กุหลาบในเปลวไฟ...บทที่ 10
กุหลาบในเปลวไฟ
บทที่ 10...คณิตยา
โลกเป็นสีขาวโพลนราวกับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่มาส่องแสงอยู่เบื้องหน้า กาเซียค่อยๆ กะพริบตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับความสว่าง แล้วจึงลืมตามองสภาพแวดล้อมรอบตัว เห็นผนังห้องที่ทาด้วยสีขาวบ่งบอกว่ากำลังอยู่ที่ไหน กาเซียก็ทิ้งตัวกลับไปอย่างอ่อนระโหยทันที
พระเจ้า..เธอถูกจับมาล้างสมองอีกครั้งด้วยเจ้าเครื่องที่สามารถเลือกวันเดือนปีที่จะลบความทรงจำได้ เจ้าเครื่องห่านี้..เป็นวิวัฒนาการของกีซาลีที่เธอเองก็เพิ่งว่ามีอยู่ในโลกนี้ด้วยก็ตอนที่เธอถูกจับมาล้างสมองอยู่ครั้งสองครั้งเมื่อสองปีก่อน กาเซียนึกแล้วมองเจ้าอุปกรณ์ไฮเทคข้างเตียงด้วยสายตาเป็นอริ เครื่องล้างสมองมีลักษณะคล้ายวัตถุครอบศีรษะ มันทำงานด้วยคลื่นกระแสไฟฟ้าและมีสายระโยงระยางเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
เวลาเธอปวดหัวรุนแรงเพราะพยายามคิดเรื่องราวในอดีต เธอก็จะถูกจับมาล้างสมอง นึกสงสัยตัวเองเหมือนกันว่าบางทีที่เธอมีอากาศซึมเศร้าในระยะหลังเป็นเพราะผลข้างเคียงจากเจ้าเครื่องห่านี้หรือเปล่า.. คิดอย่างไม่สบอารมณ์ในใจ แต่กระนั้นกาเซียต้องยอมรับว่าสมองโปร่งโล่งสบายขึ้นมากหลังจากถูกล้างสมองแล้ว เธอไม่รู้สึกปวดหัวอะไรอีกเลย ก็แค่หงุดหงิดเล็กน้อยกับสภาวะสมองที่ขาดโพลน แต่มันจะเกิดขึ้นเพียงครึ่งวันแล้วเลือนหาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูพร้อมกับอาการผลักเข้ามาโดยไม่รอคำตอบ กาเซียก็กระชากเสียงขึ้นอย่างไม่รอดูว่าเป็นใคร เวลานี้เธออยากระบายอารมณ์กับใครสักคนที่ดวงซวยหลงเข้ามา คราวนี้เลือกลบความทรงจำปีไหนอีกล่ะ
ยามินผลักประตูเข้ามาเป็นคนแรกตามมาด้วยยาหยัง นากาสนรีและกาลัด ยามินเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดเผ็ดร้อนของน้องสาวในทันทีที่ก้าวเข้ามา หงุดหงิดแต่เช้าแล้วก็ยังวาจาเชือดเฉือนเหมือนเดิม ประโยคหลังเย้าน้องสาวยิ้มๆ ยามินเลี่ยงที่จะตอบคำถามของกาเซีย ยาหยังผู้เป็นพ่อเลือกที่จะลบความทรงจำในช่วงที่สั่งให้กาเซียออกปฏิบัติการงานแรกตราบจนถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เธอไปล้มฟุบอยู่ในห้องสมุด เมื่อวานซืนที่เห็นกาเซียสลบอยู่ในห้องสมุดในสภาพหัวใจเต้นอ่อนแรง มันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ยาหยังตัดสินใจนำตัวเธอมาล้างสมองอีกครั้ง
เป็นการเสี่ยงนะคะคุณยาหยังคุณยามิน เราล้างสมองเธอเกินกว่าพิกัดที่ร่างกายจะรับได้แล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันจะส่งผลหรือให้ผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง บางทีมันอาจได้ผลตรงกันข้ามถ้าสารเคมีในร่างกายเธอทำปฏิกิริยาต่อต้าน เสียงพ.ญ.ฟาติมาลอยเข้ามาในหัว
ยังไงผมก็อยากลองดูคุณฟาติมา ผมไม่อยากเสี่ยงให้ความทรงจำเธอกลับมา ถึงตอนนั้นเธออาจเจ็บปวดมากกว่าตอนนี้ก็ได้ ตอนนั้นพ่อเขาตอบออกไปอย่างนั้น
แต่คุณกำลังแก้ปัญหาไม่ถูกจุดหรือเปล่าคะ ครั้งใดที่เธอเริ่มสะกิดใจคุณจะตามไปล้างสมองเธอทุกครั้งเลยหรือไง ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันก็ว่าไม่ถูกต้องนะคะ สมองเธออาจกระทบกระเทือนมากขึ้นจนวันหนึ่งอาจยากจะรักษาเยียวยา ทำไมไม่ทุกทำอย่างให้เธอมีความทรงจำกลับคืนมาแล้วค่อยๆ เยียวยาเธอ ให้เวลาเธอปรับตัว ปรับความเสียใจกับความสูญเสียนั้น
ฉันไม่อยากเสี่ยงทำอย่างนั้นนะหมอฟาติมา ฉันไม่อยากสูญเสียเธอไปอีกแล้ว เอาล่ะไม่ต้องเสียเวลา จับตัวเธอไปล้างความทรงจำ เลือกล้างช่วงที่เธอออกปฏิบัติการงานแรกตราบจนปัจจุบัน พ่อเขาสรุปอย่างนั้น และบัดนี้ผลการล้างสมองออกมาแล้ว คลื่นสมองและปฏิกิริยาทางร่างกายเป็นปกติดีทุกอย่าง สะท้อนว่าผลการล้างสมองสำเร็จ ตอนนี้รอดูเพียงแค่ผลข้างเคียงที่จะเกิดตามมาเท่านั้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการติดตาม
เซียหลับไปกี่วัน
หนึ่งวันเต็มๆ แต่ทุกอย่างที่พวกเราทำไป ก็เพราะหวังดีกับน้องนะ ยามินพูดเสียงอ่อนโยนแล้วเดินมาหยุดยืนข้างเตียงขาวสะอาด
ใบหน้าของกาเซียเริ่มเป็นสีชมพูจางๆ สะท้อนว่าร่างกายจะกลับคืนสู่สภาพปกติในไม่ช้า ยามินพิศใบหน้าหวานซึ้งของน้องสาวด้วยดวงตาอ่อนโยน บางคราวเขาก็อดคิดไม่ได้ว่าอัสมาร์โชคดีที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของน้องสาวเขา ก็กาเซียมีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่างอย่างที่ผู้ชายทุกผู้ทุกนามถวิลหา กาเซียสวยอย่างหาตัวจับยาก..สวยจนเขายังตกตะลึงตอนที่เห็นครั้งแรกเมื่อสี่ปีก่อน ส่วนเรือนร่างนั้นเล่า ก็บอบบางหากแต่สมส่วนอย่างที่ผู้ชายทุกคนถวิลหา และสิตปัญญาก็เฉลียวฉลาดไหวพริบดีและเรียนรู้เร็ว
กาเซียยังมีชาติตระกูลดี แม้ไม่ได้เกิดในตระกูลสูงศักดิ์แต่เธอก็มีฐานะร่ำรวย แม่ของกาเซียแต่งงานใหม่กับเจ้าของบริษัทค้าน้ำมันบริษัทใหญ่ในตะวันออกกลางซึ่งรับรู้กันว่าเป็นร่ำรวยเป็นอันดับสองของดินแดนแถบนั้น พวกเขาไม่มีลูกด้วยกันฝ่ายชายจึงรักกาเซียเหมือนลูกแท้ๆ และปฏิบัติอย่างลูกแท้ๆ เสมอมา หากผู้ชายคนนั้นจบชีวิตลงก็เป็นที่รับรู้กันว่ากาเซียและแม่ของเธอจะได้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างและจะกลายเป็นเศรษฐีณีในทันที
สวย รวย ฉลาดและมีฐานะ.. เขายังไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนเพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบเหมือนอย่างกาเซีย บางคราวเขายังแอบอดคิดเล่นๆ ไม่ได้ว่ากาเซียกับเขาไม่น่าเป็นพี่น้องกัน..
กาเซียมองหน้าทุกคนแล้วนิ่วหน้า ล้างสมองเซียนี่นะ เป็นความหวังดี
ก็ใช่น่ะสิ หรือว่าอยากจะปวดหัวอย่างนั้นไปตลอด กาลัดซึ่งนิ่งฟังมาตลอด ถามประชดๆ ขึ้น
กาเซียนิ่วหน้าอีกคำรบ พวกพี่ๆ ลองดูบ้างไหมล่ะ ความทรงจำขาดๆ วิ่นๆ น่ะจะเอาบ้างไหม กาเซียพูดแล้วยกมือกุมศีรษะ โอ๊ย.. ใครก็ได้ช่วยบอกเซียทีว่าอาทิตย์ที่แล้วมันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง เซียจำอะไรไม่ได้เลย
ยาหยังซึ่งมองบุตรสาวมาพักหนึ่งถอนใจ เอ่ยว่า เลิกโวยวายได้แล้วกาเซีย แล้วก็เลิกคิดทบทวนอะไรด้วย คิดไปก็รังแต่จะปวดหัวเปล่าๆ ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก หมอฟาติมาสั่งยาให้เจ้าแล้ว ต่อไปนี้ไปไหนก็พกยาติดตัวไว้ตลอด รู้ไหมกาเซีย
กาเซียหน้ามุ่ย..
อย่าทำหน้าอย่างนั้น พ่ออนุญาตให้เซียออกไปเดินเล่นนอกฐานบัญชาการกุหลาบดำหนึ่งวันเพื่อปลอบใจ ยามินพูดแล้วหันไปทางยาหยัง ใช่ไหมครับพ่อ ฝ่ายนั้นทำหน้างง แต่เมื่อยามินขยิบตาใส่ เขาก็ไม่มีทางเลือก หันไปทางกาเซีย บอกว่า ใช่ พ่ออนุญาตให้เจ้าออกไปเดินเล่นนอกฐานบัญชาการกุหลาบดำหนึ่งวัน ไปเปิดหูเปิดตา เดี๋ยวพ่อจะให้ฟารีดาตามไปเป็นเพื่อนเจ้าด้วย เอาล่ะพักผ่อนให้สบายเย็นนี้เจ้าจะได้ออกไปสูดอากาศข้างนอก
เซียไม่เป็นไร พร้อมจะไปเดี๋ยวนี้เลย กาเซียพูดแล้วขยับเนื้อตัวซึ่งพบว่าร่างกายแข็งแรง ไม่รู้สึกเคล็ดขัดยอกบริเวณใด
เอางั้นก็ได้.. งั้นนอนอยู่นี่เดี๋ยวพ่อจะตามฟารีดามาให้ จะให้เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เจ้าเลย ยาหยังพูดแล้วชวนทุกคนออกจากห้อง เพื่อให้กาเซียได้พักผ่อนในระหว่างที่ฟารีดายังไม่มา พลันที่ออกมาจากห้องบุตรสาว เขาก็พูดขึ้นว่า
ผลการล้างสมองเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีผลข้างเคียง
ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปอย่างนั้น นากาสรีเอ่ยขึ้นขณะสาวเท้าเคียงคู่ผู้เป็นพ่อออกมาจากห้องกาเซีย เธอเข้ามาก็เพื่อสังเกตการณ์ผลการล้างสมองของน้องสาว
ผมเห็นด้วยกับนากาสรีนะครับ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปอย่างนั้น คงต้องติดตามผลข้างเคียงไปอีกระยะเพราะตอนนี้กาเซียถูกล้างสมองเกินพิกัดกว่าที่เครื่องกำหนดแล้ว
ทหารเริ่มจับกลุ่มนินทาเรื่องที่เจ้าจับอัสมาร์ไปทรมาน พ่อบอกเจ้าแล้วว่าให้ทำอย่างเงียบๆ อย่าแพร่งพรายให้ลูกน้องรู้ คราวนี้เป็นไงได้เป็นขี้ปากพลทหารสามวันเจ็ดวัน พวกมันนินทาว่าเจ้ารังแกได้แม้กระทั่งน้องชายตัวเอง พล.อ.ชาโตพูดขึ้น ขณะออกมาเดินเที่ยวตลาดกลางเมืองกีซาลีกับบุตรชายคนโต โดยมีตำรวจติดตามและมือปืนเป็นบอดี้การ์ดตามประกบอยู่ไม่ห่างนัก พล.อ.ชาโตเลือกพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษกับอัชชาร์ค เพื่อเลี่ยงพลเมืองกีซาลีที่เดินผ่านไปมาแอบได้ยิน
ตลาดสดของเมืองกีซาลีค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยชาวบ้าน ตลอดสองข้างทางมีผักผลไม้สดๆ ราคาถูกจากเรือกสวนไร่นาชาวบ้านมาวางขายแบกะดิน สลับกับเพิงขายสินค้ามือสองราคาย่อมเยาว์ พล.อ.ชาโตออกมาเดินชมตลาดในวันนี้เพราะต้องการดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทว่าอากาศร้อนอบอ้าวผสมกับฝุ่นที่ปลิวว่อนเหนืออากาศในทุกคราที่รถจิ๊บวิ่งตัดผ่านตลาดแห่งนั้น ทำให้บรรยากาศไม่น่าเที่ยวชมนัก
กีซาลีต่างกับอนาเซียตรงนี้ ที่นี่ร้อนแห้งแล้งและเต็มไปด้วยฝุ่นควัน ต่างกับอนาเซียที่ชุ่มชื่นถนนทุกเส้นทุกตรอกซอกซอยลาดด้วยยางมะตอยจึงทำให้ไม่มีฝุ่นให้หงุดหงิดกวนใจ
อัชชาร์คฟังผู้เป็นพ่อแล้วตอบว่า ก็แน่ล่ะ พวกมันเห็นสภาพสะบักสะบอมของอัสมาร์อย่างนั้น ไม่ตั้งวงนินทาก็แปลกไปล่ะ
พล.อ.ชาโตหันขวับมองอัชชาร์คทันที อัสมาร์มีสภาพหนักหนามากหรือ ถามแล้วจ้องหน้าบุตรชาย ใบหน้าอัชชาร์คบวมปูดและเขียวอมม่วงอย่างน่ากลัว
หนักอะไร เท่าๆ กับผมนั่นแหละ พ่อก็รู้อยู่หมอนั่นมือเท้าหนักแค่ไหน
นี่ขนาดจับอัสมาร์ตรึงโซ่ซ้อม เจ้ายังเจ็บเท่าๆ กับน้องอีกหรือ พล.อ.ชาโตพูดแล้วหัวเราะชอบใจ อัชชาร์คนิ่วหน้าอย่างหงุดหงิด เขาว่า
ก็แน่ล่ะ ผมไม่เคยถูกฝึกอย่างกับควายเหมือนมัน เขาหมายถึงการถูกฝึกเคี่ยวกรำอย่างหนักในหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษก่อนออกปฏิบัติงาน
พล.อ.ชาโตยังคงหัวเราะร่วน ซาเสียงหัวเราะแล้วเขาก็เอ่ยว่า แต่มันได้ผลไม่ใช่หรือ มันทำให้น้องเจ้าแกร่งเกินวัยเดียวกัน
อัชชาร์คไหวไหล่ไม่ตอบคำผู้เป็นพ่อ
พล.อ.ชาโตพินิจบุตรชาย รอยยิ้มอย่างพอใจยังเกลี่ยทั่วริมฝีปาก พล.อ.ชาโตไว้หนวดจึงทำให้ใบหน้าเขาแลดูดุและกระด้าง หากเมื่อชายสูงวัยยิ้มมันทำให้ใบหน้าเขาดูอ่อนโยนลง เขาเอ่ยเปลี่ยนเรื่องว่า แล้วนี่อัสมาร์อยู่ไหน
ผมปล่อยเขาออกจากคุกแล้ว ตอนนี้คงพักอยู่ในห้องนอน ผมให้การิมคุมอยู่
ตามหมอมาดูอาการอัสมาร์ยัง
ตามมาทำไม แค่นี้ไม่สะเทือนผิวมันหรอกครับ ขนาดผมยังไม่ต้องให้หมอดู
พล.อ.ชาโตชะงักเท้า เพียงครู่เดียวก็ก้าวต่อเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แล้วสอบอัสมาร์ ได้ผลเป็นยังไงบ้าง
อัชชาร์คนิ่วหน้าอย่างให้ความคิด ผมว่าอัสมาร์แปลกๆ
แปลกยังไง
ผมก็ตอบไม่ถูก รู้แต่ว่าหมอนั่นไม่เคยบ้าผู้หญิงแต่กับกาเซียกลับกลายมาเป็นพร้อมจะสยบแทบเท้า ผมว่าถ้ากาเซียขอให้หมอนี่ไปตาย มันก็คงยินดีทำตาม
พล.อ.ชาโตชะงัก ขนาดนั้นเลยหรือ เขานิ่วหน้าอย่างไม่อยากเชื่อนัก
แต่อัชชาร์คพยักหน้า เขาพูดต่อว่า ผมสัมผัสความรู้สึกของมันได้นะครับ มันดูพึงพอใจกาเซียมากๆ เผลอๆ อาจเอามาแทนที่โรซาลินา
พล.อ.ชาโตนิ่งอย่างใช้ความคิด ก็ไม่แปลกไม่ใช่หรือ ผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนเมียของอัสมาร์ ว่าแต่ไม่ใช่คนเดียวกันแน่ใช่ไหม ถามแล้วจ้องใบหน้าบุตรชายอย่างรอคำตอบ
ผมก็ตอบไม่ได้ หมอนั่นบอกว่าเป็นคนละคนกัน มันยืนยันว่าโรซาลินาตายไปแล้วจริงๆ
แปลก.. เป็นคราวที่พล.อ.ชาโตหลุดปากว่าแปลกบ้าง อัสมาร์รักเดียวใจเดียวจนเป็นที่รับรู้ในหมู่พวกเรา ขนาดพ่อเคยพยายามหาผู้หญิงคนอื่นมาแทนที่โรซาลินา แต่อัสมาร์ก็ปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใย แล้วนี่จะมาสยบแค่กับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้า แถมยังเป็นสมุนขบวนการก่อการร้ายนี่นะ
อัชชาร์คล้วงกระเป๋ากางเกง ใบหน้าเรียบเฉยเมื่อตอบว่า ผมยังไม่มั่นใจว่ากาเซียจะเป็นผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าจริงๆ หรือเปล่า กำลังให้สายลืบในฐานบัญชาการกีลาซีเช็คอยู่
พล.อ.ชาโตพยักหน้า ก็ดี แต่เจ้าคิดว่ายังไงถ้าอัสมาร์จะเอากาเซียมาแทนที่โรซาลินาจริงๆ
ในแง่ไหน
แง่ความเป็นไปได้
ผมเดาใจเจ้าอัสมาร์ยากจริงๆ ครับ ถ้าให้วิเคราะห์ดูเหมือนอัสมาร์จะรักเมียมากจนไม่อยากเอาใครมาแทนที่หล่อน แต่นั่นล่ะกาเซียก็หน้าเหมือนโรซาลินามากเกินไปราวกับเป็นเงาของอีกฝ่าย เพราะงั้นมันอาจเอากาเซียมาเป็นเมียก็ได้ แล้วถ้าเป็นยังงั้นพ่อจะเอายังไง
พล.อ.ชาโตอึ้ง นี่กำจัดโรซาลินาได้คน ยังต้องมาพะวงกับแม่นี่อีกหรือ แล้วพูดก็พูดเถอะขนาดโรซาลินาซึ่งมีภาษีกว่าแม่นี่พ่อยังไม่เอา แล้วนับประสาอะไรกับแม่สาวกุหลาบดำที่มีแต่ตัว พ่อไม่ยอมรับเด็ดขาดนะอัชชาร์ค จะต้องกำจัดให้ได้
แล้วถ้าอัสมาร์ยืนยันจะเอาหล่อนทำเมียให้ได้ล่ะ อัชชาร์คถามนิ่งๆ แล้วจ้องหน้าผู้เป็นพ่อ พล.อ.ชาโตอึ้ง เขาว่า
อัสมาร์ว่างั้นหรือ?
อัชชาร์คพยักหน้า หมอนั่นห้ามพวกเราแตะต้องกาเซีย
พล.อ.ชาโตบดกรามแน่น นี่มันจะเอาตำแหน่งปกป้องแม่นั่นจริงๆ หรือนี่
ผมถึงบอกว่าอัสมาร์แปลกไป หมอนั่นมันหลงกาเซียนะครับ นี่ขนาดนั้นยังไม่ได้เอามาทำเมียยังหลงขนาดนี้ ถ้าลงว่าเป็นเมียแล้ว ไม่รู้จะเห็นหัวพวกเราอยู่หรือเปล่า
พล.อ.ชาโตกัดฟันกรอด ไม่มีทางอัชชาร์ค อัสมาร์จะยกย่องเชิดชูแม่นั่นในฐานะเมียตบเมียแต่งไม่ได้ถ้าจะเอาแม่นั่นเป็นนางบำเรอชั่วครั้งชั่วคราวยังพอไหว แต่จะให้ยกย่องเชิดชูเป็นเมียออกนอกหน้า พ่อยอมไม่ได้เด็ดขาด พ่ออายพวกเพื่อนฝูงมัน นายกฯ ชาโตพูดแล้วจ้องหน้าบุตรชาย เขาพูดต่อว่า บอกให้สายเจ้าเร่งสืบเรื่องกาเซียให้รู้เรื่องโดยเร็วเลยนะอัชชาร์ค
เสียงพล.อ.ชาโตพูดคุยกับอัชชาร์คเป็นภาษาอังกฤษดังผ่านหูกาเซีย เพราะการจราจรที่ติดขัดผู้คนจับจ่ายซื้อของพลุกพล่าน ตลอดจนแสงแดดที่ยังเจิดจ้าพวกเขาจึงหยุดยืนคุยหน้าร้านเครื่องเงินครู่หนึ่ง เป็นร้านเครื่องเงินที่กาเซียยืนเลือกซื้อของอยู่ก่อนหน้าอยู่แล้ว หลังจากได้รับอนุญาตให้ออกมาเดินเที่ยวนอกฐานบัญชาการกุหลาบดำ กาเซียก็ตรงดิ่งมาที่ตลาดสดใจกลางเมืองกีซาลีทันที ตั้งใจเลือกหาซื้อจี้เงินลายกุหลาบเพื่อมาทดแทนเส้นเดิมที่หล่นหายไปซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันหล่นหายไปที่ไหนอย่างไร ตอนที่กำลังเลือกดูของอยู่นั่นเองเสียงสนทนาโต้ตอบภาษาอังกฤษของพล.อ.ชาโตและอัชชาร์คก็ลอยเข้ามาในหู
ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาพูดคุยอะไรกัน กระทั่งชื่อกาเซียผ่านเข้ามาในหู จึงเริ่มเงี่ยหูฟังว่าพวกเขาพูดถึงอะไรและกาเซียที่พวกเขาพูดถึงหมายถึงใคร คือเธอหรือไม่ จนได้ยินว่าพล.อ.ชาโตสั่งให้อัชชาร์คเร่งสายสืบในฐานบัญชาการกุหลาบดำ เร่งสืบว่ากาเซียเป็นใคร นั่นแหละ..เธอถึงเริ่มมั่นใจว่ากาเซียที่พวกเขาพูดถึง หมายถึงเธอนั่นเอง
กาเซียนิ่วหน้าเธอตวัดผ้าโพกศีรษะกระชับศีรษะแน่นขึ้น ผ้าโพกศีรษะเป็นลายพื้นบ้านมันจึงดูกลมกลืนไปกับผู้หญิงพื้นเมืองของกีซาลี การโพกผมปกปิดศีรษะและใบหน้าเป็นประเพณีปฏิบัติของผู้หญิงกีซาลี ยามที่ออกมานอกบ้านผู้หญิงจะต้องโพกศีรษะปกปิดใบหน้า ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะแต่งงานแล้วหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังต้องสวมเสื้อผ้าที่ปกปิดเนื้อตัวมิดชิดตั้งแต่ศีรษะจดเท้า ต่างกับผู้ชายที่ไม่เคร่งครัด สามารถแต่งตัวแบบไหนออกนอกบ้านก็ได้
กาเซียยังคงได้ยินเสียงโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษลอยมาเข้าหู เธอเขยิบเข้าไปใกล้แล้วกระชับผ้าโพกศีรษะให้แน่นเข้า ทำทีเหมือนกำลังสนใจเครื่องเงินในถาดถัดไป
คุณคะ สร้อยเส้นนี้ก็เป็นลายกุหลาบ ลองสวมดูไหมคะมันดูเข้ากับคุณ เสียงแม่ค้าเชิญชวนให้ลองสินค้าดังขึ้น เสียงหล่อนแทรกบทสนทนาการของสองพ่อลูก กาเซียจึงรีบโบกมือห้าม ทำทีว่าเธอขอดูของเอง แล้วเธอก็ได้ยินเสียงอัชชาร์คพูดขึ้นว่า
แล้วถ้าสายสืบบอกว่ากาเซียเป็นลูกหลานคนหนึ่งของยาหยัง พ่อจะว่าไง
เสียงอัชชาร์คถามเหมือนหยั่งเชิง
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็เข้าเค้าว่ากาเซียเป็นโรซาลินานะอัชชาร์ค เพราะงั้นพ่อว่าเจ้าควรจับตามองอัสมาร์ด้วย เพราะถ้าอัสมาร์สงสัยว่ากาเซียเป็นเมีย เขาคงไม่นิ่งเฉยแน่ คงต้องหาทางสืบให้รู้แน่ชัดจนได้
กาเซียหยิบจี้ลายกุหลาบเส้นหนึ่งมาชูเบื้องหน้า แต่คิ้วเข้มขมวดมุ่น นึกถามตัวเองว่าการที่เธอเป็นลูกหลานยาหยังมันหนักอะไรตรงไหนของพวกเขา แล้วเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงเปิดประเด็นว่าเธอคือโรซาลินา
โรซาลินา.. กาเซียทวนคำ เธอไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อน ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงต้องหวั่นด้วยว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงคนนั้นหรือไม่ กาเซียพยายามคิดแล้วต่อมาก็นิ่วหน้าเมื่อรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อสองปีก่อนอัสมาร์ก็เคยเรียกชื่อนั้นกับเธอมาก่อน
ถ้าอัสมาร์สงสัยว่ากาเซียเป็นเมีย.. กาเซียคิดตามประโยคของนายกฯ ชาโต แต่ต้องขมวดคิ้วหนักขึ้นเพราะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมเขาตั้งข้อสมมติฐานว่าเธอต้องเป็นเมียอัสมาร์ด้วย? บ้าจริง.. พวกเขากำลังสงสัยบ้าอะไรกัน
แล้วโรซาลินา..เป็นใครกัน? กาเซียถามตัวเอง แล้วเธอก็ได้ยินอัชชาร์คพูดต่อว่า
อืม..น่าสนใจ งั้นเห็นทีผมต้องให้การิมจับตาดูอัสมาร์ด้วย
ควรเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าเรื่องกลับตาลปัตรว่ากาเซียเป็นโรซาลินาจริงๆ พ่อว่าเรากำลังเปิดศึกหลายด้าน และด้านที่น่ากลัวที่สุดก็คือน้องเจ้า อัสมาร์คงไม่ยอมแน่ถ้ารู้ว่าใครกำจัดเมีย เพราะงั้นเจ้าต้องสืบเรื่องราวให้รู้แน่ชัดก่อนที่อัสมาร์จะรู้ความจริง เข้าใจไหมอัชชาร์ค
ได้ครับ
เสียงตอบรับของอัชชาร์คหนักแน่น จนเธอแทบจินตนาการตามได้เลยว่าอัชชาร์คกำลังพยักเพยิดตอบรับไปด้วย กาเซียอดคิดไม่ได้ว่าจากบทสนทนาของคนทั้งสองดูเหมือนพวกเขาคิดว่าโรซาลินาตายไปแล้ว และคนที่ฆ่าโรซาลินาคือพวกเขาทั้งคู่ใช่ไหม? ขมวดคิ้วอย่างไม่แน่ใจแล้วเธอก็ได้ยินเสียงอัชชาร์คพูดต่ออีกว่า
ผมคงต้องสืบให้รู้แน่ชัดโดยเร็ว ไม่งั้นสถานการณ์อนาเซียจะตกที่นั่งลำบาก เกิดอัสมาร์แผลงฤทธิ์อยากแก้แค้นเรื่องโรซาลินาโดยใช้เวทียูเอ็นตลบหลังคืนเรา จะลำบาก
คงต้องเป็นอย่างนั้น พ่อว่าอัสมาร์อาจเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับเราในการประชุมยูเอ็น เพราะน้องเจ้าสนิทสนมคุ้นเคยเป็นอันดีกับผู้นำสหรัฐฯ สนิทกันตอนที่ผู้นำสหรัฐฯ ไปประชุมอังกฤษอยู่บ่อยๆ แล้วน้องเจ้าก็คอยติดตามคุ้มกันให้ ผู้นำสหรัฐฯ ไว้วางใจถึงขนาดตอนที่ลูกสาวเขาไปเที่ยวอังกฤษ เขายังเจาะจงให้เป็นอัสมาร์เท่านั้นคอยคุ้มครองลูกสาวเขา เพราะงั้นถ้าน้องเจ้าส่งสัญญาณอะไรให้กับผู้นำสหรัฐฯ พ่อว่าผลโหวตกีซาลีหมายถึงถ้ามีใครสักคนหยิบยกขึ้นมาถกนะ ผลโหวตก็จะเอียงไปทางนั้นทันที
มันจะง่ายขนาดนั้นเชียวหรือครับ
ก็คงไม่ง่าย แต่คงไม่ยากอีกต่อไปถ้าอัสมาร์ถือหาง เพราะอย่าลืมว่าตอนนี้ตะวันออกกลางก็หนุนหลังกีซาลีอยู่เต็มตัวอยู่แล้ว เพราะงั้นจุดจบของหนังเรื่องนี้เจ้าคงเดาบทสรุปได้ไม่ยาก
อืม.. อัชชาร์คทำเสียงรับรู้ในลำคออย่างหนักใจ มองไปเบื้องหน้าซึ่งผู้คนยังแน่นหนาเต็มท้องถนน หากทว่าแสงแดดลดความเจิดจ้าลงแล้ว จึงตัดสินใจเอ่ยชวนผู้เป็นพ่อให้กลับฐานบัญชาการอนาเซีย จังหวะนั้นเอง การิมก็วิ่งกระหืดกระหอบตรงมาที่พวกเขา
มีอะไรการิม วิ่งกระหืดกระหอบมาเชียว อัชชาร์คถามขึ้นอย่างแปลกใจ
การิมหยุดหายใจครู่หนึ่งแล้วตอบว่า เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ ผมคิดว่าคุณอัสมาร์นอนพักฟื้นอยู่ในห้องนอน ตลอดทั้งวันผมก็เลยไม่ได้เข้าไปดูอาการคุณอัสมาร์ แต่เมื่อสักครู่ผมเข้าไปตามคุณอัสมาร์ให้ไปกินข้าวเย็นแต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ในห้องนอนแล้วครับ
อะไรนะ!? พล.อ.ชาโตตวัดเสียงถามอย่างตกใจทันที ไม่อยู่ในห้องนอนแล้วเขาไปไหน
ผมเข้าใจว่าคุณอัสมาร์หนีไปแล้วครับ อาจใช้ช่องทางลับช่องทางเดียวกับที่กาเซียใช้ หนีออกไป
กาเซียซึ่งยืนฟังอยู่ข้างหลังสะดุ้งอีกครา อะไรอีกแล้วนี่ ทำไมชื่อเธอถึงไปพัวพันกับช่องทางลับบ้าบออะไรนั่นอีก ปากบ่นแต่หูเงี่ยฟังต่อไป
เขาจะหนีไปไหน นายกฯ ชาโตถาม น้ำเสียงชายสูงวัยร้อนรน
การิมทำสีหน้าคล้ายกับจะเสียใจเมื่อกล่าวต่อว่า สายรายงานผมมาว่ากามินทร์กำลังถูกจับขังคุก อาจต้องโทษล้างสมอง เข้าใจว่าคุณอัสมาร์อาจหนีเข้าไปในฐานบัญชาการกุหลาบดำเพื่อไปช่วยเหลือเพื่อน ประโยคหลังการิมลดเสียงลงเป็นกระซิบกระซาบจนกาเซียซึ่งแอบอยู่ข้างหลังโดยทำทีซื้อเครื่องเงินหลายสิบเส้นอยู่นั้น แทบจะไม่ได้ยิน ต้องเงี่ยหูฟังอย่างหนัก
เป็นไปได้เพราะรายนั้นรู้อยู่ว่ารักเพื่อนแค่ไหน แถมกามินทร์ยังเป็นเพื่อนสนิทด้วย พล.อ.ชาโตพยักหน้า สีหน้าหนักใจเอกอุ
งั้นเราจะเอายังไงกันดี อัชชาร์คถามขึ้น ยอมรับว่าเริ่มห่วงใยอัสมาร์
ไปหารือกันที่ฐานบัญชาการเถอะ พล.อ.ชาโตพูดขณะสาวเท้าออกจากร้านเครื่องเงินแห่งนั้น สั่งการให้ชุดคุ้มกันรวบรวมกำลังให้ได้มากที่สุดภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้
ต้องการกำลังสักแค่ไหน
เอาแค่...
เสียงเบาลงไปเรื่อยๆ จนกาเซียแทบไม่ได้ยินในที่สุด หญิงสาวเงยหน้า คิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อถามตัวเองว่าอัสมาร์ลอบเข้าในฐานบัญชาการกุหลาบดำเพื่อช่วยกามินทร์หรือ? แล้วกามินทร์เป็นใครกัน? มีความสำคัญกับผู้นำอนาเซียแค่ไหน กาเซียสะบัดศีรษะ เมื่อพยายามหาคำตอบเท่าไหร่แต่ก็หาไม่ได้
กาเซียเลือกจี้เสร็จหรือยัง ฉันให้เวลาเธอนานแล้วนะ
ฟารีดาร้องถามขึ้นทางด้านหลังพร้อมกับกดแตรเรียกเสียงดัง เสียงของฟารีดาดังมาแต่ไกลก่อนเห็นตัว หากทำให้กาเซียชะงักตื่นจากภวังค์ หญิงสาวรีบชำระเงินพร้อมกับให้ทิปก้อนโตสำหรับการให้ยืมสถานที่ยืนแอบฟัง แล้วเธอก็หยิบจี้สร้อยกุหลาบกำโตมาจากแม่ค้า
ก้าวขึ้นรถจิ๊บที่เพื่อนสตาร์ทเครื่องรออยู่ก่อนแล้ว รถแล่นทะยานออกจากตลาดที่พลุกพล่านแห่งนั้น ตรงดิ่งกลับฐานบัญชาการกุหลาบดำ ผ่านย่านพลุกพล่านกาเซียกับฟารีดาจึงปลดผ้าคลุมหน้าออก คงคลุมไว้เพียงศีรษะกันผมสยาย ตลอดทางที่เพื่อนขับรถผ่านมีโปสเตอร์ของทางราชการอนาเซียติดตามผนังอาคารเก่าคร่ำครึแถบนั้นไปตลอดทาง ไม่ต้องดูไม่ต้องอ่านกาเซียก็จดได้ขึ้นใจว่าโปสเตอร์เหล่านั้นติดข้อความว่าอย่างไรบ้าง
ประกาศผู้ต้องหาคดีก่อความไม่สงบ ข้อหากบฏ ก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ตามหมายจับศาลอาญา ถัดมาเบื้องล่างจากข้อความเหล่านั้น เป็นตัวเลขเงินรางวัลนำจับและรูปภาพคนร้ายที่ถูกตั้งค่าหัวเหล่านั้น
เป็นอะไรเซียนั่งนิ่งเชียว มาเที่ยวตลาดหนนี้ไม่สนุกหรือ ฟารีดาละสายตาจากถนนเบื้องหน้ามาถามเพื่อน แล้วนี่ตกลงได้จี้ลายที่ต้องการหรือเปล่า
กาเซียนิ่งเธอยังคงชั่งใจว่าจะถ่ายทอดในสิ่งที่ไปได้ยินมาดีหรือไม่ แต่สุดท้ายตัดสินใจเก็บเงียบดีกว่า แล้วกาเซียก็เอ่ยปากพูดคุยไปอีกทางว่า ฟาฉันได้ยินคนในตลาดพูดถึงอัสมาร์กับอัชชาร์ค พวกเขาเป็นคนยังไงหรือ
ฟารีดานิ่ง เธอจ้องหน้าเพื่อนครู่หนึ่งก่อนจะละสายตากลับไปมองถนนเบื้องหน้า นึกอยากรู้ว่าเครื่องล้างสมองมันทำงานได้ผลแค่ไหน อย่าไปสนใจเลยเซีย ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก ก็แค่ลูกนักการเมืองคู่แฝดคู่หนึ่ง ที่หล่อเหลาปานเทพบุตร แต่เป็นของต้องห้ามสำหรับพวกเรา ฟารีดาพูดแล้วยิ้มหน้าเป็นให้เพื่อน
กาเซียนิ่วหน้า เธอเคยเผชิญหน้ากับพวกเขาไหม ฉันหมายความว่าเคยรับงานอะไรที่ต้องปะทะรับมือกับพวกเขาไหม?
ไม่เคยหรอก ฟารีดาส่ายหน้าโดยไม่เสียเวลาคิด ด้วยไม่อยากให้เพื่อนถามต่อ เกรงว่าจะเป็นฝ่ายจนคำตอบเสียเอง
แล้วพวกเขาเป็นคนยังไงนิสัยเป็นแบบไหน รู้ไหม?
ประวัติในห้องสมุดมีถมเถ เข้าไปหาอ่านสิ พูดแล้วฟารีดาก็แทบอยากตบปากตัวเอง นึกขึ้นได้ว่าเพราะห้องสมุดไม่ใช่หรือถึงเป็นต้นเหตุให้เพื่อนถูกลบความทรงจำอีกครั้ง ถอนใจแล้วหันไปยิ้มเหยเกให้เพื่อน คือฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น ฉันหมายความว่าเอ่อ.. พวกเขาคงจะมีประวัติไม่น่าสนใจนักหรอกคงเหมือนกับห้องสมุดเก่าๆ คร่ำครึที่ไม่น่าสนใจ ชี้แจงอย่างข้างๆ คูๆ แล้วฟารีดาก็ทำเสียงร่าเริง พูดว่า เธออย่าไปสนใจพวกเขานักเลยเซีย ยังไงชีวิตพวกเราคงไม่ไปโคจรพบเจอกับคนประเภทนั้นได้หรอก
ใช่..เธอหวังว่าจะไม่อีกแล้วหลังจากเพื่อนสะบักสะบอมมาอย่างหนัก ไม่เช่นนั้นคนที่จะเจ็บหนักหาใช่ใครอื่นไม่ คือกาเซียนั่นเอง...
..............................................
จบตอน
|
|
|
|
|
|
-เป็นวิวัฒนาการของกีซาลีที่เธอเองก็(เพิ่ง)ว่ามีอยู่ในโลก==เพิ่งรู้ว่า
-หงุดหงิดเล็กน้อนกับสภาวะสมองที่(ขาดโพลน)==>คำนี้ไม่แน่ใจว่าจะผิดหรือเปล่าไม่เคยได้ยินคำว่าสมองขาดโพลนน่ะค่ะ
-สิตปัญญา==สติปัญญา
-ซึ่งรับรู้กันว่า(เป็น)ร่ำรวยเป็นอันดับสอง==>ซึ่งรับรู้กันว่าร่ำรวยเป็นอันดับสอง
-เศรษฐีณี==เศรษฐีนี
-นี่ขนาด(นั้น)ยังไม่ได้เอามาทำเมีย==>นี่ขนาดยังไม่ได้เอามาทำเมีย,นี่ขนาดมันยังไม่ได้เอามาทำเมีย
-นายกฯชาโต==พล.อ.ชาโต
-เสียงหล่อนแทรกบทสนทนา(การ)ของสองพ่อลูก==>เสียงหล่อนแทรกบทสนทนาของสองพ่อลูก
-จี้สร้อยกุหลาบ(กำโต)มาจากแม่ค้า==>จี้สร้อยกุหลาบมาจากแม่ค้า
-ไม่ต้องอ่านกาเซียก็(จด)ได้ขึ้นใจว่า==จดจำได้ขึ้นใจว่า