Keanu Reeves bares wish to sing and dance on film By Ruben V. Nepales Philippine Daily Inquirer First Posted 20:25:00 03/27/2008 “I’d like to do some singing and dancing.” เมื่อถูกถามระหว่างแถลงข่าวภาพยนตร์“Street Kings”ว่าในครั้งหน้าเขาอยากแสดงหนังแบบใด คีอานู รีฟส์ทำให้นักข่าวแปลกใจด้วยการตอบว่าเขาอยากโชว์เสียงร้องและความสามารถทางการเต้นในภาพยนตร์สักครั้ง แต่เมื่อเรากดดันให้เขาขยายความต่อไป เขากลับบ่ายเบี่ยงว่า "ผมน่ะ,อยากเล่น แต่ไม่เห็นมีใครเคยจ้าง สงสัยว่า ผมคงต้องเขียนเอง-เล่นเองซะมัง คงเป็นผลงานที่พิลึกน่าดู" แม้เราจะชมว่าเสียงของเขาไพเราะมาก คีอานูก็ยังถ่อมตัวว่า "ไม่หรอกครับ, ยังต้องฝึกอีกเยอะ" แล้วตกลงเราจะได้เห็นคีอานูแสดงหนังเพลงหรือไม่ เขาใช้คำตอบที่ใช้บ่อยว่า"ไม่ทราบครับ" No politics คีอานูหลีกเลี่ยงประเด็นการเมือง ด้วยคำตอบว่า "เช้านี้ผมไม่เอ่ยเรื่องพรรคการเมืองอะไรทั้งสิ้นแม้หลายคนจะอยากรู้ แต่ผมว่ามันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เราเปิดแถลงข่าวหนังเรื่องนี้" เขายืนยันจะพูดเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับบทนายตำรวจTom LudlowจากงานเขียนของJames Ellroy,(“LA Confidential”,“Training Day”) ที่มีดาราฝีมือดีร่วมงานคับคั่ง อาทิเช่นForest Whitaker, Chris Evans, Hugh Laurie, Naomie Harris และ John Corbett ในช่วงหนึ่งของงาน นักข่าวรายหนึ่งกล่าวชมว่าคีอานูดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทั้งในจอและตัวจริง เขาตอบกลับอย่างขำขันว่า"ใช่ไหมครับ, ในที่สุดคีอานูก็โตขึ้นสักที เขาแก่ขึ้นจนได้" พร้อมยืนยันว่า แม้จะแก่กว่าเดิมหลายปีแต่เขาก็ยังรักที่จะแสดง "ผมโชคดีที่ได้ทำงานที่ชอบ ประสบการณ์ที่ได้จากนักแสดงอื่นและงานที่ดีทำให้ผมมีความสุขมาก" กับคำถามว่าเขาเปลี่ยนสถานะจากรูปหล่อขวัญใจสาวๆมาเป็นดาราใหญ่ได้อย่างไร คีอานูกล่าวว่า "คงเป็นโชคดีที่ผมได้จากการทำงานในหนังที่ยอดเยี่ยมมากกว่า" เขายิ้มเล็กน้อยก่อนเสริมว่า"หากคุณสังเกตจะเห็นว่า เดี๋ยวนี้ผมได้บทที่ฉลาดขึ้นและอาวุโสขึ้น ผมวิ่ง(ในหนัง)น้อยลงแล้วนะ คล้ายๆกับผมได้เลื่อนขั้นไปเป็นนักแสดงรุ่นพี่สมัยที่ผมแสดงในPoint Break ที่ได้ยืนดูพวกเด็กๆออกแรง ส่วนเราก็ได้แสดงความสามารถทางด้านอารมณ์-ความรู้สึกที่ต้องให้ลึกกว่า หรือเนียนกว่าเดิม ได้พยายามทำความเข้าใจความสัมพันธ์ของมนุษย์ แทนที่จะโชว์แต่พลังแอ็คชันของกล้ามเนื้อเหมือนสมัยที่ผมยังอายุน้อย" Harrowing stories "จากการแสดงหนังเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้ว่าชีวิตตำรวจมีอะไรให้เล่นเยอะมาก พวกเขามีโอกาสยืนอยู่ในขอบเขตที่คนปกติอย่างเราไม่มีโอกาส ผมพยายามทำความเข้าใจความรู้สึกที่ชีวิตมีทั้งความเครียดและความรับผิดชอบ เพราะแม้เขาต้องตื่นเต้นและใช้แรงงานขนาดไหนเมื่ออยู่ในถนน แต่เมื่อใดที่กลับบ้าน พวกเขาก็คือคนธรรมดาเหมือนเรา มีลูก,มีครอบครัว เขาต้องสลัดความเครียดในงานทิ้งไปแล้วใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา" "และนี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ผมโดนผู้กำกับต่อยหน้า มันเหมือนการปลุกให้รู้ตัวว่า โอ้ จริงสิ นี่ล่ะการถูกต่อยที่แท้จริง หากผมจะเล่นบทนี้ ผมก็ต้องโดนแบบนี้" อะไรนะ เขาพูดว่าเขาชกกับเดวิด-ผู้กำกับงั้นหรือ เขาอธิบายว่า"ผู้กำกับฯเรียกผมไปหาเพื่อนเขากลุ่มหนึ่ง ที่สั่งให้ผมไปซ้อมบทที่บ้านเดวิดคืนวันพุธ เมื่อไปที่นั่นผมจึงพบว่าพวกเขารวมตัวกันเพื่อตะลุมบอนใส่ผม เราจึงต่อสู้กัน นั่นทำให้ผมโดนหมัดของเดวิดที่ใบหน้า ก็-ผมไม่รู้นี่ว่า,มันจะเป็นการต่อยกันจริงๆนะสิ ไม่ทันได้ระวังตัวเลย" High expectations เมื่อถามถึงเป้าหมายทางการแสดง คีอานูเงียบไปนานก่อนถอนหายใจแล้วตอบด้วยแววตาเป็นประกายว่า "ผมหวังไว้สูง" ผลงานต่อไปที่เขากำลังจะทำคือ“The Private Lives of Pippa Lee,” กำกับโดยRebecca Millerนักแสดงและภรรยาของดาราชายออสการ์ปีล่าสุดDaniel Day-Lewis หนังสร้างจากหนังสือของเธอเอง และมีนักแสดงที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่นRobin Wright, Winona Ryder, Monica Bellucci, Maggie Gyllenhaal, Julianne Moore และ Alan Arkin คีอานูเล่าว่า "รีเบคคาเขียนเรื่องไว้เข้มข้นมาก บทของผมก็มีความน่าสนใจไม่น้อยแม้จะเป็นเพียงบทสมทบ ผมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้หญิงวัย50ปีที่ชื่อPippa Lee แสดงโดยRobin Wright และเมื่อจบจากงานนี้ ผมยังมีบทในหนังromantic comedyอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในขั้นตอนการคุยกับผู้กำกับRoger Mitchellเป็นโปรเจ็คท์ที่น่าตื่นเต้นมาก ผมคิดว่า ถ้าทำสำเร็จออกมาได้ มันจะเป็นหนังที่...ดูดีเรื่องหนึ่งเชียวล่ะ” เขายังมีหนังไซไฟ-คลาสสิค“The Day the Earth Stood Still,”ที่จะออกฉายสิ้นปีนี้อีกด้วย เมื่อถามว่า หนังอย่าง“Matrix” ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ชีวิตบ้าง เขากล่าวว่า "เดอะแมทริกซ์เป็นช่วงชีวิตที่ลืมไม่ลงของผม ทั้งการถ่ายทำภาคแรก และภาคต่อของมัน แม้จะเป็นงานที่ยากอิ๊บอ๋าย แต่ก็อาจเป็นงานดีที่สุด,งานหนึ่งที่ผมเคยทำ" Credit : -Story>>คลิกอ่านต้นฉบับ -Picture>>Vera Anderson(the day Street Kings Press Conference) Side Bar : (พี่)คี(อานู)(สุดที่รักของแองจี) จบภาระกิจโม้รอบโลกในบทของ"ดีเท็คทีฟทอม ลัดโลว์" และกลับสู่ชีวิตปกติของตนเองในลอสแองเจลิสเรียบร้อยแล้ว ชีวิตปกติอย่างหนึ่งของเขาก็คือการขี่รถมอเตอร์ไซค์(คันใดคันหนึ่งใน8)ไปจัดการภาระกิจส่วนตัว(ที่ไม่ใช่การกอบกู้โลก พี่คีแกตั้งใจจะเป็นฮีโรเฉพาะเวลาแสดงหนังเท่านั้นละ ก้ะ) และ,,แม้พี่คีจะพูดปลอบขวัญแควนๆทั้งหลายไม่ให้ใจหายใจคว่ำ ยามเห็นเขาใช้พาหนะน่าหวาดเสียวเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งว่า "เดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ซิ่งแล้ว ใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งด้วย อย่าเป็นห่วงผมเลย" อะไรประมาณนี้ แต่เมื่อไรที่มีภาพ(แอบ)ถ่าย เราก็มักเห็นพฤติกรรมชอบความเร็วและไม่อยากเป็นรองใครของ ท่านคี อยู่บ่อยๆ อาทิเช่น ภาพเมื่อวันอังคารที่ 22 เมษายน ที่เพิ่งผ่านมา คีอานูกับรถ-นอร์ตัน-จอดรอสัณญาณไฟฯในตำแหน่งล้ำเส้นขาว ซะงั้น หรือภาพวันที่ 11 เมษาฯ คีอานูกับรถ-ฮาร์เลย์-คู่ใจก็อยู่ในตำแหน่งเฉียดฉิวกับรถยนต์ที่แล่นตามมา ดูแล้ว น่ากลัวไม่น้อย เห็นหลักฐานตำตา ขนาดนี้ คุณพี่ยังว่าพวกเราไม่ควรจะกังวล อีกรึ คะ? ดังนั้น แม้คีอานูจะพร่ำบอกเพียงไหนว่า "พี่แก่แล้ว แองจีไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ พี่ดูแลตัวเองได้" อิช้าน..แองจี..ก็ยังไม่เคยวางใจ และยังคงต้องตรวจสอบพฤติกรรมของพี่คีฯ ว่าเขาอยู่ดีมีสุข,ไม่เจ็บ,ไม่ไข้ และตั้งใจทำงาน ผ่านcyberspaceอย่างนี้ละค่ะ   Create Date : 24 เมษายน 2551     Last Update : 24 เมษายน 2551 16:37:49 น. Counter : 2315 Pageviews.   59 comment Share Tweet

(Keanu is)Pure among the corrupted cops La Stampa --Italy-- March 25, 2008 ไม่น่าเชื่อว่าเรารู้จักคีอานู รีฟส์มาแล้ว20ปีจากผลงานเงินล้านBill & Ted's Excellent Adventure ในหนังฮิตเรื่องนั้น คีอานูเล่นเป็นเด็กวัยรุ่นจอมเพี้ยนผู้เจรจาด้วยเสียงโมโนโทนและทำ"หน้าตาย"ใส่ทุกสถานการณ์ซึ่งเป็นบทบาทที่หลายคนเห็นว่าไม่ต่างไปจากตัวจริงของเขาเท่าไรนัก หลังจากความสำเร็จของBill & Tedคีอานูโด่งดังยิ่งขึ้นจากตัวละครของเขาในภาพยนตร์Speed, The Matrix trilogy, The Devil's Advocate หรือแม้แต่ Little Buddha (กำกับโดย Bernardo Bertolucci),ทั้งหมดนั่น เปลี่ยนนักแสดงโนเนมจากแคนาดาให้เป็นดาราที่แทบจะ--ไม่มีใครในโลกนี้--ไม่รู้จัก ในวัยย่าง 44, คีอานูยังคงรักษาเอกลักษณ์ส่วนตัวที่เป็นคนพูดน้อย, เก็บความรู้สึก รวมทั้งแสดงความกังวลเกินกว่าเหตุเมื่อถูกถามถึงเรื่องส่วนตัวเอาไว้อย่างเหนียวแน่น เขายังคงเป็นชายคนเดิมที่เราเคยพบ เมื่อเราคุยกับเขาครั้งล่าสุดเกี่ยวกับผลงานชิ้นใหม่"Street Kings" ซึ่งจะใช้ชื่อในอิตาลีว่า"La Notte Non Aspetta" ("Night Doesn't Wait"): ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายของJames Ellroy เรื่องราวเกี่ยวกับการคอรัปชันในหน่วยตำรวจลอสแองเจลิส และคีอานูคือนายตำรวจที่ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์นั้น Lorenzo : Street Kingsเป็นหนังที่แรงมากนะ, นำเสนอแต่แง่ร้ายของLAPD ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณทำงานนี้ Keanu : ชีวิตของตำรวจมันซับซ้อนครับ ถ้าเรานำบางแง่มุมของพวกเขามาผสมกับเรื่องคอรัปชัน และใส่ความร้ายกาจแบบคลาสสิคลงไป เราจะได้หนังดรามาที่ยอดเยี่ยม, เยี่ยมมากที่สุดเท่าที่การคอรัปชันจะมีเอี่ยวได้ และในพื้นความรู้อันจำกัดของตัวเอง ผมคงไม่มีทางจะเพิ่มอะไรลงไปได้มากกว่านั้นแล้ว Lorenzo : คุณเคยอ่านงานของ เอลรอย หรือเคยพบตัวจริงของเขาไหม Keanu : ผมไม่เคยพบท่านและไม่เคยอ่านอะไรมาก่อน Lorenzo : ผมคิดว่าคาแรกเตอร์หนึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือตัวเมืองลอสแองเจลิสเอง เป็นเมืองใหญ่ที่แสนดึงดูดใจ คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้ถ่ายหนังในบริเวณที่เกิดอาชกรรมจริงๆของเมือง Keanu : ผมว่า แอลเอเป็นเมืองที่น่าตื่นเต้น คุณสมบัติของมันทำให้หลายคนอยากมาที่นี่แล้วก็เลย, ยิ่งทำให้เมืองนี้น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก สำหรับการถ่ายทำครั้งนี้ เรายึดเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก หากมีบางโลเกชันที่ไม่น่าไว้ใจหรือว่าเสี่ยงเกินไป เราก็จะประชุมเพื่อเลือกสถานที่ใหม่ แต่ทุกอย่างก็ขึ้นกับสถานการณ์ และในที่สุดเราก็ผ่านทุกอย่างมาได้เรียบร้อยดี Lorenzo : คีอานูครับ, ตอนนี้มีแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งออกมาเยอะมาก และปีหน้าเราคงได้รัฐบาลใหม่ เพื่อนนักแสดงของคุณต่างออกมาบอกว่าตัวเองสนับสนุนฝ่ายไหน แล้วตัวคุณล่ะครับ คุณชอบพรรคอะไร Keanu : ผมพูดเรื่องนี้ไม่เก่ง ดังนั้นผมขอไม่ตอบ สิ่งที่ผมหวังมีเพียงว่า เราจะได้คนดี ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ผมขอบอกตรงๆว่า ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดเรื่องนี้ในสาธารณะอย่างไร Lorenzo : อ๋อ ไม่พูดเรื่องการเมืองนะครับ งั้นเรื่องโลกร้อนล่ะ คุณกังวลกับมันบ้างไหม? Keanu : กังวลนะครับ ผมก็พยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้เหมือนที่ทุกคนนั่นล่ะ แต่ ก็, ขอผมขี่มอเตอร์ไซค์หน่อยเหอะนะ Lorenzo : งั้นขอมุมมองที่คุณมองตัวคุณเองสักหน่อย, คุณเห็นตัวเองเป็นอย่างไรในวัย 44ปี Keanu : ผมเห็นความโชคดีที่ผมได้รับ จากสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมด ทั้งจากผู้คนและอื่นๆ ถ้าจะพูดว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผมเปลี่ยนไปไหม? ก็มีบ้างนะ ผมปรับความเร็วชีวิตให้ช้าลง ระวังสิ่งที่ทำอยู่มากขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็พิจารณาให้รอบคอบเสมอ ซึ่งที่พูดมาทั้งหมดนั้นคือการทำงานของผมนั่นล่ะ เพราะชีวิตของผมก็คืองาน นอกเหนือจากนั้นก็มีเรื่องของเพื่อนและครอบครัวที่ผมจะแคร์พวกเขาตลอดไป รวมทั้งดูแลสุขภาพตนเองด้วย Lorenzo : แล้วงานต่อไปที่คุณเลือกคืออะไร Keanu : คาดว่าจะเป็นหนังโรแมนติค-คอเมดี ผมนึกอยากจะร้องและเต้น Lorenzo : แบบที่Johnny Deppทำ งั้นหรือ? Keanu : จอห์นนีเยี่ยมมากนะคุณ, ในSweeney Toddน่ะ Lorenzo : คุณคิดยังไงกับภาพยนตร์สมัยนี้ Keanu : ผมยังหวังให้หนังเปลี่ยนมุมมองของคนดูได้แล้วให้ความบันเทิงพวกเขากลับไปด้วย ในความคิดผม ทุกอย่างในขณะนี้ก็ดูโอเค เพราะความจริงแล้ว ภาพยนตร์คือสื่อความบันเทิงที่ทำให้ผู้ชมสามารถเก็บความสุขเหล่านั้นกลับไปบ้าน Credit : Article by Lorenzo Soria Translation to English: 'kgirl76'@Keanuweb Translation to Thai: angy_11@Bloggang Photo taken by Armando Gallo   Create Date : 01 เมษายน 2551     Last Update : 1 เมษายน 2551 11:29:37 น. Counter : 1968 Pageviews.   12 comment Share Tweet

:Interview:Keanu:VH1 นักข่าวจากVH1คุยกับคีอานูหลายหัวข้อ อาทิเช่น -บทKlaatu "The Day the Earth Stood Still." ที่คีอานูภูมิใจกับมันมาก เพราะเป็นงานSci-fi remakeที่ปรับบทให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและ"เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" -คีอานูยอมรับข่าวลือที่เขาอยากได้บทDr. Manhattanในหนัง"Watchmen"แต่ต้องปฏิเสธเพราะตารางทำงานตรงกับหนังที่รับไว้ก่อนแล้ว(...หูย..ปี นี้ busy นะฮะ คุงเพ่) -กรณีความเป็นไปได้ของภาคต่อวัยชราของ"Bill & Ted.", คีอานูบอกว่า เขาเคยพูดเมื่อตอนอายุสามสิบว่าจะเล่นเป็นเท็ดอีกครั้งเมื่ออายุครบสี่สิบ และไม่นึกว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วอย่างนี้ ดังนั้นในตอนนี้ เมื่อใครถามถึงภาคต่อของ"Bill & Ted"คีอานูจะตอบว่า เขาจะคิดเรื่องนี้อีกทีตอนอายุ 50 พร้อมหัวเราะทำนองว่า อยากดูซิ เมื่อถึงวันนั้นจะยังมีใครจำคำพูดนี้ได้หรือไม่ -เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องใหม่"Street Kings"นักข่าวคอมเม้นท์ว่า เป็นหนังทื่มีความรุนแรงมากเกินกว่าที่ใครๆคิดว่าจะเหมาะกับคีอานู เขาตอบว่า นี่เป็นโอกาสดีที่ได้เล่นบทซึ่งคนดูไม่คุ้นชิน แม้ว่าจะเครียดมากและไม่ใช่นิสัยของตนก็ตาม อย่างไรก็ดีเขายืนยันว่าฉากรุนแรงที่เห็นในภาพยนตร์เป็นหนทางที่จำเป็นเพื่อสื่อข้อความออกมาให้ชัดเจน VH1ยังถามถึงฉากไคลแม็กซ์ที่คีอานูเผชิญหน้ากับฟอเรสท์ในตอนท้ายเรื่อง และฉากไล่ล่าซึ่งทำให้นักข่าวรายนี้หวนรำลึกถึงฉากคล้ายกันในPoint Break เพียงแต่สลับบทของคีอานู จากนายตำรวจรุ่นน้อง(ที่ต้องวิ่งไล่คนร้าย)มาเป็นรุ่นพี่(ที่ได้ขับรถ) คีอานูหัวเราะลั่นกับคำถามนี้ เพราะเหมือนมี"ดัชนีชี้วัดอายุ"อยู่ในหนังที่เขาแสดง ห่างกันสิบเจ็ดปี และปัจจุบันนี้เขาได้เลื่อนขั้นจากการเป็นตำรวจที่ต้องวิ่ง -สุดท้าย เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการเล่นดนตรีในวงร็อค คีอานู รีฟส์กล่าวว่าเขายังคงเล่นดนตรีกับเพื่อนบ่อยๆแต่ไม่ได้เล่นโชว์ในคลับ พร้อมบ่นกลายๆว่า หากมีโอกาสก็ยังอยากเล่นสดบนเวทีอีก โดยย้ำตบท้ายว่าI do miss it. Credit : Keanu Reeves Finds His Inner-Gary Busey For 'Street Kings,' Considers Another Bill & Ted Adventure by Josh Horowitz Click Link to VH1 Keanu Interview   Create Date : 25 มีนาคม 2551     Last Update : 25 มีนาคม 2551 10:00:11 น. Counter : 1067 Pageviews.   37 comment Share Tweet

xxx..Kiss..xxx Bild am Sonntag (Ge), May 18, 2003 My dream - once being able to fly like Superman by Antonia Steffens เมื่ออยู่ในชุดเสื้อผ้าปกติอย่างยีนส์กับทีเชิร์ต, คีอานู รีฟส์ดูไม่เหมือนซุเปอร์ฮีโรอย่างนีโอเลยสักนิด หลังผลงานการแสดงภาพยนต์มากกว่า 40ชิ้นและค่าตัวเรื่องละ 15ล้านดอลลาร์ นักแสดงหนุ่มยังคงผ่อนคลายและอารมณ์ดีขณะคุยกับเรา A_S :ตอนถ่ายทำเดอะแมทริกซ์ เพื่อนร่วมงานประสบอุบัติเหตุขณะถ่ายทำไปหลายคน แล้วคุณไม่กลัวบ้างหรือ K_R :มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ ผมเองก็ลำบากใจ ผมจึงใช้วิธีตั้งใจกับการแสดงของตัวเองให้มากที่สุด แล้วทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง A_S :ชุดที่คุณใส่ในหนังเรื่องนี้เหมือนชุดของพระเลยนะคะ แค่ไม่มีคอเสื้อสีขาวเท่านั้นเอง K_R :ใช่ครับ..คุณรู้ไหม, ผมไม่มีทางใส่ชุดนั้นในชีวิตประจำวันแน่, เออ.!...แต่ถ้าใส่เที่ยวปาร์ตีฮาโลวีนก็น่าจะดีนะ ถ้าใส่แว่นตาด้วยก็คงเจ๋งพิลึก ! A_S :ขอถามฉากเลิฟซีนร้อนแรงของคุณกับ"แครี แอน มอสส์"หน่อยนะคะ มันดูเหมือนจริงมาก ตอนถ่ายทำพวกคุณเปลือยจริงๆใช่ไหมคะ K_R :โอ้ว..ไม่หรอก, เราแค่เกือบเปลือยน่ะครับ เราสองคนมีผ้าชิ้นเล็กๆปิดตรงนั้นไว้ คล้ายๆภาพอดัมกับอีวาในสวนศักดิ์สิทธิ์น่ะ A_S :มีอีกนะคะ"โมนิกา เบลุคซี"บอกทุกคนว่า คุณเป็นยอดนักจูบของแท้ ที่เธอเคยประกบปากในจอมาเลยล่ะ K_R :โอ้โฮ งั้นเลยนะ, งั้นผมฝากชมเธอกลับละกัน เธอก็จูบได้เย้ายวนมาก ความจริงเราสองคนเคยจูบกันแล้วตอนถ่ายทำ"แดร็กคิวลา" คิดดูก็แปลกนะ เราเล่นหนังด้วยกันทีไรต้องมีฉากบ๊วบแบบเนียะ ผมชักรออนาคตที่จะได้ร่วมงานกับเธอแทบไม่ไหวแล้วล่ะ(หัวเราะสนั่น) A_S :พลังพิเศษของนีโอแบบไหนที่คุณอยากได้ที่สุด K_R :บินได้..ดิ..เหมือนซุเปอร์แมน เป็นหนึ่งในความฝันของผม A_S :แล้วคุณไม่กลัวที่จะหล่นหรือบินไปชนอะไรในความมืดรึ K_R :ก็กลัวนะครับ แต่ถ้าไม่เสี่ยงเราก็ไม่ชนะ จริงมะ A_S :ในหนังภาคสองนี่ คุณเลือกความรักแทนความท้าทายนะ ชีวิตจริงคุณจะเลือกแบบนั้นไหม K_R :ตอบกันตามตรงนะ ผมไม่รู้หรอก A_S :คุณยังไม่มีแฟนใช่ไหม K_R :ครับ ยังไม่มี A_S :งั้นคำถามอันนี้คุณก็ตอบแบบไม่ต้องเกรงใจใครได้ละ... คุณว่าใครจูบเก่งกว่ากันระหว่าง โมนิกา เบลุคชี หรือเฟมเก แจนเซน K_R :โอ้ว..นั่นมันคำถามร้ายกาจ แล้วถ้าจะให้ตอบตอนนี้ มันก็ยากมากนะ ผมคงต้องขอจูบสองสาวนั่นอีกครั้งก่อนตอบคำถามคุณล่ะ anGy_11เม้าท์ : ดีนะ ไม่จบแบบว่า "คำถามนี้ตอบยาก ขอผมจูบคนถามก่อนแล้วกัน" ชิสสสสส์ หมั่นไส้ Credit : Story >Antonia Steffens:Bild am Sonntag (Ge) Pict>The Matrix   Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2551     Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2551 9:56:52 น. Counter : 5170 Pageviews.   34 comment Share Tweet

You have to follow your heart ตัดตอนมาจากบทสัมภาษณ์ปี1999 LGMการได้แสดงหนังอย่างThe Matrixทำให้คุณคิดถึงศาสนาหรือปรัชญาในชีวิตตัวเองไหม? K_Rคิดครับ, ผมชอบด้วย การเล่นหนังฟอร์มใหญ่ที่มีบทแบบนี้หายากมาก คงไม่มีใครอยากเสียเวลาในโรงหนังไปสองชั่วโมงแล้วไม่ได้อะไรกลับมาเลย ดังนั้น ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่แสดงหนังที่ไม่ให้แง่คิดอะไรกับคนดูนอกจากความสนุกสนาน LGMบทแบบไหนที่คุณแสดงแล้วคิดว่า มันให้ข้อคิดแก่คนดู? K_RตอนผมทำงานLittle BuddhaกับBertolucci, ผมคุยกับผู้นับถือพุทธในกัตมันฑุ-เนปาล, นอกจากนั้นผมยังได้ฝึกทำสมาธิแล้วพบอีกแง่มุมของความทุกข์หรือตัวตน มันเหมือนการรับรู้ของ "ความจริงที่มหัศจรรย์" แล้วหลังจากนั้นตัวผมเองก็เปลี่ยนไปหลายอย่าง-------ผมเปลี่ยนการดำเนินชีวิตใหม่,โดยยอมรับตัวเองและผู้อื่น สิ่งที่ผมจำได้แม่นที่สุดก็คือเราต้องเอาชนะความกลัว แล้วผมก็เริ่มต่อสู้กับความกลัวของตัวเองตั้งแต่นั้น--------ตลอดชีวิตของเรา เรามักถามตัวเองด้วยคำถามเดิมเสมอและไม่เคยได้รับคำตอบ ผมพบว่าเมื่อไรที่เรากล้าเผชิญหน้าความกลัวของตัวเองนั่นล่ะ เราจะพบจุดเริ่มต้นและผมคิดว่า ทุกคนก็ทำแบบนี้ได้เช่นกัน แล้วในที่สุดหลังจากเราเอาชนะตัวเองได้เราก็จะพบกับความสุข ความดี แล้วก็ได้แบ่งปันความสุขนั้นให้คนอื่น แม้ว่าสุดท้ายแล้ว เราจะลงเอยด้วยการนั่งอยู่คนเดียวในมุมมืดเพื่อรอความตาย หรือต้องตายอย่างลำบากเพราะถูกรถบรรทุกแล่นทับก็ตาม ผมว่ามันก็คุ้มค่าแล้วกับการได้เกิดมาครั้งหนึ่ง LGMคุณกำลังพูดว่า ตายซะดีกว่าต้องมาอยู่อย่างขลาดกลัว งั้นสิ? K_Rใช่ครับ มิฉะนั้น เราจะไม่กล้าทำอะไรเลยเพราะมัวแต่กลัวโน่นกลัวนี่ สุดท้ายก็ตายไปโดยไม่รู้อะไร แล้วจะเกิดมาทำไม บางครั้งความรุนแรงและความเจ็บปวดก็เป็นสิ่งดี อย่างน้อยมันก็ยืนยันว่าเราหลีกหนีพวกมันไปไม่ได้ บทเรียนอย่างหนึ่งที่ผมรู้จากศาสนาพุทธก็คือ "ศัตรูที่ร้ายที่สุดก็คือครูที่ดีที่สุด" ดังนั้นผมก็แค่หวังว่า ผมคงพบโชคร้ายที่ไม่โหดเหี้ยมนัก มันแค่โผล่มาทักทายแล้วทำให้เสียจังหวะไปบ้างเท่านั้นเอง LGMแล้วตอนนี้ คุณคิดว่าตัวเองอยู่ที่ขั้นไหนของการต่อสู้ที่ว่านั่น? K_Rตอนนี้ ผมยังอยู่ในขั้นที่น่าสงสาร ยังต้องต่อสู้กับความกลัวของตัวเองอย่างสาหัส แต่ผมรู้ว่าจะมีสักวันที่ผมชนะมัน LGMคุณรู้สึกแปลกแยกจากความจริงบ้างไหม เมื่อคุณมีชื่อเสียง K_Rมันคงเป็นแบบนั้นเสมอ เมื่อคุณมาจากคนที่-ไม่มีใครรู้จักเลยแล้วกลายเป็นคนที่มีคนจ้องมองทุกย่างก้าว สำหรับผม ผู้ที่ไม่เคยอยากเป็นเซเลบริตี แต่ต้องมาถูกติดตามอย่างทุกวันนี้ ผมก็ยังยอมรับได้ มันเป็นแค่บางส่วนของชีวิตไม่ใช่ทั้งหมดที่ผมเป็น LGMชีวิตส่วนตัวของคุณเป็นยังไง ไหนคุณเคยพูดว่าอยากมีลูก แต่ดูคุณก็สบายดีกับชีวิตโสดนะ? K_Rมันก็ ขึ้นกับอารมณ์ในบางวันละครับ ถ้าผมนอนหนาวบนเตียงคนเดียว หรือไปเที่ยวแล้วไม่พบใคร ผมย่อมจะเหงาแล้วก็ฝันจะมีใครสักคน แต่ถ้าวันต่อมาผมได้ใช้ชีวิตโดยไม่มีห่วงกังวล ผมก็บอกพระเจ้าว่า ผมโชคดีจริงๆเลยที่ไม่มีภาระ มันก็ประมาณนั้นล่ะ LGMแล้วคำแนะนำที่สุดที่คุณได้รับคืออะไร K_R(ถอนหายใจยาว)เกี่ยวกับเรื่องอะไรล่ะ? ชีวิตผมงั้นหรือ? คุณว่ามันง่ายเหมือนการทำขนมปังไหมล่ะ? แบบว่า "นายต้องคลึงแป้งขึ้นนะ" อะไรงั้น(เขาล้อเล่น) เฮ้อ..ผมจะตอบคำถามนี้ยังไงดีนะ เอาล่ะ คุณพร้อมรึยัง(เขาหัวเราะ แววตาขี้เล่น ปรากฏจางๆขึ้นอีกครั้ง) คุณต้องเดินตามหัวใจของคุณYou have to follow your heart ผมว่า นั่นล่ะคำแนะนำที่ดีที่สุด คุณว่างั้นมะ? หัวใจของแองจี โบกว่า มันต้องการจะก้าวตามพี่คีไป ไม่ว่าจะต้องผ่านความกลัวสักแค่ไหน มันก็ไม่หวั่น เลย อะ ก้ะ Credit Pict from The matrix reloaded promo Story : Keanu Reeves: "I have learned to meditate." By Noemia Young Magazine :7 Jours - Le Grand Magazine (Ca), May 8, 1999   Create Date : 15 มกราคม 2551     Last Update : 25 มกราคม 2551 15:03:54 น. Counter : 1132 Pageviews.   62 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com