สาระน่ารู้เกี่ยวกับ แอร์บ้าน และระบบไฟฟ้าในบ้าน
Group Blog
 
All blogs
 
มอเตอร์พัดลมคอยล์เย็น...อีกส่วนที่ต้องระวังขณะล้างแอร์





มอเตอร์พัดลมคอยล์เย็น...อีกส่วนที่ต้องระวังขณะล้างแอร์





บทความชุดนี้ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเทคนิคงานช่างแอร์ ซึ่งฉบับนี้คงต้องขอหยิบยกเอาเรื่องมอเตอร์พัดลมคอยล์เย็นของแอร์ขึ้นมาพูดหน่อย เพราะในช่วง 1-2 ปีมานี้ สถิติที่ผู้เขียนเจอมาเกี่ยวกับมอเตอร์แอร์เสีย ถือว่ามีอยู่เยอะพอสมควร

และหลายต่อหลายกรณีที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาที่เกิดกับมอเตอร์พัดลมโพรงกระรอก หรือมอเตอร์พัดลมคอยล์เย็น ของแอร์แบบติดผนังหรือแอร์วอล์ไทป์ (Wall Type) 
และที่น่าแปลกใจก็คือ แทบจะทุกกรณีที่ผู้เขียนให้ทีมงานออกไปตรวจสอบแก้ไข หลังจากสอบถามกันไปมาระหว่างเจ้าของบ้านที่แอร์มีปัญหา ก็สามารถจับประเด็นได้ว่าแทบทุกเคส มีสาเหตุที่มาที่ไปที่เรียกได้ว่าเหมือนๆกัน คือเป็นความเสียหายหรือความผิดพลาดที่เกิดจากการกระทำของช่างแอร์ หรือผู้ที่มาดำเนินการล้างแอร์ เพราะแทบทุกรายที่เจอ ต้องมีการทำความสะอากแอร์ก่อนหน้าไม่นานมานี้ทั้งนั้น ที่มาที่ไปก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความบกพร่องที่เกิดระหว่างการล้างในครั้งล่าสุด



ซึ่งความบกพร่องที่ว่านี้ เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของบ้านได้ไปว่าจ้างช่างให้มาล้างแอร์ โดยช่างรายที่ว่าจ้างมา เป็นประเภทที่เน้นทำงานแบบรวบรัด รวมถึงอาจจะไม่ใส่ใจในรายละเอียดมากพอ และยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกด้วย
โดยที่ล้างแอร์แบบใช้น้ำแรงดันสูงฉีดเข้าไปที่แผงครีบคลอย์เย็น โดยไม่ได้ทำการแกะใบพัดโพรงกระรอกและตัวมอเตอร์ออกมาล้างข้างล่าง ซึ่งการฉีดแผงและพัดลมพร้อมๆกันนี้ หากจะให้ใบพัดด้านในสะอาดโดยใช้เวลาไม่มาก ก็ต้องปล่อยให้มันหมุนไปตามแรงดันน้ำที่ฉีดอัดใส่เข้าไป ซึ่งระดับแรงดันของน้ำที่ฉีดโดยใช้ปั๊มอัดฉีดก็มีระดับหลายสิบถึงเป็นร้อยบาร์ เมื่อแรงจากน้ำไปปะทะที่ซี่ใบพัดโพรงกระรอก มันก็จะหมุนด้วยความเร็วสูง ยิ่งถ้าอัดน้ำฉีดใส่ตรงๆ มันก็สามารถหมุนได้เร็วยิ่งกว่าตอนที่มันหมุนขณะเปิดแอร์เสียอีก



นี่ยังไม่นับขั้นตอนหลังจากล้างเสร็จ ที่ต้องเป้าหยดน้ำที่เกาะออกไปด้วยโบลว์เวอร์ ซึ่งถ้าใบพัดลมไม่ได้ถูกถอดลงมาเป่า การเป่าลมกำลังแรงใส่ซี่ใบพัดโพรงกระรอกโดยไม่มีการดักใบพัดเอาไว้อยู่กับที่ มันก็สามารถทำให้ใบพัดหมุนได้ด้วยความเร็วสูงเช่นกัน




ซึ่งประเด็นหลักๆที่อาจจะทำให้พัดลมคอยล์เย็นของแอร์มีปัญหา ก็คือการทำให้มันหมุนได้ด้วยความเร็วสูงในระหว่างกระบวนการล้าง
การที่พัดลมหมุน แกนมอเตอร์ที่ต่ออยู่ก็ย่อมต้องมุนตามไปด้วย และในแอร์หลายๆเครื่อง หากมอเตอร์หมุนด้วยความเร็ว แต่การหมุนนั้นไม่ได้หมุนเพราะกระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้าไปแบบตอนที่เปิดใช้งาน ก็จะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง

สำหรับมอเตอร์พัดลมคอยล์เย็นของแอร์วอล์ไทป์ หากเป็นรุ่นเก่าๆเมื่อหลายปีก่อน ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือมอเตอร์ AC ซึ่งการฉีดน้ำหรือเป่าลมเข้าใส่ใบพัดโพรงกระรอกโดยที่ยังติดกับแกนมอเตอร์ ต่อให้ไบพัดและแกนมอเตอร์หมุนเร็วแบบสุดๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับตัวมอเตอร์ 

แต่ในกรณีของแอร์วอล์ไทป์รุ่นหลังๆมานี้ โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งแอร์ยุคหลังๆมานี้มีหลายยี่ห้อได้เปลี่ยนแปลงมอเตอร์ของพัดลมคอยล์เย็น จากเดิมที่ใช้มอเตอร์ AC ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง หรือมอเตอร์ DC 
สำหรับมอเตอร์ DC นี้ ถ้าล้างแอร์โดยไม่ถอดใบพัดออกจากแกนมอเตอร์ แล้วฉีดน้ำหรือเป่าลมอัดเข้าไปโดยไม่มีการดักให้แกนมอเตอร์อยู่กับที่ เมื่อใบพัดโพรงกระรอกหมุนด้วยความเร็วรอบสูง แกนมอเตอร์ก็ย่อมหมุนตาม ซึ่งการหมุนมอเตอร์แบบ DC ที่มีส่วนประกอบภายในเป็นขดลวดทองแดงกับแม่เหล็กถาวร ก็จะเข้าสู่หลักการ "ขดลวดตัดผ่านสนามแม่เหล็ก" ซึ่งนั่นก็จะทำให้มอเตอร์ DC ที่ถูกทำให้หมุน กลายสถานะจากมอเตอร์มาเป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทันที และนั่นจะทำให้มันสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาได้ในขณะที่ถูกทำให้หมุน โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตออกมาก็จะไหลย้อนป้อนกลับวงจรควบคุม ยิ่งใบพัดถูกหมุนด้วยความเร็วสูง ก็จะยิ่งผลิตกระแสไฟฟ้าจ่ายย้อนกลับไปได้มาตามความเร็วรอบ และนี้ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา 



โครงสร้างพื้นฐานของมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง DC





เพราะการที่กระแสไฟฟ้าจากมอเตอร์พัดลมแบบ DC จะถูกจ่ายย้อนป้อนกลับไปทางวงจรควบคุม ซึ่งวงจรนี้มันถูกออกแบบมาให้ใช้ควบคุมการทำงานของมอเตอร์เท่านั้น ตัวมันเองจึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้มีหน้าที่ควบคุมการจ่ายไฟออกไปยังมอเตอร์ แต่ไม่ได้ออกแบบมาให้รับกระแสไฟฟ้าที่ถูกจ่ายย้อนกลับมา เมื่อมีไฟย้อนกลับเข้ามา หากปริมาณกระแสไฟฟ้ามีอยู่เล็กน้อยก็อาจจะไม่ส่งผลอะไรมากนัก แต่ถ้ารอบการหมุนมีความเร็วสูงจนปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตมีอยู่ในปริมาณที่มากพอ ปัญหาก็จะตามมาทันที ไม่มอเตอร์ก็ต้องเป็นแผงบอร์ดวงจรควบคุม อย่างใดอย่างหนึ่งคงต้องจะพังแน่ แต่หากโชคร้ายหนักสุดก็อาจจะพังทั้งแผงทั้งมอเตอร์ ซึ่งราคาอะไหล่ที่สั่งจากศูนย์บริการนนั้น ก็แพงเอาเรื่องเลยทีเดียว


ภาพแสดงให้เห็นว่ามอเตอร์ DC เพียงหมุนเร็วๆด้วยมือ ก็สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาได้





ที่เล่ามาข้างต้นนั้น คือสาเหตุหลักที่เกิดขึ้นเพราะความประมาณหรือความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ที่มาดำเนินการล้างแอร์ ทำให้มอเตอร์พัดลมคอยล์เย็นชำรุดเสียหายใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม หรือในบางรายก็อาจจะเจอปัญหาในลักษณะที่มอเตอร์มีสปีดตกลงไปจากเดิมจนลมที่ออกมีไม่เพียงพอ ซึ่งก็มีผลให้ห้องเย็นช้ามาหรืออาจจะไม่เย็นเลย




แนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา

การป้องกันหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น วิธีที่ดีที่สุดคือเริ่มที่การปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการล้างแอร์ จากเดิมที่ฉีดน้ำใส่โดยไม่ถอดใบพัดโพรงกระรอกและมอเตอร์ลงมา
ก็เปลี่ยนรูปแบบการล้างเสียใหม่ โดยที่การล้างแอร์ในแบบที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุด จะต้องถอดใบพัดโพรงกระรอกลงมาฉีดล้างทำความสะอาดด้านล่าง แล้วตามด้วยถอดชุดคอนโทรลที่เป็นกล่องบรรจุแผงวงจรไฟฟ้าลงมาเป่าลมเพื่อขจัดฝุ่นที่เกาะอยู่ และต่อมาจึงถอดมอเตอร์ของพัดลมคอยล์เย็นลงมาเช็ดทำความสะอาดซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็ควรหยอดน้ำมันหล่อลื่นให้กับแกนมอเตอร์เล็กน้อยก็จะเป็นการดี
ซึ่งเมื่อส่วนของ ใบพัดโพรงกระรอก - บอร์ดควบคุม - มอเตอร์ ทังหมดนี้ถูถอดลงมาแล้ว ก็จะเหลือเฉพาะฐานรองเครื่อง กับแผงครีบคอยล์เย็น(แผงอีวาปอเรเตอร์) 
ซึ่งสองส่วนที่เหลืออยู่นี้จะเป็นส่วนที่ยึดอยู่กับที่ ไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นกลไกเคลื่อนไหวหรือวงจรทางไฟฟ้าอยู่ ทำให้การล้างแบบใช้น้ำจากปั๊มอัดฉีดเข้ามาจัดการทำความสะอาด และเป่าลมให้แห้ง สามารถจัดการขั้นตอนการฉีดล้างและเป่าได้อย่างเต็มที่ และปลอดภัยที่สุด 


ส่วนของแอร์ที่จะฉีดน้ำล้าง ซึ่งถูกถอดชิ้นส่วนต่างๆออกมาอย่างถูกต้อง


ชิ้นส่วนที่ถอดลงมาเพื่อล้างทำความสะอาดอย่างถูกต้อง


การฉีดน้ำล้างแผงคอยล์เย็น


และชิ้นส่วนที่ถอดลงไปก่อนหน้า หลังจากที่ทำความสะอาดอย่างทั่วถึงและเป่าลมให้แห้งแล้ว ก็นำกลับเข้ามาติดตั้งประกอบกลับคืนตำแหน่งเดิมให้ครบถ้วน ซึ่งนี่เป็นวิธีการถอดล้างชุดคอยล์เย็นแบบที่ถูกต้อง และป้องกันความเสียหายได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับการล้างแบบที่ไม่ถอดชิ้นส่วนต่างๆลงมา




แต่เนื่องด้วยเหตุผลทางด้านเศรษฐศาสตร์ และการแข่งขันในด้านราคาค่าบริการของช่าง ทำให้ช่างหลายรายที่ให้บริการล้างแอร์ราคาถูก โดยคิดค่าบริการล้างต่ำกว่า 500 บาท อาจจะไม่สามารถล้างโดยถอดชิ้นส่วนต่างๆลงมาล้างทีละชิ้นได้ เพราะไม่อยากเสียเวลาล้างแต่ละเครื่องมากเกินไป
ซึ่งหากยังคงยืนยันที่จะใช้วิธีการล้างแบบเดิม คือเพียงแต่ถอดฝาครอบกับถาดน้ำทิ้งออกมาแล้วฉีดน้ำอัดเข้าไปที่แผงและที่ใบพัด
ก็จะต้องมีการป้องกันไม่ให้ใบพัดโพรงกระรอกหมุนด้วยความเร็วสูงในระหว่างที่ฉีดแรงดันน้ำเข้าไปด้วย 
โดยแนวทางการป้องกันเบื้องต้นนั้น อาจจะใช้มือหรือใช้วัสดุอุปรณ์ที่เหมาะสม มาทำการดักจับใบพัดให้อยู่กับที่ แต่ที่ดีที่สุดคือการใช้มือล้วงเข้าไปจับใบพัดให้อยู่กับที่ในระหว่างการฉีดล้างแอร์ หลีกเลี่ยงการใช้ของแข็งอย่างไขควงมาทำการดักใบพัด เพราะเมื่อเผลอทำให้ใบพัดหมุนตามแรงดันน้ำที่ฉีดเข้ามาแล้วแหย่ไขควงเข้าไปหยุดใบพัดแบบทันทีทันใดอาจจะทำให้ซี่ใบพัดแตกหักได้ เพราะมันเป็นพลาสติกแข็งแต่เปราะ อันนี้ต้องระวังไว้ด้วย



แผงวงจรส่วนที่อยู่ภายในมอเตอร์ DC

ที่ต้องมีการดักใบพัดไม่ให้หมุนตามแรงดันน้ำที่ฉีดไปกระทบ ก็เพื่อกันไม่ให้มอเตอร์พัดลม ที่เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง (มอเตอร์ DC) กลายเป็นไดนาโมจ่ายไฟย้อนกลับเข้าไปยังบอร์ควบคุม ดังที่กล่าวไปในตอนแรกนั่นเอง

แต่หลายๆท่านอาจจะคิดหาทางป้องกันแบบอื่น ที่สะดวกกว่าการต้องมาคอยดักไบพัดไว้กับที่ในระหว่างฉีดน้ำล้าง ซึ่งบางท่านก็เลือกที่จะใช้วิธีการปลดสายมอเตอร์พัดลมออกจากบอร์ดควบคุม กันไม่ให้มันจ่ายไฟย้อนกลับเข้าบอร์ดได้ แต่การทำแบบนี้ได้ ท่านจะต้องแน่ใจแล้วว่าภายในตัวมอเตอร์ตัวนี้ ไม่ได้มีแผงวงจรจำพวกตัวนับรอบอยู่ภายใน เพราะถ้ามันมีวงจรอิเล็กทรอนิกส์อยู่ที่ด้านในตัวมอเตอร์ กรณีนี้ต่อให้ถอดสายออกจากบอร์ด ก็อาจจะไม่รอด บอร์ดไม่พังแต่พังที่ตัวมอเตอร์เลยก็มี 
ที่ต้องให้แน่ใจว่ามันไม่มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ด้านใน ก็เนื่องจากมอเตอร์พัดลมในปัจจุบัน ในแอร์แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ ก็อาจจะผลิตออกมาไม่เหมือนกัน แม้จะเป็นมอเตอร์กระแสตรงก็ใช่ว่าจะเหมือนกันหมดในเรื่องโครงสร้าง ซึ่งผู้ผลิตบางยี่ห้อก็กลัวว่าของตนจะเหมือนยี่ห้ออื่นๆ โดยบางรายก็อาจจะทำให้มอเตอร์ของตนเองมีความซับซ้อนยุ่งยาก(จนไร้สาระ)



ไดอแกรมวงจรไฟฟ้าที่อยู่ด้านในฝาครอบคอยล์เย็น




สรุปคือ มอเตอร์พัดลมในชุดคอยล์เย็นของแอร์แบบติดผนัง หลายยี่ห้อหลายรุ่นเริ่มหันมาใช้เป็นมอเตอร์กระแสตรง (มอเตอร์ DC) ซึ่งก่อนที่จะล้างแอร์ หลังจากที่ถอกแผงหน้ากากครอบคอยล์เย็นออก ควรตรวจสอบข้อมูลที่แสดงบนไดอะแกรมแผนผังวงจรไฟฟ้า (Wiring Diagram) ตรวจดูให้ชัดเจนว่าเป็นมอเตอร์แบบ DC หรือเปล่า 
ถ้าใช้มอเตอร์ DC การล้างแอร์จะต้องมีการป้องกัน ไม่ให้แรงดันน้ำที่ฉีดเข้าไปทำให้มอเตอร์มุนได้ด้วยความเร็ว เพราะถ้าหมุนเมื่ไหร่มันจะจ่ายไฟย้อนกลับเข้าแผงบอร์ดควบคุม และอาจจะนำมาซึ่งความเสียหาในส่วนของมอเตอร์หรือบอร์ดควบคุม ซึ่งการเปลี่ยนอะไหล่ส่วนนี้ก็อาจจะมีราคาสูงถึงหลายพันบาทเลย















Create Date : 15 มิถุนายน 2558
Last Update : 19 ธันวาคม 2559 5:29:48 น. 22 comments
Counter : 127836 Pageviews.

 
เเตงกิ้ว


โดย: เจมส IP: 183.89.32.234 วันที่: 9 กันยายน 2558 เวลา:13:55:38 น.  

 
มันก็เป็นสาเหตุหลักส่วนหนึ่งครับ
อายุการใช้งานของแอร์ด้วยครับถ้าเกิน 4-5ปีแล้วเสี่ยงครับ(ชม.การใช้งานเฉลี่ยประมาณวันละ 8ชม.)สังเกตุและตามผลมาก็ เข้าปีที่ 7แล้วครับ บางยี่ห้อต้องระวังมากๆครับ
บริษัทผู้ผลิตเขากำหนดอายุการใช้งานมาแล้วละครับว่าใช้ได้ประมาณกี่พันกี่หมื่นหรือกี่แสนชม.หรือกี่ปีงั้นเขาจะได้ของได้หรือครับซื้อมาแล้วใช้ได้นานมากโรงงานก็เจ้งละซิ
งานมันต้องกับมือครับจะรู้ปัญหาดี
การล้างแอร์ไม่ถอด blow จะไปบอกว่า(เรียกว่ามักง่ายก็คงไม่ผิด)
ไม่ถูกครับ ถ้าลูกค้าสู้ราคาก็ทำได้ครับลองเสนอลูกค้าดูครับงานมันยากราคามันก็แพงหน่อยตามเหตุผลและอีกอย่างแอร์บางยี่ห้อการถอดblowerต้องอ้ารังผึ้งออก แล้วการทำแบบนั้นบ่อยๆไม่เป็นผลดีกับรังผึ่งครับดัดกลับเข้าตำแหน่งเดิมยาก
เอาไว้ไปถอดตอนเปลี่ยน blowerหรือมอเตอร์เวลามันเสียจะดีกว่าครับ
ที่กล่าวมาคงจะช่วยให้ช่างอาชีพได้ข้อมูลอีกทางครับ
เห็นใจช่างอาชีพด้วยกันครับ แต่สำคัญสุดอย่าหลอกลูกค้าครับ เราทำแล้วเราอยู่ได้ราคาไหนก็บอกลูกค้าไป
ถ้าลูกค้าเจ้าใหนเขาเก่งมาก ก็ให้เขาทำเองเลย

หรือไม่งั้นก็ไห้ลูกค้าเขาซื้อ อะหลั่ยมา เราเอาแค่ค่าแรงพอ
(บัณฑิต ขาลุย)


โดย: twsชลบุรี-หนองคาย IP: 1.47.157.52 วันที่: 4 ตุลาคม 2558 เวลา:10:42:42 น.  

 
เขียนวนไปวนมาจริงๆ


โดย: กร IP: 49.48.247.161 วันที่: 4 เมษายน 2559 เวลา:18:44:00 น.  

 
ได้ความรู้มากเลยคะ เพราะคิดไม่ถึงจิงๆๆแต่เจอกับตัวมาแล้วคะเรื่องนี้ จะต้องเสียตังโดยความไม่รอบครอบของช่างล้างแอร์ที่แย้มาก ให้มาล้างแอร์พอล้างเสร็จปรากฎเปิดแอร์แล้วความเย็นไม่ทำงาน ช่างบอกมอเตอร์พัง ทั้งๆๆที่ก่อนหน้านี้แอร์ก็ใช้ได้ปกติ แค่มาให้ล้างนะเนี่ย ...ห่วยมากๆๆๆ


โดย: บี IP: 49.228.98.126 วันที่: 6 พฤษภาคม 2559 เวลา:21:21:31 น.  

 
ได้ความรู้มากเลยคะ เพราะคิดไม่ถึงจิงๆๆแต่เจอกับตัวมาแล้วคะเรื่องนี้ จะต้องเสียตังโดยความไม่รอบครอบของช่างล้างแอร์ที่แย้มาก ให้มาล้างแอร์พอล้างเสร็จปรากฎเปิดแอร์แล้วความเย็นไม่ทำงาน ช่างบอกมอเตอร์พัง ทั้งๆๆที่ก่อนหน้านี้แอร์ก็ใช้ได้ปกติ แค่มาให้ล้างนะเนี่ย ...ห่วยมากๆๆๆ


โดย: บี IP: 49.228.98.126 วันที่: 6 พฤษภาคม 2559 เวลา:21:23:34 น.  

 
โดนมาแล้วครับ ล่าสุดเลย ล้างแอร์แบบไม่ถอด
โพรงกระรอกครับ แต่ไม่รู้ฉีด เป่า อีท่าไหน
พอล้างเสร็จเปิดออกมา มอเตอร์มีเสียงดังมาก
ดังจนนอนไม่ได้เลย

แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะเข้าใจว่าอยากล้างให้สะอาด
แต่ตอนนี้ก็ต้องจ้างช่างอีกเจ้ามาแก้ครับ

เพราะเจ้าเดิมเรียกไม่มา คงรู้ตัวว่าทำไว้ไม่ดีเลยหลบหน้า


โดย: กาญจนบุรี IP: 223.206.188.20 วันที่: 15 มิถุนายน 2559 เวลา:1:33:56 น.  

 
ขอบคุณมากๆค่ะได้ความรู้เกี่ยวกับแอร์มากเลย เวลาช่างมาล้างแอร์เราแม่บ้านก็ได้แต่ยืนดู โดนเข้ากับตัว มอเตอร์พังช่างต้องเปลี่ยนใหม่เลยอะคะ


โดย: แม่บ้าน IP: 171.97.129.87 วันที่: 10 ธันวาคม 2559 เวลา:12:25:31 น.  

 
ใช้มือจับให้พัดลมกรงกระรอกหมุนช้าๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ผมล้างแบบนี้มาตลอด ดีกว่าถอดออกมาแล้วประกอบกลับเข้าไปคืนดันมีเสียงดัง แต่บางเครื่องก็จำเป็นต้องถอดเพราะสกปรกมากช่างก็ต้องรับความเสี่ยงซึ่งมันไม่คุ้มกับค่าล้าง แค่ 300 --400 บาท คำถามที่เจอบ่อย (จนนึกเอะใจ) ลูกค้าโทรมามักจะถามว่าช่างรับซ่อมแอร์ด้วยไหม (สงสัยจะเจอแต่ช่างที่บอกว่ารับแค่ล้างแอร์อย่างเดียวมั้ง) ชื่นชมคนเขียนบทความตั้งใจเขียนออกมาได้ดีมากครับ


โดย: ช่างแอร์ศรีสะเกษ IP: 124.121.208.44 วันที่: 18 เมษายน 2560 เวลา:21:18:38 น.  

 
สวัสดี ของผมแอร์เก่าใช้มา14ปี ช่างมาล้างถอนหน้ากากแล้วใช้ฉีดฯ พอเปิดก็เริมดังดังขึ้นเรื่อยๆจนคอลย์หยุดไม่ทำงาน เปิดฝ้าดูช่างประกอบทำไม่เรียบร้อย และลองเปิดใหม่คอลย์เย็นทำงานแต่เสียงก็ดังตลอดจนคอลย์หยุดฯ สาเหตุก็น่าจะมาจากช่างล้าง จะต้องเปลี่ยนมอเตอร์ไซโจใหม่สอบถามราดาประมาณ2200บาท
ขอบคุณ


โดย: เพชร IP: 124.122.136.205 วันที่: 26 เมษายน 2560 เวลา:15:34:34 น.  

 
แอร์ที่บ้านยี่ห้อ SAMSUNG 12000 BTU กดรีโมทเปิดไม่ติด เอาวะเป็นไงเป็นกันร้อนก็ร้อนคืนนี้นอนไม่ได้แน่ลองเอามือแหย่เข้าไปหมุนพัดลมกรงกระรอกมันติดๆขัดๆ เจอสาเหตุแล้ว ลงทุนรื้อพัดลมตอนเกือบสี่ทุ่ม แกะพัดลมออกมาปรากฎว่าฝุ่นเข้าไปในที่ว่างระหว่างโรเตอร์กับสเตอร์ ปัดฝุ่นออกประกอบคืนใช้ได้ นี่ถ้าเรียกช่างเสียตังค์ค่ามอเตอร์เสียแน่ โล่งอก


โดย: ช่างไฟ IP: 202.151.4.20 วันที่: 22 พฤษภาคม 2560 เวลา:11:07:17 น.  

 
อ่านแล้วเข้าใจครับสำหรับคนที่มีพื้นฐานพอสมควร แต่ค่อนข้างยาว(คงต้องการอธิบายรายละเอียดมากๆ แต่ในทางกลับกัน อาจทำให้ผู้อ่านงงได้ง่ายๆนะครับ )ประเด็นมีอยู่ว่าเวลาฉีดล้าง ถ้าเป็นมอเตอร์กระแสตรง ( DC motor)ให้ล๊อกใบพัดอย่าให้หมุน เพราะมันจะทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดแรงไฟย้อนมาทำลายวงจริอเลคทรอนิคส์ภายในเสียหายได้ อย่างไงก็ขอชื่นชมผู้เขียนมากครับ


โดย: โน้ต IP: 49.229.144.43 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:14:35:20 น.  

 
ดีครับ


โดย: ดีครับ IP: 184.22.224.24 วันที่: 22 เมษายน 2561 เวลา:6:08:35 น.  

 
ช่างมักง่ายน่ะครับเลยไม่ยอมจับหรือถอดออกให้ เจอแบบนี้จ้างครั้งเดียวก็เกินพอ ทำไม่ใส่ใจยิ่งมีปัญหาทีหลังช่างยิ่งชอบเพราะจะได้กลับมาฟันอีก อย่างผมเจอแค่จะเปลี่ยนพัดทรงกระรอกจะเอาสามพันไล่กลับแทบไม่ทัน ตอนนี้เน้นช่างศูนย์อย่างเดียวแล้วครับราคาแพงกว่าหน่อยแต่เทียบกับมาตรฐานงานแล้วถือว่าคุ้มกว่ามากในระยะยาวครับ


โดย: ดี IP: 184.82.104.0 วันที่: 26 กรกฎาคม 2561 เวลา:0:19:52 น.  

 
มอเตอร์คอยล์เย็นมิตซูรุ่นMS-SGH18VCราคา เท่าไหร่


โดย: จารุวัฒน์ IP: 223.24.94.246 วันที่: 14 สิงหาคม 2561 เวลา:12:25:15 น.  

 
ผมเป็นคนนึงที่ล้างแล้วไม่ถอดออก ยกเว้นตัวที่สกปรกมากๆ แต่ความเป็นช่างก็ต้องรับผิดชอบหลังจากล้างแล้วเครื่องลูกค้ามีปัญหา ทุกวันนี้ช่างมาตัดราคากันเอง ทำให้งานออกมาหยาบ แทนที่จะแข่งขันคุณภาพงานแล้วคิดราคาที่ทุกคนอยู่ได้ มีบางช่างคิดสามร้อย สรุปแล้วไปล้างได้ค่าแรงไหม ค่าน้ำมันก็หมดแล้ว เคยถามคนที่คิดราคานี้ว่าล้างแบบไหน เค้าบอกว่าล้างแต่ข้างใน ข้างนอกก็เป่าเอานิดหน่อย ผมเชื่อว่าลูกค้าเค้ายอมจ่ายในราคาที่เหมาะสมถ้างานคุณทำออกมาดี..เพราะคนที่ใช้แอร์น่าจะพอมีฐานะทางการเงินพอควร..บทความนี้ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ครับ


โดย: chut IP: 113.53.60.59 วันที่: 29 สิงหาคม 2561 เวลา:8:09:56 น.  

 
น่าจะมีเบอร์ แนะนำ ติดต่อ ช่าง ที่ถอดออกมาล้าง ทุกส่วนแบบนี้บ้าง


โดย: นพวรรณ IP: 182.232.178.148 วันที่: 7 มีนาคม 2562 เวลา:20:12:58 น.  

 
พัดสมปรับอย่างก็ไม่ค่อยแรง แก้อย่างไรครับ


โดย: หมอก IP: 212.47.252.101 วันที่: 22 เมษายน 2562 เวลา:15:59:11 น.  

 
ผมเป็นร้าน ขาย ติดตั้ง ซ่อม ล้าง เห็น กฟผ.ประกาศล้างแอร์ผนัง 300 บ.แล้วหนาว เอาเป็นว่า บ้านเดียวกันนะ ล้าง 5 เครื่อง (ล้างแบบช่างคุณภาพ รับผิดชอบ ซื่อตรง ไม่โกงลูกค้า แกล้งเติมน้ำยา แล้วเรียกเงินเพิ่มแทบทุกเครื่องนะ) ช่าง 2 คน เวลาทำงานทั้งหมด 5-6 ชม.ได้เงิน 1500 หักน้ำมัน 100 ค่าใช้รถ 200 ค่าใช้ปั๊ม 100 เหลือ 1100 เป็นค่าแรง งานช่าง (งานรับผิดชอบ) หัวหน้า 700 ลูกน้อง 400 แบบนี้ ทั้ง 2 คนอยู่ยากครับ เพราะงานแอร์ ไม่มีงานเต็มๆทั้ง 300 วันต่อปี ทำกี่ปี ก็ไม่มีเหลือเงินเก็บ คนคุณภาพดีๆ ถึงคิด 500 บ.พอมีอนาคตหน่อย


โดย: อภิสัณห์ วินัยวัฒน์ IP: 1.0.189.252 วันที่: 13 กรกฎาคม 2562 เวลา:15:11:44 น.  

 
ขอบคุณที่ถ่ายทอดความรู้เป็นประโยชน์มาก ขอเรียนถามเพิ่มเติมมอเตอร์ในรูปเป็นDCใช่ไหมครับ แอร์ผมมีอาการเดียวกันพอล้างแอร์แล้วมอเตอร์คอยล์เย็นไม่หมุน แต่คอมเพรสเซอร์ทำงานครับ


โดย: chai IP: 1.46.169.191 วันที่: 30 เมษายน 2564 เวลา:19:14:31 น.  

 
มอเตอร์รุ่นเดียวกัน แอร์hitachi


โดย: chai IP: 1.46.169.191 วันที่: 30 เมษายน 2564 เวลา:19:17:06 น.  

 
Extremely helpful post. I like it


โดย: MariSamsan (สมาชิกหมายเลข 6438330 ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2564 เวลา:15:27:21 น.  

 
ของผมเป็น elexttolux เบอร์ 5 สองดาวครับ(lnverter) พัดลมโพรงกระรอดเป็นACกรือ DC ครับ


โดย: Yong IP: 182.232.178.82 วันที่: 29 เมษายน 2566 เวลา:7:22:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

KanichiKoong
Location :
สงขลา Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 275 คน [?]




ช่องทางการติดต่อผู้จัดทำ

- หลังไมค์
- E-mail : aum_tawatchai@hotmail.com
-------------------------------------
เนื้อหาที่ปรากฏ อนุญาติให้นำไปใช้เพื่อการศึกษา/หาความรู้ ซึ่งไม่เป็นการนำไปใช้ในเชิงธุรกิจ
-------------------------------------
New Comments
Friends' blogs
[Add KanichiKoong's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.