Group Blog All Blog
|
วิธีทำงานให้สนุก และสร้างสุขในชีวิต ของเดล คาร์เนกี้- How to Enjoy your life & Your Job - Dale Carne <b>วิธีทำงานให้สนุก และสร้างสุขในชีวิต ของเดล คาร์เนกี้ - How to Enjoy your life & Your Job - Dale Carnegie ได้อ่านหนังสือวิธีทำงานให้สนุก และสร้างสุขในชีวิต ของเดล คาร์เนกี้ How to Enjoy your life & Your Job - Dale Carnegie แล้ว ดีมากเลย ก็อยากมาสรุปให้ฟังค่ะ ภาค 1. เส้นทางสู่สันติสุข - "จงเป็นตัวของเตัวเอง ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้ที่เหมือนคุณ" - ไม่มีใครหรอกที่ชอบของปลอม ของเก๊- คนไม่เป็นตัวของตัวเอง จะใช้สมรรถภาพอันโดดเด่นได้เพียง 10% -> ทำให้ดำรงชีวิตห่างไกลจากจุดหมายที่เขาควรจะก้าวไปถึง - ศิลปะทุกอย่าง - เกิดจากมนุษย์เป็นตัวของตัวเอง - การฝึกจิตใจเพื่อนำไปสู่สันติสุข กฎข้อแรกคือ "อย่าเลียนแบบผู้อื่น จงค้นหาตัวเองให้พบ และเป็นตัวของเราเอง --------------- วิธีสร้างนิสัยอันดีงามในการทำงาน จัดโต๊ะใหม่ อย่าให้กองสุมด้วยงานต่างๆ ยกเว้นงานต้องเร่งด่วน - การจัดโต๊ะให้เรียบร้อย เท่ากับการมีแม่บ้านที่ดี = บันไดขั้นแรกการก้าวขึ้นสู่ผู้มีสมรรถภาพสูง - กฎแห่งสวรรค์ข้อแรกคือ ความมีระเบียบ - การไม่จัดโต๊ะให้เรียบร้อย และหนักใจต่อการงานมหึมารอข้างหน้า - เกิดโรคความดันสูงฯลฯ จงปฏิบัติงานตามลำดับความสำคัญ - การเตรียมแผนงานให้เรียบร้อย จะทำอันไหนก่อน อันไหนหลัง ยังดีกว่าไม่เตรียมแผนอะไรไว้เลย - ยอร์ช เบอร์นาร์ดชอว์ มีแผนประจำวันที่จะเขียนหนังสือวันละ 5 หน้า (เขาเป็นแคชเชียร์ธนาคาร) -> ปฏิบัติเคร่งครัด จนมีชื่อเสียงโดดเด่น เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา - ถ้าคุณมีข้อมูลปัญหานั้นพร้อมสรรพ - จงตัดสินใจทันที อย่าลังเล - ปัญหาทุกข้อต้องลงมติ ก่อนจะนำปัญหาใหม่เข้าสู่วาระการประชุม - ผล = การประชุมดำเนินรวดเร็ว , คณะกรรมการไม่ต้องหอบรายงานต่างๆ กลับบ้าน, คณะกรรมการไม่ต้องวิตกกังวลว่า ยังมีปัญหาคั่งค้างอยู่ รู้จักจัดระเบียบงาน แบ่งภาระให้ผู้อื่นทำแทน และมีวิธีควบคุมดูแล - การแบ่งงานให้ผู้อื่นทำแทน จำเป็นยิ่ง -> ขจัด ความวิตกกังวล,ความหงุดหงิด,อ่อนล้าเพลียแรง - นักธุรกิจผู้สร้างกิจการเจริญเติบโต- แต่ไม่รู้จักจัดระเบียบงาน, ไม่รู้จักวิธีแบ่งเบาภาระให้ผู้อื่นทำแทน, ไม่รู้จักวิธีควบคุมดูแล--> พบโรคหัวใจตอนอายุ 50-60 ปี ------------------------------------------------ วิธีขจัดความเหนื่อยอ่อน- - การทำงานใช้แต่สมองอย่างเดียว -> ไม่สามารถทำให้คุณเหนื่อยอ่อนได้ - ความอ่อนเพลีย - เกิดจากความผันแปรของอารมณ์และจิตใจ - บ่อเกิดสำคัญความอ่อนเพลีย = ความวิตกกังวล, ประสาทตึงเครียด อารมณ์ไม่สมมาดปรารถนา - ดวงตา บันดาลประสาทให้คลายความเคร่งเครียด - หลับตา เอนหลัง พูดซ้ำๆ ช้าๆ 1 นาที - "ผ่อนคลายเถิด ผ่อนคลายได้แล้ว เลิกคร่ำเคร่งเสียที" ไม่กี่วิ ดวงตาเริ่มปฏิบัติตามคำพูด -1 นาที แล้วไปที่ขากรรไกร, กล้ามเนื้อใบหน้า,คอ,ไหล่, ทุกส่วน - พักผ่อนหย่อนใจ ทำได้ทุกแห่งในเวลาเล็กๆน้อยๆ อย่าฝืนใจ - ปลูกฝังนิสัยการพักผ่อนหย่อนใจ -------------------------------------------------------- วิธีกำจัดความเบื่อหน่าย - สาเหตุใหญ่ความอ่อนเปลี้ยเพลียแรง = ความเบื่อเหน่าย - เราไม่ค่อยเหนื่อย เมื่อทำสิ่งที่สนใจและตื่นเต้น - ความเบื่อหน่าย คือสาเหตุอย่างเดียวที่ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง - ความเหนื่อยอ่อน - ไม่ได้มาจากการทำงานมากไปแต่เป็นเพราะ ความวิตกกังวล, ความไม่สมหวัง, ความขุ่นข้องหมองใจต่างหาก - เดินเคียงคู่ไปกับภรรยาหน้าง้ำกระเง้ากระงอดเพียงไมล์เดียวยังเหนื่อยล้าอ่อนเพลียกายใจมากกว่าเดินถึง 10 ไมล์ไปกับคนรักที่ยิ้มแย้มเบิกบาน - ถ้าเราแสร้งแกล้งทำเป็นมีความสุข -> เราจะมีความสุขจริงๆตามนั้น - ลดทอนความอ่อนล้าเพลียแรง ความเคร่งเครียด วิตกกังวลลงได้ - ตักไอศครีมขายนักเรียน - เปลี่ยนงานน่าเบื่อ ให้เพลิดเพลิน- โดยศึกษาว่า ไอศครีมประกอบด้วยอะไร ส่วนผสมเป็นอย่างไร, ทำไมบางสูตรจึงอร่อยยิ่งนัก -> ทำให้ได้คะแนนเยี่ยมวิชาเคมี - เบื่องานยืนข้างเครื่องจักรทำสลักเกลียว -> ทำงานน่าเบื่อให้สนุกสนาน-> ท้าช่างคุมเครื่องติดๆกัน 2 คนว่าใครจะทำงานได้มากกว่า - คำแนะนำฝากให้คนรุ่นใหม่ = การปลุกปลอบจิตใจตัวเองทุกๆเช้า จิตใจต้องบริหารทุกๆเช้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้น - การพูดปลุกปลอบใจตัวเองทุกเช้า จะให้ผลทางจิตใจมากมาย ให้คิดถึงแต่ความสันติสุข ความเข้มแข็ง -การพูดกับตัวเองถึงสิ่งต่างๆ ที่คุณต้องรู้สึกขอบคุณ ช่วยจิตใจบรรจุไว้แต่ความคิดที่เบิกบาน ชุ่มชื่น - การทำงานด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิด -> ช่วยชีวิตคุณมีความสุขขึ้นนับเท่าทวีคูณ - ชีวิตครึ่งนึงยามตื่นอยู่ ->ใช้หมดไปกับการทำงาน ถ้าคุณไม่พบความสุขในงานคุณ -> ก็อาจจะหาไม่พบในที่แห่งไหนอีกเลยก็ได้ ------------------------------------------------ คุณค่าของชีวิต - คุณจะเอาไหม ถ้ามีใครเอาเงินล้าน มาแลกกับสิ่งที่คุณมี - ชีวิตมนุษย์มีความราบรื่น 90% และมีความยากเพียง 10% - ถ้าเราต้องการหาสันติสุข -> เราต้องเอาใจใส่ 90% ที่ราบรื่น, ละเลย 10%ที่ยุ่งยาก - แต่ถ้าเราต้องการความทุกข์ร้อนวิตกกังวล และต้องการเป็นโรคกระเพาะ - จงสนใจกับ 10%ของความยุ่งยาก -> รับรองได้สมใจ - หมอที่ดีที่สุดในโลก = อาหารที่ทรงคุณประโยชน์, ความสงบเงียบ, ความร่าเริงแจ่มใส - คุณจะยอมขายดวงตา 2 ข้าง 1000ล้านเหรียญไหม - จะยอมขายขาทั้งคู่ ขายโสตประสาท มือ ลูกๆ และครอบครัวไหม - คนเรามักจะไม่ค่อยคิดถึงสวิ่งที่ตัวเองมีอยู่แล้ว แต่กลับไปคิดถึงสิ่งที่ตัวเองไม่มี - ทุกๆ เช้าตื่นนอน คิดถึงแต่เรื่องสบายใจ พึงใจ สิ่งที่มิใช่นำมาซึ่งความกลัดกลุ้มวิตกกังวล - คิดถึงลูกสาววัยรุ่นและน่ารัก, พอใจในความโชคดีที่ตายังมองเห็นและอ่านหนังสือได้, โสตประสาทที่สัมผัสไพเราะของดนตรีได้, อาหารดีๆ เพื่อนฝูงดีๆ - เพียงล้างจานชาม -> มองเห็นประกายรุ้งในฟองสบู่ และมองเห็นนกกระจอกบินผ่นไปท่ามกลางหิมะ -> ขอบคุณพระเจ้า - ถ้าต้องการหยุดยั้งความวิตกกังวล และสร้างสันติสุข จงปฏิบัติตามกฎหนี้ "จงคิดถึงแต่ความสุขความเจริญ และอย่าคำนึงถึงความเดือดร้อน ----------------------------------------------------- วิธีจัดการกับการใส่ร้ายป้ายสี - ถ้าคุณถูกกระหน่ำด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์ - จงจำไว้ว่าเป็นเพราะผู้ตำหนิติเตียนวิพากษ์วิจารณ์ ต้องการจะเป็นบุคคลสำคัญเช่นคุณบ้างและมันหมายความว่า คุณก้าวหน้าและสำเร็จในบางอย่างที่ควรค่าแก่การสนใจ - มีคนมากมาย ที่พอใจติเตียนโจมตี ผู้ฉลาดเหนือล้ำกว่าตน, ผู้ประสบความสำเร็จมากกว่า - บุคคลต่ำต้อย จะบังเกิดความปีติยินดีอย่างยิ่ง ถ้าได้พบบุคคลผู้ยิ่งใหญ่กระทำความผิดพลาดและโง่เขลา - จำไว้ว่า ไม่มีบุคคลใดเตะสุนัขที่ตายแล้ว ----------------------------------------------------- วิธีจัดการกับคำตำหนิติเตียน- "ถ้าทำก็ถูกด่า ไม่ทำก็ถูกด่าล่ะก็ จงทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้องก็แล้วกัน"- ตราบใดก็ตาม ที่หนูแน่ใจว่า ตัวเองทำถูกล่ะก็ อย่าไปสนใจเลยว่า ใครมันจะพูดว่ายังไง - ปลงตก- การอยู่ตำแหน่งใหญ่โต มีลูกน้องมากมาย -> ไม่มีวันหลีกหนีคำวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาได้พ้น - คติ : จะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นว่าดีที่สุด โดยไม่ต้องประจบเอาใจใคร หรือเกรงว่าจะมีคนมานินทาให้ร้าย - เมื่อใดถูกตำหนิติเตียนโดยไร้เหตุผล ปราศจากความเป็นธรรม จงจำกฎนี้ไว้ให้มั่น "จงทำในสิ่งที่คุณเห็นว่าดีที่สุด และกางร่มเพื่อปิดป้องไม่ให้หยดฝนแห่งคำตำหนิติเตียนมาทำให้คุณเปียกปอนได้ ที่มา - หนังสือวิธีทำงานให้สนุก และสร้างสุขในชีวิต ของเดล คาร์เนกี้ "จงทำในสิ่งที่คุณเห็นว่าดีที่สุด และกางร่มเพื่อปิดป้องไม่ให้หยดฝนแห่งคำตำหนิติเตียนมาทำให้คุณเปียกปอนได้"
ชอบเหมือนกัน แต่ไม่ทันแล้วค่ะ ดูเหมือนว่า ฝนจะสาด เล่นเอาเปียกเลย T T โดย: salanare (salanare ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:55:11 น.
|
Kat_kine
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?] |
ชอบประโยคนี้จังค่ะ ขอบคุณนะคะได้กำลังใจและข้อคิดดีๆมากมายเลย^^
สวัสดีวันทำงานค่ะ