Group Blog
หากจะรัก...ก็ช่างมันเถอะ(บท 3/1)



กอบกาญจน์แสดงความประหลาดใจเปิดเผย เมื่อเหลือบตาขึ้นจากแฟ้มบัญชีรายรับรายจ่าย แล้วเห็นเพลิงเดินลงมาจากชั้นบนในชุดกางเกงนอนขายาวตัวเดียวโดยมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดคอ เผยแผงอกขาวเปลือยตัดกับผิวสีแทนคล้ำแดดที่อยู่นอกชายเสื้อ เป็นสัญญาณว่าเขาเพิ่งตื่นลงมาอาบน้ำ ด้วยห้องน้ำอยู่ลึกเข้าไปในห้องครัว เวลาจะไป ต้องเดินผ่านห้องรับแขกบริเวณที่นางนั่งอยู่

“ผมเพิ่งตื่นน่ะครับ” เพลิงตอบ พลางยกมือลูบท้ายทอยแก้เขิน เมื่อคืนกว่าจะข่มตาหลับลงได้ เล่นเอาเกือบรุ่งสาง ด้วยใจเอาแต่เฝ้าครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงมีผลให้เช้านี้ กว่าจะตื่นได้ ฟ้าก็สว่างโร่ไปเรียบร้อยแล้ว

ใช่...เหตุการณ์ที่ปะทะกับสายน้ำเมื่อคืน มีผลให้เขาตาค้างไปจดรุ่งสาง...

“นั่นสิ ปกติเพลิงไม่เคยตื่นสายนี่นะ ไม่สบายหรือเปล่า” กอบกาญจน์ถามอย่างห่วงใย ความจริงเวลาสิบนาฬิกา อาจไม่เรียกว่าสายสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเพลิงซึ่งตื่นก่อนไก่โห่เป็นประจำ เมื่อมาตื่นผิดจากเวลานั้นนิดหน่อย จึงดูเหมือนว่าสาย

เพลิงตอบอุบอิบ โดยไม่กล้าสบตาคนที่ตัวเองนับถือเสมือนญาติผู้ใหญ่ “เปล่าหรอกครับ เดี๋ยวผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

“เดะ...” กอบกาญจน์อ้าปากจะบอก แต่ไม่ทัน เมื่อแค่ทำท่าจะพูด ฝ่ายนั้นก็เดินลับมุมห้องไปแล้ว และไม่นานต่อมาก็เกิดเหตุการณ์อย่างที่นางคาดจริงๆ กอบกาญจน์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของสายน้ำอย่างตกใจดังลั่น

สายน้ำคงตกใจที่ออกมาเจอเพลิงหน้าห้องน้ำโดยบังเอิญ...



สิ่งที่กอบกาญจน์คิดใกล้เคียงกับความเป็นจริง...

สายน้ำเบรกตัวเองไม่ทัน เมื่อพุ่งตัวออกมาจากห้องน้ำแล้วจู่ๆ ก็เจอร่างสูงใหญ่เดินเลี้ยวเข้ามาในครัวพอดี กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เธอก็ถลาเข้าไปชนแผงอกกว้างโครมใหญ่เรียบร้อยแล้ว โดยมีมือหนาเอื้อมมาช่วยพยุงแขนเพื่อกันไม่ให้ล้มได้ทัน เด็กสาวอุทานอย่างตกใจพลางยกมือคลำหน้าผากป้อยๆ ในจังหวะเดียวกับที่ลืมตาดูว่าเธอชนเข้ากับอะไร พลันที่เห็นแผงอกเปลือยในระดับสายตาซึ่งปราศจากอาภรณ์ปิดกาย เด็กสาวก็หวีดร้องเสียงหลง พลางผงะถอยห่างออกมา มือบางสองข้างยกขึ้นปิดตา แต่เธอไม่รู้ว่าเป็นผลให้ผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดคอลวกๆ ร่วงพื้นโดยพลัน

“อีตาบ้า อุจาดเสียจริง” ปากร้องพร่ำต่อว่าเขา

เพลิงจ้องร่างขาวอมชมพูที่สวมผ้าถุง มีหมวกอาบน้ำลายการ์ตูนคลุมเหนือศีรษะเรียบร้อย เขามองภาพนั้นด้วยแววตาตื่นแกมตะลึง ด้วยสองครั้งแรกที่เจอเด็กสาว เขายังไม่เคยเห็นสภาพจะแจ้งเหมือนอย่างเช้าวันนี้ ครั้งแรกที่เจอเมื่อเย็นวาน... ใบหน้าของเธอเปื้อนฝุ่นราวกับแมวคลุกฝุ่น ครั้งที่สองเมื่อคืน...แสงจันทร์สลัวเกินกว่าจะเห็นชัด

มาเช้านี้เขาจึงเพิ่งได้เห็นความไร้เดียงสาและความอ่อนเยาว์ของคนตรงหน้าจะแจ้ง ซึ่งเพลิงต้องยอมรับว่า เขาเห็นผู้หญิงทั้งสาวและไม่สาว ทั้งไทยและต่างชาติมามากจากการไปศึกษาเล่าเรียนในเมืองนอกเมืองนา แต่ทว่ายังไม่เคยเห็นใครที่สามารถสอดผสานระหว่างความเยาว์วัยไร้เดียงสา ความสะสวยและมีเสน่ห์น่ารักอย่างเป็นธรรมชาติในคนคนเดียวกันได้อย่างกลมกลืนเหมือนเช่นสายน้ำ

วงหน้าเรียวรูปไข่ล้อมรอบด้วยหมอกอาบน้ำที่เก็บผมได้มิดชิดนั้น ประกอบด้วยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม ไล่ตั้งแต่หน้าผากกลมมน ตาคมสีนิลซึ่งบัดนี้กำลังเบิ่งโตด้วยความตกใจ รับกับปลายจมูกเล็กแต่โด่งและเรียวปากจิ้มลิ้มสีแดงระเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของคนตรงหน้า เห็นจะเป็นดวงตาโตกลมใสดุจตากวางที่ฉายชัดความรู้สึกอย่างเปิดเผย...ความรู้สึกที่ใสซื่อไร้เดียงสาราวกับแววตาเด็กทารก

สวรรค์ช่วย...เพิ่งตระหนักเป็นครั้งแรกว่าเขาเจอกับสาวน้อยที่ทั้งสวยน่ารัก มากด้วยเสน่ห์และอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาในคนคนเดียวกันเข้าให้แล้ว ใช่...รูปลักษณ์ของคนตรงหน้า เห็นแล้วทำให้นึกถึง นางฟ้า แวบแรกโดยพลัน แล้วใจของหนุ่มชาวไร่ก็แวบไปนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครา ซึ่งเขาเกือบเผลอใจไปแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงเห่าของเสือ

แล้วใจของเพลิงก็กระตุกวูบ แทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อสายตาเหลือบต่ำไปเห็นปมผ้าถุงที่ขมวดไว้เหนือทรวงข้างหนึ่งเลื่อนต่ำลงครึ่งเต้าอย่างคนที่นุ่งไม่เป็น เผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่มทั้งสองข้างที่ขาวยองใยอมชมพู

พระเจ้าช่วย...เขาจะบ้าตาย นางฟ้าตกสวรรค์คนนี้ซ่อนรูป เห็นตัวเล็กเท่ากะเปี๊ยกอย่างนี้เถอะ แต่กลับมีหน้าอกหน้าใจเกินตัว สวรรค์ช่วย...เจ้าหล่อนกวนตบะได้ดีแท้ เพลิงใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเสรีบก้มหยิบผ้าขนหนูที่หล่นพื้นมาหย่อนแหมะบนไหล่เล็กๆ ที่สายตาเจ้ากรรมดันเหลือบไปเห็นอีกว่าไหล่บอบบางซึ่งขาวนวลเนียนยังกับผิวน้ำนมนั้น มีไผแดงเม็ดเล็กๆ เท่าปลายปากกาอยู่เหนือทรวง เพลิงรีบสาวเท้าเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ราวกับมีอะไรไล่หวดตามหลัง

หนุ่มชาวไร่บอกตัวเองว่า เขาต้องการน้ำเย็นจัด เพื่อช่วยดับอะไรก็แล้วแต่ที่นอนก้นไปเกือบ ๑๐ ปีแล้ว หากบัดนี้มันกลับฟุ้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ด้วยต้นเหตุแห่งเด็กที่เพิ่งย่างเข้าสู่วัยสาวมาได้ไม่กี่ขวบปี...สวรรค์ช่วย

ผู้จัดการสวนเกษตรรีบล็อกประตู หากพลันที่สบู่กลิ่นที่ไม่คุ้นหอมตลบอบอวลเข้าจมูก เพลิงก็แทบอยากกลั้นใจตายเดี๋ยวนั้น เขานึกรู้ได้ทันทีว่าต้นเหตุมาจากใคร และนั่นมันทำให้จิตนาการของเขาเพริศแพร้วไปไกลยิ่งขึ้นเมื่อเขารู้สึกราวกับว่าสายน้ำยังคงอยู่ในห้องน้ำ ยืนอยู่ใกล้ๆ เขา เพลิงรีบสะบัดศีรษะไล่ความฟุ้งซ่าน เขาหมุนตัวกลับ สายตาพลันปะทะเข้ากับบราเซียและกางเกงในตัวจิ๋วลายลูกไม้น่ารักเข้าชุดกัน ที่เด็กสาวพาดไว้ลวกๆ เหนือราว น้ำหยดติ๋งๆ พร้อมกับกลิ่นสบู่หอมกรุ่นโชยมาแตะจมูกเมื่อเขาขยับเข้าใกล้ บ่งบอกว่าเจ้าหล่อนคงเพิ่งซักทำความสะอาดเสร็จหมาดๆ แล้วคงลืมนำไปตากข้างนอก

เพลิงร้อนรนกดเปิดล็อกและผลักประตูออกไปโดยเร็ว เขารีบเรียกเด็กสาว “น้ำ”

เจ้าของชื่อที่กำลังสาวเท้าจะลับมุมห้องชะงักกึก เธอหยุดยืนกับที่โดยไม่เหลียวหลังกลับ ใจยังคงเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ กับการเผชิญหน้าเขาโดยไม่คาดคิด สองมือจับชายผ้าขนหนูที่พาดรอบไหล่แน่น เธอเพิ่งรู้ว่าทำผ้าขนหนูหล่นบนพื้นก็ตอนที่เพลิงหยิบมาวางแหมะบนบ่า และนั่นทำให้เธออดรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วกายด้วยความอับอายไม่ได้ เมื่อคิดว่าเขาคงเห็นไปถึงไหนๆ

“เธอลืมอะไรไว้ในห้องน้ำหรือเปล่า”

สายน้ำเบิ่งตาโต พลันที่นึกขึ้นได้ก็หน้าแดงก่ำจดลำคอ เธอเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะกระตุกบราเซียและกางเกงในมาซ่อนในซอกแขนอย่างรวดเร็ว เธอเดินผ่านเขาโดยไม่แม้แต่จะชายตามอง

เพลิงเมินหน้าจากภาพนั้น หากน่าแปลกหางตากลับรับรู้ทุกอิริยาบถ และนั่นทำให้ใจเขาสั่นไหวรุนแรงโดยที่หาสาเหตุไม่ได้…


กอบกาญจน์มองร่างสูงใหญ่ของเพลิงที่กำลังเดินลงบันไดมาในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีน คาดเข็มขัดซองปืนบรรจุปืนพก ในมือข้างหนึ่งถือหมวกจักสานปีกกว้าง เจ้าของสวนเกษตรดิสกรกำลังคิดว่า นับวันชายหนุ่มจะหล่อเหลาและสง่างามขึ้นทุกวัน อาจเป็นด้วยร่างสูงใหญ่ที่ปราศจากส่วนเกิน ซึ่งเป็นผลจากการต้องขี่ม้าทำงานไร่ทุกวัน ทำให้ร่างกายฟิตและเฟิร์มอยู่เสมอ จึงเสริมให้ทุกอิริยาบถของเขาชวนมอง

“ไม่กินข้าวก่อนหรือ” กอบกาญจน์ทักขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินผ่านหน้าไปยังประตู

“ไม่ครับ ผมแวะไปกินที่โรงอาหารเลยดีกว่า เพราะเช้านี้สายมากแล้ว” เพลิงหมายถึงการเข้าไปทำความสะอาดคอกม้า ให้อาหารและแปรงขนม้า ซึ่งเป็นกิจวัตรที่เขาต้องทำทุกเช้าก่อนเข้าไร่ ชายหนุ่มตอบแล้วหยิบรองเท้าบูทที่อยู่ในชั้นวางมาสวม

“เดี๋ยวลูก” กอบกาญจน์เดินมาเรียกเขาที่ประตู ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเดินจากไป

“มีอะไรครับ” เพลิงเหลียวมาถาม พลางขยับหมวกบนศีรษะให้ตรง

“พาน้องไปเที่ยวในไร่ด้วยสิ ป้ากลัวว่าน้ำอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จะเบื่อเอา” กอบกาญจน์แทนสรรพนามว่า ป้า อย่างสนิทปาก นางเคยขอให้เพลิงเรียกนางว่า ป้า หลายครั้ง แต่เขาไม่เคยให้ความร่วมมือสักครั้ง โดยยืนยันว่าจะเรียกตามคนงาน นั่นคือ แม่นาย เพลิงไม่เคยถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ทั้งที่กอบกาญจน์รักเขาเหมือนลูกหลานแท้ๆ

เพลิงหันกลับเข้าไปมองในบ้านโดยไม่ตั้งใจ ภายหลังอาบน้ำเสร็จ เขาก็รีบขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับลงมา เพื่อจะเข้าไปในฟาร์มและในไร่ทันที

นั่นสิ...เขาลืมเด็กคนนั้นไปเสียสนิท มัวแต่บอกตัวเองว่าต้องออกจากบ้านให้เร็วที่สุด เลยไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้เธออยู่ส่วนไหนของบ้านแล้ว เพลิงหันกลับมาถามกอบกาญจน์ว่า

“แล้วตอนนี้เธอยู่ไหนครับ”

“ยังไม่ลงมาเลย คงยังแต่งตัวไม่เสร็จ แต่ยังไงเพลิงก็น่าจะรอน้อง พาน้องเข้าไปเที่ยวในไร่ด้วย”

“ผมยังไม่ได้ทำความสะอาดคอกม้าเลยครับวันนี้ ขืนรอ ม้าคงหิวแย่”

“ก็ ว. ไปบอกให้ใครสักคนทำแทนไม่ได้หรือ”

“ยังมีงานอื่นๆ ที่ค่อนข้างจุกจิกอีก ผมกลัวว่าปล่อยให้คนอื่นทำจะไม่ถูกใจ”

“แต่ป้าไม่อยากให้น้องนั่งจับเจ่าอยู่แต่ในบ้าน ถ้าวันนี้ป้าไม่ต้องเข้าไปทำธุระในเมือง ก็คงพาน้ำเข้าไปเที่ยวในไร่แล้ว”

เพลิงรู้สึกอึดอัดใจ ในใจอยากแย้งว่า ทำไมไม่พาหลานสาวคนสวยเข้าเมืองไปด้วย แต่นั่นแหละไม่ใช่วิสัยของเขาที่จะอกตัญญูผู้มีพระคุณ ชายหนุ่มจึงตอบว่า “เอางี้ดีไหมครับ เดี๋ยวพอสายๆ ผมจัดการเรื่องคอกม้าเสร็จแล้ว จะมารับเธอพาเข้าไปในไร่ แม่นายบอกให้เธอเตรียมตัวไว้ก็แล้วกัน”

กอบกาญจน์พยักหน้าอย่างพอใจ

“ถ้าแม่นายไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวครับ”

“ไปเถอะ”

เพลิงเอ่ยลาอีกคำรบ แล้วจึงเหวี่ยงเท้าขึ้นหลังม้า ก่อนจะควบหายไปทางฟาร์มอย่างรวดเร็ว กอบกาญจน์มองตามหลังจนลับสายตาแล้วจึงเดินกลับเข้าบ้าน พักใหญ่จึงเห็นสายน้ำเดินลงมาในชุดเสื้อแขนยาวกางเกงแนบเนื้อสีดำเข้าชุดกัน ดูน่ารักสดใสเข้ากับวัย แต่กลับไม่เข้ากับอากาศเมืองร้อนอย่างประเทศไทยเลย

“ไม่ร้อนแย่หรือลูก”

คนถูกถาม ก้มมองเสื้อหนาวและกางเกงเลคกิง ก่อนตอบด้วยรอยยิ้มปูเลี่ยนว่า “นี่เป็นชุดที่ดีที่สุดแล้วที่น้ำมีสำหรับใส่หน้าร้อน เพราะอยู่ที่นั่นปกติหนาวตลอด”

“งั้นพรุ่งนี้ไปหาซื้อในตลาดในเมืองกันดีไหม ย่าจะพาไป”

“ทำไมไม่เป็นวันนี้ละคะ” สายน้ำเข้ามาเกาะแขนอย่างประจบออดอ้อน

“ไม่ได้หรอก วันนี้ป้าต้องเข้าไปทำธุระในเมือง”

“ดีเลยคะ งั้นน้ำขอตามไปด้วย ย่าบอกให้คนขับไปหย่อนน้ำไว้ที่ตลาดก็ได้ ย่าเสร็จธุระแล้วค่อยมารับ”

“ไม่ได้หรอก ย่าจะทิ้งเราไว้ในตลาดคนเดียวได้ไง ขืนหลงล่ะแย่”

“ถ้าหลง น้ำก็โทร.หา แต่น้ำเชื่อว่าไม่หลงแน่”

“ยังไงก็ไม่ได้หรอก เดี๋ยวย่าทำลูกเขาหาย”

เด็กสาวทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง “น้ำโตแล้วนะคะไม่ใช่เด็ก ๗ ขวบสักหน่อย เดินทางมาค่อนโลกและทำอะไรด้วยตัวเองมาหลายปีแล้ว ฉะนั้นกับแค่เรื่องเดินช็อปปิงในต่างจังหวัด ถ้ายังหลง ก็ไม่ต้องเรียกว่าหลานย่าแล้ว”

“ยังไงก็ไม่ได้ น้ำจะว่าย่าเรื่องมากก็ได้ แต่ย่าจะไม่ยอมปล่อยน้ำไปไหนมาไหนในจังหวัดนี้คนเดียวเด็ดขาด”

สายน้ำอึ้งเมื่อเริ่มสำเหนียกได้ถึงความห่วงใยแท้จริงของคนเป็นย่า “มีอะไรหรือเปล่าคะ ที่นี่อันตรายหรือคะ?”

“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร ย่าแค่ป้องกันไว้” กอบกาญจน์รีบปฏิเสธ

คนเป็นหลานมองอย่างไม่เข้าใจนัก แต่ด้วยเหตุที่ไม่อยากขัดใจ จึงตอบอย่างเอาใจว่า “ก็ได้ค่ะ ค่อยไปพรุ่งนี้ก็ได้ ว่าแต่ถ้าจะไปต้องไม่เอา นังสวย ไปนะคะ น้ำเข็ดแล้วจริงๆ”

กอบกาญจน์ฟังแล้ว “นังสวยคงยังพาน้ำไปไหนมาไหนไม่ได้แล้วล่ะ เพราะเพลิงยังไม่ว่างเช็กเครื่องให้เลย”

หลานสาวคนสวยนิ่วหน้า “ทำไมใครๆ ก็ให้ความสำคัญกับคนคนนี้นักคะ เขาเป็นใครกัน แล้วทำไมถึงได้อภิสิทธิ์ขึ้นไปนอนบนบ้าน อย่างป้าพริ้งยังต้องนอนชั้นล่างเลย”

“เขาเป็นผู้จัดการไร่ของย่า”

“แต่ก็แค่ผู้จัดการ ถือว่าเป็นคนงานที่กินเงินเดือนคนหนึ่ง”

“แต่สำหรับย่า มากกว่าคนงาน เขาเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ไร่ย่ามีวันนี้ได้”

“แต่เขาเป็นคนนอก ไม่ใช่ลูกหลาน ย่าไว้ใจเขามากเกินไปหรือเปล่าคะ”

“ย่าอายุปูนนี้แล้วถ้ายังแยกแยะคนไม่ออก ว่าคนไหนควรไว้ใจ คนไหนไม่ควรไว้ใจ ย่าก็คงเป็นย่าเราไม่ได้”

สายน้ำอึ้ง เมื่อสัมผัสได้ว่ากอบกาญจน์เริ่มกรุ่นๆ นึกรู้ได้โดยพลันว่าเพลิงเป็นคนโปรด ที่เธอจะไปแตะต้องไม่ได้ เด็กสาวรีบขอโทษขอโพยแล้วเปลี่ยนเรื่องพูดอย่างชาญฉลาดว่า

“น้ำขอโทษค่ะ ไม่ตั้งใจก้าวร้าวหรือล้ำเส้น ว่าแต่ดูสิ น้ำถือชุดชั้นในลงมาจนลืมไปเลย น้ำจะเอาไปตากที่ไหนได้บ้างคะ”

สายน้ำลงมาช้า เพราะตั้งใจรอจนมั่นใจว่าเพลิงออกจากบ้านไปแล้วจริงๆ ฉะนั้นเมื่อมองจากหน้าต่าง เห็นฝ่ายนั้นควบม้าออกไปแล้ว เธอจึงได้ลงมา เหมือนเช่นเช้านี้ที่เธอตั้งใจจะลงมาอาบน้ำช้า เพราะต้องการรอจนแน่ใจจริงๆ ว่าไม่ได้ยินเสียงจากคนข้างห้องแล้ว จึงได้ลงมาอาบน้ำ หากทว่าเธอก็คิดผิดทั้งสองเหตุการณ์ เมื่อการณ์กลับกลายเป็นว่าเขายังไม่ออกไป แถมยังต้องมาเจอกับเขาที่หน้าห้องน้ำในชุดที่แสนจะน่าอับอายด้วย

และจะว่าไป เป็นความผิดพลาดที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์จ์ยิ่งกว่าเมื่อคืนด้วยซ้ำ... สายน้ำคิดแล้วก็ก้มหน้าซบฝ่ามือด้วยความอับอาย สองแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อจนจดลำคอ

กอบกาญจน์มองภาพนั้นนิ่งๆ อย่างไม่เข้าใจนัก แต่ปากก็ตอบว่า “เอาไปตากหลังบ้านก็ได้ มีไม้ไผ่และลวดขึงไว้แล้วพร้อม ส่วนไม้แขวนก็อยู่หลังบ้านนั่นแหละ”

“คะ? ตากหลังบ้านนี่นะคะ?”

“ใช่ น้ำตกใจอะไรเหรอ?”

“ก็ถ้าเกิดใครเดินผ่านไปผ่านมา ไม่อายแย่หรือคะ”

กอบกาญจน์ถึงบางอ้อกับความขัดเขินของหลานสาว นางยิ้มขำๆ “ไม่เห็นเป็นไร แถวนี้เขาตากกันอย่างนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรหรอก”

“รวมทั้งบราเซียกับกางเกงตัวจิ๋วด้วยหรือคะ” เธออายเกินกว่าจะพูดคำว่า กางเกงใน ออกมา

กอบกาญจน์พยักหน้า แววตาเต้นระยับอย่างขำคนเป็นหลานมากขึ้น “งั้นสิ แถวนี้เขาไม่มาอายเรื่องพวกนี้กันหรอก”

“แน่สิคะ น้ำยังไม่เห็นเด็กสาวๆ สักคนอยู่ในนี้ ส่วนมากแก่ๆ แล้วทั้งนั้น”

คนเป็นย่าไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะ ก่อนว่า “สาวๆ ก็มี แต่อยู่ในไร่ เดี๋ยวสายๆ ตอนที่พี่เพลิงแวะมารับน้ำไปเที่ยว น้ำก็บอกพี่เขาให้แวะที่ไร่สิ จะเห็นคนงานวัยหนุ่มสาวมากมาย”

“อะไรนะคะ นายหมีป่านั่น เอ้อ...พี่เพลิงจะมารับน้ำหรือคะ?”

กอบกาญจน์พยักหน้า “ย่าให้พี่เขามารับน้ำพาไปเที่ยวในไร่ พี่เพลิงบอกว่าเดี๋ยวสายๆ เสร็จจากงานคอกม้าแล้ว จะมารับน้ำ ให้เตรียมตัวไว้ให้พร้อม”

“แต่น้ำไม่อยากไปนี่คะ น้ำอยากเดินดูอะไรแถวนี้มากกว่า” สายน้ำรีบปฏิเสธ

คนเป็นย่านิ่วหน้า “แต่ย่าบอกให้พี่เขามารับเราแล้ว”

“ย่าก็ว.ไปเปลี่ยนคำสั่งใหม่สิคะ บอกว่าน้ำเปลี่ยนใจไม่ไปแล้ว ขอเดินเที่ยวแถวนี้แทน”

กอบกาญจน์ขมวดคิ้วมุ่น นางตั้งใจจะใช้สายตาบังคับให้หลานสาวยอมทำตาม หากแต่จ้องได้ไม่ถึงอึดใจ ฝ่ายนั้นก็ผินตัวหนี เดินออกไปทางหลังบ้านโดยไม่รอฟังคำปฏิเสธใดๆ คนเป็นย่าจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่













Create Date : 02 ธันวาคม 2554
Last Update : 3 ธันวาคม 2554 10:05:02 น.
Counter : 693 Pageviews.

5 comments
  
แบบหนูน้ำนี่ไม่ใช่น้ำธรรมดาค่ะ แต่เป็น "น้ำมัน" อยู่ใกล้กับไฟอย่างพี่เพลิงทีไรทำเอาหมีจำศีลแตกจิตหลุดทุกทีเลย อิอิ
โดย: pantan IP: 58.9.225.67 วันที่: 3 ธันวาคม 2554 เวลา:9:23:11 น.
  
คุณเพลิงแค่นี่ตบะก็แทบแตกแล้ว ถ้าเจอหนักกว่านี้จะไหวเหรอ
โดย: orn IP: 101.108.175.145 วันที่: 3 ธันวาคม 2554 เวลา:12:33:42 น.
  
พี่อุ๋ยบรรยายหุ่นหนูน้ำซะน่าอิจฉาเชียว หุ่นเด็กอายุ 17 มันเกินหน้าเกินตาคนอ่านนะเนี่ย

-หมอกอาบน้ำ===>หมวกอาบน้ำ

-จิตนาการ===>จินตนาการ

-"ไม่ได้หรอก วันนี้(ป้า)ต้องเข้าไปทำธุระในเมือง"===>ย่า

-สากรรจ์จ์===>สากรรจ์
โดย: mimny วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:0:45:04 น.
  
ให้เพลิงมาพาน้ำไปเที่ยวไร่ งานนี้ไร่ได้ลุกเป็นไฟแน่ 555+++
โดย: alanta IP: 202.149.29.82 วันที่: 8 ธันวาคม 2554 เวลา:7:52:19 น.
  
ขอบคุณคุณเอ๋ คุณ orn น้องมิ้วและคุณ alanta มากๆๆค่ะ พี่ได้แก้ไขตามนั้นแล้วค่ะน้องมิ้ว จุ๊บๆๆ
โดย: คณิตยา วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:1:29:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คณิตยา
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]









รู้จักคณิตยา/คีตฌาณ์

ก้าวสู่โลกแห่งการขีดเขียนในปี 2549 มีผลงานเป็นรูปเล่มกับสนพ.ในเครือสถาพรบุ๊คส์ทั้งหมด 11 เล่ม ไล่ตั้งแต่ รหัสทรชน ทางสายหมอก กุหลาบในเปลวไฟ ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ อริ...ที่รัก บอดี้การ์ด รักเพียงฝัน ตามรักข้ามเวลา ไฟรัก บันทึกแห่งรัก(the Book of Love) มิราเบลล์...ตราบคีตาบรรเลง เป็น 1 ในนิยายชุดแด่เธอที่รัก สาปรัก และใต้ปีกรัก

รหัสทรชน เป็นละครทางช่อง 3 เมื่อปี 2554 แสดงโดย เคน และชมพู่ สร้างโดยค่ายยูม่า และ ไฟรัก ได้รับการซื้อลิขสิทธิ์ไปแปลเป็นภาษาเวียดนาม วางแผงเดือนสิงหาคม 2556



พูดคุย ทักทาย แลกเปลี่ยนความเห็น และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง fb โดยกดไลค์เป็นแฟนเพจได้ทาง https://www.facebook.com/keetacha?ref=hl ขอบคุณค่ะ

---------------


ตอนนี้อุ๋ยทยอยนำนิยายที่หมดลิขสิทธิ์กับพิมพ์คำไปวางจำหน่ายในรูปแบบ E-book บนเว็บ ebooks และเว็บ Mebmarket ค่ะ

ใต้ปีกรัก...ราคาอีบุ๊ก 179 บาท

บันทึกแห่งรัก...ราคาอีบุ๊ก 255 บาท จากราคาปก 310

ไฟรัก...ราคาอีบุ๊ก 279 บาท จากราคาปก 350 บาท

กุหลาบในเปลวไฟ...ราคาอีบุ๊ก 230 บาท



รหัสทรชน ราคาอีบุ๊ก 200 บาท จากราคา 300 บาท 673 หน้า





ทางสายหมอก ราคาอีบุ๊ก 265 บาท จากราคา 280 บาท 690 หน้า



ฝากรัก...ผ่านซีบ็อกซ์ ราคาอีบุ๊ก 125 บาท จากราคา 180 บาท 360 หน้า



รวมเรื่องสั้น...ฉบับวัยหวาน ราคาอีบุ๊ก 45 บาท จากปก 55 บาท



อริ...ที่รัก ราคาอีุบุ๊ก 195 จากปก 240 บาท



หวานใจ...บอดีการ์ด...ราคาอีบุ๊ก 145 บาท จากปก 180 บาท



รักเพียงฝัน...ราคาอีบุ๊ก 225 จากปก 250 บาท



ตามรักข้ามเวลา...ราคาอีบุ๊ก 240 จากปก 270 บาท





















New Comments