Group Blog
 
All Blogs
 
ปี 210 AD

ปี Jian’an ที่ 15 210 AD
(14 กุมภาพันธ์ 210 - 31 มกราคม 211)

ในฤดูใบไม้ผลิ มีพระราชโองการป่าวประกาศว่า
Meng Gongchuo มีความสามารถมากพอที่จะเป็นขุนนางใหญ่ของ Zhao หรือ Wei แต่ไม่มีความสามารถเพียงพอจะครองตำแหน่งใหญ่ในสมัย Teng หรือ Xue ถ้าคนต้องซื่อสัตย์ถึงจะได้ครองตำแหน่ง แล้วฉีหวนกงจะขึ้นครองราชย์ได้อย่างไร ทุกคนต้องช่วยข้าเพื่อเสาะหาบุคคลที่ถ่อมตัวและซ่อนเร้น โปรดแนะนำคนที่มีความสามารถ เพื่อที่ข้าจะได้ใช้สอยพวกเขา

ในเดือนที่สองวันที่ 13 มีนาคม วันแรกของเดือนมีปรากฏการณ์สุริยะปราคา

ในฤดูหนาว โจโฉได้สร้างปราสาทนกทองแดงที่เงียบกุ๋น

ในเดือนที่สิบสองวันที่ 1 มกราคม โจโฉได้ออกประกาศว่า

เมื่อแรกเริ่มข้าได้ถูกแนะนำเป็นบุตรกตัญญู ข้าเชื่อว่าข้าไม่มีชื่อเสียงเท่าเหล่าบัณฑิตที่ถือสันโดษ ข้าเกรงว่าผู้คนจะพากันดูถูกข้าว่าเป็นคนที่มีเพียงความสามารถสามัญธรรมดา ข้าจึงพยายามสร้างชื่อเสียงโดยทำคุณงามความดีให้แก่บ้านเมือง

ที่ จี้หนาน แม้ว่าข้าจะได้ทำลายศัตรูและขับไล่คนชั่ว และข้าเชื่อว่าคนที่ข้าแต่งตั้งหรือเลื่อนขั้นนั้นสมควรแล้ว แต่ด้วยเหตุนั้น ข้าได้เป็นศัตรูกับผู้ทรงอำนาจ ข้ากลัวว่าข้าจะนำหายนะมาสู่ครอบครัวข้า ดั้งนั้นข้าจึงแสร้งป่วยเพื่อขออนุญาตกลับบ้าน

ข้าในตอนนั้นยังเด็กนัก ข้าสร้างบ้านอย่างดีห่างจาก Qiao ห้าสิบลี้ทางตะวันออก และข้าจะอ่านหนังสือในฤดูใบไม้ร่วงและหน้าร้อน และออกล่าสัตว์ในฤดูร้อนและใบไม้ผลิ นี่คือแผนการข้าสำหรับยี่สิบปี เพื่อรอคอยการรวมตัวใหม่ของราชสำนัก แล้วค่อยปรากฏตัวเพื่อรับราชการอีกครั้ง

แต่เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่ข้าคาดคิด ข้าถูกเรียกตัวเข้าเมืองหลวงถูกแต่งตั้งเป็นขุนพลจัดการกองทัพ อีกครั้งที่ข้าได้เปลี่ยนความคิด และพยายามหาทางทำงานเพื่อบ้านเมือง ทำลายล้างกบฏและแสวงหาความสำเร็จ ข้ามีศิลาจารึกหลุมศพที่เตรียมไว้สำหรับตัวข้าแกะสลักไว้ว่า อดีตแม่ทัพผู้ปราบปรามทิศตะวันตก พระยาแซ่โจแห่งราชวงศ์ฮั่น นี่คือจุดมุ่งหมายสูงสุดของข้า

แต่เมื่อสิ่งต่าง ๆ เลวร้ายเพราะตั๋งโต๊ะ ข้าจึงได้รวบรวมกองทัพผู้ภักดี และต่อมาข้าได้ครองมณฑกุนจิ๋ว ข้าได้กวาดล้างและทำให้โจรผ้าเหลืองสามแสนคนยอมจำนน ข้าได้โจมตีโจรกบฏอ้วนสุด และทำให้มันตายอย่างอดสูและอนาถา ข้าได้ทำลายอ้วนเสี้ยวและตัดหัวบุตรชายทั้งสองของเขา แล้วข้ายังได้จัดการกับเล่าเปียว

ดังนั้นข้าจึงได้รวมแผ่นดินอีกครั้ง ข้ากลายเป็นผู้นำ ข้ามีเกียรติยศอย่างที่สุดที่ขุนนางคนหนึ่งจะมีได้ ไกลเกินกว่าความหวังที่ข้าเคยตั้งไว้มากนัก สมมุติว่าข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ใครจะรู้ได้ว่าจะมีคนกี่คนที่จะปราบดาภิเษกเป็นฮ่องเต้ และคนกี่คนที่มุ่งหวังจะเป็นอ๋อง

อาจจะมีบางคนที่เห็นข้ามีอำนาจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่าข้าคือคนที่ได้รับโอกาสจากสวรรค์ เพื่อไม่ให้พวกเขามองข้าผิดไป และเอาไปพูดว่าข้าหวังครอบครองราชบัลลังค์

เวลานี้ข้าได้เผยความในใจที่แท้จริงของข้า ด้วยคำพูดที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจข้า

คนบางคนเสนอให้ข้ามอบอำนาจและกองทัพคืนให้ราชสำนัก แล้วเกษียณไปใช้ชีวิตอยู่ที่ Wuping ข้าไม่สามารถทำได้ เพราะว่าข้ากลัวว่าข้าจะถูกทำร้ายทันทีที่สละอำนาจในกองทัพ ข้าต้องการเตรียมการเพื่อความปลอดภัยไม่เพียงแต่ตัวข้า แต่ยังรวมถึงลูกหลานของข้าด้วย

ข้าสมควรที่จะถูกทำลายหรือ ยิ่งไปกว่านั้นแผ่นดินยังอยู่ในภาวะวิกฤต ข้ายังไม่อยากที่จะตายอย่างไร้ชื่อเสียง

ในเวลานี้ข้ามีศักดินาในสี่ตำบลพร้อมด้วยเบี้ยหวัดจากสามหมื่นครอบครัว ข้าเองยังไม่มีวีรกรรมใดเหมาะสมแก่การได้รับรางวัลมากขนาดนี้ แล้วแผ่นดินลุ่มแม่น้ำและทะเลสาบทางตอนใต้ก็ยังไม่สงบสุข ข้าไม่สามารถเกษียณตัวเองได้ แต่ข้าสามารถคืนดินแดนและที่ดินให้กับราชสำนัก ข้าจะส่งมอบสามตำบล Yangxia Zhe และ Ku คืน โดยจะเหลือไว้แต่เบี้ยหวัดจากหมื่นครอบครัวใน Wuping วิธีนี้ ข้าก็จะลดคำครหา การนินทาใส่ร้ายต่าง ๆ และข้าก็จะปลดตัวเองออกจากบางหน้าที่

ขุนนางและบัณฑิตหลายคนซึ่งเคยรับใช้เล่าเปียวได้หันมารับใช้เล่าปี่ เล่าปี่รู้สึกว่าดินแดนที่จิวยี่แบ่งให้นั้นเล็กเกินกว่าที่จะสนับสนุนกองทัพเขา เขาจึงไปที่เมืองเกงจิ๋ว ด้วยตัวเองเพื่อพบซุนกวนให้แต่งตั้งเขาเป็นแม่ทัพของมณฑลเกงจิ๋ว

จิวยี่ส่งสารไปหาซุนกวนว่า เล่าปี่เป็นศัตรูตัวฉกาจ เขามีกวนอูและเตียวหุยเป็นลูกน้องที่เก่งกาจเหมือนหมีหรือเสือ พวกเขาจะไม่ยอมรับใช้ผู้ใดเป็นเวลานานแน่

ข้าแนะนำว่าแผนดีที่สุดคือการย้ายเล่าปี่ไปยังที่ทำการในง่อ สร้างบ้านพักใหญ่โตจำนวนมากให้เขาเหมือนวัง มอบผู้หญิงและทรัพย์สมบัติจำนวนมากให้เขาปลื้มปิติเพื่อปิดหูตาเขาไม่ให้รับรู้เรื่องภายนอก แยกกวนอูและเตียวหุยออกไป ให้ได้รับตำแหน่งในที่ต่างกัน และให้คนที่มีความสามารถเหมือนข้าเป็นผู้ควบคุมพวกเขาให้ต่อสู้เพื่อเรา ถ้าเราทำเช่นนี้ งานใหญ่ของเราจะสามารถสำเร็จได้

แต่ถ้าท่านไม่ระวัง และมอบดินแดนให้เล่าปี่ใช้เป็นฐานกำลังและปล่อยให้ทั้งสามอยู่ด้วยกัน ข้ากลัวว่า ปลาที่อยู่ในบ่อ จะกลายเป็นมังกรที่ได้รับสายฝน

ลิห้อมก็สนับสนุนให้ซุนกวนคอยระวังเล่าปี่อย่างใกล้ชิด เพราะว่าโจโฉที่คุกคามทางตอนเหนือ ซุนกวนจึงรู้สึกว่าเขาต้องการคนที่ต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะหาได้ เขาจึงไม่ทำตามคำแนะนำนี้ เล่าปี่จึงกลับสู่กังอั๋น

หลายปีต่อมา เล่าปี่รู้ถึงเหตุการณ์นี้ เขาถอนใจพูดว่า อัจฉริยะทั่วแผ่นดินล้วนคิดเช่นเดียวกัน ขงเบ้งได้เคยเตือนข้าว่าอย่าไป เขาระแวงว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ข้าตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก และข้าได้เดินทางไปยังง่อ มันเป็นเหมือนหายนะ ข้าเกือบจะตกอยู่ในเงื้อมมือของจิวยี่แล้ว

จิวยี่ไปที่เมืองเกงจิ๋ว เพื่อพบซุนกวนแล้วพูดว่า โจโฉพ่ายแพ้ไป เขาจะต้องห่วงถึงความภักดีของคนรับใช้รอบกายเขา เขาไม่กล้ามาทำอันตรายท่านในช่วงนี้แแน่ ข้าขออนุญาตยกทัพพร้อมแม่ทัพผู้แสดงความภักดี Sun Yu เพื่อยึดจ๊กและปราบเตียวฬ่อ ข้าจะปล่อยให้ Sun Yu อยู่รักษาการณ์ที่นั่นและเป็นพันธมิตรกับม้าเฉียวแล้วตัวข้าจะยกทัพกลับมาหาท่าน แล้วเราจะยึดเมืองซงหยง กดดันโจโฉ หลังจากนั้นเราก็จะสามารถวางแผนจัดการกับภาคเหนือ ซุนกวนเห็นด้วยกับเขา

Sun Yu เจ้าเมืองตันเอี๋ยงเป็นบุตรชายของซุนเจ้งซี่งเป็นน้องชายซุนเกี๋ยน

จิวยี่กลับมาที่เมืองกังเหลงเพื่อเตรียมการยกทัพ แต่เขากลับล้มป่วยในระหว่างเตรียมการณ์ เขาส่งสารไปหาซุนกวนว่า ไม่ว่าชีวิตคนเราจะสั้นหรือยาวล้วนขึ้นอยู่กับลิขิตฟ้า ไม่มีใครสามารถฝ่าฝืนได้ สิ่งที่ข้าเสียใจเพียงอย่างเดียวคือความปรารถนาอันต่ำต้อยของข้ายังไม่สำเร็จ และข้าจะไม่ได้รับคำสั่งสอนและคำแนะนำจากท่านอีก

ในตอนนี้ โจโฉอยู่ทางตอนเหนือ ชายแดนของเรายังไม่สงบสุข เล่าปี่อยู่กับเราซึ่งก็เหมือนกับเรากำลังเลี้ยงเสือ เราไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์จะพลิกผันไปเช่นไร นี่คือเวลาที่ขุนนางจะพากันห่วงเรื่องตัวเองทีหลัง เพราะว่าพวกเขาจะต้องกังวลกับปัญหาของบ้านเมืองที่จะเกิดขึ้น และผู้ครองแคว้นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

โลซกเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์และเป็นคนที่จิตใจดีงาม เขาไม่เคยละทิ้งหน้าที่ความรับผิดชอบ ให้เขาสืบทอดตำแหน่งของข้า ถ้าท่านรับฟังคำแนะนำของข้า ข้าก็นอนตายตาหลับ จิวยี่เสียชีวิตที่ Baqiu

เมื่อซุนกวนรู้ข่าว เขาเศร้าโศกพูดว่า กงจิ้น (จิวยี่)มีความสามารถที่จะช่วยเหลือฮ่องเต้ เขาตายทั้งที่อายุยังสั้นนัก แล้วใครที่ข้าจะไว้ใจได้ต่อไปนี้ ซุนกวนเดินทางไปที่ Wuhu เพื่อร่วมงานศพของจิวยี่

จิวยี่มีบุตรสาวหนึ่งคนและบุตรชายสองคน ซุนกวนให้ ซุนเต๋งบุตรชายคนโตของเขาแต่งงานกับบุตรสาวจิวยี่ และแต่งตั้ง จิวซุนบุตรชายจิวยี่เป็นนายทหารม้าและมอบลูกสาวเขาให้แต่งงานด้วย จิวอิ๋นบุตรชายอีกคนเป็นนายทหารผู้รักษาขนบธรรมเนียมและแต่งงานกับผู้หญิงในสกุลซุน

ก่อนหน้านั้น จิวยี่ได้เคยเป็นเพื่อนกับซุนเซ็ก มารดาของซุนกวนคอยบอกซุนกวนอยู่เสมอให้ปฏิบัติต่อจิวยี่เหมือนเป็นพี่ชาย เมื่อซุนกวนได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ลูกน้องของเขาก็ยังปฏิบัติต่อเขาไม่มากไปกว่าการเคารพตามธรรมเนียม แต่จิวยี่เป็นคนแรกที่ให้ความเคารพเขาอย่างจริงใจ และคอยดูพิธีการให้เหมือนเป็นเสนาบดีของเขา

เทียเภาถือตัวว่าอาวุโสกว่าจิวยี่ และมีตำแหน่งสูงกว่า เขามักจะพูดจาหยาบคายกับจิวยี่ แต่จิวยี่ไม่ถือสาเรื่องตำแหน่งและมักจะปฏิบัติต่อเทียเภาด้วยความเคารพ ไม่เคยต่อล้อต่อเถียงคำพูดของเทียเภา ไม่นานเทียเภาก็มาชื่นชมจิวยี่ เชื่อฟังจิวยี่ด้วยความเคารพและทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน เทียเภามักจะพูดกับคนอื่นว่า อยู่กับจิวยี่ก็เหมือนการดื่มสุรารสแรงด้วยไม่มีน้ำกลั้วคอ ท่านจะเมาก่อนที่ท่านจะรู้ตัวเสียอีก

ซุนกวนแต่งตั้งให้โลซกเป็นขุนพลผู้มั่นคง และมีอำนาจเหนือกองทัพจิวยี่ แล้วซุนกวนได้แต่งตั้งเทียเภาเป็นเจ้าเมือง Nan

โลซกแนะนำซุนกวนให้เล่าปี่ยืมมณฑลเกงจิ๋ว เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายจะได้มีกำลังต่อสู้กับโจโฉด้วยกัน ซุนกวนเห็นด้วย เขาแบ่งอิเจี๋ยงเพื่อสร้างหัวเมืองกวนหยงและเตียงสาเพื่อสร้างเมือง Hanchang เทียเภากลับมาอีกครั้งและได้รับตำแหน่งเจ้าเมืองกังแฮ ในขณะที่โลซกเป็นเจ้าเมือง Hanchang และตั้งค่ายที่ลกเค้า

ก่อนหน้านั้น ซุนกวนพูดกับลิบองว่า เวลาเจ้ามีตำแหน่งขุนนาง เจ้าต้องศึกษาตำราบ้างแล้ว ลิบองแย้งว่าเขานั้นวุ่นวายเกินไปอยู่แล้วกับการจัดการต่าง ๆ ในกองทัพ แต่ซุนกวนตอบว่า ข้าไม่ได้ขอร้องให้เจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญตำราเหมือนดั่งบัณฑิต แค่อ่านอย่างผิวเผินเพื่อศึกษาเหตุการณ์ในอดีต เจ้าพูดว่าท่านมีสิ่งต่าง ๆ ให้ทำมากมาย แต่งานของเจ้าคงไม่ยุ่งเท่างานของข้า ข้าคงหาเวลาอ่านหนังสืออยู่เสมอ และข้าเชื่อว่าความรู้ในหนังสือมีผลกับความสำเร็จของข้า

ดังนั้นลิบองจึงเริ่มศึกษาตำรา เมื่อโลซกผ่านไป Xunyang โลซกสนทนากับลิบองแล้วก็ประหลาดใจมากพูดว่า ท่านช่างเฉลียวฉลาดนัก หาใช่ลิบองคนเดิมในอดีตไม่

เมื่อสุภาพชนไม่พบหน้ากันสามวัน ลิบองตอบ พวกเขาควรจะล้างตาของพวกเขาเมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง (เพื่อจะพินิจอย่างละเอียดว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนไปอย่างไร) ทำไมพี่ท่านจึงใช้เวลานานกว่าจะสังเกตตัวข้า

โลซกแสดงความเคารพต่อมารดาลิบอง สาบานเป็นเพื่อนและเดินทางต่อไป

เล่าปี่ได้ส่งบังทองขุนนางของเขาไปเป็นนายอำเภอลอยเอี๋ยง ทั้งอำเภอถูกบริหารอย่างไม่สู้ดีนัก เล่าปี่จึงปลดบังทองจากตำแหน่ง

โลซกเขียนไปหาเล่าปี่ว่า บังทองไม่ใช่คนที่มีความสามารถบริหารร้อยลี้ แต่ตั้งให้เขาเป็นขุนนางที่ว่าการท่านหรือให้เป็นนายทหารคนสนิท แล้วเขาจะพบตำแหน่งที่เหมาะสมกับเขา ขงเบ้งก็ให้คำแนะนำเช่นเดียวกับโลซก

เล่าปี่สนทนากับบังทอง และได้ความคิดดี ๆ มากมายจากความสามารถเขา เขาจึงแต่งตั้งบังทองเป็นขุนนางในที่ว่าการของเขา ไว้วางใจเขา และปฏิบัติต่อเขาอย่างดี น้อยกว่าขงเบ้งเพียงเล็กน้อย บังทองและขงเบ้งนั้นถูกแต่งตั้งเป็นแม่ทัพสามัญชนควบคุมกองทัพทั้งคู่

ก่อนหน้านั้น Shi Xie แห่งซังงาว เป็นเจ้าเมือง Jiaozhi Zhu Fu ผู้ตรวจการมณฑลเกียวจิ๋ว ถูกโจรกบฏฆ่าตายและทั้งมณฑลตกอยู่ในสภาวะวุ่นวาย

Shi Xie ได้เสนอน้องชายของเขาต่อราชสำนัก Shi Yi จึงกลายเป็นเจ้าเมือง Hepu Shi Hui เป็นเจ้าเมือง Jiuzhen Shi Wu เป็นเจ้าเมือง Nanhai

Shi Xie เป็นคนที่อดทน ใจกว้าง มีน้ำใจดีงาม คนดีมีฝีมือจำนวนมากจากภาคกลางล้วนมารับใช้เขา ทั้งมณฑลอยู่ห่างเป็นหมื่นลี้จากราชสำนัก ล้วนอยู่ภายใต้การปกครองของเขา และเขาก็ไม่มีคู่แข่ง เมื่อเวลาผ่านไป อำนาจและเกียรติยศของเขาก็มากขึ้น เมื่อเขาเดินทางไปที่ใด เขาจะนำตราตั้งตำแหน่งนำหน้าขบวนและองครักษ์ที่คุ้มครองเขาก็กล้าแข็งนัก เหล่าคนเถื่อนก็กลัวและพากันรับใช้เขา

ราชสำนักส่ง Zhang Jin แห่ง Nanyang มาเป็นผู้ตรวจการมณฑลเกียวจิ๋ว Zhang Jin เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ ภูติผีปีศาจ เขามักจะใส่เสื้อผ้าสีม่วงแดง เขาตีกลองและดีดพิณและเผาเครื่องหอม เขาอ่านหนังสือลัทธิเต๋าแล้วพูดว่า สิ่งนี้จะช่วยข้าบริหารมณฑล เขาถูก Ou Jing ลูกน้องเขาฆ่าตายต่อมา

เล่าเปียวส่ง Lai Gong แห่งเลงเหลงไปแทนที่เขา และเมื่อ Shi Huang เจ้าเมือง ซังงาว เสียชีวิต เล่าเปียวส่ง อาวสิ้ว มาแทนที่เขา ราชสำนักให้รางวัล Shi Xie เป็นแม่ทัพสุภาพชนแห่งราชสำนักผู้ปราบทิศใต้เพื่อปกครองเจ็ดหัวเมือง โดยยังดำรงตำแหน่งเจ้าเมือง Jiaozhi

อาวสิ้วและ Lai Gong ทะเลาะกัน อาวสิ้วจึงนำทัพขับไล่ Lai Gong Lai Gong จึงหนีกลับมาเลงเหลง

ซุนกวนแต่งตั้งโปจิดเจ้าเมืองกวนหยงเป็นผู้ตรวจการมณฑลเกียวจิ๋ว Shi Xie นำพี่น้องของเขาเข้าร่วมกับโปจิดและเชื่อฟังคำสั่งเขา อาวสิ้วยอมจำนนแต่ยังต่อต้านอย่างลับ ๆ โปจิดให้อาวสิ้วเข้าพบแล้วสังหารเขาเสีย ชื่อเสียงและอำนาจของโปจิดจึงแผ่ไปทั่วมณฑล

ซุนกวนแต่งตั้ง Shi Xie เป็นขุนพลซ้าย และ Shi Xie ส่งบุตรชายเขามาเป็นตัวประกัน ทำให้ดินแดนตอนใต้ของ Nanling ตกอยู่ในครอบครองของซุนกวนเป็นครั้งแรก


Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 1 มิถุนายน 2549 21:32:30 น. 0 comments
Counter : 1637 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kazama
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add kazama's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.