โลกที่ลุกเป็นไฟอยู่เป็นนิตย์
พระผู้มีพระภาคตรัสคาถานี้แก่หญิงประมาณ 500 คน ผู้เป็นสหายของนางวิสาขา ดังนี้ เมื่อโลกลุกเป็นไฟอยู่เป็นนิตย์ทำไมจึงมัวหัวเราะร่าเริงกันอยู่เล่าเธอทั้งหลายถูกความมืดปกคลุมอยู่ไฉนไม่แสวงหาดวงประทีปกันเล่าจาก วิสาขาสหายิกาวัตถุ ชราวรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบทตามเชิงอรรถในพระไตรปิฎกฉบับภาษาไทยของมหาจุฬาฯอธิบายแต่ละคำตามคาถาไว้ด้วยค่ะ กล่าวคือโลกลุกเป็นไฟ หมายถึง โลกสันนิวาส(โลกคือหมู่สัตว์) ถูกไฟ 11 กองคือ ราคะ โทสะ โมหะ ชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และ อุปายาส แผดเผาอยู่เป็นนิตย์ความมืด หมายถึง อวิชชา ดวงประทีป หมายถึง แสงสว่าง คือ ญาณ .......................................หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ สมาชิกนะคะบุญรักษาทั่วกันค่ะ
ว่าด้วยการสอน
"บัณฑิตพึงตั้งตนไว้ในคุณธรรมที่เหมาะสมก่อนแล้วสอนคนอื่นในภายหลัง จึงจะไม่มัวหมองบุคคลสอนผู้อื่นอย่างไร ก็พึงทำตนอย่างนั้นผู้ที่ฝึกตนดีแล้ว จึงควรฝึกผู้อื่นเพราะตนนั้นแลฝึกได้ยากยิ่ง"......................คัดจาก พระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ธรรมบท อัตตวรรคขอให้เจริญในธรรมทุกท่านค่ะ
ว่าด้วยเมตตาจิตอย่างไม่มีประมาณ
ไม่ควรเข่มเหง ไม่ควรดูหมิ่นกันและกันในทุกโอกาสไม่ควรปรารถนาทุกข์แก่กันและกันเพราะความโกรธและแค้นควรแผ่เมตตาจิตอย่างไม่มีประมาณไปยังสรรพสัตว์ ดุจมารดาเฝ้าถนอมบุตรคนเดียวด้วยชีวิต ฉะนั้นเมตตสูตรพระสุตตันตปิฎก ขุทกกนิกาย ขุททกปาฐะ
ว่าด้วยบุญกิริยาวัตถุ
ปุญญกิริยาวัตถุสูตร ว่าด้วยบุญกิริยาวัตถุจากพระไตรปิฎกเล่มที่ 25 พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ ทุติยวรรค แท้จริง พระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว พระสูตรนี้ พระอรหันต์กล่าวไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้ ภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการนี้บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการนี้ อะไรบ้าง คือ1.บุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยทาน2.บุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยศีล3.บุญกิริยาวัตถุที่สำเร็จด้วยภาวนาภิกษุทั้งหลาย บุญกิริยาวัตถุ 3 ประการนี้แลพระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความดังกล่าวมานี้แล้วในพระสูตรนั้น จึงตรัสคาถาประพันธ์ดังนี้ว่า ผู้หวังประโยชน์สุข ควรฝึกฝนบำเพ็ญบุญนี้เท่านั้นที่ให้ผลเลิศติดต่อกันไป มีสุขเป็นกำไรคือควรบำเพ็ญทาน ควรประพฤติธรรมสม่ำเสมอและควรเจริญเมตตาภาวนาบัณฑิต ครั้นเจริญธรรม 3 ประการที่เป็นเหตุให้เกิดสุขดังกล่าวมานี้แล้วย่อมเข้าถึงโลกที่มีความสุข ปราศจากการเบียดเบียนแม้เนื้อความนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสไว้แล้วข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้แลปุญญกิริยาวัตถุสูตรจบ
ว่าด้วยความยินดี
นันทติสูตร ว่าด้วยความยินดีจากพระไตรปิฎกเล่มที่ 15 สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เทวตาสังยุต นันทนวรรคเรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถีเทวดานั้นยืนอยู่ ณ ที่สมควรแล้ว ได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า.....คนมีบุตรย่อมยินดีเพราะบุตรคนมีโคย่อมยินดีเพราะโคเหมือนกันเพราะอุปธิทำให้นรชนยินดีฉะนั้น คนไร้อุปธิจึงไม่ยินดีพระผู้มีพระภาคตรัสว่า.....คนมีบุตรย่อมเศร้าโศกเพราะบุตรคนมีโคย่อมเศร้าโศกเพราะโคเหมือนกันเพราะอุปธิทำให้นรชนเศร้าโศกฉะนั้นคนที่ไร้อุปธิจึงไม่เศร้าโศกนันทติสูตรที่ 2 จบ