แม้ว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดเก๋งเล็ก ทั้งซิตี้คาร์และอีโคคาร์จะมาแรงจนเบียดตลาดรถปิกอัพให้ค่อย ๆ มีสัดส่วนลดลง แต่บรรดาผู้ผลิตก็เห็นพ้องกันว่า ปีนี้ตลาดรถปิกอัพจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง มีการออกแบบให้ตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อบุกตลาดทั้งในประเทศและส่งออก

เริ่มต้นที่ค่ายโตโยต้าที่มี "ไฮลักซ์ วีโก้" เป็นธงในตลาดรถปิกอัพ ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่อง มียอดขายแล้วถึง 2 ล้านคัน ทำให้ในช่วง

เดือนสิงหาคมของปีที่ผ่านมาโตโยต้าได้แนะนำรุ่นใหม่คือ วีโก้ แชมป์ ที่เพิ่มเทคโนโลยี "Diamond Tech" กับการเรียนรู้การฉีดจ่ายน้ำมันด้วยความแม่นยำสูง สั่งการทำงานทั้งระบบผ่านกล่องคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ 32 บิต ไม่มีการจ่ายน้ำมันส่วนเกินในทุกรอบเครื่องยนต์ ช่วยตอกย้ำความประหยัดน้ำมันมาก
ยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ

ตามมาติด ๆ ด้วยค่ายยักษ์ใหญ่อีกรายอย่างอีซูซุ ที่ไม่รอช้าส่ง "อีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นใหม่หมด" ลงตลาด กับคอนเซ็ปต์ "รถปิกอัพ สำหรับคนทั้งโลก" กับรูปลักษณ์แนวสปอร์ต ภายในหรูหรามากยิ่งขึ้น และติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ 2500 Ddi VGS TURBO ใหม่ ในราคาจำหน่ายตั้งแต่ 465,000-994,000 บาท พร้อมแคมเปญดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.75% และดาวน์เริ่มต้นเพียง 5% ที่สร้างกระแสใหม่ของรถปิกอัพด้วยยอดจองสูงถึง 15,000 คัน ภายหลังจากเปิดตัวได้เพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดปิกอัพบ้านเรา

ด้าน ค่ายเชฟโรเลต ที่ใช้งบฯพัฒนารถปิกอัพใหม่ถึง 6 หมื่นล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปี 5 ทวีป เป็นการเริ่มต้นโครงการใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ซึ่งก็ได้ผลผลิตออกมาเป็นรถปิกอัพ "โคโลราโด" โฉมใหม่ มีการทดสอบขับมากกว่า 2.5 ล้านกิโลเมตร ตลอดกระบวนการพัฒนาโครงการนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "รถกระบะที่ลากได้ทุกสิ่ง ลุยไปได้ทุกที่" เพื่อวางจำหน่ายใน 180 ประเทศทั่วโลก

โคโลราโดมีให้เลือกมากถึง 26 รุ่นย่อย แตกต่างทั้งเครื่องยนต์ ห้องโดยสาร และความสูงของรถทั้งแบบธรรมดาและยกสูง ในตัวถัง 3 แบบ คือ ซิงเกิลแค็บ หรือปิกอัพตอนเดียว เอ็กซ์เทนเดด-แค็บ หรือปิกอัพมีแค็บ และครูว์-แค็บ หรือปิกอัพ 4 ประตู โดยมีขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร และ 2.8 ลิตร ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกในโลกที่เปิดตัวและจำหน่ายโคโลราโดรุ่นใหม่ด้วย

ขณะที่ ค่ายมิตซูบิชิ แม้ว่า รถปิกอัพอย่าง มิตซูบิชิ ไทรทัน จะยังไม่มีการเปลี่ยนรูปโฉมที่ชัดเจน แต่ค่ายมิตซูฯ ได้ส่งรถโมเดล 2012 กับมิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส เกียร์ธรรมดา

รุ่นตกแต่งพิเศษสีขาวมุกไวท์เพิร์ล เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอีกรุ่น กับเครื่องยนต์ 3 สไตล์ให้เลือก ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล 2.5 วีจี เทอร์โบ ส่งกำลัง 178 แรงม้า เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20 และเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.4 ลิตร พร้อมระบบซีเอ็นจีที่โดดเด่นในเรื่องของความประหยัด

จากการเลือกใช้งานได้ 2 ระบบ ทั้งซีเอ็นจี และน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์อี 20 รองรับงานบรรทุก

ฟาก ค่ายฟอร์ด ก็กระโดดลงมาเล่นในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเปิดตัวรถฟอร์ด เรนเจอร์ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครบทั้ง 9 รุ่น ทั้งขนาด 3,200 ซีซี 2,200 ซีซี และ 2,500 ซีซี (เครื่องยนต์เบนซิน) สิ่งโดดเด่นคือ ขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน และในรุ่นไฮ-ไรเดอร์ สามารถขับลุยน้ำที่ความลึกได้ถึง 80 ซม. ส่วนรุ่นธรรมดาลุยได้ 60 ซม. มีราคาตั้งแต่ 659,000-969,000 บาท โดยฟอร์ดตั้งเป้ายอดขายรถยนต์รุ่นดังกล่าวเฉลี่ย 600-700 คันต่อเดือน ซึ่งมียอดจองจนถึงวันนี้เฉียดหมื่นคันแล้ว

นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถปิกอัพว่า "ปีนี้ผมคิดว่าตลาดรถปิกอัพจะมีการแข่งขันที่รุนแรงแน่นอน ซึ่งทุกค่ายก็ต้องพยายามจะขยายตลาดนี้ในช่วงที่ตลาดกำลังเติบโตขึ้น เพราะแม้ว่าปัจจุบันสัดส่วนรถยนต์นั่งจะเพิ่มขึ้นทำให้สัดส่วนรถปิกอัพลดน้อยลง แต่ในภาพรวมของการเติบโตทำให้จำนวนความต้องการมันยังมีอยู่สูง"

ส่วน ค่ายซูม-ซูมอย่าง มาสด้า ที่ร่วมกันพัฒนารถปิกอัพกับฟอร์ดที่อาจจะเปิดตัวรถช้ากว่าเจ้าอื่น ๆ กับ ปิกอัพ มาสด้า "บีที 50 โปร ใหม่" ก็ถือว่าพลิกรูปแบบการออกแบบรถปิกอัพได้อย่างชัดเจน ด้วยจุดเด่นรถปิ๊กอัพสไตล์เก๋ง พร้อมเครื่องยนต์ คือ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 3.2 ลิตร และ ดีไอ-ธันเดอร์ โปร 2.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 6 สปีด มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ กับราคาเริ่มต้นเพียง 5.89 แสน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ด้วยยอดจองหลังเปิดตัวได้เดือนเศษถึง 7,000 คัน

นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ปีที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติส่งผลให้

ลูกค้าชะลอการซื้อออกไปบ้าง แต่ความต้องการของผู้บริโภคยังมีอยู่อีกมาก ซึ่งคาดว่านับจากนี้เป็นต้นไปตลาดรถยนต์จะกลับมาเฟื่องฟู โดยเฉพาะในส่วนของตลาดปิกอัพที่การแข่งขันจะทวีความ

เข้มข้นและรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากเกือบทุกค่ายดันรถใหม่ของตนออกสู่ตลาดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน"

จากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เริ่มฟื้นตัวในปีนี้ทำให้ตลาดรถปิกอัพก็พลอยเติบโตตามไปด้วย ยิ่งค่ายรถมีการแข่งขันและมีตัวเลือกให้ผู้บริโภคได้เลือกมากเท่าไร

ผู้ชนะก็คือลูกค้าที่ได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ ที่ได้ใช้รถดี ๆ ซึ่งออกแบบและพัฒนามาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ