Keanu and T.V.Series ในยุคโลกไร้พรมแดน และทุกหลังคาเรือนมีโทรทัศน์ ปรากฏการ์ณที่นักแสดงในโรงหนัง โผล่มาให้ยลโฉมทางตู้ทีวีในบ้านก็มีจำนวนมากขึ้น ไม่ว่า-ชาร์ลี ชีน-ผู้เคยโด่งดังในยุค80 ที่กลายเป็นนักแสดงดีเด่นในซีรีย์sitcom "Spin City"และ"Two and a Half Men" หรือ-คีเฟอร์ ซุทเธอแลนด์-ผู้มีชื่อในเครดิตหนังมากว่า 50เรื่อง จะเลือกมาโด่งดังในบทJack Bauerของซีรีย์ลุ้นระทึก"24" ยิ่งไปกว่านั้น ทีวีซีรีย์ยังสร้าง ตัวละครใหม่ๆ ที่เปลี่ยนนักแสดงโนเนมให้กลายเป็นบุคคลที่มีอยู่จริงอย่างเช่น คุณหมอGregory Houseที่มีรูปร่างหน้าตาของHugh Laurieเป็นบทสรุป และผู้หมวดที่ใส่(และถอด)แว่นกันแดดได้แสนเท่ห์ อย่างHoratio CaineของDavid Carusoใน C.S.I Miami และในความเคลื่อนไหวแย่งชิงเรทติงและเงินทองที่ดูดไปง่ายๆใต้หลังคาบ้านเช่นนี้ ทำไมแองจีไม่เห็นคีอานู รีฟส์เล่นละครทีวีให้ดูทุกอาทิตย์บ้างเหมือนคนอื่นบ้าง ข้อสงสัยดังกล่าว ทำให้จี้ต้องตรวจสอบProfileของมิสเตอร์รีฟส์อีกครั้งทาง imdbซึ่งเป็นเว็บรวมข้อมูลของบุคคลในวงการบันเทิงไว้อย่างครอบคลุมและเชื่อถือได้ที่หนึ่ง และพบคำตอบว่า คีอานูเคยโผล่หน้าทางโทรทัศน์น้อยมาก ที่บ่อยสุดคือช่วง 2 ปีแรกของชีวิตการแสดงคือปี1985-1986 ผลงานของเขาทางโทรทัศน์มีเพียงบางตอนของทีวีซีรีย์เรื่อง "Comedy Factory" และ "Night Heat"โดยรับบทตัวละครที่จบในตอนไม่ใช่คาแรกเตอร์หลัก และเล่นหนังที่สร้างเพื่อออกอากาศทางทีวีอีกหกเรื่องประกอบด้วย Letting Go, Brotherhood of Justice(เรื่องนี้มีคีเฟอรืเป็นนักแสดงใหม่ด้วยล่ะ), Act of Vengeance, Young Again, Under the Influence, และร่วมแสดงกับนักแสดงเด็กหญิงที่โด่งดังของยุคนั้น-ดรูย์ แบรีมอร์-ในBabes in Toylandที่ออกอากาศช่วงคริสมาสปี1986 แล้วหลังจากนั้น ก็มีหนังที่สร้างเพื่อฉายทางทีวีที่แสดงกับ ซาราห์ เจสสิกา ปาร์คเกอร์(ผู้โด่งดังจากซีรีย์Sex and the City)ใน Life Under Water เมื่อปี1989เป็นครั้งสุดท้าย หรือว่า............ไม่มีใครยื่นบทละครทีวีให้คีอานูอ่าน แองจีว่า ... คงไม่ใช่........................................ แต่ ไอ่พี่คี มันไม่ยอมเล่น ละครทีวี ซะมากกว่า ก่อนอื่น เราคงต้องทำความเข้าใจกันก่อนเกี่ยวกับนิยามของคำว่า ทีวีซีรีย์ "ทีวีซีรีย์" ก็คือเรื่องราวเป็นตอนที่จะออกอากาศทุกอาทิตย์ทางโทรทัน์ โดยมีเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันเป็นแกนหลักเรื่องหนึ่ง แล้วมีพล็อตย่อยๆสลับเข้ามาในแต่ละตอนที่ดำเนินเรื่องราวไปพร้อมๆกับการเติบโตหรือการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งของตัวละครหลักกับสถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่(......นิยามนี้ จี้คิดเองนะ ถ้าไม่ตรงกับคุณ เชิญเขียนคอมเม้นท์ค่ะ) ในฟากเอเชีย เนื้อเรื่องหลักของซีรีย์มักเกี่ยวกับการเลือกคู่ ส่วนในฟากอเมริกา เนื้อเรื่องหลักจะเป็นการเอาตัวรอดผ่านสถานการณ์เวรกรรมประจำวัน อาทิหน้าที่การงานหรือความสัมพันธ์ในครัวเรือน นั่นเป็นสิ่งให้ ซีรีย์ฝั่งเมกา มีความซ้ำๆกันในแง่ของความroutineจนทำให้คนดูฝังใจในนักแสดงที่รับบทนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คีอานู รีฟส์ไม่ต้องการให้เกิดซ้ำขึ้นอีกกับตัวเขา ครั้งหนึ่งในช่วงปี1989-1991 ภาพยนตร์สุดฮิตที่ชื่อ "Bill & Ted's Excellent Adventures" ทำให้อเมริกันชนพากันชื่นชม เท็ด โลแกน ที่รับบทโดยคีอานูอย่างมาก วัยรุ่นหลายคนไว้ผมยาว ยึดดนตรีเป็นคำตอบให้ชีวิตแล้วต่อต้านผู้ปกครองเหมือนที่บิลและเท็ดทำในหนัง กระแสความดังทำให้มีการ์ตูนทีวีชื่อเดียวกันออกแพร่ภาพ โดยคีอานูและอเล็กซ์มาให้เสียงพากย์ตัวบิลกับเท็ดทุกวันเสาร์ และมีหนังภาคต่อBill & Ted's Bogus Journeyในสองปีถัดจากภาคแรก ท่ามกลางกระแสความสำเร็จของการเป็นTed คีอานูเริ่มรู้ว่าตนเองต้องการอะไร เขารู้ว่า เขาไม่อยากเป็นTed ไปตลอดชีวิต ความสม่ำเสมอในตารางการออกอากาศของซีรีย์ ทำให้ภาพพจน์ของตัวละครบางตัวฝังแน่นอยู่ในจิตใต้สำนึกของผู้ชม ในกรณีของ เท็ด โลแกน ที่เป็นเด็กหนุ่มจิตใจดีแต่ค่อนข้างทึ่ม ก็ได้ฝังภาพนั้นลงพร้อมกับความรู้สึกที่ผู้ชมมีให้คีอานู รีฟส์ (เช่นเดียวกับการที่เรานึกว่าตัวจริงของHugh Laurie ต้องฉลาดแล้วปากร้ายขี้ประชดเหมือนคุณหมอHouse) นั่นทำให้ความหวังที่เราจะเห็นซีรีย์The Walk In The Clouds 20ตอนจบแล้วมีคีอานู รีฟส์แสดงทางจอทีวี มีความเป็นไปได้แค่0% (เสียใจด้วย เอสจัง) อย่างไรก็ดี แม้คีอานู ไม่ยอมเล่น T.V.Series แต่เขาไม่อาจปฏิเสธ Blog Series ที่แองจีจับเขามาเป็นตัวเอก แล้วแพร่ข้อความใหม่สดทุกวันอังคาร ทาง//keanuthailand.bloggang.comได้ เพราะที่นี่ แองจีไม่เคยยัดเยียดบทอะไรให้เขาเล่น นอกจากให้เขาเป็นตัวของตัวเอง เป็นผู้ชายธรรมดาที่มีอาชีพนักแสดง แล้วตอบโต้กับทุกสิ่งบนโลกนี้โดยไม่ต้องแคร์อะไรทั้งนั้น ไม่ต้องเป็น ไอดอล ไม่ต้องเป็น ฮีโร ไม่ต้องเป็นทั้งพระเอก หรือผู้ร้าย หรือนักแสดงใจกุศล แค่เป็นตัวของตัวเองเท่านั้น ก็พอ จี้รักคุณเสมอ เพราะ เราก็ดีเลวได้พอๆกัน ในโรงละครใบใหญ่ใบนี้ Credit:: some facts from //imdb.com/name/nm0000206/   Create Date : 20 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 20 พฤศจิกายน 2550 9:46:49 น. Counter : 1300 Pageviews.   29 comment Share Tweet

Karei-naru Ichizoku คำเตือน 1::บล็อกวันนี้ ไม่เกี่ยวกับKeanu Reeves แม้แต่น้อย ขออภัยแฟนๆของพี่คีไว้ตรงนี้ด้วย ที่แองจีแอบนอกใจ แหะ 2::เนื้อความที่ท่านจะอ่านต่อไปนี้ คือความเห็นของangy_11หลังดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้จบ ดังนั้นจะพูดถึงเนื้อเรื่องอย่างไม่เกรงใจว่าใครดูแล้วหรือยัง หากท่านเกรงจะเสียอรรถรสในการชม กรุณางดอ่าน ข้อมูล ::Karei-naru Ichizoku คือชื่อละครทีวี10ตอนที่แพร่ภาพทางสถานีTBSของญี่ปุ่น ทุกวันอาทิตย์เวลาสามทุ่มตั้งแต่วันที่-14 มกราคม และจบไปในวันที่-18มีนาคมของปีนี้(2007) ::ชื่อKarei-naru Ichizokuอ่านตามแบบromaji แต่แปลด้วยเว็บ//babelfish.altavista.com/trได้ว่า"The whole group which becomes gorgeous " และมีชื่ออังกฤษอย่างเป็นทางการ(//wiki.d-addicts.com/)ว่าThe Grand Family ::ละครทีวีเรื่องนี้ สร้างจากหนังสือขายดีของYamazaki Toyokoเคยสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วเมื่อปี 1974 การนำมาสร้างใหม่ได้ย้ายบทหลักจาก มันเปียว-ไดสุเกะ-ผู้พ่อไปที่ มันเปียว-เท็ปเป-ลูกชายคนโตซึ่งรับบทโดยซุเปอร์สตาร์แห่งญี่ปุ่น คิมูรา-ทาคุยะ เอาละนะ...........จะ spoil กันละ ความรู้สึกหลักๆที่ได้จากการดุละครทีวีญี่ปุ่นเรื่องนี้คือความหนักหน่วง บางครั้งแองจีถามตัวเองว่า .....ความรักมันเข้าใจยากขนาดนี้เชียวหรือ ก็จริงอยู่ที่ ชีวิตคนนั้นมีหลายด้าน แต่ชีวิตของสมาชิกครอบครัวมันเปียวนั้นช่างรันทดไปซะทุกคน (...ตอนแรกที่ได้ยินชื่อสกุลเนียะ จี้แอบขำ เพราะว่าหิว"มันปิ้ง"...) กลุ่มคฤหาสถ์ของตระกูลมันเปียวตั้งอยู่บนเนินเขาของเมืองโกเบ มองลงไปเห็นวิว เวิ้งอ่าวสวยงามและแสงไฟในตัวเมือง ตรงกลางเนินที่สลับไปมา มีสระน้ำรูปถั่วเลี้ยงฝูงปลาคาร์พและสวนญี่ปุ่นพร้อมสะพานที่ประดับอย่างสวยงาม ด้านหลังบ้านหรูหราทั้งสามหลังซึ่งสมาชิกทั้งแปดคนอาศัยอยู่เป็นเนินเขาลูกใหญ่ ตรงตามหลักที่ดีของฮวงจุ้ยทุกประการ ครอบครัวมันเปียว มีหัวหน้าครอบครัวและเครือข่ายธุรกิจฮันชินชื่อไดสุเกะ ความร่ำรวยของครอบครัวก่อตั้งมาจากคุณปู่เคย์สุเกะซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว ท่านประธานไดสุเกะรับหน้าที่ดูแลธนาคารฮันชินร่วมกับลูกชายคนรองกินเปย์ ส่วนลูกชายคนใหญ่เท็ปเปเป็นผู้บริหารโรงเหล็กชื่อย้าววววยาวว่า ฮันชิน บลา บลา บลา เซย์โกะ สมาชิกนอกนั้นคือคุณแม่ยาสุโกะ ลูกสาวสองคน อิชิโกะที่แต่งงานกับข้าราชการกระทรวงการคลังแล้วแยกออกไป และลูกสาวคนเล็กซึกิโกะ ที่พ่ออยากให้แต่งงานกับหลานชายนายกรัฐมนตรีเพื่อความมั่นคงของธุรกิจ ดูจากระยะไกล ครอบครัวเศรษฐีเช่นนี้ น่าจะมีความสุข ร่มรื่น แต่ว่า เรื่องราวที่ง่ายไป คงไม่น่าสนุกพอที่จะเอามาทำละครทีวี หรือภาพยนตร์ จริงไหม ครอบครัวมันเปียว ก็เลยมีปัญหาแบบที่คนรวยเขามีกัน(นั่นคือ แม้จะมีกินมีใช้ แต่ก็ดันไม่มีความสุข ซะงั้น) ประเด็นหลักก็คือว่า ไดสุเกะเกลียดเท็ปเป แต่เท็ปเปนั้นรักพ่อเขามาก เรื่องความรู้สึกขัดแย้งของสองพ่อลูกเริ่มตั้งแต่ก่อนเท็ปเปยังไม่เกิด (งง ใช่มะล่ะ เรื่องคือว่า ไอ่คุณพ่อ ดันไปเห็นคุณปู่นั่งอยู่ในห้องของคุณแม่ในตอนที่เขากลับบ้านมากลางดึกคืนหนึ่ง แถมคุณปู่ยังพูดว่า "ไดสุเกะเอ๋ย ผิวของผู้หญิงตระกูลสูงนั้น นุ่มนวลและขาวราว มารชแมลโล" แล้วก็เดินจากไป หลังจากนั้นคุณแม่ก็ท้อง แล้วคลอดออกมาเป็นเท็ปเป ที่ใครเห็นก็พูดว่า รูปร่างหน้าตาช่างเหมือนคุณปู่แท้ๆ) จุดระเบิดของสองพ่อลูกมาเริ่มขึ้นเพราะความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ด้วยความต้องการปกป้องธุรกิจธนาคารของญี่ปุ่น รัฐมนตรีคลังจึงต้องการควบรวมธนาคารที่มีจำนวน 12 ให้เหลือเพียง 3 ทำให้ธนาคารฮันชินของครอบครัวมันเปียวต้องดิ้นรนหนีตายจากแผนนี้ ในขณะเดียวกันธุรกิจโรงเหล็กของเท็ปเปก็จำเป็นต้องระดมทุนสร้างเตาหลอมเหล็ก เพื่อผลิตสินค้าที่เท็ปเปคิดค้นได้และมีออเดอร์เข้ามาจากสหรัฐอเมริกา หากพ่อลูกคู่นี้ เป็นครอบครัวคนรวยปกติ เขาทั้งคู่ต้องร่วมกันคิดเพื่อไปสู่จุดหมายด้วยกัน แต่โชคชะตา(หรือคนแต่งนิยาย)กลับไม่ทำให้เป็นแบบนั้น เท็ปเปน่ะขอความช่วยเหลือด้านเงินทุนไปที่ธนาคารฮันชินของพ่อซึ่งเป็นธุรกิจในเครือเดียวกัน แล้วไปขอกู้ส่วนที่เหลือจากธนาคารไดโดของเพื่อน แต่ไดสุเกะกลับใช้โอกาสนี้วางแผนฮุบธนาคารไดโด แล้วทำลายโรงเหล็กของลูกเพื่อแก้แค้นปู่เคย์สุเกะและสร้างความเจ็บปวดให้เท็ปเปที่เขาเกลียดที่สุด ตอนที่แองจีดูละครยังไม่จบ แองจีคิดว่า ละครเรื่องนี้ คงเดินตามขนบเดิมของซีรีย์ญี่ปุ่นที่ว่า แม้อุปสรรคจะกว้างใหญ่ขนาดไหน ความมุมานะของตัวเอกก็จะทะลุทำลายมันไปได้ และความเย็นชาของตัวร้ายต้องละลายไปด้วยความดีของคุณธรรมและน้ำใจ ไม่นึกเลยว่า ผู้เขียนและผู้สร้างจะยืนยันให้มันเป็นโศกนาฏกรรมสมบูรณ์แบบของมนุษย์เช่นนั้น ตอนใกล้จบ เท็ปเปสูญเสียทุกอย่าง เขาเดินออกจากครอบครัว ถูกปล้นธุรกิจ และเสียความมั่นใจในตนเองไปจนแทบไม่เหลืออะไรสักหยดให้ไหลเวียนเลี้ยงร่างกาย เท็ปเปไปพบไดสุเกะที่บ้านเนินเขาใกล้สระน้ำ ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก เพื่อรับรู้ความจริงในใจชายที่เขาเคยเรียกว่าพ่อ ไดสุเกะกล่าวว่า ตั้งแต่เท็ปเปเกิดมา เขาไม่เคยรักลูกคนนี้เลย เขาพยายามแล้วที่จะรักแต่ก้ทำไม่ได้ และทุกครั้งที่เขารู้ตัวเช่นนั้น เขาก็เกลียดตัวเองมาก หากเท็ปเปไม่เคยเกิดมา เขาเชื่อว่า ชีวิตของเขาและคุณแม่ยาสุโกะจะมีความสุขมากกว่านี้ ความจริงนั้น ทำให้เท็ปเปหัวใจสลาย ความผิดและความทุกข์ทั้งมวลที่ครอบครัวมันเปียวต้องแบกรับ เป็นเพราะมีเขา-มันเปียว เท็ปเป-เกิดมาบนโลกนี้ คนที่ไร้หัวใจจะอยู่ไปเพื่ออะไร เท็ปเปตัดสินใจเอาปืนไรเฟิลจ่อคางตัวเอง ตายอย่างโดดเดี่ยวบนยอดเขาที่คุณปู่เคยพาเขาไปล่าสัตว์ - - - - - ไฟเปิด-ม่านปิด เรื่องราวหลังเท็ปเปตาย ยังมีต่อ แต่มันเหมือนไฟโรงละครที่เริ่มเปิดจ้า คนดูลุกจากไป พร้อมๆกับทีมปัดกวาดเข้ามาทำความสะอาด นั่นคือ ละครฉายภาพความโศกเศร้าของพี่น้องมันเปียว, ความจริงที่ว่าเท็ปเปมีเลือดกรุ๊ปบี ไม่ใช่กรุ๊ปเอ อย่างที่ไดสุเกะเข้าใจ (คุณแม่เลือดกรุ๊ปบี, คุณพ่อกรุ๊ปเอบี, และคุณปู่กรุ๊ปเอ) ซึ่งแสดงว่า แท้จริงแล้วเท็ปเปคือลูกชายแท้ๆของไดสุเกะเอง แม้ไดสุเกะร้องไห้ทุ่มเทอย่างไร คนดูทุกคนคงอยากถอดรองเท้าเขวี้ยงจอทีวีซะมากกว่าจะสงสารนายธนาคารใจหินอย่างเขา Side Bar -ละครเรื่องนี้ เป็นแนวพีเรียดย้อนไปปี 1967-1969 การถ่ายทำนอกสถานที่ต้องยกไปถ่ายกันที่เซี่ยงไฮ้เพื่อเก็บบรรยากาศย้อนยุค -นักแสดงของเรื่อง ได้รางวัล แสดงนำชายและสมทบชายยอดเยี่ยม คือทั้งKimura Takuyaผู้รับบท เท็ปเป และKitaoji Kinyaที่รับบทไดสุเกะ ต่างได้รางวัลในงาน52nd Television Drama Academy Awardsรวมทั้งSuzuki Kyokaที่เล่นเป็น คุณไอโกะ ภรรยาลับของไดสุเกะที่เป็นคนชักใยให้ครอบครัวมันเปียวได้ควบรวมแบงค์และเป็นชนวนทะเลาะกันของสองพ่อลูกก็ได้รางวัลไปด้วย แต่แองจีไม่ได้กล่าวถึงเธอไว้ด้านบน เพราะจี้ให้น้ำหนักไปที่การเฉือนบทบาทของนักแสดงชายทั้งสองคนมากกว่า ขออภัยมา ณ ที่นี้ -บทมันเปียว เท็ปเป เนี่ย หนักมาก ถ้าแองจีเล่นคงเป็นโรคกระเพาะอักเสบและไมเกรนแน่ๆ ทาคุยะเก่งจัง อุตส่าห์เล่นจนจบนะเนี่ย -สัญลักษณ์ที่ ชัดมากของเรื่อง คือดวงอาทิตย์ เท็ปเปชอบแหงนมองดวงอาทิตย์เวลาที่เขาท้อ และประโยคที่เขาพูดบ่อยๆที่สุด คือเขามีฝันที่จะพาญี่ปุ่นเป็นประเทศมหาอำนาจด้วยพลังของการสร้างเหล็กที่มีคุณภาพขึ้นมารับใช้โลกอุตสาหกรรม -เท็ปเป แปลว่า เหล็ก -ตัวละครหลักชื่อ มันเปียว เคย์สุเกะ จะปรากฏเฉพาะแผ่นหลังให้เห็นเท่านั้น ส่วนรูปวาดสีน้ำมันของท่านปู่น่ะ คนวาดมันวาดทาคุยะแล้วเติมหนวดกับทำผมขาวนั่นแหละ ความคิดของแองจี 1::ทำไม ตัวกรูไม่มีambitionอันยิ่งใหญ่แบบมันเปียว เท็ปเป บ้างหว่า จะได้ไม่ใช้เวลาหมดเปลืองไปกับเรื่องบันเทิงอย่างไม่มีมูลค่าเพิ่มอย่างนี้ รึว่า ทำตัวให้ใครเกลียดสักคนดี ชีวิตจะได้มีอะไรกระตุ้น 2::พ่อผู้ยิ่งใหญ่ กับลูกชายนั้นจะมีข้อขัดแย้งกันอยู่ประจำ ละครเรื่องนี้มันเหมือนภาพซ้อน ของ ปู่-พ่อ และ พ่อ-ลูก ไม่เคยเห็นแม่กับลูกสาวจะมีปัญหาแบบนี้บ้างเลย ความจริงนอกจากคู่มือเลี้ยงลูกแล้ว น่าจะมีใครเขียนคู่มือเลี้ยงพ่อบ้างเนอะ มีพ่อจอมบงการแบบนั้นใครมันจะรับมือไหว 3::หลังจากเรื่องนี้ แองจีคงจะหยุดดูซีรีย์ไปหลายวัน เพราะ มัน หนัก เหลือ เกิน Credit ข้อมูลบางส่วนจาก Dramawiki //wiki.d-addicts.com/Karei-naru_Ichizoku   Create Date : 16 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 16 พฤศจิกายน 2550 14:50:45 น. Counter : 2284 Pageviews.   41 comment Share Tweet

อากาศเริ่มเย็น ใส่หมวกตามคีอานู กันเถิด (บ่น บ่น บ่น) ก-ร่-อ-ย จัง ที่โดนเพื่อนโกรธ ไหนๆ เราก็มีคนคบน้อยอยู่แล้ว อัพบล็อก ดีกว่า (จบการบ่น) หลงเข้าใจผิดไปซะนาน ว่าหมวกไหมพรมสีดำ itemหลักของคีอานู รีฟส์ยามนี้ เป็นของกิ๊กก๊อกmade in china ก็แฟนประจำอย่างเรา มันจำเสื้อผ้า รองเท้า ผ้าพันคอ นาฬิกา ของเขาได้หมดทุกชิ้น (แหม็มม เสียดาย พี่คีไม่ยอมให้เห็น กกน.) พอได้เห็นหมวกดำใบนั้นขึ้นชาร์ท TopHit บนสรีระของคีอานู หลังจากเขากลับจากทัวร์จีน จี้ก็ นึกกกว่า พี่คีไปได้มันมาจากพื้นที่ราบสูง อะ ดิ จนกระทั่ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตากล้องแอลเอ พบคุณพี่กำลังเติมน้ำมันรถป๊อช (ขอบอกว่า ราคาเบนซินที่โน่น ง่ะ$3.41 ต่อgallon นะเจ้าคะ บ้านเราราคาไม่ถึงหนึ่งยูเอสดอลลาร์ คงเพราะว่า เรามีบ่อน้ำมัน ใช่ไหมฮะ ท่านPTT คิคิ) แล้วภาพที่แจ่มชัดของหมวกใบนั้นก็โชว์หราอยู่กับคีอานู ที่แท้พี่คีแกใส่หมวกมียี่ห้อนะคะนั่น เป็นแบรนด์เนมThe North Face รุ่นMaytals Knit Hat ใบหนึ่งตั้ง20$ มีให้เลือกห้าสี เชิญชมสินค้าได้ที่เว็บนี่ //www.thenorthface.com/opencms/opencms/tnf/gear.jsp?site=NA&model=AR6J&language=en เราสองคนหุ้นกันซื้อสีจมปู เอาไว้ใส่กันแดด ให้เหงื่อไหลย้อยยย ดีไหมก๊ะ คุณเอสสสส (บ่น บ่น ต่อ) โจเซฟินบอกว่า จะไม่มาหาจี้ 7 วัน โหะ นานจัง แต่จะทำไงได้ ทำเค้าโมโหแล้วเค้าก็ต้องตอบโต้ มันเป็นหลักธรรมชาติ ไม่เปงไร เจ็ดวัน เอง เนอะ ... ..เกิดเป็นนางเอก(ปากร้าย)...ต้องอดทน (จบการบ่น)   Create Date : 15 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 15 พฤศจิกายน 2550 11:59:12 น. Counter : 1983 Pageviews.   55 comment Share Tweet

ว่าด้วยCoffee Prince, กระแส-Y และKeanu Reeves ด้วยความเม็ตตาของเอสจัง แองจีจึงมีโอกาสชิมกาแฟเกาหลี ที่ร้าน"เจ้าชายกาแฟ"อันลือลั่น,,,หลังการ ดูไป-หาวไป-กดfwdไป ได้สักพัก......หัวใจของแองจีก็หวลคิดไปถึงคีอานู รีฟส์ คำเตือน คุณผู้อ่านท่านใดที่หลงเข้าใจผิดว่า บล็อกชิ้นนี้กำลังจะรีวิวซีรีย์เกาหลีเรื่อง The 1st shop of Coffee Prince กรุณาถอยกลับโดยด่วน ตามที่แองจีรู้มา การรักเพศเดียวกัน หรือที่ปัจจุบันเรียกว่าY หรือชาวสีม่วงนั้นเกิดขึ้นมานานแล้วในประวัติศาสตร์โลก แต่การผลักผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวให้ตกขอบไปเป็นคนที่สังคมไม่ยอมรับเกิดขึ้นเพราะความเชื่อทางศาสนา และวัฒนธรรมอนุรักษ์สุดขั้วที่เผยแพร่ในยุคพระนางวิคตอเรียของอังกฤษ อย่างไรก็ดี ในยุคที่ลัทธิสุขนิยมเบ่งบานหลังปี2000 หลายคนเริ่มละทิ้ง"กรอบและกรง"ที่ตนอยู่ แล้วยอมรับความจริงที่ว่า ชีวิตที่แน่นอนคือเรื่องตรงนี้ ไม่ใช่โลกหน้า ดอกไม้สีม่วงก็เลยบานอ้าซ่าเต็มท้องถนน ห้างสรรพสินค้า จอหนังและตู้ทีวี นั่นทำให้เรามีภาพยนตร์ และละครทีวีที่แพร่ภาพของชาวYมากขึ้น ในละครเกาหลีเรื่องThe 1st shop of Coffee Prince คุณพระเอกไฮโซ จ้างนางเอกโลโซให้มาทำงานในร้านกาแฟเพราะคิดว่า นางเอกทอมบอยเป็นผู้ชาย(...จี้ดูยังไง้ก็ ทอม ดันเห็นเป็น แต๋ว ไปซะได้...) แล้วด้วยความใกล้ชิด ด้วยความเข้าใจ ด้วยความเพลิดเพลินที่ได้อยู่ใกล้กัน พระเอกก็เลยหลงรักนางเอก แต่เขาก็เกิดความขัดแย้งขึ้นในใจ เพราะตัวเองไม่เคยชอบผู้ชายคนใดมาก่อน ทำให้พระเอกเกิดความสั่นคลอนในบุคลิกภาพอย่างรุนแรง เขาพยายามปรึกษาจิตแพทย์ หักห้ามใจตนเอง ท้าทายความรู้สึกด้วยการลองใกล้ชิดมากกว่าเดิมแล้วตีตนออกห่าง (ดีนะ ยังไม่ลองไปนอนกับชายอื่น กิกิ) ซึ่งในขบวนการทั้งหมด นางเอกก็รับรู้ แต่ไม่อยากตกงานจึงไม่กล้าบอกว่าตัวเองเป็นหญิง แล้วในที่สุด พระเอก"ชอยฮานคุล"ก็กระชากนางเอก"โกอึนชาน"เข้ามาจูบตอนปลายยกสิบ หลังบอกเธอว่า "ฉันชอบนาย ไม่ว่านายจะเป็นผู้ชายหรือจะเป็นมนุษย์ต่างดาวก็ตาม ฉันไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว......จ๊วบบบ"(เครดิต..ยกมาจาก..บล็อกอิโจ ก้ะ) ถึงตรงนี้ หลายคนที่แค่รู้จัก แต่ไม่ได้เป็น-เ-มี-ย-คีอานู คงมึนงงว่า จากเกาหลี แองจีข้ามฟากไปแอลเอได้ยังไง คืองี้ ฮ่ะ หลายคนคงรู้ข่าวลือคลาสสิค เรื่องคีอานูเป็นเกย์ที่เผยแพร่ในต้นยุค90 ต้นตอของเรื่องนั้นเป็นหนังสือข่าวแทบลอยด์ในยุโรป ที่ลงข่าวโดยไม่มีภาพใดๆประกอบ แต่ก็ทำให้คนเชื่อได้มากที่สุดข่าวหนึ่ง ด้วยขั้นตอนง่ายๆคือการบอกปากต่อปาก แบบว่า ............. Miss A:"นี่ นี่ นี่ เธอรู้มะ คีนูรีฟ เป็นเกย์ล่ะ" Miss B:"ต๊ายยยย จริงหรือหล่อน กรี๊ด ต๊าย ทำไมล่ะ ออกจะ หล่ออออ" Miss A:"ใช่ๆ เธอ เค้าแต่งงานกับผู้ชายในโบสถ์ล่ะ ผู้ชายเป็นคนรวยนะ พวกเจ้าของบอ'สัด ไรงั้นล่ะ" Miss B:"ต๊ายยยย จริงหรือหล่อน กรี๊ด ต๊าย ทำไมล่ะ ออกจะ หล่ออออ" Miss A:(เฮ้ย พูดซ้ำ) Miss B:"เอ่า เหรอ งั้นเอาใหม่ มิน่าล่ะ ชั้นไม่เห็นข่าวเค้ามีเมียมีลูกเนอะ เนี่ย พวกผู้ชายหน้าตาดี นิสัยดี มักเป็นงี้แหละ สาวๆอย่างเราถึงได้..เหลือ..เนอะเธอเนอะ ทั้งๆที่พวกเราก็ทั้งสวย รวย ดี มีสมอง ใส่รองเท้ากับกระเป๋าก็แมทช์กัล แต่พวกมันดันไปสนไม้ป่าเดียวกันซะงั้น เฮ้อ" Miss A:"ช่าย จ้ะ ใช่ เฮ้อ เสียของแท้ๆเลย เนอะ" นั่นคือ คนส่วนใหญ่นั้นมีjudgementในบางเรื่องง่ายมาก เพียงเพราะว่า มันตรงกับความคิดของตนอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อคุณมีความเอียงจะเชื่อเรื่องอะไรอยู่แล้ว แค่ลมปากพัดเบาๆ ก็เป่าตาชั่งของคุณตะแคงคว่ำไปได้ทันที ช่างน่าสงสาร คีอานู รีฟส์ ไม่ใช่ว่าคีอานูจะไม่เคยพูดเรื่องข่าวลือนี้ เขาบอกหลายครั้งว่า เขามีรสนิยมทางเพศปกติ นั่นคือสนใจจะมีเซ็กส์กับเพศหญิง แต่เขาไม่คิดว่า การเป็นเกย์เป็นเรื่องผิด และที่แย่กว่านั้นคือ เขาเลือกจะพูดติดตลกในบทสัมภาษณ์กับนิตยสารInterview1990 ว่า "ผมไม่ใช่เกย์ แต่ใครจะไปรู้อนาคต" ทำให้ทุกคนคิดว่า เขากล่าวออกตัวเพราะไม่กล้ารับความจริง อีกครั้งหนึ่งในนิตยสารUSA Today คีอานูบ่นด้วยความรำคาญว่า "ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมคนต้องสนใจว่าผมเป็นเกย์รึเปล่า มันสำคัญตรงไหน โลกนี้มีคนเป็นเกย์แล้วทำไมหรือ พวกเขาไม่มีสิทธิจะใช้ชีวิตของเขาหรือไง ผมก็พอจะนึกออกว่า เรื่องส่วนตัวของผมมีคนอยากรู้ แต่จะให้ผมมาพูดว่าตัวเองเป็นเกย์หรือไม่ ให้คนที่เป็นเขารู้สึกไม่ดีกับตนเองทำไม" "การเป็นเกย์ไม่ใช่ความผิด ดังนั้นถ้าเราปฏิเสธพวกเขา ก็เท่ากับเราไปตัดสินเขานะครับ"(Vanity Fair) แต่คำพูดที่แองจีชอบนัก ในการตอบคำถามเรื่องเกย์ คืออันที่คีอานูตอบว่า "ผมไม่ใช่เกย์ แต่ใครจะรู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตผม ผมไม่ต้องการโดนขังอยู่ในวิถีชีวิตแบบใดแบบหนึ่ง ผมชอบนอนโรงแรม แต่ก็เป็นไปได้ที่วันหนึ่งผมจะซื้อบ้าน ผมไม่สามารถพูดวันนี้ได้ว่าผมจะเป็นอย่างไรในวันหน้า"(German Penthouse-2002) เพราะมันเป็นคำตอบที่บอกให้รู้ว่า เขารู้ดีว่าอนาคตเป็นสิ่งแน่นอนที่ไม่ควรจะผูกมัดเอาไว้ด้วยกระแสความนิยม และยังใจกว้างพอที่จะพูดความจริงออกมาตรงๆด้วย เพราะความรักเป็นสิ่งบอบบางอ่อนไหว ที่ไม่เลือกว่าจะเกิดขึ้นกับใคร มันไม่ใช่แค่sex ที่เกิดชั่วข้ามคืนแล้วจากกันไป หากวันใด คนที่คีอานูรัก เป็นมนุษย์ต่างดาว แองจีเชื่อว่า เขาก็คงไม่แคร์สักนิด ที่จะรักคนของเขาต่อไป หมายเหตุ บล็อกวันนี้ เขียนสด แบบว่า อยู่ดีๆ อยากจะเขียนเล่าให้คอมพิวเตอร์ฟังซะงั้น ภาพประกอบก็เลยไม่มี เพราะขี้เกียจหา ขี้เกียจโฮสท์ ขี้เกียจดึงยูอาร์แอล ขี้เกียจไปซะหมด กิกิ อีกอย่างหนึ่ง ขี้เกียจเอารูปมาดึงดูดความสนใจด้วยแหละ ใครอยากอ่านก็อ่านไม่อยากอ่านก็ปิดไป แองจีได้เขียนก็สบายใจแล้ว(เหมือนได้ปลดทุกข์) บล็อกอันนี้ ยังไม่ใช่บล็อกในฝัน ที่จี้เคย เปรยๆไว้ ว่าจะทำบล็อกแก้ต่างเรื่องเกย์ให้คีอานูนะ อันนี้แค่ คิดๆบ่นๆ หมายเหตุ รำพันน แล้วอังคารหน้าตรูจะ อัพไรเนี่ยยยยยยยยย   Create Date : 08 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 8 พฤศจิกายน 2550 17:43:01 น. Counter : 1353 Pageviews.   66 comment Share Tweet

เก็บตก ที่เฉิงตู และคีอานู ภาพนี้ "กริ๊บ" มาจากอินเตอร์เน็ต เป็นรูปที่เจ้าของบล็อกสาวชาวจีน ถ่ายคู่กับดาราหญ่ายแห่งฮอลลีวู้ด เธอบรรยายไว้ว่า เธอพบคีอานูโดยบังเอิญขณะกำลังก้าวลงจากรถยนต์และกำลังจะเสียหลักล้มลง แต่โดยไม่คาดฝัน ชายคนหนึ่งเอื้อมมือพยุงเธอไว้ ก่อนที่เธอจะเห็นว่า เขาคนนั้นคือ คีอานู รีฟส์ แม่หมวย(สวย อึ๋ม?)รายนี้บอกว่า เธอไม่นึกเล้ยยยย ว่าชายใจดีแสนน่ารักคนนี้ จะเป็นถึงดาราค่าตัวแพงของโลก แล้วเธอก้หลงเสน่ห์เขาไปทันทีในเวลานั้น ปล. แปลด้วยสำนวน สะตอบะรี แบบแองจี อะ ต้นฉบับอังกฤษเค้าว่าแบบนี้ เชิญอ่านกันเอง ก้ะ She said she met Keanu by chance. Never expected him to be so friendly. As she was getting out of a car, Keanu extended his hand to help her. She was charmed by him after this encounter. He's such a gentleman.   Create Date : 07 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 7 พฤศจิกายน 2550 14:00:33 น. Counter : 1128 Pageviews.   28 comment Share Tweet

• ไร้ระเบียบ
• ข่าว
• บทความ
• งาน
• คลิป
• ไม่เกี่ยวกับเขา

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com