นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า
ใน สัปดาห์หน้ากรมจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาราคาผลิตภัณฑ์นมสด พร้อมดื่ม และปุ๋ยเคมี หลังจากสินค้าทั้ง 2 รายการมีต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น จนผู้ผลิตแจ้งขอปรับราคาเข้ามา โดยการพิจารณาผลิตภัณฑ์นมสดคาดว่าจะอนุมัติให้นมสดพาสเจอร์ไรซ์และนมยูเอชที ขนาดเล็กขึ้นราคาไม่เกิน 25 สต.ต่อกล่องหรือขวด ส่วนขนาดใหญ่จะอนุมัติให้ปรับราคาตามสัดส่วน ซึ่งเป็นผลจากมติ ครม.ที่อนุมัติให้ขึ้นราคาน้ำนมดิบอีก กก.ละ 1 บาท จาก 17 บาท เป็น 18 บาท เมื่อรวมกับการปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบ 50 สต.ช่วงปลายปีที่แล้ว ทำให้ต้นทุนน้ำนมดิบปรับขึ้นราคามาแล้วถึง 1.50 บาท ส่วนการพิจารณาปุ๋ยเคมีจะอนุมัติให้ขึ้นราคาบางสูตร โดยผู้ผลิตปุ๋ยยูเรียขอปรับขึ้นราคามา 3 สูตรเฉลี่ย 8-10%
แต่ การพิจารณาอาจไม่ยอมให้ปรับราคาตามที่ผู้ประกอบการเสนอมาทั้งหมด เพราะเกรงว่าจะกระทบกับเกษตรกรผู้ใช้ปุ๋ยมากเกินไป ส่วนสินค้าเหล็กและน้ำมันถั่วเหลือง ยังไม่เรียกประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาในเร็วๆ นี้ เพราะขอดูสถานการณ์ต้นทุน และปริมาณสินค้าอย่างละเอียดก่อน นาง พรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงการดูแลราคาสินค้าหลังหมดมาตรการตรึงราคาในวันที่ 31 มี.ค.นี้ ประเมินว่าสินค้าส่วนใหญ่ยังตรึงราคาต่อ
โดยขณะนี้ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ได้ยืนยันจะตรึงราคาต่อไปจนถึงไตรมาส 3 ดังนั้นผู้ประกอบการรายอื่นที่ยื่นขอปรับเข้ามาในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคก็ น่าจะตรึงราคาต่อไปได้ อย่าง ไรก็ตามจะมีเพียงสินค้า 4 รายการ คือ นม ปุ๋ยเคมี เหล็ก และน้ำมันถั่วเหลืองเท่านั้น ที่อาจมีการพิจารณาให้ปรับราคา เพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง
|