Group Blog
 
All Blogs
 

ประวัติ ลกข้อง

ลกข้อง 陸 抗 ชื่อรอง Youjie (225AD - 274AD)

ลกข้องเกิดในปี Huang Wu ที่สี่ เป็นบุตรชายคนรองของลกซุน พี่ชายของเขาคือ Lu Tan ซึ่งเสียชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก เขาได้รับการยกย่องเช่นเดียวกันกับพ่อของเขาว่ามีพรสวรรค์และเฉลียวฉลาดมาก ลกข้องถือว่าเป็นหลานชายของซุนเซ็กเนื่องจากมารดาของเขาคือบุตรสาวของซุนเซ็ก หลังจากการตายของลกซุน ซุนกวนนำข้อกล่าวหาเรื่องความประพฤติมิชอบของลกซุนถามเขา ลกข้องแก้ข้อกล่าวหาทุกข้อของบิดาตนได้เป็นอย่างดี ซุนกวนพอใจในคำตอบของเขามาก จึงยกให้กับลกซุนและเผาบันทึกหลักฐานการกระทำผิดของลกซุนทิ้ง

ลกข้องถูกมอบหมายตำแหน่งต่าง ๆ มากมายในปี 240 - 259 AD ในปี 260 ลกข้องได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพควบคุม กองทัพง่อจากซุนฮิว ในปี 270 เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ต้าซือหม่า (แม่ทัพใหญ่) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในกองทัพ ลกข้องเริ่มรับราชการโดยเป็นนายทหารในสังกัดของบิดาของเขา ซึ่งไม่เหมือนกับวุยก๊กหรือจ๊กก๊ก อำนาจทางทหารของฝ่ายง่อก๊กนั้นจะสืบทอดกันจากบิดาสู่บุตร หลังจากลกซุนตาย ลกข้องได้เป็นผู้คุมกองทัพของตระกูลและปกครองเกงจิ๋วต่อจากบิดาของเขา
แม้ว่าเขาจะเป็นนักการทหารที่มีชื่อเสียง แต่ลกข้องก็รู้ดีถึงจุดด้อยของเกงจิ๋วและสภาพเศรษฐกิจ เขาสร้างความสัมพันธ์กับเอียวเก๋า ขุนนางของจิ้นก๊ก ทั้งสองคนทำข้อตกลงเคารพซึ่งกันและกัน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสงคราม และอนุญาตให้ชาวเมืองของทั้งสองฝ่ายสามารถทำการค้าข้ามพรมแดนได้ พวกเขาทั้งสองมักจะแลกเปลี่ยนของขวัญซึงกันและกันโดยไม่เกรงกลัวว่าจะมียาพิษหรือวางกับดัก เมื่อลกข้องเจ็บป่วย เอียวเก๋าก็ส่งยามาให้ ลูกน้องของลกข้องก็เตือนไม่ให้เขากินยานั้น เนื่องจากยาอาจจะใส่ยาพิษ ลกข้องก็ตำหนิลูกน้องของเขาบอกกับพวกเขาว่า ตัวเขาไม่มีสิ่งใดต้องกลัว เพราะท่านอาเอียวเก๋านั้นเป็นคนที่เชื่อถือได้ คงไม่ทำอะไร เช่นนั้น และถ้าเอียวเก๋าหรือลกข้องออกล่าสัตว์ในแถบชายแดนของเมืองพวกเขา พวกเขาจะส่งสัตว์ที่เขาล่ามาได้จากพื้นที่ของ อีกคนให้แก่กัน ซุนโฮด่าลกข้องเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับเอียวเก๋าหลายต่อหลายครั้ง

นอกจากการเป็นนักปกครองที่ดีแล้ว ลกข้องยังเป็นแม่ทัพที่มีความสามารถชั้นยอด เขาสามารถป้องกันการโจมตีของวุยได้ถึงสี่ครั้ง ลกข้องมีชื่อเสียงอย่างมากจากการใช้ประโยชน์ของสิ่งประดิษฐ์ทางการทหารมาใช้ในการรบให้เกิดประโยชน์สูงสุด ครั้งที่มีชื่อเสียงที่สุด คือเมื่อ ปู้ฉันแม่ทัพง่อก๊กคนหนึ่ง พยายามที่จะยอมสวามิภักดิ์ต่อวุยและก็จะทำให้ป้อมรักษาการณ์ของง่อนั้นตกไปอยู่กับวุยก๊กด้วย ซึ่งจะทำให้วุยสามารถยกทัพโดยปราศจากการป้องกันมายังกังเหลง เมืองใหญ่ที่สุดของเกงจิ๋วได้ ลกข้องสั่งทหารให้นำทัพไปยังป้อมรักษาการณ์นั้นก่อนวุยจะส่งทหารมา สิ่งที่เขาทำเหมือนกันสิ่งที่ซีซาร์ทำเมื่อหลายร้อยปีก่อน เขาสร้างกำแพงขึ้นสองชั้น ชั้นหนึ่งไว้สำหรับปิดล้อมป้อมรักษาการณ์ ส่วนอีกหนึ่งไว้สำหรับป้องกันกำลังเสริมจากวุย ลกข้องชักจูงคนของเขาให้เชื่อว่า เอียวเก๋าไม่สามารถยึดเมืองได้ เขาสร้างขวัญกำลังใจให้กับเหล่าทหารของเขาและเตรียมการโจมตีกลับ เมื่อ เอียวเก๋า นำทหารเรือเตรียมพร้อมเข้าโจมตี ลกข้องสั่งการให้แม่ทัพของเขานำเรือไปสร้างแนวป้องกันที่แม่น้ำ หลอกให้ เอียวเก๋า คิดว่า ฝ่ายง่อนั้นจะไม่เคลื่อนไหวแต่จะสร้างแนวป้องกันสำหรับพร้อมรับการโจมตี ในขณะเดียวกันลกข้องก็นำทัพซุ่มโจมตีเอียวเก๋า สูญเสียไพร่พลจำนวนมากและต้องถอยทัพในที่สุด ในเวลาไม่ถึงเดือน เอียวเก๋าก็เลิกค่ายถอยทัพกลับเมือง ลกข้องจึงยกทัพไปตีป้อม Xiliang ปู้ฉันจนมุมจนต้องฆ่าตัวตาย และป้อมรักษาการณ์ก็ยอมจำนน

เขายังได้รับการชมเชยว่าเป็นคนที่มีสายตากว้างไกล เขาได้ทำการสำรวจพื้นที่ชายแดน และบันทึกจุดอ่อนในการป้องกันของชายแดนง่อก๊กและรายงานปัญหาเหล่านั้นให้กับฮ่องเต้ของง่อก๊กเพื่อร้องขอให้มีการแก้ไขเสริมการป้องกัน แต่ฮ่องเต้ของง่อในตอนนั้นคือซุนโฮซึ่งเป็นทรราชย์ทำการตามอำเภอใจและไม่สนใจที่จะทำการคำร้องขอของลกข้อง
ในปี Yong An ที่หก ซุนฮิวส่งลกข้องไปช่วย Bu Xie ล้อมโจมตีเมือง Yong An หลังจากล้อมเมืองอยู่หกเดือน ลกข้องก็ถอยทัพกลับ เพราะว่าวุยส่งกองทัพมาช่วย

ลกข้องตายในปี Feng Huang ที่สาม หลังจากลกข้องตาย ฝ่ายง่อก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ เมื่อลกข้องยังมีชีวิตอยู่ เอียวเก๋าไม่กล้าที่จะโจมตีง่อก๊ก ทันทีที่ลกข้องเสียชีวิต เอียวเก๋าร้องขอให้เมืองหลวงของจิ้นส่งกองทัพมาโจมตีง่อหลายต่อหลายครั้ง หลายปีต่อมาหลังจากลกข้องตาย จิ้นก๊กก็สามารถยึดครองง่อก๊กได้สำเร็จ

ลกข้องมีบุตรทั้งหมดแปดคน บุตรคนสุดท้องสองคนนั้นกลายเป็นนักเขียนที่มีชื่อ และอีกคนเป็นแม่ทัพที่มีความสามารถของจิ้น




 

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2548    
Last Update : 20 เมษายน 2549 11:28:31 น.
Counter : 2649 Pageviews.  

ประวัติโกะหยง

โกะหยง ชื่อรองเหวียนถั้น (Yuantan)

โกะหยงชาวเมืองอู๋จวิ้น(ง่อกุ๋น) โกะหยงศึกษาวิชาดนตรีและการเขียนพู่กันจากซัวหยง ต่อมาได้กลับมาอยู่ที่ง่อเพื่อหลบซ่อนตัวเองจากศัตรูของเขา เหล่าเพื่อนขุนนางและชาวบ้านต่างพากันเสนอให้เขาเข้ารับตำแหน่งขุนนาง

เมื่อเขาเติบโตขึ้น เขากลายเป็นเจ้าเมืองที่มีความสามารถในการปกครองเมืองต่าง ๆ เช่น หับป๋า Qu-Ah และ Shang Yu เมื่อครั้งซุนกวนได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองห้อยแข ซุนกวนไม่ได้บริหารเมืองเองแต่แต่งให้โกะหยงมีตำแหน่ง Jun Cheng และมอบอำนาจหน้าที่เจ้าเมืองให้แก่โกะหยง โกะหยงบริหารบ้านเมืองอย่างดี เขาปราบปรามเหล่ากบฏภายในเมือง นำความสงบและสันติมาสู่ชาวเมือง ทำให้ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมการปกครองบ้านเมืองของเขา

สองสามปีต่อมา โกะหยงได้รับการแต่งตั้งเป็น Zuo Si Ma และเมื่อซุนกวนได้รับตำแหน่งอ๋องแห่งต๋องง่อ โกะหยงก็ถุกแต่งตั้งเป็น Da Li Feng Chang และควบตำแหน่งหัวหน้ากรมอาลักษณ์ นอกจากนี้โกะหยงยังได้รับตำแหน่ง Yang Sui Xiang Hou อีกด้วย

ในปี Huang Wu ที่ 4 เมื่อโกะหยงย้ายที่อยู่มารดามาที่ง่อ ซุนกวนออกไปต้อนรับและเคารพมารดาของโกะหยงด้วยตัวเองในงานเลี้ยง และขุนนางผู้ใหญ่ทุกคนและรัชทายาทก็เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย

โกะหยงเป็นคนที่เงียบขรึมไม่กินสุราและประพฤติตัวอย่างชอบธรรม ซุนกวนเคยพูดว่า ท่านโกะหยงเป็นคนเงียบขรึม แต่เมื่อไหร่ที่เขาปริปากพูด คำพูดของเขานั้นมีเหตุผลยิ่งนัก ซุนกวนเชื่อมั่นและให้ความเคารพอย่างมากในตัวโกะหยง ซุนกวนเชื่อว่าการใดก็ตามถ้าโกะหยงเห็นชอบด้วย สิ่งนั้นจะถูกนำไปปฏิบัติใช้ได้อย่างแน่นอน

ด้วยเหตุที่ว่าโกะหยงนั้นประพฤติตนอย่างเข้มงวด เหล่าขุนนางจึงพากันเกรงกลัวเขา ไม่กล้าดื่มกินในงานเลี้ยง มีเพียงไม่กี่โอกาสเท่านั้นที่เหล่าขุนนางจะกล้าดื่มสุราอย่างเมามาย ซุนกวนเคยพูดไว้ว่า ถ้าท่านโกะหยงนั่งในงานเลี้ยงเมื่อไหร่ ความสนุกสนานก็หายไปทันที คำพูดของซุนกวนบอกถึงความเกรงกลัวที่เหล่าขุนนางมีต่อโกะหยง

ในปีนั้น โกะหยงได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยงานพิธี(สมุหพระราชพิธี) เลื่อนตำแหน่งเป็น Li Ling Hou แทนที่ซุนเสียวในตำแหน่งไจเสี่ยง และควบคุมกรมอาลักษณ์ โกะหยงเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ เขาสามารถมอบหมายงานให้กับขุนนางคนอื่นโดยเล็งเห็นความสามารถแต่ละด้าน ใช้ประโยชน์ด้านดีของขุนนางผู้นั้นว่าเหมาะสมกับงานด้านไหน โดยไม่ใช้อคติส่วนตัวมาเกี่ยวข้องในจัดการมอบหมายงานให้แต่ขุนนางละคน

โกะหยงมักจะเยี่ยมเยียนชาวบ้านอยู่เสมอ เพื่อสังเกตวิถีชีวิตของชาวบ้านและข้อเสนอแนะร้องเรียนต่าง ๆ จากชาวบ้าน ถ้ามีความเห็นใดที่ควรจะนำมาใช้ โกะหยงมักจะรายงานซุนกวนอย่างลับ ๆ ภายหลังเมื่อนโยบายนั้นนำมาใช้ ซุนกวนก็เป็นคนที่ได้หน้าในผลงานนั้น ถ้าความเห็นใดที่ไม่เหมาะสม ก็จะถูกเก็บไว้เป็นความลับ การกระทำนี้ทำให้ซุนกวนนั้นประเมินความสามารถโกะหยงไว้สูงมาก

อย่างไรก็ตาม เพราะว่าโกะหยงเป็นคนที่สุภาพถ่อมตัวและเคารพในคำพูดและการกระทำของตัวเอง เขามักจะยืนยันอย่างแข็งกล้าในการรักษาความยุติธรรม และจะยืนยันอย่างหนักแน่ในการเสนอความเห็นและรายงานต่าง ๆ ครั้งหนึ่งเมื่อซุนกวนถามต่อเตียวเจียวถึงจุดดีและจุดด้อยในการบริหารบ้านเมืองของเขา เตียวเจียวตอบว่ากฎหมายของง่อนั้น เข้มงวดกวดขันและยึดตามกฎระเบียบมากเกินไป ควรที่จะผ่อนผันบ้างเพื่อแสดงความเมตตาของซุนกวน ซุนกวนนั้นปฏิเสธที่จะทำตามแล้วถามความเห็นโกะหยง โกะหยงจึงบอกว่าในความรู้สึกและจากประสบการณ์ของเขา เขารู้สึกเช่นเดียวกับเตียวเจียว ซุนกวนจึงมีคำสั่งให้ร่างระเบียบกฎหมายขึ้นใหม่

หลังจากนั้นมีขุนนางสองคนชื่อ Lu Yi และ Qin Bo ได้รับการแต่งตั้งเป็น Zhong Shu มีหน้าที่ตรวจสอบเอกสารต่าง ๆ จากหลายหัวเมือง Lu Yi พยายามที่จะใช้อำนาจในทางที่ผิดโดยการออกกฎหมายเก็บภาษีป่าไม้ เหมืองแร่ ชลประทานและสุรา นำเงินภาษีที่เก็บเป็นของตน พวกเขายังตรวจสอบบันทึกการผิดอาชญากรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับขุนนางที่ไม่มีความผิดและขุนนางผู้ใหญ่ เพื่อนำบันทึกเหล่านั้นมาใส่ร้ายป้ายความผิดแก่ขุนนางเหล่านั้น โกะหยงเองก็โดน Lu Yi ป้ายสีจนโดนตำหนีอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม แผนของ Lu Yi ก็ถูกเปิดเผย และโกะหยงถูกพิจารณาให้มาเป็นผู้พิพากษาโทษของ Lu Yi แม้ว่า Lu Yi จะเป็นอาชญากร แต่โกะหยงก็ซักถามคดีด้วยความสุภาพและกรุณาแก่ Lu Yi ก่อนที่โกะหยงจะจากไป เขาถาม Lu Yi ว่า ต้องการพูดอะไรเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายหรือไม่ Lu Yi ได้แต่คำนับเขาครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เอ่ยถ้อยคำซักคำ Huai Xu มหาดเล็กกรมอาลักษณ์คนหนึ่งสาปแช่งด่าทอ Lu Yi โกะหยงก็ตำหนิเขาบอกว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย เจ้าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้

หลังจากดำรงตำแหน่งไจเสี่ยงนาน 19 ปี โกะหยงก็เสียชีวิตในปี Chi Wu ที่หกด้วยวัย 76 ปี ลกซุนสืบทอดตำแหน่งไจเสี่ยงต่อจากโกะหยง ซึ่งในตอนแรกนั้นอาการเจ็บป่วยของโกะหยงนั้นดูไม่หนักหนามาก ซุนกวนส่ง Zhao Quan หมอหลวงให้ไปดูอาการโกะหยงหลังจากนั้นก็แต่งตั้งให้ลูกจากของเขา Gu Ji เป็น Qi Du Wei (แม่ทัพทหารม้า) เมื่อโกะหยงทราบเรื่อง เขาเสียใจมากบอกว่า Zhao Quan นั้นเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์อาการคนไข้ ตัวข้าแน่ใจว่า คงไม่อาจหายจากโรคนี้ได้แล้ว ซุนกวนถึงได้แต่งตั้งลูกชายข้าเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ข้าได้วางใจที่เห็นบุตรตัวเองก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ ซุนกวนเสียใจอย่างมากเมื่อโกะหยงเสียชีวิต งานศพถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและซุนกวนเลื่อนตำแหน่งให้โกะหยงเป็น Ri Su Hou (พระยา)




 

Create Date : 06 ตุลาคม 2548    
Last Update : 6 ตุลาคม 2548 0:13:16 น.
Counter : 1701 Pageviews.  

ประวัติซุนเจ้ง

ซุนเจ้ง ชื่อรอง Youtai เป็นน้องชายของซุนเกี๋ยน เมื่อซุนเกี๋ยนเริ่มอาชีพขุนนาง ซุนเจ้งก็เริ่มอาชีพของเขาร่วมกับ Xiang Qu และ Zong Shi กับทหารคนอื่นอีกห้าหกร้อยคน โดยหน้าที่ของเขาเป็นเหมือนทหารรักษาการณ์

เมื่อซุนเซ็กได้ชัยชนะเหนือกองทัพเล่าอิ้วและต้องการที่จะยึดครองหัวเมืองอื่น ๆ ซุนเซ็กเคลื่อนพลเข้าโจมตีเมืองห้อยแข และส่งคนไปเชิญซุนเจ้งให้มาเข้าร่วมกับเขา เนื่องจากทั้งสองเป็นญาติสนิทกัน ซุนเจ้งจึงเข้าร่วมกับซุนเซ็กระหว่างทางที่เมือง Qian Tang

ในเวลานั้น อองลอง เป็นเจ้าเมือง ห้อยแข เขายกทัพออกมาป้องกันซุนเซ็กที่ Guling ริมฝั่งแม่น้ำ ซุนเซ็กพยายามข้ามผั่งไปเพื่อโจมตีหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่สามารถเอาชนะอองลองได้

ซุนเจ้งจึงแนะนำซุนเซ็ก ว่าอองลองนั้นป้องกันการเส้นทางการเดินทัพของเรา โดยการรักษากำแพงเมืองอย่างแน่นหนา มันเป็นการยากในการเข้ายึดครองเมือง แต่ยังมีอีกเส้นทางหนึ่งที่สามารถเข้าสู่ ห้อยแข ได้ เส้นทางนี้เรียกว่า Zha Du อยู่ห่างจากค่ายเราสิบลี้ทางตอนใต้ เส้นทางนี้ถือว่าเป็นเส้นทางเดินทัพที่สำคัญของอองลองเช่นกัน เราคววรจะยกทัพส่วนใหญ่ไปตามเส้นทางนี้แล้ววกกลับมาด้านหลังทัพอองลอง การเข้าโจมตีทางด้านหลังโดยที่ทัพศัตรูไม่ได้เตรียมการป้องกัน เราควรจะเคลื่อนทัพในเวลาที่ทัพอองลองไม่สนใจสอดแนมทัพเรา ข้าขอเสนอตัวที่จะนำทหารบางส่วนไปเพื่อตลบหลังทัพอองลองเอง ถ้าแผนการเราสำเร็จ ทัพอองลองจะต้องแบ่งทหารออกเป็นสองส่วนเพื่อที่จะรับมือฝ่ายเรา ทำให้ไม่สามารถรวมกำลังป้องกันที่จุดเดียว เมื่อนั้นโอกาสย่อมเปิดให้กับชัยชนะของเรา ซุนเซ็กตอบว่า แผนของท่านอาดีจริง ๆ แล้วซุนเซ็กก็ออกคำสั่งโดยบอกว่า สองสามวันมานี้ น้ำดื่มของเราไม่สะอาด ทำให้ทหารของเรามีปัญหาท้องร่วง ดังนั้นข้าจะให้ทหารจำนวนหนึ่งออกไปหาน้ำสะอาดเพื่อแก้ปัญหานี้

ซุนเจ้งมาถึงค่ายของอองลองในเวลาเที่ยงคืนและได้ลอบเข้าไปวางเพลิงในค่ายของอองลองสร้างความสับสนวุ่นวายภายในค่าย หลังจากนั้นซุนเจ้งแบ่งกำลังส่วนหลังไปรักษาการที่เส้นทาง Zha Du หลังจากนั้นก็เข้าโจมตี Gaotian และใช้ที่ตั้งมั่นกองทัพของเขา อองลองวิตกมากที่ทัพของเขาโดนขนาบไว้จึงส่งสารขอความช่วยเหลือจาก จิวซิ่นเจ้าเมืองตันเอี๋ยง ขอให้จิวซิ่นนำกำลังเข้าโจมตีซุนเซ็ก แต่ซุนเซ็กสามารถเอาชนะทัพจิวซิ่นและ ประหารจิวซิ่นได้และยกทัพไปยึดเมืองห้อยแขได้

จากความสำเร็จในการยึดเมืองห้อยแข ซุนเจ้งมีความดีความชอบมาก เขาถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลและซุนเซ็กเองต้องการที่จะแต่งตั้งให้ซุนเจ้งได้รับตำแหน่งที่สูงกว่านี้ แต่ซุนเจ้งมีความผูกพันกับสุสานของตระกูลซุน ไม่ต้องการได้รับยศถาบรรดาศักดิ์ใหญ่โต เขาจึงขอร้องให้ซุนเซ็กแต่งตั้งให้เขามีหน้าที่ดูแลหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เป็นที่ตั้งของสุสานตระกูลซุน ซุนเซ็กก็แต่งตั้งตามที่อาเขาร้องขอ เมื่อซุนกวนขึ้นครองอำนาจต่อจากซุนเซ็ก เขาแต่งตั้งให้ซุนเจ้งได้รับตำแหน่งแม่ทัพและตำแหน่งนี้ก็สืบทอดในตระกูลของซุนเจ้ง




 

Create Date : 04 ตุลาคม 2548    
Last Update : 13 ตุลาคม 2548 0:22:19 น.
Counter : 860 Pageviews.  

ประวัติเทียเภา

เทียเภา ชื่อรอง เต๋อะโหมว (Demou) เป็นชาวเมืองถู่อิ๋นในอิ๋วเป่ยผิง เขาเริ่มรับราชการเป็นขุนนางสังกัดเจ้าเมืองนั้น เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมเชี่ยวชาญกลยุทธต่าง ๆ เมื่อเขาติดตามรับใช้ซุนเกี๋ยน Yuzhaเขาร่วมต่อสู้เคียงข้างซุนเกี๋ยนไม่ว่าจะเป็นการรบกับโจรผ้าเหลือง หรือศึกที่ชนะตั๋งโต๊ะ เทียเภาเป็นแม่ทัพที่มักจะร่วมสู้รบกลางสมรภูมิด้วยเสมอ จนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแผลเป็นมากมาย

เมื่อซุนเกี๋ยนตาย เทียเภาไปที่ Huainan ติดตามรับใช้ซุนเซ็ก หลังจากซุนเซ็กชนะศึกที่โลกั๋ง เทียเภาก็ติดตามซุนเซ็กในการศึกตะวันออก เมื่อซุนเซ็กทำสงครามกับหัวเมืองต่าง ๆ สร้างรากฐานอำนาจในง่อ เทียเภามีส่วนร่วมในการศึกทุกครั้งและมีความดีความชอบมากมาย ซุนเซ็กตั้งให้เขามีอำนาจควบคุมทหารในสังกัดกว่าสองพันคนและทหารม้าห้าสิบคน เมื่อซุนเซ็กเข้ายึดครองเมืองห้อยแข เขาแต่งตั้งเทียเภาให้เป็นแม่ทัพควบคุมกองทัพในเมืองง่อและให้ดูแลเมือง Qiantang หลังจากนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองตันเอี๋ยง ในระหว่างครองอำนาจนั้นเทียเภาได้ทำการปราบปรามโจรผู้ร้ายต่าง ๆ ในหลายท้องที่

ในการศึกครั้งหนึ่งของซุนเซ็กกับ Zu lang ซุนเซ็กถูกรอบล้อมไปด้วยข้าศึก เทียเภาฝ่าวงล้อมเข้าป้องกันซุนเซ็ก เทียเภาควบม้าพร้อมร้องตะโกน ใช้หอกไล่แทงศัตรู จนศัตรูที่รุมล้อมซุนเซ็กล่าถอยไป ความดีความชอบในการช่วยเหลือซุนเซ็กทำให้เขาได้รับตำแหน่งแม่ทัพผู้ปราบปรามโจรผู้ร้าย และตำแหน่งเจ้าเมืองเลงเหลง หลังจากนั้นเทียเภาร่วมในการศึกสู้กับ Liu Xun ที่ Xunyang และการโจมตีหองจอที่ Shaxian

เมื่อซุนเซ็กตาย เทียเภาช่วยเหลือซุนกวนในการปกครองดินแดนง่อร่วมกับเตียวเจียวและขุนนางคนอื่น ตรวจตราลาดตระเวนสามหัวเมืองใหญ่เพื่อปราบปรามเหล่ากบฏ หลังจากนั้นก็ช่วยเหลือซุนกวนในการโจมตีกังแฮ และเมืองอิเจี๋ยง หลังจากยึดครองเมือง Le’an เขาก็ได้ตำแหน่งของไทสูจู้ และกลายเป็นแม่ทัพใหญ่ฝ่ายซ้ายร่วมกับจิวยี่แม่ทัพใหญ่ฝ่ายขวา หลังจากเอาชนะโจโฉในศึกเซ็กเพ็ก เทียเภายกทัพไปตีลำกุ๋น ทำให้ทัพของโจหยินต้องล่าถอยไป ทำให้ได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองกังแฮและ Shaxian ได้รับเบี้ยหวัดจากหัวเมืองถึงสี่หัวเมือง

ในบรรดาแม่ทัพทั้งหมดของซุนเกี๋ยน เทียเภาอายุมากที่สุด และผู้คนต่างพาคนเรียกเขาว่า ใต้เท้าเทีย เทียเภาเป็นคนจิตใจดีและนิยมชมชอบการคบหากับบรรดาบัณฑิตทั้งหมาย เมื่อจิวยี่เสียชีวิต เทียเภาได้สืบทอดตำแหน่งจิวยี่รวมทั้งตำแหน่งเจ้าเมือง Nanjun เมื่อซุนกวนแบ่งเกงจิ๋วกับเล่าปี่ เทียเภาจึงกลับมาเป็นเจ้าเมืองกังแฮตามเดิมและได้รับตำแหน่งนายพลผู้ปราบปรามอาชญากร เขาตายหลังจากนั้นไม่นาน หลังจากที่ซุนกวนประกาศตัวเป็นฮ่องเต้ เขาทำการสดุดีความดีความชอบในอดีตของเทียเภาและแต่งตั้งลูกชายเทียเภา Cheng Zi เป็น Marquis




 

Create Date : 03 ตุลาคม 2548    
Last Update : 5 ตุลาคม 2548 1:27:55 น.
Counter : 3913 Pageviews.  

ประวัติจิวท่าย



จิวท่าย ชื่อรองอิ้วผิง (Yuping) ชาวเมืองเสี้ยไช้ (แฮณ้อ)ใน เมืองจิ่วเจียง มณฑลอันฮุย เข้ารับใช้ซุนเซ็กพร้อมเจียวขิม จิวท่ายรับใช้ซุนเซ็กในตำแหน่งองครักษ์ ทั้งคู่มีชื่อเสียงจากการปฏิบัติหน้าที่อย่างดีและความสามารถในการรบ เมื่อซุนเซ็กเข้าสู่เมืองห้อยแข จิวท่ายถูกแต่งตั้งเป็นนายทหารมีทหารในสังกัดของตัวเอง ซุนกวนชอบในบุคลิกของจิวท่ายมาก จึงขอจิวท่ายจากซุนเซ็กให้มาอยู่ในสังกัดของเขา

ครั้งหนึ่งเมื่อซุนเซ็กยกทัพไปปราบกบฏชาวเผ่าซานเย่ว์ จากหกหัวเมือง ซุนกวนถูกทิ้งไว้ป้องกันเมืองซวน พร้อมทหารไม่ถึงพันนาย และด้วยการละเลยไม่เตรียมพร้อมทหารในการป้องกันเมือง กบฏซานเย่ว์หลายพันเข้าโจมตีเมืองและชนะอย่างง่ายดาย ซุนกวนควบม้าหนีแต่กลุ่มกบฏล้อมซุนกวนไว้ มีแต่จิวท่ายนั้นช่วยป้องกันซุนกวน จนต้องโดนอาวุธที่เล็งโจมตีซุนกวนหลายครั้ง จิวท่ายยังตะโกนเรียกขวัญกำลังใจให้ทหารคนอื่นมีกำลังใจต่อสู้กับเหล่ากบฏ เมื่อกบฏแยกย้ายหลบหนีไป จิวท่ายมีบาดแผลสาหัสสิบสองแผลทั่วร่าง ซึ่งต้องรักษาเป็นเวลานาน ถ้าจิวท่ายไม่อยู่ในวันนั้น ซุนกวนก็คงเสียชีวิตไปแล้ว วีรกรรมครั้งนี้ของจิวท่ายถูกใจซุนเซ็กยิ่งนัก เขาแต่งตั้งจิวท่ายให้ดูแลเมือง Chunju หลังจากนั้นจิวท่ายติดตามซุนเซ็กโจมตีเมือง Wan และ กังแฮ เมื่อเสร็จศึกกลับมา เขาถูกมอบหมายให้ดูแลเมือง Yichun อีกเมือง หัวเมืองเหล่านี้อยู่ในครอบครองของเขาและส่งเสบียงอาหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ตามที่เขาต้องการ

จิวท่ายได้ความดีความชอบมากในการต่อสู้กับหองจอ และร่วมกับจิวยี่และเทียเภาในการรบกับโจโฉในศึกเซ็กเพ็ก และการโจมตีโจหยินทลำกุ๋น แม้ว่าฝ่ายง่อจะยึดฐานในเกงจิ๋วได้แล้ว แต่เขาและกำลังพลของเขาก็รักษาการณ์ที่เมือง Cen เมื่อโจโฉยกทัพโจมตีจากยี่สู จิวท่ายยกทัพไปช่วยต้านโจโฉ จนโจโฉหนีไปในที่สุด และจิวท่ายก็ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองยี่สูและนายพลปราบเหล่าร้าย ในเวลานั้น จูเหียน ชีเซ่งและแม่ทัพคนอื่น ๆ ก็รักษาการณ์อยู่ในดินแดนแถบนั้น ทั้งหมดต่างไม่พอใจในตำแหน่งของจิวท่ายที่สูงกว่าตัวเอง ไม่ยอมฟังคำสั่งของจิวท่าย ซุนกวนจึงต้องเดินทางไปทยี่สู เพื่อพบกับแม่ทัพนายกองทั้งหลาย งานเลี้ยงใหญ่ถูกจัดขึ้น เมื่อซุนกวนมอบเหล้าให้จิวท่ายด้วยตัวเองก็สั่งให้จิวท่ายถอดเสื้อออก แล้วชี้ไปที่แผลแต่ละแผล ถามว่าจิวท่ายได้แผลนี้มาอย่างไร จิวท่ายก็ตอบเหตุการณ์ที่เขาได้แผลแต่ละแผลมาจากการรบที่ไหนบ้าง สุดท้ายซุนกวนก็ให้จิวท่ายใส่เสื้อผ้าเหมือนเดิม และต่างร่วมฉลองกันอย่างมีความสุข วันรุ่งขึ้นซุนกวนก็ประกาศอนุญาตให้จิวท่ายร่วมเศวตรฉัตรกับตัวเองได้ เมื่อชีเช่งและแม่ทัพคนอื่นรู้ข่าวก็ยอมรับในตัวจิวท่าย

หลังจากซุนกวนปราบกวนอูได้ ซุนกวนวางแผนบุกจ๊กต่อ เขาตั้งจิวท่ายให้เป็นเจ้าเมืองฮันต๋งล่วงหน้าและเลื่อนตำแหน่งเป็นแม่ทัพผู้สร้างความกล้าหาญ และยังมอบตำแหน่งพระยาแห่งหลิงหยางให้แก่จิวท่าย ประวัติการเสียชีวิตของจิวท่ายนั้นไม่แน่นอน อยู่ระหว่างปี AD222-228




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2548    
Last Update : 6 กรกฎาคม 2549 18:35:18 น.
Counter : 2530 Pageviews.  

1  2  

kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.