ก่อนถ่ายทำ พวกเราทั้งหมดรวมทั้งผู้กำกับ ประชุมและซ้อมบทกันที่นั่น เป็นเวลาสองอาทิตย์ พวกเราคุยกันหลายอย่างว่าเรื่องควรจะเป็นยังไง ลองเล่นตามบท, ลองเติมบทแบบสดๆ, เปลี่ยนบทพูดบางประโยคให้เข้าปาก โชคดีที่ผู้กำกับริชาร์ดไม่ขัดขวางอะไรเลยเพราะเขาก็เห็นด้วยว่า ตัวบทจากหนังสือดั้งเดิมมันก็โหดไปสักหน่อย"

โหดในแง่ไหน กรณีการติดยา หรือว่า ติดกับ

"ทั้งสองอย่างนั่นล่ะครับ เรื่องจริงก็คือ ยามันมีพลังทำลายล้างในตัวเอง เป็นพลังที่สามารถทำลายชีวิตคนได้ ซึ่งในกรณีนั้น มันต้องเป็นยาที่มีฤทธิ์รุนแรงมาก แต่นอกจากสารอันตรายเช่นนั้น โลกก็ยังมียาอื่นที่มีฤทธิ์อ่อนๆอยู่ด้วย จะว่าไป ผมก็เคยลองพวกอ่อนๆมาบ้าง ก็เป็นประสบการณ์แปลกๆอย่างหนึ่งที่ผมผ่านมา แต่ผมไม่ชอบ"การพิพากษา"สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีอยู่หรือเกิดขึ้น ... ไม่มีใครจะบอกได้หรอกว่า อะไรคือสิ่งผิดหรือถูกที่แท้จริง..ดังนั้นพวกคุณ อย่าถามผมเลยว่า ยาเสพติดเป็นสิ่งดีหรือชั่ว เพราะผมไม่ตอบคำถามนั้นหรอก"


แล้วเพื่อนร่วมงานอย่างวิโนนาล่ะ 14 ปีที่เคยร่วมงานกันจาก แดร็กคิวลา คุณสองคนเปลี่ยนไปไหม

"อืมม..เธอทั้งสวย ฉลาด และคุยสนุกเหมือนเดิม ผมว่าเธอก็โตขึ้น ส่วนผม..(ถอนหายใจ)..จริงๆผมไม่ชอบคำว่า "เปลี่ยน" เลยครับ"

ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณมาโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Speed ที่ญี่ปุ่น คุณบอกว่า คุณอยากเป็นนักแสดงที่ดีมากกว่าการเป็นดารา ตอนนี้ ทำได้อย่างที่ต้องการหรือยัง

"นั่นสิ คงได้มั้ง ผมอายุ 42 แล้วในปีนี้ ผมได้รับผลกรรมที่ตัวเองสร้างไว้แล้วบางส่วน ในตอนนี้การเป็น นักแสดงที่ยอดเยี่ยม คือเป้าหมายถัดไปของผม"(หัวเราะลั่น)

(หมายเหตุของaNGy : พี่แกเล่นคำ จากคำถามที่คนถามพูดว่า a good actor เป็นคำตอบว่า a great actor)

ครั้งหนึ่งเขาเคยเกลียดการให้สัมภาษณ์ เคยถึงขั้นปิดตัวเองหลบหนีมัน
แต่เดี๋ยวนี้ เขาอดทน และตอบคำถามอย่างตั้งใจ
ไม่ว่าเขาชอบคำว่าเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แต่เขาก็เปลี่ยนไปแล้ว สำหรับเรา เขาคือบุคคลผู้เป็นทั้งดาราและสุภาพบุรุษ

----



สำหรับแองจี เขาเป็นขวัญใจ&หวานใจ เป็นคนที่ยืนบนโลกที่ทั้งดีทั้งร้ายใบนี้ได้อย่างสง่างาม ไม่ต้องสนใจว่าใครจะพูดถึงหรือยกย่องอะไรก็ตาม เขามีชีวิตของเขา อย่างที่เขาพอใจ
เป็น "ไอดอล" ที่ทำให้เรารู้ว่า เราก็สามารถลุย "ดงอุปสรรค" บนดาวเคราะห์ดวงนี้ ไปได้อย่างมีความสุขเหมือนกัน
ก็ชีวิตมันเป็นของเรานี่นา


คอมเม้นท์ครั้งที่สองของแองจี

-จี้เข้ามาปรับคำใหม่อีกครั้ง เพราะอ่านแล้วสะดุดๆยังไงพิกล
-จากคำถามสุดท้าย พี่คีแกตอบด้วยสำบัดสำนวนไม่เบา คนถามใช้คำพูดให้เขาประเมินตัวเองว่า การแสดงของตนมีคุณภาพดีหรือไม่ พี่คีไม่ตอบตรงๆแต่ตอบอ้อมๆทำนองว่า การตอบรับของตลาดอย่างที่เห็นและเงินที่ได้รับย่อมแปลว่าเขามาไกลเกินคำว่า"ดี"แล้ว แต่เขายังอยากไปให้ถึงคำว่า"ดีเยี่ยม"...........อุ แหม .....ช่างพริ้วไหวและหลงตัวไม่ใช่น้อย







 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 14 ตุลาคม 2551 12:03:50 น.
Counter : 1299 Pageviews.  

He did his best with the kissing

GALA Magazine, Germany, Nr.28, July, 6th, 2006
Interviewer : Christian Aust

แซนดรา บุลล็อกและคีอานู รีฟส์ เป็นเพื่อนกันมานานเกือบ 12 ปี ส่วนเรา'GALA'จากเยอรมัน มีโอกาสได้เข้าไปรับรู้ความสัมพันธ์อันน่าทึ่งของทั้งคู่ ที่Dorchester Hotel ในลอนดอนเมื่อเร็วๆนี้ พวกเราลงความเห็นว่า แซนดรานั้นมารยาทดีเยี่ยมระดับเกรด A+ ส่วน คีอานูก็หัวเราะอย่างหยุดไม่ได้หลายครั้งเคียงข้างเธอ บนเก้าอี้ยาวที่ใช้ให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้

บรรยากาศวันนั้น สนุกสนานราบรื่น
แม้ในเวลาที่เธอแหย่เขาแรงๆว่า "เหนื่อยรึจ๊ะ ? เอาน่า แค่คุยกับสื่อเอง !" ก็ดูเหมือน คีอานูจะไม่โกรธสักนิด เพราะทั้งคู่มีใจให้กันมากกว่าคำว่า 'เพื่อนร่วมงาน' ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เริ่มต้นขึ้นจากการแสดงร่วมกันในภาพยนตร์แอคชันดังสนั่น เรื่อง “Speed” แล้วพัฒนามาเป็น'ความหวังดีลึกซึ้งที่ไม่หวังผลตอบแทน' ยกเว้นเวลาที่เคยถ่ายหนังร่วมกันเมื่อครั้งก่อน ความสัมพันธ์นี้ ทำให้ทั้งคู่คุยกันได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็น การถ่ายทำฉาก จูบในหนังเรื่องล่าสุด“The Lake House”
หรือความกระหายลองลิ้ม นัวน์แบร์เกอร์ บราตวัวสต์

GALA:เราจะเริ่มจากการย้อนไปคุยเรื่องในอดีต พวกคุณจำวันแรกที่พบกันได้ไหม

KR:มันเป็นวันที่น่ารักวันหนึ่ง

SB:คือวันที่ชั้นไปออดิชันบทที่อยากเล่นในหนังเรื่อง“Speed”ค่ะ และแน่นอนชั้นรู้จักคีอานูมาก่อน จากหนังที่เขาเล่นหลายเรื่อง

KR:ผมก็รู้จักคุณนะ

SB:อย่ามาล้อเล่นหน่อยเลย ก่อนหน้านั้น ชั้นมีงานบนจอน้อยจะตาย

KR:ไม่ล้อเล่น ผมเคยดูงานคุณก็แล้วกันล่ะ

SB:งานชั้น? งั้นหรือจ๊ะ? คุณจะเรียกบทในหนังเรื่องเดียวว่า'งาน'ไม่ได้หรอกน่า

KR:โอเค ! แล้วแต่คุณ ! เอางั้นก็ได้ เอาเป็นว่า ผมจำวันแรกที่เราพบกันได้แม่นยำ ก็แล้วกัน

SB:ก็เพราะว่า มันเป็นวันที่เราลืมไม่ลงต่างหาก
ชั้นต้องนั่งบนเก้าอี้พับ แล้วทำท่าหมุนพวงมาลัย วงยักษ์ของรถบัส ด้วยมือเปล่า

KR:คุณดูเหลือเชื่อมากบนไอ้เก้าอี้นั่น !!

SB:แล้วคุณก็ กรุณาต่อชั้น ซะเหลือเกิน!!

GALA:ในตอนนั้น คุณหลงเสน่ห์ของคีอานู เหมือนผู้หญิงเป็นล้านคน บนโลกใบนี้หรือเปล่า

SB:คุณถามอะไรแบบนั้นคะ!
ชั้นน่ะ ประสาทกินตั้งแต่วันที่รู้ว่า มีโอกาสจะได้พบ คีอานู รีฟส์ผู้แสนมหัศจรรย์แล้วค่ะ! ยิ่งในตอนนี้นะ ชั้นรู้สึกเสียดายแทนผู้อ่านนิตยสารของคุณทุกคนที่ได้แต่อ่านแต่ตัวหนังสือ จึงไม่ได้เห็น ท่าทาง ที่เขาสั่นหัวทุกทีที่เขาฟังชั้นเล่าเรื่องเก่า แล้วแก้มก็แดงเอ๊าแดงเอา อยู่อย่างนี้นะ เขาเป็นงี้ประจำ เวลาชั้นเล่าอะไรสักอย่างของเรา ชั้นสงสัยนักเชียว ว่าเขาไม่ชอบหรือว่าเขาเบื่อเรื่องที่ชั้นเล่ากันแน่

KR:....คุณช่วยหยุดยุ่งกับผม แล้วโม้ต่อไปเหอะ

SB:โอเคค่ะ ถึงไหนแล้วนะ อ่อ คีอานูเป็นเพื่อนร่วมงานในฝันเชียวค่ะ และเขาทำให้ชั้นต้องตั้งใจทำงานมากๆ จนบาง
ทีมันก็มากไปเหมือนกันนะคะ แล้วแม่พวกเพื่อนสาวๆของชั้นก็ตื่นเต้นกันใหญ่เหมือนกัน พวกนั้นบังคับว่า ชั้นต้องโทรไปรายงานเจ้าหล่อนรายตัวหลังจากที่แคสติงเสร็จ เพื่อเล่าให้ฟังว่า คีอานูเป็นยังไงบ้าง

KR:...(ด้วยแก้มทีแดงจนกลายเป็นม่วง).... โอ้ มัย ก็อด!!









GALA:แล้วคุณเล่าอะไรให้พวกเธอฟัง

SB:ชั้นก็เล่าว่า เขาน่ารัก และเพราะแบบนั้น ชั้นก็เลยเผลอ ทำเรื่องเปิ่นๆไปต่อหน้าเขาซะงั้นน่ะสิ

GALA:แต่ว่า แม้งานจะจบไปแล้ว พวกคุณก็ยังติดต่อกัน นั่นเพราะว่าอะไรครับ?

KR:เพราะว่า ผมชอบอยู่กับเธอนะสิ เวลาเธออยู่ใกล้ๆ ผมจะรู้สึกดีเสมอ

SB:ชั้นไว้ใจเขา ปกติน่ะ ชั้นไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่ายๆ เรื่องบางเรื่องชั้นจะรับไม่ได้เลยนะ เชื่อชั้นเหอะ ชั้นไม่ใช่คนที่ยอมรับอะไรได้ง่ายๆหรอก

KR:อืม รู้สึกเธอจะมีปัญหานิดหน่อยแล้วละทีนี้

SB:ชั้นเป็นคนแบบที่ว่า ชอบที่จะควบคุมทุกอย่างในชีวิตให้ได้มากที่สุด พอนึกออกไหมคะ แล้วก็ชอบป้องกันตัวเองจากอะไรก็ตาม ที่จะทำให้ชั้นผิดหวังไว้ก่อนเสมอ ส่วนเขา ต่างจากฉันอย่างสิ้นเชิง เขาเผชิญสิ่งต่างๆอย่างง่ายๆและเป็นธรรมชาติ ในความสัมพันธ์ของเรา เขาดูไม่แยแส ในขณะที่ฉันงี้ วิตกโน่นวิตกนี่ เราเติมเต็มให้กันอย่างสมบูรณ์ ในความสัมพันธ์นี้ ชั้นเป็นพวกคิดมาก เป็นนักวางแผน ส่วนเขา เขาไม่ต้องวุ่นวายอะไรเลย ใช้แค่สัณชาติญาณและความรู้สึก ก็สบายกับชีวิตได้แล้ว แต่ไม่ว่าเมื่อไรก็ตาม ที่ชั้นมีปัญหาหรือความกังวลยุ่งยากด้านความรู้สึกแบบไหน ชั้นคุยกับเขาได้เสมอ เป็นบางสิ่งที่พิเศษจริงๆ

KR:ผมว่า ผมคงไม่ต้องพูดอะไรแล้วมั้ง

GALA:ถ้าลึกซึ้งขนาดนั้น คุณทำให้ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะได้ไหม

SB:คีอานูหรือคะ ชั้นมีลูกเล่นที่ได้ผลกับเค้าเสมอ อย่างเช่น ถ้าชั้นทำหน้าบูดๆเบี้ยวๆแบบนี้

KR:(หัวเราะ)

SB:เห็นไหมล่ะ ได้ผลเสมอล่ะ แต่บางที ชั้นก็ไม่รู้นะ ว่าเค้าหัวเราะอะไร ซึ่งชั้นว่ามันกวนประสาทอยู่เหมือนกัน บางที ชั้นก็คิดว่า เขาแอบขำอะไรสักอย่างในตัวเรารึเปล่า หรือว่าเค้าแกล้งทำอะไรให้ชั้นกลายเป็นตัวตลก

KR:เฮ้ย ผมจะทำแบบนั้นได้ไง ผมแค่สนุกที่เห็นคุณทำอะไรต่ออะไรแค่นั้นเอง

GALA:คุณทั้งคู่ชนะMTV Movie Awardในหัวข้อ“Best Kiss”จาก“Speed”ใช่ไหม

KR:เราแค่ได้เข้าชิงไม่ใช่หรือ

SB:ไม่ใช่จ้ะ เราชนะรางวัลนั้นด้วยกันนะ

GALA:แล้วคุณว่าในฉากจูบครั้งล่าสุดของ“The Lake House” นี่ จะมีโอกาสแค่ไหน

SB:ชั้นแอบไขว้นิ้วรอโชคดี ที่ว่า เราอาจได้รางวัลนี้ด้วยกันอีกครั้งหนึ่งนะคะ ตอนที่ถ่ายทำน่ะ คุณไม่มีโอกาสรู้หรอกว่า มันจะออกมายังไง เพราะชั้นว่า การจูบกัน ต่อหน้ากล้องนี่ มันก็เครียดเหมือนกันนะ แต่หลังจากดูผลงานที่
ตัดต่อเสร็จ มันเวิร์คนะ ชั้นชอบล่ะ แล้วชั้นก็ไม่สนด้วยว่า ใครจะว่าไง เพราะคิดว่า คีอานูแสดงฉากนั้นได้ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับตัวฉันเอง

KR:ผมก็ชอบฉากนั้นเหมือนกันนะ อยากบอกว่า มันเป็นงานที่ดูดีโดยไม่ต้องวุ่นวายอะไรมากด้วย

SB:แน่นอนที่สุด

GALA:เรารู้มาว่าแซนดราหลงไหลอาหารเยอรมัน และวิธีปรุงแบบบาวาเรียนมาก ไม่ทราบว่าเธอเคยชวนคุณไปทาน นัวน์แบร์เกอร์ บราตวัวสต์ บ้างหรือเปล่า

KR:นัวน์แบร์เกอร์ อะไรนะครับ

SB:มันคือไส้กรอกเยอรมันแห่งเมืองนูร์เบิร์กน่ะจ้ะ ชั้นเคยคิดจะพาเค้าไปทาน นัวน์แบร์เกอร์ บราตวัวสต์ เหมือนกัน แต่เมืองที่เราอยู่ มันหายากนะคุณ ชั้นหมายความว่า ของแท้ๆนะ ส่วนตัวชั้นเองน่ะ ถ้ามีโอกาสผ่านมาทางนี้เมื่อไร ชั้นแอบซื้อกลับไปทุกครั้งล่ะค่ะ

KR:เฮ้ ! เฮ้ ! นี่ผมนั่งใกล้อาชญากรลักลอบขนไส้กรอกเข้าประเทศรึนี่ ผมชักอยากลองเจ้าบราทเวิทนี่สักชิ้นแล้วล่ะ

SB:มันเรียกว่า “Bratwurst” ย่ะ เอาเป็นว่า ชั้นจะแบ่งให้คุณสักอันก็แล้วกัน ชั้นสัญญา

GALA:หนังล่าสุดของคุณทั้งคู่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์โรแมนติกที่มาจากการเขียนจดหมาย เราจึงอยากรู้ว่า พวกคุณเขียนจดหมายรักครั้งสุดท้ายเมื่อไร

KR:เราสองคนก็ยังเขียนจดหมายกันอยู่นะ

SB:คีอานูเขียนจดหมายเสมอล่ะคะ เขาไม่รู้วิธีจัดการกับคอมพ์ แม้แต่สักตัวเดียวเลยละ ป่านนี้เขาก็ยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้สักเครื่อง แต่เรื่องโรแมนติคนี่ชั้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะ และตอนนี้ ชั้นก็ใช้อีเมล์เป็นส่วนมากเพราะมันชินน่ะค่ะ แต่ชั้นก็ชอบจดหมายรักมากกว่า

GALA:มีคนบอกว่า คุณและสามี เขียนอิเมล์หากันก่อนที่จะตกลงปลงใจไม่ใช่หรือ

KR:เฮ้ย จริงเหรอ ผมไม่ยักรู้นะ พวกคุณพบกันแบบปกติไม่ใช่เหรอ ในบ่ายวันหนึ่ง อะไรแบบนี้ หรือว่าผมจำผิด

SB:ช่ายยย คุณจำไม่ผิด แต่หลังจากนั้นเราก็เมล์คุยกัน เราอยากรู้จักและเรียนรู้อีกฝ่ายหนึ่ง และชั้นว่า การคุยกันแบบ ตัวต่อตัว มันก็ยากที่จะรู้เรื่องบางเรื่อง แน่นอน มันดีกว่าที่จะได้มองตาอีกฝ่ายเพื่อจะรู้ว่า เขาจริงใจหรือเปล่า จริงอยู่ที่การเขียนนั้น อีกฝ่ายอาจโกหกหรือหลอกเรายังไงก็ได้ บางทีเขาอาจจะเป็นแค่คนเพ้อฝันที่คุณไม่มีทางรู้ความจริง แต่ อิเมล์ มันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดนะ มันทั้งง่ายทั้งสะดวก บางทีชั้นก็ขี้เกียจจะทำอะไรให้มันยุ่งยากเหมือนกัน

GALA:ได้ยินมาว่า ใครไปดูหนังเรื่องนี้ต้องพกผ้าเช็ดหน้าไปซับน้ำตาด้วย คุณยังต้องมีฉากร้องไห้ในหนังด้วยหรือนี่

KR:ผมร้องไห้ในหนังเก่งนะ แล้วผมเพิ่งจะสังเกตเหมือนกันว่า ยิ่งผมแก่ลงเท่าไร ผมก็ต้องเจอ ไอ้ฉากร้องไห้ในหนังนี่บ่อยขึ้นทุกที พอคิดถึงเรื่องนี้ทีไรผมชักอยากจะสะอื้นเหมือนกัน ผมเองยังประหลาดใจในสิ่งที่ผมพบเลย

SB:ชั้นว่า พวกเรามักถูกสอนให้ควบคุมอารมณ์ ตัวชั้นเองก็ไม่ชอบร้องไห้ อาจเป็นเพราะชั้นไม่อยากปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้ก็ได้ แต่ไปๆมาๆ มันก็มักจะมีเรื่องให้อยากร้องนะคะ บางทีก็เป็นเพลงบางทีก็เป็นหนังสือบางเรื่อง น้ำตามันจะไหลออกมาเอง บางทีชั้นควรจะยอมรับสักทีว่า การร้องไห้ไม่ใช่เรื่องอ่อนแอ แต่มันคือของขวัญที่พระเจ้าประทานให้เรา

KR:ผมคิดว่า ยิ่งผมแก่ลงเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้คุณค่าของคืนวันที่ผมผ่านมามากขึ้น

SB:และวันใหม่ที่กำลังจะเข้ามาด้วย

KR:แน่นอน ชีวิตจะมีค่าก็ต่อเมื่อเราได้ใช้มันเท่านั้น เดี๋ยวนี้ผมกล้าบอกทุกคนว่า ปล่อยให้ความรู้สึกของตัวเองชี้ทาง
ให้คุณเถิดอย่าไปเก็บกดมันไว้เลย ถ้าคุณอยากหัวเราะ ก็หัวเราะไป

SB:...แล้วร้องไห้ เวลาที่คุณอยากร้อง แบ่งปันช่วงเวลานั้นกับคนอื่นๆบ้าง

KR:โอ้ รู้สึกว่าจะมีใครสักคนแถวๆนี้ คล้อยตามผมนะ

GALA:คุณคิดมากบ้างไหม เรื่องอายุที่มากขึ้น

KR:อายุ 40 ก็แค่หลักกิโลอันหนึ่ง ตอนนี้ ผมคิดอะไรรอบคอบขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผมใช้เวลามองย้อนหลังไปถึงเรื่องที่ผมผ่านมา มันก็มีโชคร้ายบ้าง ที่ผมสูญเสียคนที่ผมรักไปหลายคน บางทีผมก็คิดถึงพวกเขา แล้วบางทีผมก็คิดว่า ถ้าได้เป็นพ่อคนกับเขาบ้าง มันจะเป็นยังไง โอกาสที่จะได้มีครอบครัว

GALA:คุณอยากมีลูกหรือ

KR:เฮ้ย ผมเคยบอกว่าอยากมีลูกและครอบครัวมาตลอด พวกเพื่อนๆ มันมีลูกล่วงหน้ากันไปหลายคนแล้ว และเวลาที่ผมชวนพวกเพื่อนๆไปที่บ้าน เราก็จัดงานเลี้ยงปาร์ตี้บาร์บีคิวกัน พวกเด็กๆก็ไปวิ่งเล่นในสวน ผมรู้สึกดีชะมัดเลยนะ

SB:อ๊ะ เป็นข้อเสนอที่ดีนะคีอานู ปาร์ตี้บาร์บีคิว เพราะเราใกล้เยอรมันมากแล้วในวันนี้ ชั้นคงจะทนไม่ได้แน่ ถ้าวันนี้สื่อจากเยอรมันจะไม่เอา ไส้กรอกนูร์เบิร์กของแท้มาฝากเราสองคนสักจานหนึ่ง ไม่ทราบว่า จะเป็นการขอกันมากไปหรือเปล่าคะ


-------------

สองคนนี่ เค้าคุยกันสนุกสนานสนิทสนมจังโนะ อิจฉาว้อยยยยยย

------------------------




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2549    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2549 16:21:06 น.
Counter : 1178 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

angy_11
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]




ปุกาด

ข้อความในบล็อก เป็น คหสต ของข้าพเจ้า ซึ่งเป็น ความจริง*บางส่วน*+การปรุงแต่ง, จึงไม่อนุญาตให้ใช้อ้างอิงในแง่อื่นๆนอกจากเพื่อความบันเทิงที่อาจจะยกระดับจิตใจ

เนื่องจาก บล็อกเริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 จึงอาจมี *ความผิดพลาดจากเรื่องจริง* หลายส่วน หากพาดพิงท่านใด กรุณาติดต่อให้แก้ไขด้วย

ไฟล์ภาพ หลายชิ้น จะไม่สามารถเปิดได้ เนื่องจากข้าพเจ้าไม่จ่ายเงินค่าแขวนภาพในเว็บโฮสท์ ขออภัยในความไม่สะดวก
***
เดิมแบ่งหมวดหมู่บล็อกเป็น5กรุ๊ป
ปัจจุบัน บล็อกใหม่ จะอยู่ที่
กรุ๊ป **ข่าว** เท่านั้น
*********
แองจี้เป็น
หนึ่ง-ใน-แอดฯ
ของเพจเฟสบุค
v
v

แต่ส่วนใหญ่ งานในเพจ จะเป็นความสามารถและความขยัน ของ แอดมินอีกท่านหนึ่ง ซึ่งเธอจะเรียกตัวเอง ว่า "แอดมน" ขอบคุณที่อ่าน ค่ะ
LastBlogs


2023

22:09:66 :Swiz Pizza
23:08:66 :theHat
20:08:66 :HBD 59
21:06:66 :JW4 in 3 mth
07:03:66 :KR AMA 2023
27:02:66 :KwNeverS2theMachines

2022

01:09:65 :HBD58
06:07:65 :KR&TheKid

2021

12:12:64 :Tools=M.Resurrections
23:11:64 :EsqNov2021
09:11:64 :HAGAKURE
16:09:64 :HowCome
02:09:64 :HBD*57
18:6:64 :HairExtention
23:4:64 :JW4 Preparing
2020
26:8:63 :WhatIf...HBD
22:4:63 :SocialDist
6:2:63 :92nd Oscar
8:1:63 :ถ้ารัก อย่าล้ำเส้น

2019
5:11:62 :KeaLexandra
14:10:62 :Dad'sFuneral
12:09:62 :Japan Adv
01:09:62 :HBD*55*
24:07:62 :NicestGuy
03:06:62 :Meme in ABMM
16:05:62 :#AskJohnWick
12:05:62 :JW3's coming
16:04:62 :ยาวไป ยาวไป
16:03:62 :Sandwich

2018

19:12:61 :FakeKeanu
02:09:61 :HBD*54
14:08:61:DestinationWedding
20:07:61 :MySiberiaReview
18:04:61 :จีมา-ปริก-

2017

01:09:60 :HBD 53
22:08:60 :ADC'sBook
09:08:60 :ToTheBone
15:06:60 :JRain
01:06:60 :KRphenomenon
26:05:60 :JW3 will do
26:04:60 :K hates S.media
21:02:60 :C=Wick
08:02:60 :หัวใจน่ากอด

2016

27:12:59 :HNY 2017
02:09:59 :HBD 52
31:08:59 :SwedishD
10:08:59 :Replicas#1
11:07:59 :Rally Car
12:05:59 :M Figaro
31:03:59 :To the Bone
23:03:59 :TWT@tokyo
28:01:59 :ฉงฉานครีนู
26:01:59 :Exposed

2015

04:05:58 :my KnKn
18:11:58 :10/10KnKn
12:11:58 :moreJW2
05:11:58 :JW2 shooting
09:10:58 :@Kimmel 8Oct
30:09:58 :Mrs.Wick
17:09:58 :The-R-Files
07:09:58 :Cinder-K-ella
01:09:58 :HBD- 51
21:08:58 :ARCH - VF
13:08:58 :How Pick
05:08:58 :indie KR
31:07:58 :KRGT-1
15:07:58 :Where's K
28:06:58 :mystery woman
17:06:58 :K miss theP
29:05:58 :TLB 4 Nepal
28:05:58 :No หนวด
18:05:58 :KnKn stills
13:05:58 :K NewLook
09:05:58 :Hide his face
24:04:58 :The New K
20:04:58 :K is funny
12:02:58 :Gauguin Event
06:02:58 :The Neon Demon
26:01:58 :Travelling Actor

2014

17:12:57 :I'm going to start a family again
08:12:57 :Passenger Update !
24:11:57 :I have no time for Amore
31:10:57 :#IMDbAskKeanu
30:10:57 :Welcome back
22:10:57 :JW on KM Live
20:10:57 :JW the best act mov
16:10:57 :Rddt AMA KR#1
14:10:57 :NYC JohnWick
09:10:57 :Miami airport
29:09:57 :ทำไมถึงไม่แต่ง งาน
24:09:57 :2วัน2รอบ !
23:09:57 :STACEY
22:09:57 :obsessive fan
01:09:57 :HBD 50
19:08:57 :J.Rain T.V. Series
14:08:57 :R.day of JW
08:08:57 :K@LAX
01:08:57 :K & Israel PM
16:07:57 :KR bachelorette party
07:07:57 : Clean shaven
24:06:57 :TheWholeTruth
9:06:57 :SandyAward
6:06:57 :GuyChAward
25:05:57 :ARCH on the road
12:05:57 :ปิดกล้องKnockๆ
04:05:57 :K in Chile
15:04:57 :1stPict KnkKnk
08:04:57 :KnockKnock
02:04:57 :K on eBay
20:03:57 :PostponePassenger
06:03:57 :Indi Spirit Awards
25:02:57 :Passenger'll be do
11:02:57 :German gay
31:01:57 :K @ Uru
25:01:57 :more JW
17:01:57 :1st look JW
4:01:57 :Kai Diaster

2013
29:12:56 :X'mas Keanu
26:12:56 :Kai & Keanu
24:12:56 :My 47R review
13:12:56 :cutie K
11:12:56 :47R aud rate
20:11:56 :47R Pr Con
13:11:56 :47R intview
31:10:56 :Bhind 47R
29:10:56 :J.Wick
21:10:56 :KR Reddit AMA
14:10:56 :Apple Store
12:10:56 :47Ronin more
30:09:56 :Nicest guy ever
25:09:56 :Fantastic fest
21:09:56 :John Wick
11:09:56 :@TIFF
10:09:56 :@Toronto
09:09:56 :Fat with Muscle
02:09:56 :HBD 49
30:08:56 :Exercise is Good
28:08:56 :Cute Clip
06:08:56 :47โรนิน ตัวอย่าง
05:08:56 :สาวลึก ลับ
24:07:56 : รายได้ MOTC
17:07:56 :บทความในสิงคโปร์
16:07:56 :18 กค นี้ MOTC ในไทย
10:07:56 :LongLong dragon
09:07:56 :หนังสั้น17mins w VW
20:06:56 :Kid&K on MOTCpromo
11:06:56 :Arch Motorcycle
22:05:56 :MOTC Cannes
10:05:56 :GenUm LA
22:04:56 :Trailer of MoTC
11:04:56 :Delay of MoTC
22:03:56 :Suicide in Cinema
07:03:56 :@ฺBJ CloudAtlas
06:02:56 :FB page
06:02:56 :K's Home
22:01:56 :MOTC releaseDate
11:01:56 :K's back 2 BJ

Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angy_11's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.